บทที่ 1059 ระยะปลาย ตัวตนเหนือชั้นปรากฏขึ้นอีกครั้ง

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 1059 ระยะปลาย ตัวตนเหนือชั้นปรากฏขึ้นอีกครั้ง

สามล้านปีต่อมา หานเจวี๋ยเริ่มทะลวงขั้น ตบะถูกควบคุมถึงขีดจำกัดสูงสุดแล้ว เหมือนภูเขาที่กำลังจะปะทุขึ้นมา ไม่อาจขัดขวางไว้ได้

เวลาผ่านไปหนึ่งล้านปีเต็มเขาถึงได้ทะลวงขั้นสำเร็จ

ผู้สร้างมรรคาระยะปลาย!

พลังปฐมยุคของเขาเริ่มพลุ่งพล่านพลอยทำให้โลกปฐมยุคขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว กลืนกินพื้นที่ดินแดนเวิ้งว้างรอบข้าง

หานเจวี๋ยดื่มด่ำกับความรู้สึกเลิศล้ำจากการได้แข็งแกร่งขึ้น ไม่อาจถอนตัวออกมาได้

เขาปรับตบะให้มั่นคงพลางเรียกหน้าต่างค่าสถานะออกมา

[ชื่อ: หานเจวี๋ย]

[อายุขัย: 134,001,982/5,099,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999, 999,999,999,999,999,999,999]

[เผ่าพันธุ์: เทพมารอนธการ (มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต)]

[ตบะ: ผู้สร้างมรรคาระยะปลาย (อริยะสมบูรณ์แบบ)]

[วิชายุทธ์: มหามรรควัฏจักรอนธการ (ระดับมหามรรค) วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา]

[มหามรรค: มหามรรคเวียนว่ายตายเกิด มหามรรคแห่งกรรม มหามรรคต้นกำเนิด]

[คุณสมบัติกาย: กายปฐมยุคเลิศมรรคา]

….

ยอดเยี่ยม!

เมื่อเห็นอายุขัยต้นกำเนิดเพิ่มขึ้นมาเป็นพรวนหานเจวี๋ยก็รู้สึกดื่มด่ำหลงใหล

ประเด็นสำคัญที่สุดคือหลังจากบรรลุระยะปลายก็จะมุ่งสู่ผู้สร้างมรรคาระยะสมบูรณ์ จากนั้นก็จะมุ่งหน้าสู่เทพผู้สร้างที่ยังไม่เคยมีผู้ใดบรรลุถึงมาก่อน

แค่นึกถึงระดับเทพผู้สร้างจิตใจหานเจวี๋ยก็ฮึกเหิมขึ้นมา

เขาอยู่ไม่ไกลจากตำแหน่งไร้พ่ายแล้ว!

ใช้เวลาไปเกือบแปดแสนปีตบะของหานเจวี๋ยถึงได้เสถียรมั่นคง

เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาก็เรียกหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาเป็นอันดับแรก ซั่นเอ้อร์ยังอยู่นอกอารามเต๋าถึงเขาสาปแช่งเจ้านวฟ้าบุพกาลตอนนี้ก็ไม่มีทางถูกพบเห็น

เขาเริ่มลงมือทันที

ห้าวันต่อมา อายุขัยของเขาลดลง หนึ่งวินาทีสูญเสียอายุไปเท่ากับหลายหมื่นชาติภพของมนุษย์สามัญ

ครั้งนี้หานเจวี๋ยใช้อายุไปเพียงสองพันล้านล้านล้านปีก็ทำให้มรรคจิตของเจ้านวฟ้าบุพกาลเสียหาย ตบะถดถอยได้แล้ว

ส่วนจะถดถอยลงมากน้อยแค่ไหน เขาก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่มีสัญญาณเตือนว่าฟ้าบุพกาลกำลังจะพังถล่มปรากฏขึ้นมาอีกครั้งทำให้เขาไม่กล้าสาปแช่งต่อ

แค่ถ่วงความก้าวหน้าของเจ้านวฟ้าบุพกาลไว้ก็พอแล้ว รอจนหานเจวี๋ยเหนือกว่าเจ้านวฟ้าบุพกาลก็ไม่จำเป็นต้องสนใจแล้วว่าเจ้านวฟ้าบุพกาลหรือผู้สร้างมรรคาคนอื่นๆ จะบรรลุเทพผู้สร้างหรือไม่

ตำแหน่งสุดยอดผู้แข็งแกร่งต้องอยู่ในกำมือตนเท่านั้นถึงจะรับประกันความปลอดภัยได้ หานเจวี๋ยไม่ไว้ใจคนอื่น เขาสามารถมอบความสงบสุขให้สรรพสิ่งได้ แต่ยามที่เขายังมีฐานะเป็นสรรพสิ่งอยู่เขาไม่เชื่อมั่นว่าผู้ไร้พ่ายจะสามารถปกป้องให้เขาอยู่อย่างสงบสุขไปได้ชั่วชีวิต

หลังจากสาปแช่งเสร็จ เขาก็เก็บหนังสือแห่งความโชคร้ายให้เรียบร้อยแล้วเรียกซั่นเอ้อร์เข้ามา

ซั่นเอ้อร์รอแทบไม่ไหวมานานแล้ว เข้ามาในอารามอย่างรวดเร็ว คุกเข่าคารวะหานเจวี๋ย

“ท่านปฐมบรรพชน การฝึกฝนของท่านสำเร็จลุล่วงหรือไม่ขอรับ”

ซั่นเอ้อร์ถามอย่างระมัดระวัง ให้เขาออกไปอยู่ด้านนอกนานขนาดนี้จะต้องเป็นพลังวิเศษที่เลิศล้ำแน่นอน

หานเจวี๋ยยิ้มให้ ก่อนพยักหน้าและเอ่ยไปว่า “ข้าอารมณ์ดีอยู่ จะเทศนาธรรมแก่เจ้าและถ่ายทอดพลังวิเศษให้เจ้าด้วย ดีหรือไม่”

“ดีขอรับ!”

ซั่นเอ้อร์ตอบรับด้วยความปรีดา

หานเจวี๋ยเริ่มเทศนาธรรม ระหว่างที่เทศนาธรรมเขาก็จัดระเบียบเวทวิชาของตนไปด้วย

เสียงธรรมแห่งมหามรรคของเขาค่อยๆ ครอบงำไปทั่วอาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม ทำให้เหล่าศิษย์ทั้งหมดตกอยู่ในภวังค์

สิ่งมีชีวิตภายในอาณาเขตเต๋าแห่งที่สามล้วนถือกำเนิดขึ้นเพราะหานเจวี๋ย คุณสมบัติไม่นับว่าเลิศล้ำมากนัก แต่ด้วยพลังวิญญาณในอาณาเขตเต๋าและความช่วยเหลือจากการเทศนาธรรมเป็นครั้งคราวของหานเจวี๋ยทำให้ตบะของพวกเขาล้วนแกร่งกล้ายิ่ง ทั้งหมดบรรลุอริยะเสรีแล้ว แต่เนื่องจากไม่ได้ออกไปข้างนอกจึงไม่มีชื่อเสียงปรากฏในจักรวาลโลกดารา

หมื่นปีผ่านไปในชั่วพริบตา

เมื่อเห็นว่าซั่นเอ้อร์ยังอยู่ในสภาวะตระหนักมรรค หานเจวี๋ยก็เริ่มใช้งานแบบจำลองการทดสอบ

ท้าสู้กับมหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญสองแสนคน!

ชนะได้สบายๆ!

สมกับเป็นผู้สร้างมรรคาระยะปลาย ทุกระดับขั้นเล็กล้วนสร้างความแตกต่างราวฟ้ากับเหว!

หานเจวี๋ยเพิ่มจำนวนศัตรูต่อไป

สามแสนคน!

เพิ่มขึ้นทีเดียวแสนคน!

สังหารทิ้งอย่างง่ายดาย!

มาถึงขั้นนี้แล้วแต่หากคิดจะสังหารในเสี้ยววินาทีก็ยังคงยากเย็นนัก แต่หานเจวี๋ยก็ไม่ได้รู้สึกกดดันเลย

สี่แสนคน!

ยังคงสบายๆ อยู่!

ห้าแสนคน!

หานเจวี๋ยเริ่มเปลืองแรงบ้างแล้ว มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญทั้งหมดห้าแสนคนโจมตีเข้ามาพร้อมกัน แรงกดดันนั้นแกร่งกล้าเกินไปจริงๆ

เขาหยุดลงเพียงเท่านี้ นี่อาจจะยังไม่ถึงขีดจำกัดของเขา แต่ขอเพียงเริ่มเปลืองแรงขึ้นมาเขาก็ระแวงแล้ว มีแต่ต้องทำเช่นนี้ถึงจะไม่บ่มเพาะให้เกิดความเกียจคร้านชะล่าใจขึ้น

หานเจวี๋ยพอใจกับความก้าวหน้าของตนมาก เขาลุกขึ้นมา เริ่มยืดเส้นยืดสายพลางเรียกดูกล่องจดหมาย

[หานหลิงบุตรีของท่านเผชิญกับคำสาปแช่งลึกลับ]

[หวงจุนเทียนสหายของท่านได้ครอบครองสุดยอดโชคร้าย]

[หานฮวงบุตรชายของท่านเผชิญกับการเข้าฝันโจมตีจากหวงจุนเทียน วิญญาณได้รับความเสียหาย]

[จ้าวซวงเฉวียนสหายของท่านเผชิญกับการเข้าฝันโจมตีจากหวงจุนเทียน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[จี้เซียนเสินศิษย์ของท่านเข้าสู่รอยแยกดินแดนเวิ้งว้าง พลัดเข้าสู่ดินแดนที่ไม่รู้จัก]

[หวงจุนเทียนสหายของท่านดูดซับดวงชะตาโลกอนธการดึกดำบรรพ์ ตบะเพิ่มมหาศาลฉับพลัน]

[เต้าจื้อจุนศิษย์ของท่านเผชิญกับการโจมตีจากมารร้ายผลาญนภา] x80092283

[ศิษย์ของท่าน…]

….

[จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายสหายของท่านได้รับการชี้แนะจากตัวตนเหนือชั้น พลังมรรคเพิ่มพูน]

[หานเย่เชื้อสายของท่านได้รับการเข้าฝันจากตัวตนเหนือชั้น เรียนรู้พลังวิเศษมหามรรค]

….

คึกคักมาก!

หวงจุนเทียนกระตือรือร้นเกินไปแล้ว พูดให้ถูกคือสื่อหยวนหงเหมิง ไม่ทราบเช่นกันว่าสื่อหยวนหงเหมิงได้รับความทรงจำของหวงจุนเทียนไปด้วยหรือไม่ ค่าความประทับใจที่หวงจุนเทียนมีต่อหานเจวี๋ยจึงไม่ลดลงเลย

อีกอย่างคือมีตัวตนเหนือชั้นปรากฏขึ้นอีกแล้ว เห็นทีว่าเจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลและมหาเทวาพ้นนิวรณ์จะถูกปล่อยตัวแล้ว

จุ๊ๆ ผู้สร้างมรรคาชอบวางแผนนัก จากนี้ไปคงน่าสนุกขึ้นมาแล้ว

มีฐานะเป็นผู้สร้างมรรคาแต่ขยับตัวนิดหน่อยก็ถูกสะกดแล้ว หากเปลี่ยนเป็นหานเจวี๋ยคงมีโทสะสุมทรวงแน่นอน

แต่เจ้านวฟ้าบุพกาลแข็งแกร่งเกินไป พวกเขาไม่กล้าต่อต้าน หากทราบว่าเจ้านวฟ้าบุพกาลได้รับบาดเจ็บหรือทราบว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการคุกคามเจ้านวฟ้าบุพกาลได้ พวกเขาต้องปรากฏแผนการขึ้นในใจแน่นอน โดยเฉพาะเจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาล คนผู้นี้เจ้าคิดเจ้าแค้นนัก

หานเจวี๋ยไล่อ่านไปเรื่อยๆ จดหมายในกล่องจดหมายมีล้นหลามอย่างยิ่ง แต่โชคดีที่ไม่เกิดเรื่องกับคนใกล้ชิดที่เขาใส่ใจเลย

ตอนนี้เขาเพียงรอให้หวงจุนเทียนปรากฏตัวขึ้นเท่านั้น

ขอเพียงหวงจุนเทียนปรากฏตัวขึ้นในฟ้าบุพกาล เขาก็สามารถลงมือได้

ด้วยความจงรักภักดีในช่วงร้อยล้านปีที่ผ่านมาของหวงจุนเทียน หานเจวี๋ยไหนเลยจะปล่อยให้เขาได้รับอันตรายได้

แต่เขาลองคำนวณดูเล็กน้อยก็ยังคงทำนายไม่พบร่องรอยของหวงจุนเทียน หากไม่ใช่เพราะครอบครองยอดสมบัติปกปิดตัวตนก็คงยังอยู่ในโลกอนธการดึกดำบรรพ์

หวงจุนเทียนจะต้องมาหาหานฮวงแน่ ทันทีที่เกิดการต่อสู้ขึ้นแล้วหานฮวงหยิบยืมพลังปฐมยุคไปใช้ เขาก็จะพบตัวหวงจุนเทียน

หานเจวี๋ยหลับตาลง ฝึกบำเพ็ญต่อไป

….

ณ วังจักรพรรดิมหาโชค ภายในตำหนักที่มืดสลัวหลังหนึ่ง

หานฮวงกำลังนั่งสมาธิฝึกบำเพ็ญ สีหน้าของเขามืดครึ้มสลับไปมา ช่วงคอกระตุกเล็กน้อย ท่าทางผิดปกติยิ่งนัก

ผ่านไปสักพักใหญ่ เขาพลันลืมตาขึ้น พ่นลมหายใจออกมา แววตาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

“คิดจะแย่งตำแหน่งเทพมารอนธการไปจากข้าอย่างนั้นหรือ เจ้าคู่ควรหรือไร”

หานฮวงพึมพำกับตัวเอง สีหน้าเต็มไปด้วยไอสังหาร

เขาลุกขึ้นมาเคลื่อนย้ายไปปรากฏเบื้องหน้าหานหลิง

“น้องสี่ ข้าจะออกไปสักระยะหนึ่ง” หานฮวงเอ่ยขึ้นมา

หานหลิงขมวดคิ้วเอ่ยถาม “เพราะเหตุใด”

หานฮวงมิได้ปกปิดเรื่องราว เล่าเรื่องที่เจ้าชะตามาท้าทายตนให้ฟัง

หานหลิงกล่าวว่า “พี่รองต้องระวังตัวด้วย อีกฝ่ายมีเจตนายั่วยุอย่างเห็นได้ชัด แปลว่ามีความมั่นใจอยู่แน่นอน”

หานฮวงโบกมือกล่าวไปว่า “ข้ารู้ดี ดังนั้นข้าถึงต้องออกไป เลี่ยงไม่ให้เจ้าคนผู้นั้นบุกมาโจมตีจนวังจักรพรรดิมหาโชคพลอยเดือดร้อนไปด้วย”

หานหลิงรู้สึกว่ามีเหตุผล แต่ยังถามไปว่า “ต้องการให้ข้าไปกับท่านด้วยหรือไม่”

“ฮ่าๆๆ น้องสี่ เจ้าแข็งแกร่งมากจริงๆ แต่พี่รองของเจ้าก็หาได้อ่อนแอไม่ ดีร้ายอย่างไรก็ได้รับการขนานนามจากสรรพสิ่งว่าเป็นสุดยอดผู้แข็งแกร่งแห่งฟ้าบุพกาล ใช่คนที่จะกลัวการท้าสู้ตัวต่อตัวหรือ”

หานฮวงหัวเราะดังลั่นแล้วจากไป ไม่ให้โอกาสหานหลิงได้รั้งตนไว้เลย

หานหลิงมองทิศทางที่เขาจากไป คิ้วเรียวงามขมวดแน่นกว่าเดิม