บทที่ 990 ฉันเชื่อเธอแล้วกัน

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 990 ฉันเชื่อเธอแล้วกัน

บทที่ 990 ฉันเชื่อเธอแล้วกัน

ตกบ่ายรถไฟเดินทางมาถึงเมืองหลวงอย่างราบรื่น

ชุยถงหลานลงรถมาได้ความช่วยเหลือจากเสี่ยวเถียนช่วยยกสัมภาระให้

อิ่นหรูอวิ๋นกล่าวอำลากับคนทั้งสองแล้วจากไป

เซี่ยหนานกล่าว “เห็นจิตวิญญาณเขาแล้วหวังว่าจะเลือกเดินในเส้นทางที่ถูกต้องได้สักทีนะ”

เธอเห็นใจเด็กคนนั้น

ถ้าเลือกเดินผิด ขอแค่กลับมาได้ทุกอย่างยังทันเสมอ

เสี่ยวเถียนพยักหน้า

เธอคิดว่าอิ่นหรูอวิ๋นทำได้

จากคำพูดหรือกิริยาท่าทางไม่สามารถหลอกคนอื่นได้หรอก

เป็นความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนหลังจากพบกัน

รู้สึกราวกับว่าเธอคนนั้นได้เกิดใหม่แล้ว

ตอนเดินออกจากสถานีพวกเธอเห็นรถมารอรับสองแม่ลูก

“เสี่ยวเถียน ให้พี่พาเธอกับอาจารย์เซี่ยไปส่งนะ!” ชุยถงหลานชอบเสี่ยวเถียนมาก ๆ เลยอยากสนิทให้มากกว่านี้

แต่เด็กสาวปฏิเสธ

“พี่ถงหลานรีบพาลูกกลับบ้านเถอะค่ะ เดินทางมาเหนื่อย ๆ ให้เขาได้พักเถอะ”

การที่เต็มใจเป็นเพื่อนกับพี่สาวคนนี้ไม่ได้หมายความว่าจะสนิทกับครอบครัวเธอได้นะ

อยู่ห่าง ๆ ไว้ก่อนดีกว่า

ชุยถงหลานได้ยินก็ไม่รอช้า ถึงลูกจะดูสบายดี แต่ไปตรวจที่โรงพยาบาลให้แน่ใจก่อนดีกว่า

ยิ่งไปเร็วก็ยิ่งดี

สองคนที่เหลือคุยกันว่าจะไปกินข้าวต่อ

“แต่เธอกินมาตลอดทางไม่ได้หยุดเลยนะ” เซี่ยหนานแกล้งหยอก

เสี่ยวเถียนเอ่ยอย่างเฉยเมย “แต่เราไม่ได้กินอาหารร้อน ๆ มาสามวันติดแล้วนะคะ?”

เธอคิดว่าถ้าไม่ได้กิน อาหารที่กินก่อนหน้านี้ก็ล้วนไร้ความหมายทั้งสิ้น

แน่นอนว่าหลังจากลงรถไฟมา พวกเธอก็ต้องอยากกินข้าวกันอยู่แล้ว

แถมที่บ้านยังเปิดร้านอาหารอีก จะกินตอนไหนก็ได้

เซี่ยหนานไม่ได้คัดค้าน

สิ่งสำคัญสุดในตอนนี้คือการได้พบกับเสี่ยวเฉ่า

หลังจากรถไฟลงมา เธอก็ร้อนรนอยากเจอลูกมาก

ก่อนหน้านี้เคยนึกสงสัย แต่ตอนนี้แน่ใจแล้วไงว่าเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของเธอเอง

ยิ่งได้รับความยินยอมจากพ่อแม่บุญธรรมของลูกแล้ว ตนก็สามารถมาเจออย่างเปิดเผยได้แล้วละ

จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไงกัน?

ทว่าทุกอย่างกลับตรงข้ามกับที่คิดไว้ เพราะพวกเธอไม่เจอเสี่ยวเฉ่าที่หออีหมิง

หลังจากสอบถามก็พบว่าต่อให้วันนี้หยุด แต่เสี่ยวเฉ่ายังต้องไปโรงเรียนเพราะมีธุระด่วน

เซี่ยหนานผิดหวังมาก

“เสี่ยวเถียน ฉันไปหาเสี่ยวเฉ่าได้ไหม?”

เธอทนรอพบลูกไม่ไหวแล้ว มีแค่การไปหาที่โรงเรียนเลยเท่านั้นถึงจะพอใจ

เสี่ยวเถียนเข้าใจความรู้สึกดี แต่ไม่สามารถทำตามที่อีกฝ่ายปรารถนาได้

พวกเธอปรึกษากันไว้ว่าไม่อยากให้พี่เสี่ยวเฉ่ารู้เรื่องอาจารย์เซี่ย จึงต้องทำตามแผนไปเรื่อย ๆ เท่านั้น

“อาจารย์รอก่อนนะคะ เรื่องนี้เรายังต้องใช้เวลาอีกนานนะ เดี๋ยวก็มีโอกาสอื่นได้เจอกัน ทางที่ดีคือหาโอกาสให้พี่เสี่ยวเฉ่าได้ช่วยอาจารย์ดีกว่านะ ทุกอย่างจะได้ราบรื่น”

“อาจารย์ไม่อยากให้พี่เขาสงสัยใช่ไหม?”

เสี่ยวเถียนพูดตรงใจเซี่ยหนาน

เธออยากเจอลูกมาก แต่ไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียใจหรือรู้สึกไม่ดีต่อกัน

ช่างเถอะ รอมาตั้งหลายสิบปีแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก

“ฉันเชื่อเธอแล้วกัน จะรีบกินเต้าหู้ตอนร้อน ๆ ไม่ได้*[1] ไว้รอโอกาสเหมาะ ๆ ดีกว่า”

แต่ทั้งสองคนไม่คิดว่าโอกาสนั้นจะมาถึงไวหรอก

พวกเธอกลับถึงบ้านในตอนเย็น คุณย่าซูถามหลานสาวเรื่องทางฝั่งนู้น

“ที่หมู่บ้านเรียบร้อยดีค่ะย่า มีของป่าที่อาสะใภ้เอามาให้ด้วย แล้วก็ของขวัญจากคุณลุงคุณป้าเอามาให้ปู่กับย่าด้วยนะ”

เสี่ยวเถียนหยิบออกมาจากกระเป๋า

หญิงชรายิ้ม “เกรงใจกันทำไมเนี่ย หนูไม่ได้บอกเขาหรือว่าบ้านเรามีหมดแล้ว ทำไมต้องมาเอาให้เปลืองเขาด้วยเล่า!”

เสี่ยวเถียนว่าต่ออีกนิด แต่เรื่องสำคัญคือเรื่องของเสี่ยวเฉ่ากับเซี่ยหนาน

คุณย่าซูตกใจมากเมื่อรู้ว่าเป็นเรื่องจริง

ยิ่งรู้ว่าสองแม่ลูกต้องพบเจออะไรจนต้องแยกจากกัน ท่านก็อดปาดน้ำตาไม่ได้

“ทำไมเสี่ยวเฉ่าน่าสงสารขนาดนี้นะ?”

“แต่เรื่องมันผ่านไปแล้วนะคะ ตอนนี้พี่เสี่ยวเฉ่าโชคดีได้เจอคนดี ๆ อย่างคุณลุงคุณป้านะ”

จินตนาการไม่ออกเลยว่าหากไม่ได้พบกัน พี่เสี่ยวเฉ่าจะมีชีวิตบนโลกใบนี้ไหม

“ก็จริงนะ สองคนนี้จิตใจดี เสี่ยวเฉ่าเองก็กตัญญู ถือเป็นบุญพวกเขาแล้วละ”

ว่าจบหญิงชราพลันคิดว่าตัวเองพูดไม่ถูกเท่าไร

เสี่ยวเฉ่าเป็นลูกแท้ ๆ ของเซี่ยหนาน หลังจากนี้ต้องกตัญญูต่อแม่ผู้ให้กำเนิดหรือแม่บุญธรรมกันล่ะ?

“ย่า คุณลุงบอกว่าให้พี่เสี่ยวเฉ่านับอาจารย์เซี่ยเป็นแม่บุญธรรมค่ะ ไว้พวกเขา… ค่อยบอกทีหลังค่ะ”

เสี่ยวเถียนเห็นท่าทางท่านก็พอเข้าใจ

“ลุงกับป้าหนูเขาคงลำบากไม่น้อยเลยเนอะ บากบั่นทำงานเลี้ยงเด็กคนหนึ่งจนเติบใหญ่ได้ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น ต้องใช้แรงใจขนาดไหนนะ?”

“แถมยังยอมให้ลูกกับแม่แท้ ๆ รู้จักกันอีก คนธรรมดาคงไม่มีทางทำได้หรอก!” คุณย่าสะเทือนใจเหลือเกิน

ต่อให้เป็นเธอเองยังทำไม่ได้เลย

สองคนนั้นเป็นคนดีมากจริง ๆ

แต่น่าเสียดายที่ได้ลูกสะใภ้แบบนั้น

“แล้วพี่สะใภ้เขายังเหมือนเดิมเลยหรือ?” คุณย่าซูถาม

“เหมือนเดิมค่ะ โดยเฉพาะเถียนเสี่ยวเหอ สร้างเรื่องระเบิดระเบ้อเลย”

“ถึงพี่สะใภ้ไฉ่อวิ๋นจะสร้างเรื่องเหมือนกัน แต่จะเป็นเฉพาะช่วงที่เห็นเถียนเสี่ยวเหอทำเท่านั้นค่ะ นอกนั้นเธอก็ทำตัวตามปกติ”

แค่สรรพนามการเรียกก็บอกได้แล้วว่าเสี่ยวเถียนคิดยังไงกับทั้งสองคนนั้น

คุณย่าซูทอดถอนใจ “เมื่อก่อนไฉ่อวิ๋นไม่เป็นแบบนี้หรอกนะ แต่โดนเถียนเสี่ยวเหอชักจูงเอาน่ะสิ”

ปัญหาครอบครัวนี่จัดการยากจริง ๆ

พอเกิดเรื่องครึ่งหนึ่ง ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเลย

เดี๋ยวนี้ไฉ่อวิ๋นหาจังหวะสร้างเรื่องตลอดเลย หากเทียบกับเมื่อก่อนเจ้าตัวแค่คิดเล็กคิดน้อยเท่านั้นเอง

แต่พอมาเทียบกับเถียนเสี่ยวเหอ จางไฉ่อวิ๋นซื่อสัตย์กว่าเยอะ

[1] อย่ารีบกินเต้าหู้ตอนยังร้อน หมายถึง อดทนหรือรอคอย

++++++++++++++++++++++++++++