ตอนที่ 990 รับมือ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 990 รับมือ

แม้ก่อนหน้านี้จะดูเหมือนว่าทั้งแปดตระกูลถูกทำลายอย่างหนัก ทว่า ความจริงแล้วพวกเขาแค่ยอมถอยให้ก่อนชั่วคราวเท่านั้น พวกเขาร่วมมือกับพ่อค้าชุยเฟิ่งเหนียนทำให้ซีเหลียงเกิดความวุ่นวาย

เมื่อซีเหลียงเกิดความวุ่นวายอย่างหนัก ตระกูลสูงศักดิ์ทั้งแปดตระกูลจะโทษว่านี่คือความผิดของจักรพรรดินีแห่งซีเหลียง กล่าวว่าระบอบการปกครองใหม่ของจักพรรดินีแห่งซีเหลียงทำความไม่สงบมาให้ซีเหลียง เช่นนี้พวกเขาจะได้ดึงจักพรรดินีแห่งซีเหลียงลงมาจากบัลลังก์ได้อย่างชอบธรรม

ทว่า ตระกูลทั้งแปดจะสนับสนุนผู้ใดขึ้นนั่งบัลลังก์เป็นคนต่อไปนะ

เหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ยอย่างนั้นหรือ

เหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ยเป็นคนสนับสนุนให้จักพรรดินีแห่งซีเหลียงขึ้นครองบัลลังก์ ตอนนั้นหลี่จือเจี๋ยไม่ถือโอกาสนั้นขึ้นครองบัลลังก์เอง ตอนนี้เขายิ่งไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด

จู่ๆ ไป๋จิ่นถงก็นึกถึงคนๆ หนึ่งขึ้นมา “พี่ชายสาม จักรพรรดิองค์ก่อนของซีเหลียงไม่ได้มีจักพรรดินีแห่งซีเหลียงเป็นธิดาเพียงคนเดียวเจ้าค่ะ”

ได้ยินว่าตั้งแต่ที่หลี่เทียนฟู่กลับมาจากต้าจิ้น หญิงสาวอยู่อย่างสงบเสงี่ยมในวังหลวงมาโดยตลอด วันๆ เอาแต่ดูแลปรนนิบัติข้างกายไทเฮาและจักพรรดินีแห่งซีเหลียง

ผู้ที่สามารถทำให้จักพรรดินีแห่งซีเหลียงไม่คิดหวาดระแวงหรือสงสัยได้มีเพียงน้องสาวแท้ๆ ของจักพรรดินีแห่งซีเหลียงเท่านั้น หลี่เทียนฟู่สามารถเข้าออกห้องหนังสือของจักพรรดินีแห่งซีเหลียงได้ตามใจชอบ หญิงสาวสามารถนั่งฟังเรื่องที่จักพรรดินีแห่งซีเหลียงและขุนนางในราชสำนักคุยกันได้อย่างเปิดเผย จากนั้นลอบส่งข่าวให้ตระกูลทั้งแปดรับรู้

แม้ภัยอันตรายจะรออยู่นอกแคว้นซีเหลียง ทว่า การปกครองระบอบใหม่ของจักพรรดินีแห่งซีเหลียงทำลายผลประโยชน์ของตระกูลทั้งแปดอย่างใหญ่หลวง ตระกูลทั้งแปดคัดค้านระบอบการปกครองของจักพรรดินีแห่งซีเหลียง ดังนั้นพวกเขาจึงใช้วิธีนี้ก่อความวุ่นวายในซีเหลียงเพื่อโค่นล้มอำนาจของจักพรรดินีแห่งซีเหลียง

ตระกูลทั้งแปดคงรู้ดีอยู่แก่ใจว่าหรงตี๋กำลังจะโจมตีซีเหลียง ต้าโจวจ้องซีเหลียงต้าเป็นมันเช่นเดียวกัน พวกเขาจึงรอวันที่หลี่จือเจี๋ยทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับต้าโจวสำเร็จและยังเดินทางกลับมาไม่ถึงซีเหลียงลงมือจัดการกับจักพรรดินีแห่งซีเหลียง

ไป๋ชิงฉีมองสบตากับไป๋จิ่นถงอย่างเข้าใจเรื่องทุกอย่าง ไป๋จิ่นถงกล่าวเสียงเย็น

“พี่ชายสามต้องส่งจดหมายไปบอกให้พี่หญิงใหญ่ทราบนะเจ้าค่ะ”

ทว่า สิ่งที่ไป๋ชิงฉีกำลังคิดในตอนนี้คือการคิดว่าจะลากต้าเยี่ยนเข้ามาเกี่ยวพันในสถานการณ์เช่นนี้ด้วยได้หรือไม่

หากไม่ถือโอกาสนี้กำจัดต้าเยี่ยนที่เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงในการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งของต้าโจว หากวันหน้าต้าโจวยึดครองซีเหลียงได้แล้ว ต้าโจวค่อยหันไปจัดการต้าเยี่ยน สงครามระหว่างต้าโจวและต้าเยี่ยนจะยืดเยื้อขึ้นมาทันที

ไป๋ชิงฉีนั่งลงบนเก้าอี้ เท้าแทนลงบนที่วางแขนอย่างใช้ความคิด

“เราต้องหาทางส่งข่าวนี้ให้จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงรับรู้ด้วย”

ข่าวนี้สามารถทำให้ซีเหลียงวุ่นวายขึ้นมาอีกครั้งได้

ไป๋จิ่นถงรู้ดีว่านางไม่อาจกล่าวเรื่องนี้ด้วยตัวเองได้ หากนางไปบอกจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงด้วยตัวเอง จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงอาจระแวงสงสัยขึ้นมาได้ หากจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงบอกกับทั้งแปดตระกูลว่านางเป็นคนบอกเรื่องนี้ นางอาจล่วงเกินทั้งแปดตระกูลด้วย

“หากหลี่จือเจี๋ยอยู่ที่นี่ ขอเพียงพวกเราแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปเพียงนิดเดียว หลี่จือเจี๋ยจะไปรายงานให้จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงทราบทันที จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงจะเชื่อคำกล่าวของหลี่จือเจี๋ย ทว่า นางคงไม่เชื่อคำของพวกเรา” ไป๋จิ่นถงขมวดคิ้วแน่น

ไป๋ชิงฉีลอบเข้ามาในซีเหลียงอย่างลับๆ ความจริงไป๋ชิงฉีมีหนังสือทูตและตราทูตของต้าโจวอยู่ในมือ เขาสามารถเข้าวังไปเตือนเรื่องนี้ให้จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงรับรู้อย่างเปิดเผยได้ ทว่า เท่านี้ยังไม่เพียงพอ…

ไป๋ชิงฉีมองไปทางไป๋จิ่นถง “เจ้ารู้หรือไม่ว่าคลังเสบียงของทั้งแปดตระกูลอยู่ที่ใด”

“เฉินชิ่งเซิงกำลังตรวจสอบเรื่องนี้ บัดนี้หาพบเพียงแค่ห้าคลังเท่านั้นเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นถงกล่าว

ไป๋ชิงฉีเคาะนิ้วลงบนโต๊ะ “ให้เฉินชิ่งเซิงสืบร่วมกับเซียวรั่วไห่ ต้องหาคลังเสบียงอาหารที่เหลือให้พบโดยเร็วที่สุด!”

เซียวรั่วไห่เคยเป็นยอดฝีมือในการค้นหาแหล่งเสบียงอาหารตอนอยู่ในกองทัพไป๋ เขาคือยอดฝีมือที่หาตัวจับได้ยากในกองทัพไป๋

เฉินชิ่งเซิงคือคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ยอดเยี่ยม เขาเข้ากับคนได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเจ้านายหรือบ่าวรับใช้ของจวน

หากพวกเขาสองคนร่วมมือกัน อีกไม่นานคงหาแหล่งเสบียงอาหารที่เหลือเจอแน่นอน

เมื่อเซียวรั่วไห่และเฉินชิ่งเซิงหาเสบียงอาหารที่เหลือครบแล้ว ไป๋ชิงฉีจะเดินทางไปไปเตือนจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงในวังหลวงในฐานะทูตของต้าโจว เมื่อจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงลงมือจัดการเรื่องนี้ พวกเขาค่อยให้คนไปทำลายคลังเสบียงของตระกูลทั้งแปด เมื่อซีเหลียงไม่มีเสบียงหลงเหลือ หรงตี๋และต้าโจวค่อยยกทัพบุกโจมตีซีเหลียง เวลานั้นต้าเยี่ยนไม่มีทางทนเห็นซีเหลียงถูกบีบเพราะไม่มีเสบียงอาหารแน่นอน

เมื่อหรงตี๋รู้ข่าวเรื่องที่ซีเหลียงไม่มีเสบียงอาหารหลงเหลือแล้ว พวกเขาต้องมุ่งหน้าโจมตีซีเหลียงอย่างเต็มที่ เมื่อหรงตี๋และซีเหลียงทำสงครามกันขึ้นมา สถานการณ์รบจะดำเนินไปอย่างรวดเร็วแน่นอน

“ยังมีอีกเรื่อง” ไป๋จิ่นถงมองไปทางไป๋ชิงฉี “จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงกำลังสร้างกองทัพเลียนแบบทหารค่ายหู่อิงของกองทัพไป๋เจ้าค่ะ ข้าเคยส่งคนไปสอดแนมสถานการณ์ในกองทัพ บังเอิญว่าหนึ่งในคนที่ข้าส่งไปสอดแนมคือทหารเก่าของค่ายหู่อิงที่ได้รับบาดเจ็บที่ขาจนต้องถอนตัวออกมาจากกองทัพ เขาพบว่าวิธีการฝึกฝนทหารของค่ายหั่วอวิ๋นเลียนแบบมาจากวิธีฝึกของค่ายหู่อิงของกองทัพไป๋เจ้าค่ะ!”

ไป๋ชิงเหยียนบอกเรื่องนี้กับไป๋ชิงฉีก่อนเขาออกเดินทางแล้ว

ไป๋จิ่นถงขมวดคิ้วแน่น “ก่อนหน้านี้ข้าสืบเรื่องนี้ไม่พบ ทว่า วันที่ข้าออกมาจากคุก ข้ารู้ว่าพี่หญิงใหญ่ส่งเซียวรั่วไห่มาที่นี่จึงขอให้เขาช่วยสืบเรื่องนี้ก่อน ตอนแรกข้าคิดว่าเมื่อสืบได้เรื่องแล้วค่อยมาบอกให้พี่ชายสามรับรู้ ทว่า บัดนี้ควรให้เซียวรั่วไห่ไปสืบหาคลังเสบียงอาหารก่อน แต่เราก็ไม่ควรปล่อยผ่านเรื่องค่ายหู่อิง ข้าคิดวิธีใหม่ออกแล้ว ทว่า ไม่รู้ว่าเหมาะสมหรือไม่ พี่ชายสามลองฟังดูก่อนนะเจ้าคะ”

ไป๋ชิงฉีมองไปทางไป๋จิ่นถงพลางกำมือแน่น ค่ายหู่อิงคือค่ายที่ท่านพ่อของเขาสร้างขึ้น เรียกได้ว่าพวกเขาเป็นคนคัดเลือกทหารที่เข้าไปอยู่ในค่ายด้วยตัวเองทุกคน ทหารของค่ายหู่อิงยอมยืนตาย ทว่า ไม่มีทางคุกเข่าขอร้องศัตรูเพื่อให้มีชีวิตรอด เขาไม่เชื่อว่าคนในค่ายหู่อิงจะทรยศ ไม่เชื่อว่าพวกเขาจะสอนวิธีสู้รบให้ศัตรูที่เคยสังหารชาวบ้านในแคว้นของตัวเอง

ไป๋ชิงฉีพยักหน้า “เจ้าว่ามาได้…”

“พี่ชายสามส่งคนของพี่ไปสืบเรื่องค่ายหั่วอวิ๋นขณะที่เซียวรั่วไห่กำลังสืบหาคลังเสบียงอาหารโดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกจับได้ ตอนนี้พี่ชายสามคือทูตของต้าโจว บัดนี้ซีเหลียงไม่กล้าทำให้ต้าโจวไม่พอใจ หากคนของพี่ชายสามสืบเรื่องค่ายหั่วอวิ๋นได้เรื่องก่อนที่เซียวรั่วไห่จะพาคลังเสบียงพบจะยิ่งเป็นการดีเจ้าค่ะ”

“หากสืบไม่ได้ พี่ชายสามสามารถสอบถามเรื่องนี้กับจักรพรรดิแห่งซีเหลียงตอนที่เข้าวังไปพบนางในฐานะทูตของต้าโจวได้ ลองหยั่งเชิงดูว่าในค่ายหั่วอวิ๋นมีคนของตระกูลไป๋อยู่หรือไม่ หากจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงอยากทำสัญญาพันธมิตรกับต้าโจว นางไม่กล้ากักตัวคนไว้แน่เจ้าค่ะ” สีหน้าของไป๋จิ่นถงจริงจัง “ซีเหลียงในตอนนี้มีมีอำนาจมากพอที่จะต่อต้านต้าโจว จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงรับมือกับเรื่องนี้ไม่ไหวแน่เจ้าค่ะ…”

ไป๋ชิงฉีเริ่มเห็นด้วย เช่นนี้เขาก็มีข้ออ้างที่ลอบเข้ามาในซีเหลียงก่อนในฐานะทูตของแคว้นต้าโจวแล้ว ให้จักพรรดินีแห่งซีเหลียงคิดว่าเขาที่เพิ่งกลับถึงต้าโจวเดินทางมายังซีเหลียงเพราะเรื่องค่ายทหารหั่วอวิ๋น

ไป๋ชิงฉีหันไปมองใบหน้าที่สดใสแจ่มชัดของน้องสาวอย่างรู้สึกภูมิใจ น้องสาวของเขาโตแล้ว…

*************************