บทที่ 1030 มีความลับจะบอก

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1030 มีความลับจะบอก

บทที่ 1030 มีความลับจะบอก

ตอนนี้เฉาฮุยอยู่ในอาการหวาดกลัว โชคดีที่เมื่อครู่เขาไม่ได้ทำร้ายกู้เสี่ยวหวาน หากเขาทำอะไรผิดพลาด เขาอาจจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตเพื่อแลกกับเงินไม่กี่ร้อยตำลึงเงิน

ครั้นคิดถึงเรื่องนี้ แผ่นหลังของเฉาฮุยก็ชาวาบ เขาคุกเข่าลงกับพื้นแล้วเอ่ยเสียงดัง “เสี้ยนจู่ โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”

ดูเหมือนว่าเฉาฮุยคนนี้จะโดนว่าจ้างมาจากใครบางคน

“ใครจ้างให้มาทำร้ายข้า? เจ้ารู้หรือไม่ว่าการลอบสังหารเสี้ยนจู่เป็นอาชญากรรมร้ายแรง โทษถึงตัดหัว ข้าเป็นเสี้ยนจู่ที่ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งเป็นการส่วนพระองค์ หากเกิดสิ่งใดขึ้นกับข้า เรื่องนี้คงจบไม่ดีเท่าไรนัก”

คำพูดของกู้เสี่ยวหวานไม่ได้ข่มขู่สร้างความตื่นตระหนก และไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เฉาฮุยหวาดกลัว หากมีอะไรเกิดขึ้นกับนางจริง ๆ ครอบครัวของเฉาฮุยทุกคนจะต้องชดใช้ชีวิตให้กับกู้เสี่ยวหวาน

กู้เสี่ยวหวานครุ่นคิดอยู่ในใจ หากแต่นางก็ยังไม่ปักใจเชื่อ

แม้ว่าคนผู้นี้จะหยิ่งผยองอยู่บ้าง แต่หลังจากคิดดูแล้ว ความกล้าหาญของเขาไม่น่าจะยิ่งใหญ่นัก

“เป็นท่านพี่ของข้า เฉาซินเหลียนเป็นคนขอให้ข้าฆ่าท่าน” เฉาฮุยขายเฉาซินเหลียนโดยไม่แม้แต่จะหยุดคิด

“เป็นนางจริง ๆ หรือเนี่ย?” กู้เสี่ยวหวานรู้สึกประหลาดใจ เฉาซินเหลียนคนนี้ดูมีนิสัยฉุนเฉียว แต่ไม่คิดว่าหัวใจของนางจะมืดมนขนาดนี้

เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่มีวีแววจะเชื่อ เฉาฮุยเกรงว่านางจะคิดว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเท็จ และเขาจะต้องโทษอย่างแน่นอน

ดังนั้นด้วยความใจร้อน เขาจึงยืดแผ่นหลังให้ตั้งตรง “เสี้ยนจู่ สิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริง และไม่ได้โกหกอย่างแน่นอน

เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานยังคงหน้าบึ้งอยู่ เฉาฮุยก็ร้องไห้ออกมา เขาคลานไปข้างหน้าและกำลังจะเอื้อมมือไปดึงเสื้อคลุมของกู้เสี่ยวหวาน หากแต่ฉินเย่จือที่อยู่ข้าง ๆ จะปล่อยให้มือสกปรกคู่นั้นของเขาสัมผัสกู้เสี่ยวหวานได้อย่างไร

ไม่ต้องพูดถึงการสัมผัสแขนเสื้อ แม้แต่เอื้อมเข้ามาใกล้ยังไม่อาจทำได้

ฉินเย่จือยืนอยู่หน้ากู้เสี่ยวหวาน รอบกายเต็มไปด้วยกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัว เฉาฮุยดึงมือกลับมาและคลานถอยหลังกลับไป

เขาจะกล้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายได้อย่างไร

ฉินเย่จือที่อยู่ข้างกายกู้เสี่ยวหวานหน้าตาถมึงทึง เฉาฮุยคร่ำครวญอยู่ในใจ เขาตกหลุมพรางของเฉาซินเหลียนได้อย่างไร

ไม่ใช่ว่ากู้เสี่ยวหวานไม่เชื่อคำพูดของเฉาฮุย แต่นางคิดว่าเฉาซินเหลียนกล้าหาญเกินไป ดังนั้นนางจึงพึมพำออกมาโดยไม่คิดว่า “เฉาซินเหลียนกล้าหาญขนาดนั้นเชียวหรือ?!”

อาจเป็นเพราะกู้ฟางสี่บอกว่ากู้เสี่ยวหวานเห็นนางอยู่กับชายอื่น ดังนั้นจึงอยากฆ่ากู้เสี่ยวหวานให้ตายหรือ?

ว่ากันว่าตอนนี้นางมีตำแหน่งเป็นถึงเสี้ยนจู่ แม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะเคยเป็นชาวบ้านธรรมดามาก่อน เฉาซินเหลียนผู้นี้ก็ไม่ควรทำตัวไร้ยางอายขนาดนี้

คำพูดเหล่านั้นของกู้เสี่ยวหวาน เฉาฮุยได้ยินมันอย่างชัดเจน

และคราวนี้อาการตื่นตระหนกของเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งจะดีกว่าถ้าเรื่องของกู้เสี่ยวหวานถูกผลักไปให้เฉาซินเหลียน เมื่อถึงเวลา ตัวเองอาจจะแค่ถูกเฆี่ยนและถูกขังไว้ในห้องขังชั่วระยะเวลาหนึ่ง

แต่ถ้ากู้เสี่ยวหวานยืนยันว่าเขากำลังจะฆ่านาง การลงโทษก็จะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

ไม่ว่าจะเป็นคนฆ่าหรือช่วยคนอื่นฆ่าคน ลักษณะของเรื่องนี้จะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

เฉาฮุยตื่นตระหนกและก้มหน้าด้วยความตกใจ “เสี้ยนจู่ ข้าไม่ได้โกหกท่านจริง ๆ ข้าแค่ต้องการหาเงิน ข้ามีแม่อายุแปดสิบปีและลูกอายุสามขวบที่ต้องดูแล ครอบครัวข้าต้องการเงิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ข้าสับสนและฟังคำพูดของเฉาซินเหลียน เสี้ยนจู่ เฉาซินเหลียนสั่งให้ข้าทำ ถ้าข้าโกหกแม้แต่ประโยคเดียว ขอให้ข้าถูกฟ้าผ่าตาย”

คราวนี้เฉาฮุยหวาดกลัวจริง ๆ

เขายังไม่อยากตาย เขายังมีลูกอยู่ที่บ้าน ไม่เพียงแต่เขาที่ต้องตาย แต่ลูกของเขาก็ต้องตายด้วย เฉาฮุยจะกล้าทำเรื่องผิดพลาดเพียงเล็กน้อยได้อย่างไร

เขาแสดงความมุ่งมั่นต่อกู้เสี่ยวหวานอย่างรวดเร็ว “เสี้ยนจู่ ข้าไม่ได้โกหกท่านจริง ๆ เฉาซินเหลียนเป็นคนสั่งให้ข้ามา นางสัญญากับข้าว่าตราบใดที่ข้าฆ่าท่าน นางจะให้ข้าสามร้อยตำลึงเงิน ข้าหมกมุ่นอยู่กับความมั่งคั่งจึงตกลงทันที”

“เฉาซินเหลียนเอาเงินมากมายมาจากไหน” เมื่อก่อนเฉาซินเหลียนพาลูกทั้งสองคนไปที่สวนกู้เพื่อเรียกร้องความสนใจ ตอนนั้นกู้เสี่ยวหวานมอบเงินสามสิบตำลึงให้นาง เมื่อคิดดูแล้วเฉาซินเหลียนมีหนทางให้ไปต่อจริง ๆ

“ข้าจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร นางจะบอกข้าได้อย่างไรว่านางหาเงินมาจากไหน” เฉาฮุยรู้สึกโกรธเคืองเล็กน้อย

ตอนนั้นทำไมเขาถึงไม่ถามออกไปว่า เฉาซินเหลียนไปเอาความสามารถอันยอดเยี่ยมมาจากไหน ถึงสามารถหาเงินได้มากขนาดนี้

เกรงว่าเงินส่วนใหญ่มาจากแหล่งที่ไม่รู้จัก

“แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้เฉาซินเหลียนมีความสัมพันธ์กับชายคนอื่น”

“เสี้ยนจู่ ข้าจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร นางเพิ่งมาหาข้าและไหว้วานข้าให้ทำบางอย่าง และหลังจากทำงานเสร็จสิ้นก็จะให้เงินข้า หลังจากนั้นข้าไม่รู้อะไรอีก” เฉาฮุยคร่ำครวญ “อย่ามองที่หน้าตาอันงดงามของพี่สาวข้า หารู้ไม่ว่าใจของนางนั้นช่างมืดมนนัก ใครจะไปรู้ว่านางจะทำเรื่องไม่สมควรอะไรอีก”

ความหมายในคำพูดนั้นดูเหมือนว่าเฉาซินเหลียนได้กระทำการอุกอาจ

ครั้นเห็นกู้เสี่ยวหวานมองตนเองด้วยความสงสัย เฉาฮุยก็กลืนน้ำลายราวกับมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น “เสี้ยนจู่ ข้าจะบอกความลับหนึ่งให้แก่ท่าน แต่ท่านจะต้องปล่อยข้าไป ตกลงหรือไม่?”

กู้เสี่ยวหวานมองลงไปที่เขา แล้วหันศีรษะไปมองที่ฉินเย่จือ

ใบหน้าของฉินเย่จือมืดมนและไม่สนใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย เชือกในมือของเขาเตรียมพร้อมที่จะมัดตัวเฉาฮุย

เฉาฮุยหวาดผวา หากเขาถูกพาตัวไปที่ศาลาว่าการจริง ๆ ลวี่เทาจะไม่ลงโทษตัวเองถึงตายเพื่อประจบประแจงกู้เสี่ยวหวานเลยหรือ?

เขาไม่มีวันไปที่นั่นเด็ดขาด

เฉาฮุยผงะถอยหลังไปด้วยความตกใจสองสามก้าว และพูดด้วยความหวาดกลัวว่า “เสี้ยนจู่ ตราบใดที่ท่านปล่อยข้าไป ข้าจะบอกสาเหตุการตายของพ่อและแม่ของท่าน”

กู้เสี่ยวหวานไม่เคยคิดว่าเฉาฮุยจะบอกสาเหตุการตายของท่านพ่อและท่านแม่ของนาง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ร่างกายก็แข็งทื่อราวกับโดนฟ้าผ่า

นางก้าวไปข้างหน้าและก้มลงตรงหน้าเฉาฮุย คว้าคอเสื้อของเขาขึ้น นางรู้สึกเกลียดจนแทบอยากจะกินเฉาฮุยเข้าไป “เจ้าจะบอกว่าท่านพ่อท่านแม่ของข้าไม่ได้ตกไปในแม่น้ำและจมน้ำตาย แต่ถูกคนอื่นฆ่าอย่างนั้นหรือ?”