บทที่ 991 เสี่ยวเฉ่าช่วยชีวิต

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 991 เสี่ยวเฉ่าช่วยชีวิต

บทที่ 991 เสี่ยวเฉ่าช่วยชีวิต

ในช่วงสุดสัปดาห์ เสี่ยวเถียนช่วยพี่เสี่ยวเฉ่าไปเดินซื้อของ

ที่บ้านมีแต่ผู้ชาย มีแค่เธอเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียว บอกตรง ๆ ว่าเหงามาก

ยิ่งไปเดินซื้อของด้วยแล้วไม่มีใครไปด้วยเลยสักคน

ก่อนหน้านี้มีพี่เสี่ยวเหมยไปด้วย

แต่ตอนนี้พี่เขาแต่งงานแล้ว เสี่ยวเถียนจึงหวังว่าจะมีพี่สาวหรือน้องสาวสักคนไปเที่ยวด้วยกันได้

และตอนนี้มีพี่เสี่ยวเฉ่าแล้ว เธอก็มีความสุขมากเลย

แม้พี่เขาจะยังไม่ได้ตัดสินใจเรียนต่อระดับบัณฑิต และคิดกลับไปเป็นครูที่มณฑลต่อก็ตาม

แต่เสี่ยวเถียนสัมผัสได้ว่าเจ้าตัวกำลังคิดลงมืออยู่

ด้วยฝีปากของเธอ จะต้องชักชวนได้แน่นอน

เป้าหมายในวันนี้คือเราจะไปซื้อรองเท้ากัน

เสี่ยวเถียนตั้งใจซื้อให้พี่เสี่ยวเฉ่า แต่ฝั่งซูเสี่ยวเฉ่าเข้าใจไปว่ามาเที่ยวเป็นเพื่อนน้อง

เด็กสาวมีรายได้เยอะมาก แต่ไม่มีที่ให้ใช้จ่ายเลย

อาหาร เสื้อผ้า ของใช้ส่วนใหญ่มีแต่คนอื่นเอามาให้ทั้งนั้น

เช่นเสื้อผ้าที่ได้จากโรงงานป้าเถาฮวา

ทุกครั้งที่มีคอลเลกชันใหม่ ๆ ออกมา ท่านก็จะส่งมาให้เธอเสมอ

หรือพี่ชายไปเจอชุดสวย ๆ ก็มักนึกถึงเธอตลอด

แล้วก็มีย่าบุญธรรมกับย่ารองอีก

หญิงชราทั้งสองจัดเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับฤดูกาลตลอดทั้งปี ไหนจะเครื่องประดับบนหัวอีก

ส่วนซูเสี่ยวเฉ่าแต่งตัวเรียบง่ายมาก ดูก็รู้ว่าเป็นเสื้อผ้ายุคเก่า

รองเท้าที่ใส่ไม่เหมือนคนรักสวยรักงามเลย

ทั้งสองคนเดินทอดน่อง

ช่วงสองปีมานี้เมืองหลวงเปิดกว้างมากขึ้น ถ้าอยากจะซื้อของอะไรไม่จำเป็นต้องไปซื้อที่ร้านค้าของรัฐแล้ว

มีร้านเสื้อผ้าและร้านรองเท้าเปิดทั่วเมืองเลย

ตัวเลือกมากมายให้เลือกจับจ่ายใช้สอย

เสี่ยวเถียนตั้งใจแล้วว่าเจอคู่ถูกใจเมื่อไร จะแวะไปที่ถนนโบราณต่อ

แต่สิ่งที่ได้รู้อีกอย่างคือช่วงหลังมานี้โอกาสในการเจอของดี ๆ ที่นั่นเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ

เมื่อก่อนไปเดือนละครั้ง แต่ตอนนี้ไม่ได้ไปมาสองเดือนแล้ว

“พี่เสี่ยวเฉ่า วันนี้ซื้อรองแตะให้ที่บ้านและตัวเองคนละคู่ไหมคะ พี่คิดว่าไง?”

ช่วงนี้สาว ๆ ในมหาวิทยาลัยเริ่มสวมส้นสูงกันแล้ว

ถึงสไตล์จะซ้ำซากไปนิด แต่ถ้าเทียบกับยุคหลัง ๆ ก็ถือว่าสวยอยู่

เสี่ยวเถียนไม่คิดจะใส่อยู่แล้ว เธอยังเด็กอยู่เลย ใส่แล้วไม่ดีหรอก

เลยแนะนำให้ซูเสี่ยวเฉ่านี่แหละ

แต่รู้ว่าถ้าตัวเองไม่ซื้อให้ อีกฝ่ายก็ไม่ยอมซื้อเหมือนกัน

เสื้อผ้าที่ซูเสี่ยวเฉ่าใส่อยู่ตอนนี้เป็นชุดที่ป้าเถาฮวาส่งมาให้โดยเฉพาะหลังจากเจ้าตัวมาอยู่เมืองหลวง

กระโปรงเป็นสไตล์ที่กำลังนิยม แต่รองเท้าดันไม่เข้ากันเนี่ยสิ

เสื้อผ้าที่คุณป้าผลิตไม่มีตัวไหนไม่เป็นที่นิยมเลย

เธอจึงยังนึกประหลาดใจ

รสนิยมของป้าเถาฮวานี่สุดยอดจริง ๆ ชื่นชมเลย

“ไม่ซื้อหรอก ใส่รองเท้าผ้าก็ดีอยู่แล้ว” ซูเสี่ยวเฉ่าลังเล

เธอเหลือเงินไม่เยอะ

ตั้งใจว่าจะซื้อของเอาไปให้ที่บ้านตอนกลับไป

ตอนนี้รองเท้าแตะหนังกำลังเป็นที่นิยมในเมืองหลวง เพื่อนร่วมงานที่โรงเรียนซื้อมาใส่อยู่ ได้ยินว่าราคาสามสิบหยวนแหนะ เธอซื้อไม่ไหวหรอก

“พวกเราไปซื้อสักคู่กันนะ”

ด้วยความสามารถในการเชิญชวน สุดท้ายคนเป็นพี่ก็ทนไม่ไหว

“พี่ซื้อรองเท้าหนังแทนได้ไหม?”

รองเท้าแตะใส่ได้แค่สองเดือนเอง แต่ถ้าซื้อแบบหนังไปเลยจะใส่ได้นานขึ้นกว่าเดิม

เสี่ยวเถียนไม่ได้บังคับ ไว้ไปถึงก็เห็นเองละ เผลอ ๆ อาจจะชอบก็ได้

ตอนนั้นเองที่มีผู้ชายเข็นรถไอศกรีมข้ามถนนมา

เสี่ยวเถียนรู้สึกอากาศเริ่มร้อนขึ้น

เธอจึงวิ่งไปซื้อมาสองแท่ง

“พี่เสี่ยวเฉ่า แบ่งกันค่ะ”

แท่งหนึ่งราคาห้าเหมาเอง

อันที่จริง ซูเสี่ยวเฉ่าไม่อยากกินหรอก

กัดสองคำก็หมดแล้ว

แต่น้องซื้อมาแล้วจึงไม่ได้เกรงใจ

เสี่ยวเถียนซื้อไอศกรีมแท่งรสนมมา สัมผัสเย็นเจี๊ยบ รสชาตินมแท้

เธอได้แต่โอดครวญว่า ไอศกรีมยุคนี้แหละของจริงเลย

คุณภาพสูง ราคาถูก เป็นนมแท้ ดีกว่าไอศกรีมหลายสิบหยวนในยุคปัจจุบันอีก

“ไอศกรีมแท่งนี้อร่อยที่สุดตั้งแต่หนูกินมาเลย พี่ชอบหรือเปล่า?” เสี่ยวเถียนหรี่ตาตอนกิน

ชาติที่แล้วได้กินของดีไม่ดีปะปนกันไป แต่ของกินส่วนใหญ่เป็นของเลียนกลิ่นเลียนรสชาติทั้งนั้นเลย

บอกได้เลยว่าความรู้สึกแรกไม่ประทับใจสุด ๆ

เสี่ยวเถียนก็เหมือนกัน ชีวิตเธอมืดมนมาก ทั้งอนาคต ทั้งความรู้สึก ไม่มีอะไรมีความสุขเท่าตอนนี้อีกแล้ว

“อร่อยดีนะ แต่พี่ชอบรสเผือกมากกว่า” ซูเสี่ยวเฉ่าตอบ

อาทิตย์ก่อนซูซานกงซื้อให้

หวานมากจนความรู้สึกอันขมขื่นหวานขึ้นมาเลย

แต่ความหวานนั้นอาจทำให้เธอขมขื่นไปชั่วชีวิต

“หนูก็ชอบเหมือนกัน แต่วันนี้มันหมดแล้วค่ะ”

เสี่ยวเถียนไม่ได้บอกว่าจริง ๆ แล้วตัวเองชอบทุกรสชาติ

ที่บ้านไม่ได้ให้เธอกินเยอะ เพราะพวกเขาบอกเด็กผู้หญิงกินของเย็น ๆ มากมันไม่ดี

แต่พี่เสี่ยวเฉ่าเป็นคนประหยัดมาก ยอมลงทุนซื้อไอศกรีมมากินเลยหรือ?

เสี่ยวเถียนสงสัย แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก

ถึงจะประหยัด แต่ก็ยังมีเงินเดือนไม่ใช่หรือ ซื้อสักแท่งก็ไม่ได้มากมายอะไร

หญิงสาวอึดอัดใจยามนึกถึงซูซานกง

เธอรู้มาตั้งนานแล้วว่ามันเป็นความรู้สึกที่ไม่ควร แล้วทำไมถึงยอมทุกข์ระทมล่ะ?

แค่คนเคยชอบก็พอแล้วไม่ใช่หรือ?

ซูเสี่ยวเฉ่าตัดสินใจแล้วว่าจะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ

สองพี่น้องเดินกินไปด้วย คุยไปด้วยอย่างมีความสุข

จังหวะนั้นเองที่สายตาของเธอเห็นรถคันหนึ่งพุ่งเข้ากำลังจะชนใครบางคน

หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปกระแทกอีกฝ่ายออกโดยไม่ทันคิด

เสี่ยวเถียนตอบสนองไม่ทัน ภาพที่เห็นคือคนคนนั้นได้รับความช่วยเหลือ ส่วนพี่สาวล้มอยู่ข้างถนน

รถที่ไถลออกไปไกลจอดสนิท พร้อมคนขับวิ่งหน้าตาตื่นกลัวออกมา

“พวกคุณยังไหวไหม?”

ชายหนุ่มและเสี่ยวเถียนวิ่งเข้ามาพร้อมกัน

ซูเสี่ยวเฉ่ากอดแขนแน่น สีหน้าผิดปกติมาก เดาได้ว่าน่าจะได้รับบาดเจ็บ