ตอนที่ 982 ลงมือก่อนเป็นต่อ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 982 ลงมือก่อนเป็นต่อ

“ท่านอ๋องทรงหมายความว่าจะถือโอกาสตอนที่อ๋องหน้ากากผีอยู่ที่ต้าโจวส่งจดหมายกลับไปบอกให้ฝ่าบาทยกทัพโจมตีหรงตี๋หรือพ่ะย่ะค่ะ”

“วิธีน่าจะได้ผล! แม้หรงตี๋จะมีแม่ทัพดุดันมากมาย ทว่า พวกเขาไม่มีค่ายกลที่เก่งกาจ อ๋องหน้ากากผีผู้นี้คือคนมหัศจรรย์ที่ร้อยปีหรงตี๋จะมีสักหนึ่งคน มารดาของอ๋องหน้ากากผีผู้นี้คือชาวต้าเยี่ยน เขาเคยใช้ชีวิตอยู่ที่ต้าเยี่ยนตอนเป็นเด็ก ต่อมาเดินทางมายังต้าจิ้น ได้เรียนรู้วิธีรบของต้าจิ้นจึงเก่งกาจอย่างทุกวันนี้…”

“ดังนั้นขอเพียงอ๋องหน้ากากผีผู้นี้ไม่ได้อยู่ในหรงตี๋ หรงตี๋ก็จะไม่น่ากลัวอีกต่อไป เราควรถือโอกาสตอนที่ต้าโจวช่วยรั้งหรงตี๋ไว้ให้พวกเราลงมือบุกหรงตี๋ก่อนเพื่อความเป็นต่อ!”

หลี่จือเจี๋ยสะบัดพัดในมืออย่างหงุดหงิด “ต้าโจวช่วยรั้งอ๋องหน้ากากผีไว้ที่ต้าโจว หากซีเหลียงบุกโจมตีหรงตี๋ตอนนี้ ต้าโจวจะยกทัพช่วยหรงตี๋โจมตีซีเหลียงทันที!”

“ท่านอ๋อง กระหม่อมคิดว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเพียงแค่ต้องการผลประโยชน์ที่มากกว่านี้ ซีเหลียงของพวกเราให้นางไปก็สิ้นเรื่อง ขอเพียงผลประโยชน์มากเพียงพอ จักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะไม่รับไว้หรือพ่ะย่ะค่ะ” ขุนนางคนหนึ่งกล่าวขึ้น

หลี่จือเจี๋ยนั่งฟังเหล่าขุนนางถกเถียงกันด้วยความหนวกหู ในสมองเต็มไปด้วยถ้อยคำที่ไป๋ชิงเหยียนกล่าวที่สำนักศึกษากั๋วจื่อเจียน…ต้าโจวต้องการรวมรวบใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง เช่นนั้นต้าโจวต้องกำจัดซีเหลียงและหรงตี๋อย่างแน่นอน!

หลี่จือเจี๋ยหลับตาลง เขากำลังอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ต้าโจวและต้าเยี่ยนล้วนอยากรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง ตามหลักแล้วซีเหลียงควรร่วมมือกับหรงตี๋เพื่อต่อต้านแคว้นที่แข็งแกร่งกว่า หรงตี๋เป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไรถึงได้กัดซีเหลียงไม่ปล่อยเช่นนี้! พวกเขาไม่ได้มีความแค้นส่วนตัวใดกันเสียหน่อย

ทว่า สำหรับซีเหลียงแล้วมีเพียงยึดครองหรงตี๋ได้เท่านั้นซีเหลียงจึงจะกลายเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งที่สามารถคานอำนาจต้าโจวและต้าเยี่ยนได้ จึงจะสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งเป็นหนึ่งในใต้หล้า กระทั่งมีสิทธิ์กลายเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งเทียบเท่าต้าโจวและต้าเยี่ยน

ทว่า…

แคว้นที่แข็งแกร่งอย่างต้าโจวและต้าเยี่ยนไม่มีทางปล่อยให้ซีเหลียงยิ่งใหญ่ขึ้นแน่นอน

เขาจะช่วยเหลือซีเหลียงอย่างไรดี

หลี่จือเจี๋ยปวดหัวกับเสียงถกเถียงของเหล่าขุนนาง เขาลุกเดินออกไปด้านนอกโดยไม่สนใจเสียงโหวกเหวกโวยวายของเหล่าขุนนางที่อยู่ทางด้านหลังแม้แต่น้อย เขาเกาศีรษะอย่างหงุดหงิด เงยหน้ามองดูแสงแดดที่ร้อนราวกับเปลวไฟบนท้องฟ้า เขาอยากให้ฝนรีบตกลงมาเรียกสติเขาเดี๋ยวนี้

หลี่จือเจี๋ยเดินลงจากบันได เดินวนอยู่ในสวนดอกไม้หนึ่งรอบ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงพิณดังขึ้น เขาเดินไปตามเสียงจนพบกับอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนกำลังบรรเลงพิณชมดอกไม้อยู่ในศาลาข้างสระบัว

ภายในศาลาแปดเหลี่ยมปูด้วยเสื่องาช้าง ตรงกลางมีโต๊ะไม้สีดำตัวเล็กวางอยู่ บนโต๊ะไม้มีกระถางธูปหอมทรงสัตว์มงคลสีทองแดงวางประดับ ควันขาวจากกระถางธูปหอมลอยขึ้นกลางอากาศ ผ้าม่านผืนบางสีขาวที่แขวนอยู่บนคานของศาลาแปดเหลี่ยมถูกปลดลงเพื่อป้องกันแมลงบินเข้าไปในศาลา เมื่อลมพัดผ่าน ผ้าม่านสะบัดพลิ้วเล็กน้อยตามแรงลม กระดิ่งทองแดงที่แขวนอยู่ปลายผ้าม่านส่งเสียงดังขึ้นเบาๆ ท่ามกลางเสียงบรรเลงพิณของอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน

หลี่จือเจี๋ยชะงักฝ่าเท้าเล็กน้อย จากนั้นหยุดยืนฟังเสียงบรรเลงพิณของอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนอยู่ใต้ต้นกุ้ยฮวานิ่งๆ ลมพัดโชยจนกลีบดอกกุ้ยฮวาหล่นใส่บ่าของเขาตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้

เมื่อเพลงใกล้จบ หลี่จือเจี๋ยมองไปทางอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนที่นั่งบรรเลงพิณอยู่บนเสื่องาช้าง สายตากวาดมองไปยังกาน้ำชาสีแดงที่วางอยู่บนเตาผิง จากนั้นมองไปที่ใบหน้าซึ่งสวมหน้ากากของอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนอีกครั้ง ในที่สุดเขาก็ก้มหน้าหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเสียงบรรเลงพิณหยุดลง หลี่จือเจี๋ยจึงสาวเท้าตรงไปยังศาลาแปดเหลี่ยม

“ท่านอ๋องช่างมีอารมณ์สุนทรีย์ยิ่งนัก” หลี่จือเจี๋ยยกมือคารวะอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนยิ้มๆ

องครักษ์ของอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนเปิดผ้าม่านให้หลี่จือเจี๋ยเดินเข้ามาในศาลา หลี่จือเจี๋ยมองอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนนิ่ง ถอดรองเท้าหนังออกพลางเหยียบเท้าลงบนเสื่องาช้าง เขานั่งลงฝั่งตรงข้ามอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน

“หลี่จือเจี๋ยโชคดียิ่งนักที่มีโอกาสได้ฟังเสียงบรรเลงพิณของอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน”

อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนวางพิณโบราณลงบนโต๊ะเล็กด้านหน้า จากนั้นเงยหน้ามองหลี่จือเจี๋ยพลางกล่าวยิ้มๆ

“ข้านึกว่าตอนนี้เหยียนอ๋องคงกำลังกระวนกระวายใจจนไม่มีเวลาทำสิ่งใดเสียอีก นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีอารมณ์มาฟังเสียงบรรเลงพิณของข้าเช่นนี้”

“อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนมาบรรเลงพิณที่นี่…” หลี่จือเจี๋ยมองไปยังกาน้ำชาที่วางอยู่บนเตาอีกครั้ง จากนั้นคลี่พัดออกพลางกล่าวยิ้มๆ “อีกทั้งต้มชาไว้เช่นนี้ ท่านไม่ได้กำลังรอช่วยแก้ปัญหาร้อนใจให้ข้าอย่างนั้นหรือ…”

หลี่จือเจี๋ยไม่ใช่คนโง่ อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนไม่เคยถอดหน้ากากของตัวเองออกต่อหน้าที่สาธารณะ เขาจะมานั่งดื่มน้ำชาที่นี่ได้อย่างไรกัน

ชายหนุ่มต้องรู้ว่าเขามาที่นี่จึงตั้งใจบรรเลงพิณเพื่อล่อเขามาที่นี่

เสียงหัวเราะของอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนดังออกมาเบาๆ จากหน้ากาก เขาหันไปสื่อให้บ่าวรับรีบเดินมายกพิณจากไป จากนั้นใช้ผ้ายกกาน้ำชาขึ้นจากเตาเพื่อรินน้ำชาให้หลี่จือเจี๋ยแล้วดันถ้วยน้ำชาไปตรงหน้าชายหนุ่ม

“เหยียนอ๋องกล่าวถูกแล้ว”

หลี่จือเจี๋ยยกถ้วยน้ำชาขึ้นเป่าไอร้อนในถ้วยน้ำชาเบาๆ จากนั้นเอ่ยถาม “ต้าเยี่ยนทำสัญญากับหรงตี๋แล้ว ไม่ทราบว่าต้าเยี่ยนจะช่วยแก้ไขปัญหาให้ซีเหลียงได้เช่นไร ต้องการให้ซีเหลียงตอบแทนด้วยสิ่งใด”

อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนวางกาน้ำชาลงบนเตาตามเดิมอย่างไม่รีบร้อน น้ำชาภายในกาน้ำชาเดือดขึ้นอีกครั้ง น้ำชาล้นออกมาด้านนอกเล็กน้อย

“เหยียนอ๋องทราบหรือไม่ว่าแม่ทัพหน้ากากผีผู้นี้มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับจักรพรรดินีแห่งต้าโจว สามารถกล่าวได้ว่าตอนนี้หรงตี๋คือดินแดนของต้าโจว ดังนั้นเหยียนอ๋องคิดว่าต้าโจวจะทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับซีเหลียงอย่างนั้นหรือ”

หลี่จือเจี๋ยกำถ้วยชาแน่น เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน ทำเพียงครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวยิ้มๆ

“อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนล้อเล่นแล้วกระมัง หากอ๋องหน้ากากผีมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับจักรพรรดินีแห่งต้าโจวจริง ต้าโจวคงร่วมมือกับหรงตี๋บุกโจมตีซีเหลียงภายในสามปีที่ต้าเยี่ยนทำสัญญากับหรงตี๋แล้ว เหตุใดจึงต้องยื้อเวลาเช่นนี้ด้วย”

“นี่คือสิ่งที่ข้าไม่เข้าใจเช่นเดียวกัน” น้ำเสียงของอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนแฝงไปด้วยความสงสัย

“ทว่า ข้าเพิ่งได้ข่าวว่าคุณชายสามของตระกูลไป๋เดินทางจากเมืองหลวงมุ่งหน้าไปยังหนานเจียง บางทีเขาอาจไปเตรียมทัพแล้ว”

หลี่จือเจี๋ยแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง จากนั้นเงยหน้ามองอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน

“ข้าเพิ่งไปเข้าเฝ้าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวในวังหลวง จักรพรรดินีแห่งต้าโจวต้องการความจริงใจจากซีเหลียงมากกว่านี้ถึงจะยอมทำสัญญาพันธมิตรกับซีเหลียง”

“เหยียนอ๋องไม่คิดหรือว่านี่คือถ้อยคำที่จักรพรรดินีใช้ถ่วงเวลาท่าน”

อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนเอนกายพิงหมอนอิงด้วยท่าทีสบายๆ

“เหยียนอ๋องลองคิดดูให้ดีว่าอ๋องหน้ากากผีบังเอิญปรากฏตัวหลังที่บุรุษตระกูลไป๋เสียชีวิตที่หนานเจียงพอดี วิธีรบและแผนรบของเขาคล้ายคลึงกับตระกูลไป๋มาก ส่วนการกระทำของอ๋องหน้ากากผีผู้นี้…”

อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นมองไปทางหลี่จือเจี๋ย

“ตามหลักแล้วแคว้นที่อ่อนแอควรร่วมมือกันถึงจะถูก เหตุใดหรงตี๋จึงทำสัญญาเช่นนี้กับต้าเยี่ยน เหตุใดต้องโจมตีซีเหลียงให้ได้ หรงตี๋ไม่กลัวว่าต้าโจวที่แข็งแกร่งซึ่งมีเขตแดนอยู่ติดกับพวกเขาจะบุกยึดหรงตี๋ตอนที่หรงตี๋ยกทัพโจมตีซีเหลียงอย่างนั้นหรือ หรือว่าหรงตี๋มั่นใจว่าต้าโจวจะไม่ทำ เขาไปเอาความมั่นใจนี้มาจากที่ใดกัน”

หลี่จือเจี๋ยกำถ้วยชาในมือแน่นขึ้นกว่าเดิม เขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที

*************************