ตอนที่ 991 กองทัพหั่วอวิ๋น
ไป๋จิ่นถงไม่ใช่เด็กสาวที่ตอบคำถามในสำนักศึกษาไม่ได้จนต้องให้ไป๋ชิงฉีช่วยปกปิดอีกต่อไปแล้ว
บางทีน้องสาวของเขาอาจเป็นคนที่มีความคิดและเก่งในการวางแผนมานานแล้ว ทว่า เมื่อก่อนมีพี่ชายและพี่สาวคอยปกป้อง นางจึงมีความสุขที่ได้รับการปกป้องจากบรรดาพี่ๆ ต่อมาตระกูลไป๋เผชิญปัญหาใหญ่ น้องสาวของเขาจึงจำเป็นต้องเติบโตขึ้น
ไม่รู้เพราะเหตุใดไป๋ชิงฉีจึงนับวันรอที่จะได้พบหน้าเสี่ยวซื่อ ไม่รู้ว่าเสี่ยวซื่อจะแก้ไขนิสัยวู่วามใจร้อนของตัวเองกลายเป็นทายาทคนเก่งที่สามารถช่วยเหลือตระกูลไป๋ได้เหมือนบรรดาพี่สาวของนางหรือไม่
สองวันต่อมา
โรงเตี๊ยมอันซาน เมืองอวิ๋นจิง
เซียวรั่วไห่ขี่ม้าเร็วเข้ามา ชายหนุ่มกระโดดลงจากหลังม้าโดยที่ม้ายังไม่ทันหยุดดี จากนั้นวิ่งเข้าไปในโรงเตี๊ยมอย่างรวดเร็ว
จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงส่งคนไปจับตาดูจวนชุย ไป๋ชิงฉีและเซียวรั่วไห่จึงย้ายออกมาพักที่โรงเตี๊ยมชั่วคราวเพื่อความสะดวก
แผ่นหลังและแผ่นอกของเซียวรั่วไห่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ทว่า เขายังคงวิ่งไปยังเรือนพักของไป๋ชิงฉีอย่างไม่กล้าเสียเวลา
สองวันมานี้เฉินชิ่งเซิงทำการค้าตามปกติ ทว่า เขาจงใจสร้างสถานการณ์พบกับผู้ดูแลกิจการของตระกูลทั้งแปดอย่างบังเอิญเพื่อลอบสืบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ จากนั้นส่งคนไปบอกให้เซียวรั่วไห่รับรู้
เซียวรั่วไห่หาคลังเสบียงอาหารที่เหลือทั้งหมดพบภายในสองวันผ่านการวิเคราะห์ภูมิประเทศ หลักการเก็บเสบียงและข่าวที่เฉินชิ่งเซิงส่งมารายงานตลอด
เมื่อได้ยินว่าเซียวรั่วไห่กลับมาแล้ว ไป๋ชิงฉีจึงออกมายืนรอที่หน้าประตูเรือนอย่างอดใจไม่อยู่ เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินมา ไป๋ชิงฉีจึงสั่งให้คนเตรียมน้ำชาและของว่างให้เซียวรั่วไห่
“ลำบากเจ้าแล้ว เข้าไปคุยกันต่อด้านในเถิด” ไป๋ชิงฉีตบไหล่ของเซียวรั่วไห่เบาๆ จากนั้นพาเซียวรั่วไห่เดินเข้าไปในห้อง
เมื่อเข้าไปด้านในเซียวรั่วไห่ยื่นแผนที่ที่วาดเสร็จเรียบร้อยให้ไป๋ชิงฉี “คุณชายสาม นี่คือแหล่งเก็บซ่อนเสบียงของตระกูลทั้งแปดขอรับ ข้าให้คนซ่อนตัวอยู่แถวคลังเสบียงทุกที่เพื่อรอคำสั่งจากคุณชายแล้วขอรับ ขอเพียงคุณชายมีคำสั่ง พวกเขาพร้อมจุดไฟเผาเสบียงเหล่านั้นทันทีขอรับ!”
องครักษ์ตระกูลไป๋ส่งถ้วยชาให้เซียวรั่วไห่ เซียวรั่วไห่ใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของตัวเอง กล่าวขอบคุณองครักษ์ไป๋ จากนั้นรับถ้วยชามาดื่มอย่างกระหายจนหมดถ้วย
เมื่อไป๋ชิงฉีดูแผนที่ที่เซียวรั่วไห่วาดขึ้นอย่างละเอียดจบจึงเงยหน้ามองไปทางเซียวรั่วไห่ด้วยสีหน้าจริงจัง “วันนี้ข้าจะไปเข้าเฝ้าจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงในฐานะทูตของต้าโจว ในเมื่อตระกูลทั้งแปดซ่อนเสบียงอาหารไว้ที่นอกเมือง เมื่อเจ้าเผาเสบียงอาหารของพวกเขาเสร็จในคืนนี้จงพาคนกลับไปรอที่ด่านชิวซานก่อน”
“ขอรับ!” เซียวรั่วไห่รับคำ
“เจ้าพักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อทานอาหารเสร็จแล้ว เจ้าจงนำองครักษ์ตระกูลไป๋ที่เคยถอนตัวออกมาจากค่ายหู่อิงไปยังค่ายฝึกซ้อมของกองทัพหั่วอวิ๋นที” ไป๋ชิงฉีมองไปทางเซียวรั่วไห่นิ่ง “เจ้าจงสั่งให้คนไปดักซุ่มอยู่ที่ถนนซึ่งเดินทางไปถึงค่ายทหารหั่วอวิ๋นได้เร็วที่สุด หากหลังจากข้าเข้าวังไปแล้วมีคนส่งสารไปรายงานที่ค่ายหั่วอวิ๋นจงสังหารทิ้งทั้งหมด ห้ามปล่อยผ่านไปแม้แต่ผู้เดียว!”
เซียวรั่วไห่พยักหน้า “คุณชายสามไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ ข้าจะไม่ปล่อยให้ผู้ใดผ่านไปได้แม้แต่คนเดียวขอรับ”
วันเดียวกัน การมาเยือนของทูตต้าโจวทำให้จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงและตระกูลสูงศักดิ์ทั้งแปดตระกูลคาดไม่ถึง
บัดนี้ทุกคนในซีเหลียงต่างอยากทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับต้าโจว พวกเขายังไม่ได้ข่าวใดๆ จากหลี่จือเจี๋ย ทว่า ทูตของต้าโจวกลับมาเยือนซีเหลียงเช่นนี้ ขุนนางซีเหลียงต่างคาดเดากันไปต่างต่างนานา
ฐานะของทูตต้าโจวคนนี้ไม่ธรรมดา เขาคือทายาทของตระกูลไป๋ คือน้องชายของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว คือแม่ทัพไป๋ชิงฉีแห่งค่ายทหารหู่อิงของกองทัพไป๋ที่เคยสังหารแม่ทัพดุดันของซีเหลียงนับไม่ถ้วนในสงครามที่หนานเจียง
หมอหลวงตรวจชีพจรให้อวิ๋นพั่วสิง อาการไอเรื้อรังของอวิ๋นพั่วสิงยังไม่หายขาด แผลเก่าที่เอวของอวิ๋นพั่วสิงกำเริบอีกครั้ง หมอหลวงกำชับให้อวิ๋นพั่วสิงพักผ่อนให้มากๆ เมื่อข่าวนี้ส่งมาถึงจวนอวิ๋น อวิ๋นพั่วสิงตกตะลึงมาก ทางซีเหลียงเพิ่งทราบข่าวเรื่องที่แม่ทัพตระกูลไป๋รอดชีวิตกลับไปยังต้าโจวในวันพิธีราชาภิเษกของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ผู้ใดจะคิดว่าไป๋ชิงฉีจะเดินทางมายังซีเหลียงในฐานะทูตของต้าโจวเช่นนี้
เหตุใดจึงมาที่นี่กัน
หากเป็นเพราะเรื่องสัญญาพันธมิตร เหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ยเดินทางไปยังต้าโจวแล้วไม่ใช่หรือ
อวิ๋นพั่วสิงรีบใช้มือหยัดกายเตรียมลุกขึ้นจากเตียงอย่างไม่กล้ารอช้า ทว่า เขากลับลุกไม่ขึ้น…
บ่าวรับใช้เก่าแก่เห็นจึงรีบวางกาน้ำชาลงแล้วเข้าไปช่วยพยุงอวิ๋นพั่วสิง “ท่านแม่ทัพต้องการสิ่งใดเรียกข้าก็ได้ขอรับ ท่านหมอหลวงกำชับให้ท่านพักผ่อนเยอะๆ นะขอรับ”
อวิ๋นพั่วสิงจับตัวบ่าวรับใช้เพื่อยันกายลุกขึ้น จากนั้นกล่าว “เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ข้าจะเข้าวัง!”
“ท่านแม่ทัพ…” บ่าวรับใช้เก่าแก่มีสีหน้าเป็นกังวล “ท่านยังไม่ได้ดื่มยาเลยนะขอรับ ท่านชายสองกำลังต้มยาให้ท่าน อีกสักพักยาถึงจะเดือด ท่านแม่ทัพพักผ่อนต่อสักนิด รอดื่มยาเสร็จค่อยเข้าไปในวังก็ยังไม่สายนะขอรับ”
“ไม่ต้อง ไปหยิบชุดขุนนางมา…” อวิ๋นพั่วสิงกล่าว
เมื่อเปลี่ยนเป็นชุดขุนนางเสร็จ อวิ๋นพั่วสิงไอจนใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ บ่าวรับใช้เก่าแก่รีบส่งไม้เท้าให้ “ท่านแม่ทัพ ใช้ไม้เท้าจะได้สะดวกขึ้นขอรับ!”
อวิ๋นพั่วสิงเม้มปากแน่น ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของตัวเอง เขาผลักไม้เท้าที่บ่าวรับใช้ส่งให้ออกอย่างไม่ยอมรับว่าตัวเองแก่แล้ว “ข้ายังไม่แก่!”
อวิ๋นพั่วสิงกำหมัดแน่นพลางเดินออกไปด้านนอก ขณะที่อวิ๋นพั่วสิงกำลังก้าวขึ้นไปบนรถม้า บุตรชายคนที่สองของอวิ๋นพั่วสิงวิ่งถือยาออกมา จากนั้นยื่นไปตรงหน้าอวิ๋นพั่วสิง “ท่านพ่อ! ท่านพ่อดื่มยาก่อนเถิดขอรับ”
อวิ๋นพั่วสิงที่ก้าวขึ้นไปบนเก้าไม้อี้รับยามาดื่มจนหมดถ้วย เขาขมวดคิ้วแน่นพลางส่งถ้วยยาคืนให้บุตรชาย จากนั้นก้าวขึ้นไปบนรถม้า
อวิ๋นพั่วสิงนั่งอยู่ในรถม้า เขานึกถึงหลานชายที่เดินทางไปชดใช้ชีวิตที่ต้าโจว เมื่อรู้ว่าไป๋ชิงเหยียนไม่ได้เอาชีวิตหลานชายของเขา เขาทั้งดีใจและปวดใจ
หากหลานชายของเขาเสียชีวิตอยู่ที่ต้าโจว เช่นนั้นต้าโจวจะไม่มีข้ออ้างในการบุกโจมตีซีเหลียงอีก!
เขาได้แต่ว่าหวังไป๋ชิงฉีเดินทางมาซีเหลียงครั้งนี้เพื่อเจรจาสงบศึก แม้ว่าจะแลกด้วยชีวิตของเขาก็ตาม! ซีเหลียงทำสงครามไม่ไหวแล้วจริงๆ !
เมื่ออวิ๋นพั่วสิงเข้าไปในวังหลวงเขากลับถูกขันทีข้างกายของจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงรั้งให้รออยู่นอกตำหนัก ทูตของต้าโจวต้องการเข้าเฝ้าจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงเป็นการส่วนตัว
อวิ๋นพั่วสิงกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที
ภายในตำหนัก
ไป๋ชิงฉีสวมเครื่องแต่งกายสีเรียบเพราะกำลังไว้ทุกข์ให้ท่านย่าของตัวเอง เขานั่งอยู่บนที่นั่งถัดจากจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงด้วยท่าทีองอาจและทรนง ใบหน้าของชายหนุ่มคมสันและคมคาย แม้ผมของเขาจะมีสีขาวขึ้นแทรก ทว่า ไม่ได้ทำให้ใบหน้าของเขารูปงามน้อยลงกว่าเดิมแม้แต่น้อย
ชายหนุ่มเอ่ยถึงเรื่องกองทัพหั่วอวิ๋นกับจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงอย่างไม่รีบร้อน เมื่อกล่าวจบจึงเงยหน้ามองจักรพรรดินีแห่งซีเหลียง
จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงกำหมัดแน่น ทว่า ดวงตาที่คมกริบยังคงมีรอยยิ้มอยู่เช่นเดิม นางมองไปทางไป๋ชิงฉีนิ่ง “ได้ยินว่าท่านทูตเพิ่งเดินทางถึงต้าโจวในวันพิธีราชาภิเษกของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ท่านคงมาถึงซีเหลียงได้ไม่นาน ท่านรู้เรื่องกองทัพหั่วอวิ๋นได้เช่นไรกัน”
************************