บทที่ 1007 เป็นความผิดฉันเอง

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1007 เป็นความผิดฉันเอง

Content Warning: บทมีการบรรยายถึงความสัมพันธ์ร่วมประเวณีของพี่น้อง, เนื้อเรื่องบางส่วนมีความรุนแรง

บทที่ 1007 เป็นความผิดฉันเอง

ชายชราผู้ใจดีต่อคนอื่นเสมอมากำลังโกรธจัด

ไม่รู้โกรธตัวเองหรือโกรธพวกลูก ๆ

ครั้งหนึ่งเคยสอนพวกเขาเสียดิบดี

แต่ไม่คิดเลยว่าหลังจากไปต่างประเทศจะกลายเป็นแบบนี้

ไม่อยากกลับบ้าน เอาแต่บอกว่าเคยชินกับชีวิตที่นั่น

แต่ลูกชายตัวเองก็ไม่ดูแลด้วยซ้ำ นี่มันเป็นการกระทำแบบไหนกันล่ะ?

อี้หย่วนไม่ใช่ญาติพวกเขาหรือ?

พาเด็กมันไปต่างประเทศเองก็ควรดูแลอย่างดีไม่ใช่หรือยังไง?

เขามองฉืออี้หย่วน พลันนึกสงสัยว่าหลานชายจะกลับไปหรือเปล่า

แต่อี้หย่วนยืนกรานว่าจะเรียนให้จบก่อนแล้วค่อยกลับ

เด็กคนนี้มีความรับผิดชอบมาก ตั้งใจทำงานอย่างดี

อยู่ที่นั่นคงลำบากมากเลยสินะ

ต้องโดดเดี่ยวมากแน่ ๆ

เสี่ยวเถียนนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้

“พี่อี้หย่วน พี่หางานพาร์ตไทม์ที่ไหนคะ?”

แม้จะไม่ได้ยินจากปาก แต่รู้ได้ว่าเขาลำบากแน่ ๆ

ชีวิตที่นั่นคงไม่ดีเท่าไร

พ่อแม่แท้ ๆ คงไม่ชอบลูกชายที่ไม่ได้เลี้ยงมาด้วยตัวเองใช่ไหม?

พอเห็นว่าพวกเขามีเส้นสาย บริษัทที่ทำมีหน้ามีตาในเยอรมนีด้วย

แล้วถ้าโดนคนแบบนั้นกดเอาไว้ อนาคตพี่เขาลำบากแน่นอน

ฉืออี้หย่วนยิ้ม

ในแววตาคู่นั้นมีประกายไฟลุกโชน

“ที่จริงต้องขอบคุณเธอเลยนะ”

จากนั้นก็เล่าเรื่องราวให้ได้ฟัง

บริษัทที่เขาไปสมัครคือบริษัท Fessenger

ผู้ดูแลบริษัทแห่งนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคุณออกัส ที่มีน้องสาวชื่อคริสติน่านั่นเอง คนที่สนิทกับเสี่ยวเถียนน่ะ

ตอนพวกเขาอยู่ที่จีนยังได้มากินอาหารที่ร้านเราบ่อยมาก

หลายปีที่ผ่านมาก็ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับเสี่ยวเถียนเช่นเดิม

ตอนไปสมัครงานเขาบังเอิญเจอคริสติน่าด้วย

หญิงสาวเป็นหนึ่งในกรรมการสัมภาษณ์ ทั้งยังเป็นกรรมการคัดเลือกคนสุดท้าย

เพราะสนิทกับเสี่ยวเถียนจึงมีความประทับใจต่อประเทศจีนมาก

พอได้ยินว่าเราเป็นคนจีนก็คุยด้วยเยอะเลย

เจ้าตัวดีใจมากที่รู้ว่าเขามาจากเมืองหลวง

ก่อนจะเอ่ยถึงสาวนักแปลคนเก่งที่พูดเยอรมันได้คล่องมาก เราเคยพบกันเมื่อตอนเด็กกว่านี้

ระหว่างบทสนทนาก็ทำให้ได้รู้ว่าเราทั้งคู่ต่างก็รู้จักเสี่ยวเถียน

ด้วยความที่ระดับภาษาเยอรมันของฉืออี้หย่วนสูงมาก จึงสามารถทำหน้าที่ล่ามได้โดยไม่มีความกดดันใด ๆ

คริสติน่าตัดสินใจให้เขาเป็นนักแปลภาษาจีนที่บริษัททันที

“รอบนี้คุณคริสติน่าก็มาด้วยนะ เขาบอกว่าจะมาหาเธอพรุ่งนี้น่ะ”

ฉืออี้หย่วนเดินมากับหญิงสาว

หลังจากลงเครื่องเจ้าตัวก็ตรงไปโรงแรม ส่วนเขาตรงกลับบ้าน

“คุณคริสติน่ามาก่อนวันหนึ่งเพื่อมาหาเธอเลยละ”

ฉืออี้หย่วนเผยยิ้มสดใส

ถ้ามาก่อนสักวันก็คงได้เจอสาวน้อยที่ชอบเร็วขึ้นหนึ่งวันสินะ

“จริงหรือคะ? หนูไม่ได้เจอเธอมาหลายปีแล้ว ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่า”

แววตาเสี่ยวเถียนเริ่มสดใส

คริสติน่ารู้จักเธอมานานแล้ว ถึงจะไม่ได้เจอกันเลย แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ของพวกเธอดีจริง ๆ

คุณย่าซูเหมือนจะจำไม่ได้ แต่ก็รู้สึกชื่อคุ้นมาก

“ใครนะ ทำไมย่าคุ้น ๆ”

“ย่าจำไม่ได้หรือคะ คนที่บอกอยากเป็นหลานย่าไง จำได้ไหม? เด็กผู้หญิงชาวเยอรมันที่ให้นาฬิกากับหนูน่ะ”

เสี่ยวเถียนอธิบายให้ฟัง

หญิงชรานึกออกในที่สุด

“จริงด้วย เด็กคนนั้นสวยมากเลย”

“สวยกว่าหนูอีกหรือคะ?” เสี่ยวเถียนเอ่ยเสียงจริงจัง

คุณย่าซูดูตกใจ จากนั้นจึงแย้มยิ้ม “เจ้าเด็กคนนี้ กับย่าก็แกล้งหรือ?”

ทุกคนหัวเราะลั่น บรรยากาศกลมเกลียวมาก

ทางฝั่งซูเสี่ยวเฉ่าวิ่งร้องไห้ออกมา เบื้องหลังมีซูซานกงไล่ตามมาด้วย

เขามองหญิงสาวที่ร้องไห้โฮเป็นเด็ก ๆ พลันรู้สึกปวดใจยิ่ง

“เสี่ยวเฉ่า หยุดวิ่งหนีเถอะ กลับบ้านเรากัน ไม่ดูหนังแล้วก็ได้นะ?”

เขาไม่น่าพาเธอมาดูหนังหรือกินข้าวเลยใช่ไหม?

ซูเสี่ยวเฉ่าส่ายหัว

“ไม่ ๆ ซานกง ฉันผิดเอง เป็นความผิดฉันเอง!”

ซูซานกงสับสน ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงตำหนิตัวเอง

“เธอไม่ได้ผิดเลยเสี่ยวเฉ่า มันเป็นแค่หนัง ไม่ใช่เรื่องจริงนะ”

ซูซานกงไม่กล้าเข้าใกล้มากเกินไป กลัวจะทำเธอหนีเตลิด

เขาไม่กลัวเหนื่อยหรอกนะ กลัวจะทำให้หญิงสาวเหนื่อยใจมากกว่า

ซูเสี่ยวเฉ่าตวัดสายตามอง “ที่จริงฉันมีความคิดที่ไม่สมควรต่อนายน่ะสิ มันเป็นความผิดฉันเองซานกง ฉันไม่ควรทำแบบนี้เลย!”

อะไรนะ?

ซูซานกงมองสายตาไม่อยากจะเชื่อ

ซูเสี่ยวเฉ่าไม่เคยคิดจะเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อชายหนุ่ม

แต่พอได้ดูเรื่อง ‘พายุฝนฟ้าคะนอง’ แล้วเธอก็รู้สึกเหมือนโดนครอบงำ

เหมือนกับซื่อเฟิ่ง*[1]ที่มีความสัมพันธ์กับพี่ชายตัวเอง

ไม่สิ เธอไม่ได้ดีเท่าซื่อเฟิ่งด้วยซ้ำ เพราะฝ่ายหญิงไม่รู้เรื่อง แต่ตัวเธอกลับรู้ดี

ซูซานกงไม่ใช่คนที่ควรชอบเลยสักนิด เราเป็นพี่น้องกัน

ต่อให้มีสายเลือดผ่านมาแล้วห้าชั่วโคตร แต่กฎหมายก็ยังห้ามญาติแต่งงานกัน

ยิ่งถ้าอยู่ในหมู่บ้าน พวกเธอก็ทำได้แค่เป็นพี่น้องกันเท่านั้น

หากความรู้สึกถูกเปิดเผย เราได้กลายเป็นที่ขบขันแน่ ๆ

เผลอ ๆ พ่อแม่คงไม่มีหน้าไปใช้ชีวิตที่นั่นได้

ไม่ได้ เธอทำแบบนี้ไม่ได้!

“เสี่ยวเฉ่า เธอหมายความอย่างที่ฉันคิดอยู่หรือเปล่า?”

น้ำเสียงสั่นเครือ เพราะเขารู้สึกว่าได้ยินผิดไปเอง

เพราะชายหนุ่มรู้ว่าโลกคงไม่สามารถยอมรับความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ จึงตั้งใจจะรักเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น

แล้วที่คิดอยากดูหนังเรื่องนั้น บางทีคงเพื่อตอบสนองความเห็นแก่ตัวของตัวเองก็ได้

มันผิดที่เขามีความคิดเช่นนี้ แม้แต่ตัวเสี่ยวเฉ่าเขายังไม่อยากให้รับรู้

เขาตั้งใจแล้วว่าจะแบกรับความเจ็บปวดไว้เอง

แต่เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ?

เสี่ยวเฉ่าหมายถึงอะไร?

เธอคิดแบบนั้นจริง ๆ หรือ?

“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น ซานกงเลิกถามเถอะ ไม่มีอะไรทั้งนั้น!”

ซูเสี่ยวเฉ่าไม่กล้าพูดต่อ นึกไม่ออกเลยว่าคนอื่นจะคิดยังไงถ้ารู้ถึงสิ่งที่ตนพูด

[1] เนื้อเรื่องของ《雷雨》ความว่า สมัยโจวผู่หยวนยังเป็นหนุ่มได้ตกหลุมรักซื่อผิงผู้เป็นสาวใช้ก่อนจะมีลูกด้วยกัน แต่ทางตระกูลโจวบังคับให้ฝ่ายหญิงไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ซึ่งโชคดีที่รอดมาได้ทั้งแม่ลูก หลังจากนั้นเธอก็พาลูกชายคนรองอย่างต้าไห่หนีไปอยู่ที่อื่น แล้วทิ้งลูกชายคนโตอย่างโจวผิงไว้ที่นี่

ซื่อผิงมีโอกาสได้แต่งงานใหม่มีลูกสาวชื่อซื่อเฟิ่ง ส่วนฝั่งโจวผู่หยวนแต่งงานกับฝานอีมีลูกชายชื่อโจวชง

ด้วยความที่โจวผู่หยวนอยู่ภายใต้ความเผด็จการของพ่อแม่ จึงทำให้ฝานอีต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ทำให้มีโอกาสได้ใกล้ชิดโจวผิงและมีความสัมพันธ์กับเขา แต่โจวผิงหวาดกลัวอำนาจของผู้เป็นพ่อ และละอายใจกับความสัมพันธ์ร่วมประเวณีจึงตีตัวออกหาก และไปติดพันกับสาวใช้อย่างซื่อเฟิ่งแทน

ทางฝั่งโจวชงก็ติดพันกับซื่อเฟิ่งเช่นกัน สถานการณ์จับพลัดจับผลูทำให้ทั้งสองครอบครัวได้เผชิญหน้ากันอีกครั้ง และได้รู้ความจริงของความสัมพันธ์พวกเขาทั้งหมด สุดท้ายก็เกิดเป็นโศกนาฏกรรมอันเศร้าสลดทิ้งไว้เพียงโจวผู่หยวนผู้เศร้าโศกเท่านั้น