บทที่ 1008 สั่งสอนบทเรียนแก่พวกนาง

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1008 สั่งสอนบทเรียนแก่พวกนาง

บทที่ 1008 สั่งสอนบทเรียนแก่พวกนาง

แต่ถ้าฮูหยินเจียงไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานกับนาง ทุกอย่างที่นางวาดฝัดเอาไว้จะไม่พังทลายลงเอาหรอกหรือ?

นางและเจียงหย่วนไปมาหาสู่ด้วยกันเกือบทุกวัน และทุกคนในเมืองหลิวเจียต่างรับรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี

หากเจียงหย่วนไม่ต้องการนาง ในอนาคตนางจะทำอย่างไร?

จะมีใครอีกบ้างในเมืองนี้ที่อยากแต่งงานกับนาง?

กู้ซินเถารู้สึกกระวนกระวาย และรีบบอกว่าพี่ชายของนางเป็นบัณฑิต เขาจะได้เป็นขุนนางในอนาคต จากนั้นครอบครัวของนางก็จะร่ำรวยและมีเกียรติเช่นกัน ฮูหยินเจียงไม่ควรมองแค่ที่ปัจจุบันโดยไม่สนใจอนาคต

หลิวเทียนฉือเป็นคนออกความคิด โดยบอกว่าข้าวสารหุงเป็นข้าวสุก*[1] และหากมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างนางกับเจียงหย่วนจริง ฮูหยินเจียงก็จะทำได้เพียงแค่ยอมรับ

กู้ซินเถาตกลงโดยไม่ต้องคิด และมาที่ร้านจิ่นฝูเพื่อทำตามข้อตกลงของหลิวเทียนฉือ

จากนั้นทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนที่หลิวเทียนฉือวางแผนเอาไว้

สิ่งเดียวที่อยู่นอกแผนและเป็นสิ่งที่กู้ซินเถาคิดไม่ถึงคือ นางหมดสติลงหลังจากดื่มเข้าไปมากเกิน

กู้เสี่ยวหวานไม่ได้สนใจลูกพี่ลูกน้องของตน นางจัดการถอดเสื้อผ้าของหลิวเทียนฉือจนเปลือยเปล่า แล้วโยนนางขึ้นไปไว้บนเตียงกับเจียงหย่วน จากนั้นก็ออกจากห้องไป

รอให้ฮูหยินเจียงกลับมาดูเรื่องราวสนุก ๆ

อย่างไรก็ตาม มีสิ่งอื่นเกิดขึ้นในห้องที่หรูหรานี้

เสี่ยวเหอเองเคยเรียนศิลปะการต่อสู้มาก่อน หลังจากถูกตีจนสลบ และเมื่อกู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ ออกไปได้ไม่นาน นางก็ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในห้องนอกจากกู้ซินเถาที่กำลังหลับสนิท

คิดว่าหญิงคนนั้นคงออกไปแล้ว

หากแต่นางยังไม่วางใจและรีบวิ่งเข้าไปข้างใน ด้านล่างเตียงมีเสื้อผ้ากระจัดกระจายเต็มไป เมื่อสังเกตอย่างละเอียดก็พบว่าเสื้อผ้าเหล่านั้นมันดูคุ้นเคยอย่างแปลกประหลาด

เมื่อเงยหน้าขึ้นมองบนเตียง นางก็ได้แต่ตกใจ

หญิงที่ถูกเปลื้องผ้าจนเหลือเพียงชุดชั้นในนอนทับอยู่บนร่างกายเจียงหย่วนคือหลิวเทียนฉือ

เสี่ยวเหอวิ่งเข้าไปเขย่าร่างกายของหลิวเทียนฉือให้ตื่นขึ้นด้วยความลุกลี้ลุกลน “คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ รีบตื่นเร็วเข้า”

เมื่อตื่นขึ้น หลิวเทียนฉือก็ตกใจมากเมื่อเห็นว่าตัวเองนอนทับอยู่บนร่างของเจียงหย่วนโดยสวมเพียงชุดชั้นในเท่านั้น

สิ่งเดียวที่คิดได้ในตอนนี้คือ มันเป็นฝีมือของกู้เสี่ยวหวาน

หลิวเทียนฉือหวาดกลัวจนแทบตาย นางไม่ได้สนใจที่จะตำหนิคนอื่นในขณะนี้ นางรีบลุกขึ้นและสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะถอดเสื้อผ้าทั้งหมดของกู้ซินเถาออก และโยนนางไว้บนเตียงของเจียงหย่วน

ทันทีที่จัดการสิ่งนี้เสร็จก็รีบวิ่งออกจากห้องไป ในขณะนั้นฮูหยินเจียงก็เดินทางมาถึงร้านจิ่นฝูแล้ว

เสี่ยวเถากลับไปที่บ้านตระกูลเจียง ทันทีที่ฮูหยินเจียงได้ยินว่าเรื่องนี้จัดการเรียบร้อยแล้ว นางก็รีบไปที่ร้านจิ่นฝูฉับไว

ก่อนไปยังส่งคนไปเชิญลวี่เทามาเป็นพิเศษ โดยบอกว่านางเชิญใต้เท้าลวี่ไปที่ร้านจิ่นฝูเพื่อทานอาหารเย็น

ลวี่เทาไม่คาดคิดว่าฮูหยินเจียงจะเชิญเขาไปทานอาหารเย็น เขาคิดถึงเรื่องนี้ด้วยความยินดี และรีบไปที่ร้านจิ่นฝูทันที

เมื่อมาถึงร้านจิ่นฝู ฮูหยินเจียงก็รีบตรงขึ้นไปบนชั้นสามทันที

ฮูหยินเจียงมีความสุขมากเมื่อเห็นหลิวเทียนฉือยืนอยู่นอกประตู ทั้งสองมองหน้าและส่งยิ้มให้กัน ฮูหยินเจียงกำลังเบิกบานใจเป็นอย่างมาก นางจึงไม่เห็นความตื่นตระหนกในดวงตาของหลิวเทียนฉือ จากนั้นก็เห็นฮูหยินเจียงกำลังพาคนกลุ่มใหญ่เข้าไป

หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดความโกลาหลขึ้นภายใน และฮูหยินเจียงก็เดินออกมาจากด้านในทันที นางจ้องมองไปที่หลิวเทียนฉืออย่างดุดัน “เจ้าไม่ได้บอกว่าเรียบร้อยแล้วหรือ?”

ตอนนี้หลิวเทียนฉือกำลังอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หากเมื่อครู่นางไม่ตื่นขึ้นมา เกรงว่าคนที่นอนอยู่ตรงนั้นคงเป็นนาง

และในขณะนั้นก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินตรงขึ้นมาที่ชั้นสาม

ระหว่างเดินนางก็ส่งตะโกนเรียกเสียงดัง “ซินเถา เจ้าอยู่ที่ไหน กู้ซินเถา”

นางผู้นั้นคือซุนซื่อ

เมื่อฮูหยินเจียงเห็นซุนซื่อ สีหน้าของนางเปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียด นางมาทำอะไรที่นี่?

เมื่อซุนซื่อมาถึงบนชั้นสามและเห็นคนจำนวนมากยืนออกันอยู่หน้าประตู และได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากข้างใน จึงแหวกทางเข้าไปอย่างรวดเร็ว

แม้แต่สาวใช้หน้าประตูก็ไม่สามารถรั้งนางไว้ได้

“ซินเถาของข้าล่ะ ซินเถาของข้าอยู่ในนั้นหรือเปล่า” ซุนซื่อตะโกนลั่นเมื่อเห็นฮูหยินเจียงและหลิวเทียนฉือยืนอยู่ข้างนอกด้วยใบหน้าโกรธเคือง

นางรีบวิ่งเข้าไปในห้องทันที

หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงกรีดร้องครวญครางดังขึ้น

“ซินเถาของข้า”

จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงสาปแช่ง

เมื่อได้ยินว่า ‘แขกคนสำคัญ’ ทุกคนมาถึงแล้ว กู้เสี่ยวหวานก็วางพู่กันในมือลงแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อาโม่ เราไปกันเถอะ ไปดูเรื่องน่าสนุกกัน”

เมื่อขึ้นไปถึงชั้นสาม นางก็เห็นหลิวเทียนฉือยืนอยู่ข้างนอก

และเมื่อหลิวเทียนฉือเห็นกู้เสี่ยวหวานเดินมา นางก็ตวัดสายตาจ้องมองกู้เสี่ยวหวานอย่างชั่วร้าย ราวกับว่าต้องการฉีกเนื้อกู้เสี่ยวหวานออกเป็นชิ้น ๆ

กู้เสี่ยวหวานคลียิ้มไร้เดียงสา “คุณหนูหลิว ตื่นแล้วหรือ?”

หลิวเทียนฉือหวังว่าตนเองจะสามารถบีบกู้เสี่ยวหวานได้

ฮูหยินเจียงเดินเข้าไปข้างใน และกำลังต่อรองกับซุนซื่อ เสียงพูดคุยนั้นเจือปนไปด้วยเสียงร้องไห้ของหญิงคนหนึ่ง

ในขณะนี้ผู้คนที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ที่ห้องโถงชั้นล่างต่างมองขึ้นไปที่ชั้นสาม บางคนอยากรู้อยากเห็นมากจึงขึ้นไปบนชั้นสามเพื่อดูความตื่นเต้น

และก็เห็นหลิวเทียนฉือและกู้เสี่ยวหวานยืนอยู่หน้าประตู

หลิวเทียนฉือมีใบหน้าที่โกรธเคือง แต่กู้เสี่ยวหวานกลับมีรอยยิ้มบนใบหน้าราวกับว่านางกำลังมีความสุขเป็นอย่างมาก

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมข้างบนนี้ถึงมีคนเยอะแยะเต็มไปหมด”

“นั่นน่ะสิ ดูเหมือนว่ามีเสียงผู้หญิงกำลังร้องไห้อยู่ด้วย”

ทุกคนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาต่างชะเง้อคอและมองขึ้นไปข้างบน

บนชั้นสามเต็มไปด้วยเสียงเอะอะโวยวาย แต่ชั้นหนึ่งกลับเงียบงัน หากมีคนทำเข็มหล่นก็คงจะได้ยินเสียงเข็มกระแทกพื้นอย่างชัดเจน

กู้เสี่ยวหวานยืนอยู่ที่ประตู นางมองหลิวเทียนฉือที่โกรธจนเลือดขึ้นหน้า “ทำไมหรือคุณหนูหลิว เกิดอะไรขึ้น ทำไมท่านป้าและฮูหยินเจียงถึงส่งเสียงดังขนาดนั้นกัน พวกท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน? ทำไมข้าถึงได้ยินเสียงของซินเถาลูกพี่ลูกน้องของข้าด้วยล่ะ”

กู้เสี่ยวหวานอยากรู้อยากเห็นมาก พยายามชะเง้อคอมองเข้าไปด้านใน

เมื่อเห็นการแสดงออกของกู้เสี่ยวหวานที่เหมือนไม่เข้าใจอะไรเลย นางก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก

กู้เสี่ยวหวานเป็นปีศาจ

เมื่อคิดถึงสถานการณ์ของนางในตอนนี้ ก็รู้สึกว่าขนทั้งร่างของนางลุกชันขึ้น

“กู้เสี่ยวหวาน เจ้าน่ารังเกียจและไร้ยางอายจริง ๆ”

หลิวเทียนฉือกัดฟันและจ้องมองอีกฝ่าย โดยหวังว่าตัวเองจะสามารถเดินไปข้างหน้าเพื่อกินกู้เสี่ยวหวาน

*[1] หมายถึง เรื่องราวเลยจุดที่จะเข้าไปแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนได้อีก

————————————-