บทที่ 1023 แผนการ

บทที่ 1023 แผนการ

“พี่แปด ช่วยจินตนาการสักหน่อยไม่ได้หรือยังไง?” เสี่ยวเถียนพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

แต่ตัวพี่ชายกลับไม่กล้าคิดเท่าไร

“เราหยุดฝันดีกว่าไหม?” ซูเสี่ยวปายังพยายามเกลี้ยกล่อมน้องอยู่

ต่อให้น้องพูดลอย ๆ เขาก็ยังคิดว่าเป็นไปไม่ได้อยู่ดี

“แล้วมีเรื่องไหนที่หนูคิดแล้วทำไม่สำเร็จด้วยหรือคะ?”

เด็กหนุ่มที่ได้ยินเช่นนั้นพลันนิ่งค้างไป

จริงด้วย ไม่ว่าน้องจะบอกอะไรก็ทำสำเร็จเสมอ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ครอบครัวซูมีการพัฒนาได้ถึงขนาดนี้เป็นเพราะเสี่ยวเถียนผลักดันไม่ใช่หรือ?

หากไม่มีความกล้าคิดกล้าทำของเธอ บ้านเราคงไม่เป็นอย่างทุกวันนี้หรอก

บางทีคงจะทำนาอยู่ที่หมู่บ้านหนานหลิ่ง รายได้ปีละร้อยหรือพันหยวน มีความสุขได้แค่วันสองวันเท่านั้น

เราคงไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย เผลอ ๆ อาจจะต้อนแกะอยู่บ้านเขา แต่งงานมีลูกไปแล้วก็ได้

มีลูกสองสามคน แล้วก็ไล่ต้อนแกะ!

แค่คิดก็กลัวแล้ว

“เสี่ยวเถียน เธอว่าเราจะทำได้แบบนี้เลยหรือ?”

น้ำเสียงคนพี่สั่นเทา ไม่รู้ตื่นเต้นหรือหวาดกลัวกันแน่!

“ทำได้อยู่แล้ว หนูลองไปดูที่มาแล้วค่ะ พรุ่งนี้เช้าเข้าไปดูกัน ถ้าซื้อได้สำเร็จเราจะเริ่มสร้างกันเลย”

“แล้วบ้านเรามีเงินเยอะขนาดนั้นเลยหรือ?”

ซูเสี่ยวปาเกาหัวแกรก ๆ มันดูต้องใช้เงินมหาศาลเลยนะ

ส่วนเหตุผลที่เสี่ยวเถียนไม่ลังเลเป็นเพราะอนาคตที่ดินในเมืองหลวงจะมีค่ามาก

หากบอกว่าราคาที่ดินในเมืองหลวงมีค่าทุกตารางนิ้วคงไม่ใช่เรื่องเกินจริง

พื้นที่ของโรงงานแห่งนี้ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เป็นโรงงานร้าง ทั้งยังไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวง ย่อมไม่มีทางทำเงินได้ถึงสี่ห้าหมื่นหรอก

เหมือนที่พี่แปดบอกนั่นแหละ แค่ค่าที่ก็ใช้เงินเยอะแล้ว รวมกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ตามมาไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เลย

แต่เสี่ยวเถียนไม่ใช่คนที่เกรงกลัวอะไรง่าย ๆ

ตนเชื่อว่ามันมีหนทางแก้เสมอ!

เด็กสาวขบคิด “เงินส่วนหนึ่งมาจากตัวเอง อีกส่วนยืมธนาคารไงคะ แค่นี้ก็แก้ปัญหาได้แล้ว”

ฝ่ายพี่ชายคิดก็เห็นเป็นเช่นนั้น สมาชิกบ้านเราถือว่ามีเงิน หยิบออกมาคนละหน่อยสองหน่อยรวมกันเป็นก้อนใหญ่ได้แล้ว ถึงตอนนั้นก็คงมีเงินจ่ายค่าที่แล้วละ

ปัญหาที่คิดว่ายากกลายเป็นว่าง่ายขึ้นมาทันที

ซูเสี่ยวปาคำนวณเงินที่มีอยู่

“พี่มีอยู่แปดพัน ไว้ถึงเวลาพี่จะลงให้ทั้งหมดเลย”

“เรื่องหออีหมิงเราเคยพูดไว้แล้วนะว่าจะยกให้พี่ห้า แล้วถ้าสมาชิกในบ้านจะร่วมลงทุนจะต้องไม่เกินสี่สิบเก้าเปอร์เซ็นต์ด้วย พี่คิดให้ดีนะ”

มีเงินเยอะอยากทำอะไรมันก็ได้แหละ แต่ถ้าทุ่มหมดหน้าตักหวังปันผลระยะยาวก็ได้เหมือนกัน แต่ระยะสั้นจะขาดทุนเอานะ!

“เราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกันนะ มีอะไรพูดก็พูดกันอยู่แล้ว พี่ไม่ใช่นักธุรกิจ แล้วก็ไม่ใช่คนแบบพี่สี่ด้วย”

ซูเสี่ยวปาเข้าใจตัวเองดี ถึงจะหาเงินได้บ้างแต่ส่วนใหญ่ก็ได้คำแนะนำจากพี่ ๆ น้อง ๆ ในบ้านทั้งนั้น เขาไม่ได้หาเงินด้วยความสามารถของตัวเองจริง ๆ

ลงทุนแปดพันอย่างน้อยถือว่าเป็นหุ้น IPO ไง อนาคตได้เงินปันผลแน่นอน

กอปรกับที่ลงทุนไปกับห้างหรงฟาของพี่สี่ แล้วไหนจะธุรกิจเล็ก ๆ ที่พวกเราทำกันอีก อนาคตสบายแน่นอน

เดิมที่ตนไม่ใช่คนดั้นด้นกับอะไรอยู่แล้ว คิดแค่ว่าขอชีวิตสบายเป็นพอ

เสี่ยวเถียนพยักหน้า

จะทำแผนการใหญ่ย่อมต้องวางแผนล่วงหน้า เธอไม่อยากให้ครอบครัวทะเลาะกันด้วยเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ หรอกนะ

อุตส่าห์ปรองดองกันได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย

เธอก็ได้แต่หวังว่าอนาคตจะสามัคคีแบบนี้ต่อไป

“ปรึกษาที่บ้านก่อนด้วยนะ”

เธอพยักหน้ารับแล้วออกจากห้องไปพร้อมวาดภาพ

พวกคุณปู่ซูกำลังนั่งพัดแก้ร้อน สนทนากันอยู่ในห้องหลัก

พอได้ฟังแผนการสำหรับอนาคตของเสี่ยวเถียน มือชายชราถึงกับอ่อนเรี่ยวแรง

เขาไม่กล้าคิดการใหญ่อะไรแบบนี้มาก่อนเลย แล้วหลานสาวกล้าตั้งแต่ยังเด็กได้ยังไง?

“เสี่ยวเถียน หนูรู้ไหมว่ามันต้องใช้เงินเท่าไร?”

เธอคิด “หนูคำนวณไว้แล้วค่ะ ที่ดินราคาประมาณสี่หมื่นห้าพันหยวน ทุนค่าก่อสร้างคาดว่า ประมาณแปดหมื่นหยวนน่าจะพอค่ะ”

“รวมแล้วคงแสนกว่า ๆ บวกกับค่าตกแต่งในอนาคตยอดอยู่ที่หนึ่งแสนห้าหมื่นหยวนโดยประมาณค่ะ”

นี่เป็นจำนวนที่คิดไว้คร่าว ๆ เป็นอย่างต่ำน่ะ ไม่กล้าบอกเพิ่ม

ถ้าบอกว่าสองแสน ทุกคนหัวใจวายกันพอดี

แค่แสนห้า ทุกคนยังนิ่งค้างกันไปเลย

มันไม่ใช่แค่เงินหลักสิบหลักร้อยนะ

ทำไมเด็กคนนี้ถึงพูดออกมาได้หน้าตาเฉยเลยล่ะ?

“เสี่ยวเถียนคิดดีแล้วใช่ไหม บ้านเราออมเงินมาหลายปี แต่เพิ่งจะได้เท่าไรเอง?”

เด็กสาวยิ้ม “หนูมั่นใจว่าเราหาเงินได้ค่ะ ชั้นหนึ่งชั้นสองเปิดเป็นหออีหมิง ชั้นสามทำเป็นร้านสรรพสินค้า จะให้คนอื่นเช่าหรือจะให้พี่สี่เปิดก็ได้ค่ะ”

“ชั้นสี่ชั้นห้าก็เหมือนกัน จะเปิดธุรกิจของเราเองหรือให้คนอื่นเช่าก็ได้ ขอแค่หาเงินได้ก็พอ”

“หรือสมมติเราทำเป็นร้านอาหารสองชั้นแรกไว้สร้างความบันเทิงลูกค้า ชั้นสามขึ้นไปอาจทำเป็นโรงแรมทำเป็นที่พัก หรือเพิ่มสิ่งบันเทิงเข้าไป พอถึงเวลาจริง ๆ เราทำเงินได้นะคะ”

แต่ว่าสิ่งนี้ต้องใช้เงินเยอะมาก เสี่ยวเถียนจึงไม่รู้จะไปหามาจากไหน

“วันนี้คงเป็นวันประกาศอิสรภาพของบ้านเราแล้วละ”

คุณย่าซูเป็นกังวลใจ

หลานรักเก่งทุกอย่าง แต่ใจกล้าเหลือเกิน!

แสนห้ามันใช่จำนวนเงินที่ชาวบ้านเขาคิดกันหรือ?

“คุณย่าไม่ต้องห่วงหรอกน่า ไม่ไว้ใจหนูหรือคะ? ย่าลืมหรือไงว่าราชามังกรดูแลหนูอยู่นะ!”

เสี่ยวเถียนยิ้มร่าแล้วเข้าไปกอดแขนก่อนเขย่า

“โอ๊ย หยุดเขย่าเลยนะ ย่าเวียนหัวไปหมดแล้ว”

“ทำไมยิ่งโตยิ่งอาจหาญแบบนี้ฮึ?” เหลียงซิ่วว่า

ตอนเด็ก ๆ ไม่เห็นจะทำอะไรแบบนี้เลย พอโตเข้าหน่อยไปเรียนรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหนเนี่ย?

“เราลองดูดีกว่านะย่า ถ้าพี่สี่อยู่ด้วยเขาจะต้องเห็นด้วยแน่นอน” ซูเสี่ยวปา

พี่สี่เก่งในการหาเงินที่สุดในบ้านแล้ว

ตอนนั้นเองคนที่โดนเอ่ยถึงกลับมาพอดี