บทที่ 1009 ทำลายความบริสุทธิ์

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1009 ทำลายความบริสุทธิ์

บทที่ 1009 ทำลายความบริสุทธิ์

กู้เสี่ยวหวานดูหวาดกลัวและดูไร้พิษภัย และเอ่ยด้วยความน้อยใจ “คุณหนูหลิว เสี่ยวหวานทำอะไรผิดถึงทำให้คุณหนูหลิวไม่มีความสุข”

หลิวเทียนฉือกำลังตะเบ็งเสียงตะโกนขึ้นอีกครั้ง ก็ได้ยินกู้เสี่ยวหวานพูดว่า “เป็นไปได้หรือไม่ว่าคุณหนูหลิวไม่ชอบของขวัญที่ข้าให้ หรือของขวัญนั้นน่าเกลียดเกินกว่าจะคู่ควรกับคุณหนูหลิวที่เป็นสาวงามล่มเมือง*[1] หรือของขวัญต่ำต้อยนี้ไม่คู่ควรกับสถานะของคุณหนูหลิวที่เป็นลูกสาวของขุนนางระดับสามของเมืองหลวงได้ ท่านคงไม่รู้ว่าข้าดีกับท่านแค่ไหน ข้าจึงให้ของขวัญที่มูลค่ามากที่สุด และมีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหลิวเจียให้ท่านอย่างไรล่ะ”

หลิวเทียนฉือตกใจ กลายจะเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก

ปรากฏว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ได้หมดสติไป

เมื่อเห็นท่าทางที่ตื่นตระหนกของหลิวเทียนฉือ กู้เสี่ยวหวานรู้ว่าในใจของนางคิดอย่างไร ดวงตาของนางโค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยวที่สว่างไสวด้วยรอยยิ้มและพูดต่อ “คุณหนูหลิวมีภูมิหลังที่สูงส่ง หากต้องการแต่งงานในอนาคตก็ควรจะแต่งงานกับคนจากตระกูลที่มีชื่อเสียง แม้คุณหนูหลิวจะเป็นลูกนอกสมรส แต่อย่างน้อยท่านก็เป็นลูกสาวคนเดียวในตระกูลหลิว เนื่องจากคุณหนูหลิวไม่ชอบสิ่งที่เสี่ยวหวานมอบให้ เช่นนั้นมันคงจะเป็นเรื่องยุ่งยาก หากข่าวนี้กระจายออกไปว่าคุณหนูหลิวลูกสาวของขุนนางฝ่ายเกลือและโลหะกำลังนอนกอดกับผู้ชาย ภาพที่สวยงามเช่นนี้ทำให้ผู้คนต่างฝันถึงมัน แต่ข้าไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะสร้างปัญหาให้กับคุณหนูหลิวหรือไม่”

กู้เสี่ยวหวานมองหลิวเทียนฉือด้วยท่าทางกังวล และเห็นว่าใบหน้าของหลิวเทียนฉือกำลังแปรเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีแดงด้วยความโกรธเคือง

“กู้เสี่ยวหวาน เจ้า…”

หลิวเทียนฉือกำหมัดแน่น อยากจะก้าวไปข้างหน้าและฉีกกู้เสี่ยวหวานออกเป็นชิ้น ๆ

กู้เสี่ยวหวานจะกลัวคนคนนี้ได้อย่างไร และเอ่ยเตือนว่า “คุณหนูหลิว ในอนาคตหากจะมาหาเรื่องข้าอีก ท่านต้องคิดให้ดีก่อนลงมือทำ ถ้าวันหนึ่งข้าเผลอพูดเรื่องนี้ออกไป ถ้ามันมีผลกระทบต่อชื่อเสียงของคุณหนูหลิว คุณหนูหลิวจะรับต้องรับมันให้ไหว”

หลิวเทียนฉืออยากจะฉีกกู้เสี่ยวหวานเป็นชิ้น ๆ แต่เสี่ยวเหออยู่ที่อยู่ด้านข้างรีบคว้าตัวหลิวเทียนฉือ และกระซิบเตือน “คุณหนูอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม!”

หลิวเทียนฉือรู้ว่ากู้เสี่ยวหวานกุมความลับของตัวเองไว้ ตอนแรกนางยังรู้สึกโกรธ แต่ต่อมาก็กลายเป็นความตื่นตระหนก

นางมองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยแววตามาดร้ายด้วยความโกรธ และความหวาดกลัวอยู่ลึก ๆ ในใจ

เรื่องนี้พูดไม่ได้ พูดไม่ได้เด็ดขาด

หากพูดไปออกไป ชีวิตทั้งชีวิตของนางจะถูกทำลาย

เมื่อเห็นว่าหลิวเทียนฉือกำลังหวาดกลัว กู้เสี่ยวหวานก็แสยะยิ้มเย็นชา และเดินตรงเข้าไปในห้องรับรอง

นอกห้องรับรอง ซุนซื่อกำลังกอดกู้ซินเถาที่อยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย และตะโกนลั่นว่า “ซินเถาผู้น่าสงสารของข้า ซินเถาผู้น่าสงสารของข้า เจ้าเป็นเพียงเด็กสาว ต่อจากนี้ชีวิตเจ้าจะทำ อย่างไร”

ตอนนั้นเองที่กู้ซินเถาเพิ่งตระหนักได้ว่าตนเองถูกลากลงมาจากเตียง และก็อยู่ในสภาพที่ไม่เรียบร้อย

เดิมทีขณะที่กู้ซินเถาเมามายและกำลังนอนหลับอย่างมีความสุข ฮูหยินเจียงและคนอื่น ๆ ก็เข้าไปข้างใน

เมื่อนางเห็นครั้งแรกว่าคนที่นอนอยู่บนตัวเจียงหย่วนกลายเป็นคนที่นางเกลียดที่สุดอย่างกู้ซินเถา ใบหน้าของฮูหยินเจียงบิดเบี้ยวเหยเกอย่างไม่น่ามอง

มามาเหลิ่งรู้ว่านายหญิงของตนไม่ชอบกู้ซินเถา และเมื่อเห็นว่านางยังหลับอยู่จึงวางแผนจะอุ้มนางไปแต่งตัวอย่างรวดเร็ว และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ขณะที่เพิ่งลากนางลงมาจากเตียงและกำลังสวมเสื้อผ้าให้นางอย่างยากลำบาก ซุนซื่อก็พุ่งเข้ามา

ทันใดนั้น นางก็คว้าตัวกู้ซินเถาจากบรรดาสาวใช้ และฉีกแขนเสื้อของเสื้อผ้าที่นางใส่อยู่ กอดลูกสาวตนเองไว้และร้องไห้ออกมา

ในขณะนี้ กู้ซินเถาลืมตาขึ้นมาก็เห็นซุนซื่อที่กำลังร่ำไห้ จากนั้นมองฮูหยินเจียงที่มีใบหน้าโกรธเคือง และจำสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ได้

ดูเหมือนว่านางจะดื่มเหล้ามากเกินไปจริง ๆ

“ท่านแม่ ที่นี่ที่ไหน ทำไมข้าถึงอยู่ที่นี่” กู้ซินเถาจำอะไรไม่ได้เลย และเอามือกุมศีรษะขณะพูดออกมา

เหล้านี่แรงจริง ๆ หลังจากหลับไปสักพักก็ยังรู้สึกปวดหัวอยู่เลย

เมื่อเห็นว่ากู้ซินเถาไม่รู้ว่านางอยู่ที่ไหน ซุนซื่อก็ยิ่งเชื่อมากขึ้นว่าลูกสาวของนางถูกย่ำยีโดยเจียงหย่วน

นางจึงร่ำไห้ออกมา “ซินเถาผู้น่าสงสารของข้า ทำไมเจ้าถึงต้องเจอเรื่องแบบนี้ ไม่ต้องกังวลไป ในวันนี้ข้าจะให้ความยุติธรรมแก่เจ้าอย่างแน่นอน เจ้าจะไม่ถูกเอาเปรียบอย่างไม่มีเหตุผล”

ซุนซื่อมองดูฮูหยินเจียงอย่างดุร้าย

ในขณะนี้ ฮูหยินเจียงไม่มีอะไรต้องกลัว

ชื่อเสียงของกู้ซินเถาถูกทำลาย ถ้าฮูหยินเจียงไม่ให้คำอธิบาย วันนี้ตัวเองจะคุยกับนางให้รู้เรื่อง

ซุนซื่อคิดกับตัวเอง

ฮูหยินเจียงพึมพำในใจ ซุนซื่อมาที่นี่โดยบังเอิญได้อย่างไร

ทำไมสิ่งต่าง ๆ แตกต่างจากที่นางคาดไว้อย่างสิ้นเชิง

“ฮูหยินเจียง ท่านต้องการให้คำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องของซินเถาหรือไม่” เมื่อเห็นฮูหยินเจียงยืนอยู่ที่นั่นโดยไม่พูดอะไรสักคำ ซุนซื่อก็กังวลมากจนคร่ำครวญออกมา “ซินเถาของข้ายังเป็นเด็กสาว ความไร้เดียงสาของนางถูกทำลายเช่นนี้ ในอนาคตท่านจะให้นางทำอย่างไร”

ถ้าเป็นคนไม่ได้ก็ไปเป็นผี

ฮูหยินเจียงอยากจะตะโกนออกมาดัง ๆ

หากแต่นางพูดออกมาไม่ได้ ถ้านางพูด ซุนซื่อจะต้องต่อสู้กับนางอย่างสุดกำลัง

เนื่องจากเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว และเจียงหย่วนกับกู้ซินเถาก็มีส่วนเกี่ยวข้อง เรามาดูกันว่าเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขอย่างไร

แต่เมื่อเห็นท่าทางก้าวร้าวของซุนซื่อ ฮูหยินเจียงก็รู้สึกว่าถูกคุกคาม ใบหน้าของนางเผยความไม่พอใจขึ้นเรื่อย ๆ

มามาเหลิ่งเห็นว่าใบหน้าของฮูหยินเจียงมืดลงอีกครั้ง จึงเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ “ซุนซื่อ กู้ซินเถายังเป็นเพียงเด็กสาว แต่นางกลับทำตัวไร้ยางอาย ไปไหนมาไหนกับนายน้อยของข้าตลอดทั้งวัน ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก”

เมื่อซุนซื่อเห็นว่าฮูหยินเจียงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา แต่มามาเหลิ่งเป็นผู้ประณามนางแทน นางก็รู้สึกเดือดดาลอยู่ในใจ

เมื่อกู้ซินเถาสร่างเมามากแล้ว และเห็นว่ามามาเหลิ่งตำหนิว่านางทำตัวไร้ยางอาย จึงตะโกนขึ้นทันที “ท่านแม่ ข้าอยากตาย ข้าไม่มีหน้าจะอยู่แล้ว ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว”

กู้ซินเถาช่างเป็นนักแสดงที่อะไรเช่นนี้ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูดถึงนางในทางที่ดี นางจึงคิดที่จะตายทันทีเพื่อแสดงเจตจำนงของนาง

เมื่อเห็นว่ากู้ซินเถากำลังพุ่งชนกำแพงจริง ๆ ผู้คนจากตระกูลเจียงจึงได้มองอย่างเย็นชา แต่ไม่มีใครก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดนาง ดังนั้นซุนซื่อจึงวิ่งไปคว้าตัวกู้ซินเถาที่กำลังจะชนกำแพงทันที แล้วคร่ำครวญ “ซินเถา ทำไมโง่เขลาเช่นนี้ ถ้าเจ้าตายไป เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร ข้ามีเจ้าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวนะ”

ในประโยคนี้ ซุนซื่อกล่าวด้วยความจริงใจ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับกู้ซินเถา ชีวิตของซุนซื่อก็จะหายไปครึ่งหนึ่งจริง ๆ

ซุนซื่อกอดกู้ซินเถาแน่น กู้ซินเถากำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนมารดา และมองไปรอบ ๆ ทุกคนในห้องนี้มาจากตระกูลเจียง และใบหน้าของทุกคนก็ดูเฉยเมย

ในตอนแรกที่ซุนซื่อเห็นกู้ซินเถาและเจียงหย่วน นางก็รู้สึกยินดีอย่างลับ ๆ ถ้ากู้ซินเถาอยู่กับเจียงหย่วนจริง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น กู้ซินเถาก็ได้เดินเข้าประตูบ้านของตระกูลเจียงไปแล้ว

แต่เมื่อมองดูตอนนี้ นอกจากการเสียดสีของมามาเหลิ่ง ฮูหยินเจียงก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ

นางมองไปที่กู้ซินเถาอย่างเย็นชา สายตาล้วนแสดงความรังเกียจออกมา

ฮูหยินเจียงไม่ชอบกู้ซินเถามาโดยตลอด สิ่งนี้ทุกคนเห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังกล่าวว่าสถานะของกู้ซินเถาต่ำต้อยเกินไป และนางไม่คู่ควรกับเจียงหย่วนเลย

แต่เจียงหย่วนอยู่กับกู้ซินเถาเสมอมา และไม่เคยพูดถึงปัญหาว่าเหมาะสมกันหรือไม่

ซุนซื่อยังสอนกู้ซินเถาถึงวิธีที่จะคว้าใจของเจียงหย่วนตลอด และเป็นเช่นนั้นเสมอมา

ตระกูลเจียงไม่พูดถึงวิธีปฏิบัติต่อกู้ซินเถา มันไม่มีประโยชน์ที่ซุนซื่อและกู้ฉวนลู่จะเป็นกังวล

ถึงอย่างนั้นนางก็ยังติดตามเจียงหย่วนตลอดเวลาด้วยสถานะที่คลุมเครือ และกู้ซินเถาก็ไม่เคยรู้สึกว่ามีสิ่งใดผิดปกติ

ครั้งนี้ ในที่สุดก็มีความก้าวหน้า แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงซุนซื่อถึงรู้สึกหวาดกลัวอย่างสุดซึ้ง

หากสมาชิกของตระกูลเจียงไม่สนใจกู้ซินเถา เช่นนั้นกู้ซินเถาก็จะ…

เมื่อเห็นกู้ซินเถาที่หวาดกลัวและตัวสั่นอยู่ในอ้อมแขนของซุนซื่อ นางก็ตื่นตระหนก

ในขณะนี้ก็ได้ยินเสียงดังมาจากประตู “ใต้เท้าลวี่ ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร”

เสียงนี้ไพเราะและชัดเจน แต่มันบาดหูฮูหยินเจียงมาก

เป็นเสียงของกู้เสี่ยวหวาน

นางมองไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว และเห็นกู้เสี่ยวหวานมองเข้ามาข้างในด้วยรอยยิ้มมุมปาก

เมื่อเห็นใต้เท้าลวี่มาแล้ว ก็รีบพาเขาเข้าไปในห้องรับรองทันที

ลวี่เทาเป็นคนที่ฮูหยินเจียงเชิญมา ความหมายนั้นชัดเจนมาก

นางแค่ต้องการให้ลวี่เทาเห็นกู้เสี่ยวหวานมอบร่างกายให้กับลูกชายของนางแล้ว

กู้เสี่ยวหวานฉลาดและมีความสามารถไม่ใช่หรือ ตระกูลเจียงจึงต้องการคนที่มีความสามารถเช่นนี้

ถึงจะเป็นภรรยาไม่ได้ ก็ให้เป็นอนุภรรยา

นายหญิงแห่งตระกูลเจียงคนนี้ต้องการคนที่มีสถานะ นางไม่ได้เสียตำแหน่งที่ดีไปและยังได้อนุภรรยาที่มีความสามารถเช่นนี้อีก

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลิวเทียนฉือครั้งล่าสุดทำให้ทั้งลวี่เทาและฮูหยินเจียงอับอาย ครั้งนี้ฮูหยินเจียงเพียงต้องการให้ลวี่เทามาดูและช่วยลวี่เทาล้างแค้น นอกจากนี้ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างลวี่เทาและตระกูลเจียงอีกด้วย

*[1] หมายถึง ผู้หญิงที่สวยมากจนสามารถเป็นชนวนให้ผู้ชายแย่งชิงกันจนบ้านเมืองล่มสลายได้

————————————-