ตอนที่ 2,372 : เจ้าคือต้วนหลิงเทียน?!
“พลังน่ากลัวอันใดจะขนาดนี้!?”
“นี่น่ะเหรอพลังของเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ ร้ายกาจยิ่งนัก! ร้ายกาจเกินไป!!”
“ถึงแม้พวกเราจะไม่เห็นว่าทั้งคู่ประมือกันอย่างไร แต่แค่พลังสะท้อนทั้งแรงระเบิดที่เกิดขึ้นนั่น…มันถึงขั้นทำให้ความว่างปริแตกราวเศษกระจก เท่านี้ก็บอกให้รู้ว่าทั้งคู่ทรงพลังถึงขนาดไหน!!”
…
หลังเหล่าคนของลัทธิบูชาไฟรเร่งรุดล่าถอยออกไปไกลห่าง พวกมันก็จับจ้องมองแรงระเบิดที่อุบัติขึ้นในความว่างไม่ว่างตา ใบหน้ายามแลเห็นรอยแยกมิติยังเผยความตื่นตระหนกหวาดกลัวไม่น้อย
รอยแตกกลางความว่างนั่น มองไปเสมือนดั่งฝูงอสรพิษตัวเล็กๆกำลังไหววูบยุบยับ แลดูขู่ขวัญไม่น้อย!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
…
ในขณะที่เฉินอี้หรูปะทะกับหลี่ปิง คลื่นอากาศอันทรงพลังก็กระแทกซัดสาดออกมากวาดสะท้านไปทั่วเกาะลอยทั้งหลาย! ม่านพลังใดๆแทบไม่ต่างจากกระดาษเปื่อยเปียกน้ำ พวกมันพังทลายลงในพริบตา อาคารปลูกสร้างบนกาะล้วนพินาศยับเยินเป็นซากปรักหักพัง!!
บัดนี้ฝุ่นดินหินทรายกระจายคลุ้งไปทั่ว ยังร่วงตกทะลุหมู่เมฆไปเบื้องล่าง!
“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้นกันแน่!?”
“ดูเหมือนกำลังมีคนสู้กันบนฟ้า!”
“ช้าก่อน! ตำแหน่งนั่นมิใช่เกาะของท่านจ้าวลัทธิหรือไร!?”
…
การปะทะระหว่างเฉินอี้หรูกับหลี่ปิงย่อมก่อให้เกิดผลกระทบครั้งใหญ่ เหล่าศิษย์และอาวุโสของลัทธิบูชาไฟในเกาะศักดิ์สิทธิ์เบื้องล่างย่อมสังเกตเห็นได้ไม่ยาก ทั้งหมดอดใจไม่ไหวจำต้องเหินร่างขึ้นไปชมดู!
“ตรงนั้น…อั๊ค!!”
อย่างไรก็ตามพวกมันพึ่งเหินลอยแหวกม่านเมฆขึ้นไปได้ไม่ทันไร ก็ถูกคลื่นลมอันเกรี้ยวกราดปานมหาพายุถล่มเข้าใส่ ยากที่พวกมันจะเข้าไปใกล้ได้ จึงทำได้แต่แหงนมองเรื่องราวบนฟ้าสูงอย่างหวาดหวั่น ชมดูเมฆรูปดอกเห็ดที่เบ่งบานปลดปล่อยแรงกระแทกอย่างสยดสยอง
และไม่นานพวกมันก็ได้ส่งเสียงไปถามเหล่าอาวุโสที่ลอยอยู่ไม่ไกล จนในที่สุดก็ได้รับรู้เรื่องราวคร่าวๆ
ทำให้เหล่าศิษย์และอาวุโสที่พึ่งลอยร่างขึ้นมาไม่แปลกใจเลยที่ไฉนถึงได้เกิดเรื่องราวใหญ่โตวุ่นวายขึ้นขนาดนี้
“ลัทธิบูชาไฟของพวกเรา…มีเซียนอมตะเสเพลที่ร้ายกาจเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ!?”
“เป็นใต้เท้าหลี่ปิง อดีตผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟเราเมื่อ 4,000 กว่าปีที่แล้ว…เช่นนั้นตอนนี้ท่านก็คือเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์!?”
…
เหล่าศิษย์และอาวุโสที่มาใหม่อดไม่ได้ที่จะบังเกิดความครั่นคร้าม
เพราะก่อนที่จะลอยร่างขึ้นมา พวกมันไม่เคยได้รู้เลยว่าลัทธิบูชาไฟของพวกมันยังมีตัวตนอย่างเซียนอมตะเสเพลดำรงอยู่ด้วย! แถมยังเป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์!!
“เมื่อ 4,000 กว่าปีก่อน…ผู้อาวุโสเฉินอี้หรูก็มีชื่อเสียงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าท่านบรรพบุรุษ กระทั่งพลังฝีมือยังเหนือกว่าท่านบรรพบุรุษเล็กน้อย! ทว่าตอนนี้ทั้งคู่ล้วนเป็นเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์แล้ว…ไม่ทราบว่าสุดท้ายผู้ใดจะเหนือกว่ากันแน่!?”
หลายคนอดสงสัยเรื่องนี้ไม่ได้
“ถึงข้าจะไม่เห็นอะไร…แต่จากคลื่นพลังที่ระเบิดออกมา ดูท่าทั้งคู่จะยังไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ!”
“คงอีกสักพักจึงจะรู้ผล…ว่าสุดท้ายผู้ใดแข็งแกร่งกว่ากันแน่!”
“พวกเราทำได้แค่รอ”
……
ถึงแม้ว่าเหล่าศิษย์และอาวุโสที่พึ่งมาใหม่จะไม่อาจแลเห็นความเคลื่อนไหวของทั้งคู่ได้เลย แต่พวกมันก็สนอกสนใจอยากรู้ผลการปะทะระหว่างทั้งคู่นัก!
ในปัจจุบันมีต้วนหลิงเทียนเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เห็นสถานการณ์ระหว่างทั้งคู่ชัดถนัดตา
‘พลังฝีมือหลี่ปิงนับว่าไม่ใช่ชั่วจริงๆ…ผ่านไปกว่าร้อยกระบวนท่า แต่ยังไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ’
นอกจากจะเห็นแล้ว ต้วนหลิงเทียนยังมองสถานการณ์ของทั้งคู่ออกได้ทันที
ซู่มม! ครืนนน!!
ไม่นานเฉินอี้หรูก็สำแดงเพลงดาบที่ร้ายกาจที่สุดของมันออกมา 2 กระบวนท่า อันได้แก่ดาบสยบโลกา และดาบผลาญโลกา!
ส่วนดาบ ชำระโลกา นั้นมันไม่ได้ใช้ออก
เนื่องเพราะดาบชำระโลกาเป็นการโจมตีวงกว้าง แม้จะทรงพลังในแง่ของการกวาดล้างทำลาย แต่ในแง่พลังรวมศูนย์กลับไม่ได้ร้ายรุนแรงเท่าดาบสยบโลกาและดาบผลาญโลกา รวมถึงหากใช้ออกมาไม่พ้นได้ทำให้คนของลัทธิบูชาไฟถูกลูกหลงบาดเจ็บล้มตายครั้งใหญ่แน่!
ตอนนี้พี่สาวฝาแฝดของภรรยานายท่านมันเป็นจ้าวลัทธิบูชาไฟ เฉินอี้หรูย่อมไม่กล้าลงมือรุนแรงยิ่งไม่กล้าฆ่าคนของลัทธิบูชาไฟตามอำเภอใจ!
“ไม่เบาเลยทีเดียว…”
เมื่อเห็นว่าหลี่ปิงยังคงรับเพลงดาบ 2 กระบวนของเฉินอี้หรูได้ ต้วนหลิงเทียนก็อดโค้งคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจไม่ได้
เพราะเขาเองก็พอประเมินพลังฝีมือเฉินอี้หรูคร่าวๆได้ตั้งแต่วันนั้น ว่าอีกฝ่ายสมควรเป็นชนชั้นไม่ธรรมดาในหมู่เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์!
‘หลี่ปิงผู้นี้นับว่ามีทุนรอนให้วางท่าอยู่บ้าง’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ
“เฉินอี้หรู เจ้ากับข้าตอนนี้พวกเราเสมอกันแล้ว ต่อให้เจ้าจะทำทุกทางแต่เจ้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก!จะสู้ต่อไปก็ไร้ประโยชน์น่า!!”
ไม่นานเสียงหลี่ปิงพลันขึ้น วาจาต่อมายังแฝงการขู่ข่มไม่น้อย “ถึงแม้ข้ามิรู้ว่าไฉนเจ้าถึงออกหน้าช่วยก่านหรูเยี่ยนกับชิงหั่ว…แต่ข้าจะขอเตือนอะไรเจ้าสักคำ เจ้ารีบไสหัวออกจากลัทธิบูชาไฟไปเสียจะประเสริฐกว่า! หาไม่แล้วหากข้าเรียกหวังชงมาเมื่อไหร่ ยามพวกเราร่วมมือกัน…คิดฆ่าเจ้ายังง่ายดายนัก!”
หวังชง!
เมื่อวาจานี้ของหลี่ปิงดังขึ้นมา ก็ทำให้ร่างคนของลัทธิบูชาไฟบนฟ้าสะท้านไปไม่น้อย
“หวังชง…นั่นมิใช่ผู้พิทักษ์อีกคนของลัทธิบูชาไฟเราเมื่อ 4,000 กว่าปีก่อนหรือไง?”
“ท่านบรรพบุรุษหวังชง…ที่ล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์เมื่อปีนั้นก็ยังมีชีวิตอยู่หรือ!?”
“หากท่านบรรพบุรุษหววังชงยังไม่ตาย เช่นนั้นหมายความว่าท่านบรรพบุรุษเองก็เป็นเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ด้วยน่ะสิ!?”
…
จังหวะนี้เหล่าคนของลัทธิบูชาไฟจึงได้รับทราบว่า ดูเหมือนลัทธิบูชาไฟของพวกมันจะมีเซียนอมตะเสเพลอยู่อีกคน!
“หวังชงรึ? เจ้านั่นมันบรรลุถึงเซียนอมตะเสเพล 4ทัณฑ์ด้วย?”
ได้ยินคำดังกล่าวของหลี่ปิงเฉินอี้หรูอดไม่ได้ที่จะอุทานถามออกมาอย่างตกใจ
เห็นได้ชัดว่ามันเองก็ไม่เคยรู้เรื่องที่หวังชงกลายเป็นเซียนอมตะเสเพลมาก่อน!
หวังชงที่ว่าก็เป็นคนรุ่นเดียวกับมันและหลี่ปิง ถึงแม้พลังฝีมือจะไม่ร้ายกาจเท่าหลี่ปิง แต่ก็อ่อนด้อยกว่าหลี่ปิงไม่มากนัก!
ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ ตอนนี้หวังชงกลับเป็นเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์เหมือนมัน!
หากหวังชงมาแล้วผนึกกำลังกับหลี่ปิงล่ะก็…มันย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกฝ่ายแน่นอน!
“เฮอะ! เจ้ากลัวขึ้นมาแล้วรึไง?! หากกลัวก็รีบไสหัวออกไปจากลัทธิบูชาไฟของข้าให้ไว!”
พอได้ยินเสียงอุทานด้วยความประหลาดใจของเฉินอี้หรู หลี่ปิงก็คิดว่าอีกฝ่ายเกิดกลัวขึ้นมาแล้ว จึงอดกล่าวเยาะเย้ยออกมาไม่ได้
คราวนี้เฉินอี้หรูถึงกับเงียบไปพักหนึ่ง
ทว่าทันใดนั้นเอง
“ปฐมเวทย์กลืนกิน!”
พลังเซียนต้นกำเนิดทั้งพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดพลันหลั่งไหลออกมาดั่งสายธารเชี่ยวไปตามเส้นชีพจรเซียนทั้ง 99 สาย ใช้ออกด้วยเวทย์พลังสนับสนุนอย่างปฐมเวทย์กลืนกิน! วังวนพลังน่าพรั่นพรึงพลันอุบัติล้อมร่างต้วนหลิงเทียน!
วังวนพลังดังกล่าวช่างมากล้นไปด้วยพลังดูดรั้งนัก!ราวกับมันสามารถกลืนกินได้กระทั่งฟ้าดิน!!
และในพริบตาต้วนหลิงเทียนก็ได้กลืนกินพลังวิญญาณฟ้าดินที่ล่องลอยอยู่ในเขตดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิบูชาไฟจนหมด กระทั่งไอพลังวิญญาณฟ้าดินทั่วทั้งลัทธิบูชาไฟยังไม่รอดพ้น!
นอกจากนั้นต้วนหลิงเทียนยังสูบกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินจากเหมืองแร่หินเซียนของลัทธิบูชาไฟอีกด้วย!
ทำให้เพียงเวลาแค่ชั่วพริบตา ปฐมเวทย์กลืนกินของเขาก็มาถึงขีดจำกัด!
‘สมแล้วที่เป็นเหมืองหินเซียนของลัทธิบูชาไฟ…ถึงข้าจะสูบกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินของพวกมันมาอย่างอุกอาจแต่กลับไม่ส่งผลกระทบอะไรกับพวกมันมากมาย พลังวิญญาณฟ้าดินที่ข้าสูบมาแทบไม่ต่างจากหนึ่งหยดน้ำในถัง!’
ต้วนหลิงเทียนที่แผ่สำนึกเทวะออกมาคลุมแผ่นฟ้าโดยรอบ ย่อมรับทราบสถานการณ์เหมืองแร่หินเซียนของลัทธิบูชาไฟดี
ตั้งแต่ที่ต้วนหลิงเทียนเริ่มต้นใช้ปฐมเวทญ์กลืนกิน จวบจนปฐมเวทย์กลืนกินสูบกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินถึงขีดจำกัด เวลายังพึ่งผ่านพ้นไปแค่ 1 ลมหายใจเท่านั้น…
“ซานเตา เจ้าถอยออกมาเถอะ…”
ก่อนที่จะมีใครทันได้ค้นพบความเปลี่ยนแปลงของพลังวิญญาณฟ้าดินในบรรยากาศ ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวออกมาเสียงเบา ทำให้เฉินอี้หรูเลือกถอนตัวอย่างเชื่อฟัง
“ทราบแล้วนายท่าน”
เฉินอี้หรูกล่าวตอบรับคำอย่างไม่รอช้า
ครู่ต่อมา
ปงงง!!
เฉินอี้หรูระเบิดพลังดาบซัดใส่หลี่ปิงอย่างแรง ก่อนที่จะอาศัยแรงระเบิดผละตัวออกมาแล้วเหินไปลอยอยู่ด้านหลังต้วนหลิงเทียนด้วยทีท่ามากเคารพ
“นายท่าน?”
หลังจากที่เฉินอี้หรูผละตัวล่าถอยออกไปลอยอยู่ด้านหลังต้วนหลิงเทียน หลี่ปิงก็หันมามองต้วนหลิงเทียนที่มีร่างเฉินอี้หรูลอยประกบอยู่ด้านหลังด้วยทีท่านอบน้อมด้วยสายตาเหลือเชื่อ!
‘เฉินอี้หรู…เรียกหาเจ้าหนุ่มนั่นว่านายท่านงั้นเหรอ?!’
ทันใดนั้นใจหลี่ปิงก็เต็มไปด้วยความวิตกกังวลทันที มันเร่งแผ่สำนึกเทวะออกไปตรวจสอบต้วนหลิงเทียนอย่างไม่รอช้า
เหตุผลเดียวที่ทำให้มันบังเกิดความวิตกกังวล เพราะจิตสำนึกของมันบอก!
ผู้ที่ทำให้เฉินอี้หรูยอมสยบและเรียกหาว่านายท่านได้เต็มปากแบบนี้ สมควรทรงพลังเหนือกว่าเฉินอี้หรู!!
อย่างไรก็ตามเมื่อมันพบด่านพลังฝึกกปรือของต้วนหลิงเทียน มันก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเฉินอี้หรูด้วยสายตาดูหมิ่น กล่าวปรามาสออกมาเสียงหยัน
“เฉินอี้หรู เจ้านับว่าเปลี่ยนไปไม่น้อยเลยจริงๆ…ช่างตกต่ำลงยิ่งนัก! เจ้ากลับน่าอดสูถึงขั้นยอมรับครึ่งก้าวเซียนอมตะเป็นนาย?!”
“ช่างทำให้เซียนอมตะเสเพลอย่างพวกเราอับอายขายขี้หน้านัก!”
หลังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่แผ่ออกมาจากร่างต้วนหลิงเทียนด้วยสำนึกเทวะ หลี่ปิงย่อมยืนยันได้ทันทีว่าต้วนหลิงเทียนก็เป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะกระจ้อยร่อยราวมดปลวกเท่านั้น! หลี่ปิงถึงขั้นไม่อยากจะเหลือบแลต้วนหลิงเทียนอีกต่อไป เพียงหันไปกล่าวคำเย้ยหยันเฉินอี้หรูแทน!
“ข้าเองก็อยากรู้มาโดยตลอดว่าไฉนเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ ถึงยอมติดตามรับใช้คนที่เป็นเพียงครึ่งก้าวเซียนอมตะแบบนี้…”
ขณะเดียวกันเหล่าศิษย์และอาวุโสทั้งหลายของลัทธิบูชาไฟเองก็อดไม่ได้ที่จะบังเกิดคำถามนี้ขึ้นมา
“บางที…อาจเป็นเพราะด้วยฐานะผู้สืบทอดหมอกพิรุณ ผู้นำแห่ง 7 ทวาราเที่ยงแท้หรือไม่?”
“อืม…ดูเหมือนนั่นจักเป็นเหตุผลเดียวที่พออธิบายได้”
…
เหล่าอาวุโสและเหล่าศิษย์ลัทธิบูชาไฟเริ่มสันนิษฐานไปในทำนองดังกล่าว
ถึงแม้เสียงสนทนาของพวกมันจะไม่ได้ดังอะไร หากแต่ก็ดังชัดถนัดหูหลี่ปิง ทำให้สองตาหลี่ปิงถึงกับส่องแสงสว่างเจิดจ้าขึ้นมาทันใด มองไปยังประหนึ่งดารากระพริบทามกลางแผ่นฟ้าที่มืดมิดสนิทในยามราตรีกาล!
“ผู้สืบทอดหมอกพิรุณ? ผู้นำแห่ง 7 ทวาราเที่ยงแท้งั้นเรอะ?!”
“ถ้ามันเป็นผู้นำแห่ง 7 ทวาราเที่ยงแท้เช่นนั้นมันก็คือ…”
สายตาหลี่ปิงละออกจากเฉินอี้หรูก่อนจะหันขวับไปจับจ้องมองต้วนหลิงเทียนอย่างไวประหนึ่งสายฟ้า กล่าวถามออกมาด้วยความรีบร้อน “เจ้า…เจ้าคือต้วนหลิงเทียน!?”
“หืม? เจ้ารู้จักข้าด้วย?”
ต้วนหลิงเทียนโค้งคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
“ฮ่าๆๆๆๆ…!!”
แทบจะพร้อมกันกับที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวยอมรับ หลี่ปิงอดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังสนั่นลั่นฟ้า “ไม่คิดเลย…ไม่คิดเลย! ข้าล่ะไม่คิดเลยจริงๆ! ย่ำหาจนรองเท้าสึกไม่พบพาน…เป็นย่ำหาจนรองเท้าสึกมิพบพานโดยแท้ ฮ่าๆๆๆๆ!!”
หลี่ปิงยังคงหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังไปอีกพักใหญ่
ที่ไฉนมันคล้ายหัวเราะอย่างเสียสติเช่นนี้ เพราะมันกำลังตื่นเต้นยินดีอย่างสุดแสนจะพรรณนา!
คราวนี้ที่ตัวมันย้อนกลับมายังลัทธิบูชาไฟนั้น เป้าหมายไม่ได้มีแค่จัดการเรื่องราวของก่านหรูเยี่ยนให้เรียบร้อย มันยังเสี่ยงโชคมาดูเผื่อต้วนหลิงเทียนยังอยู่ จะได้ฆ่าเอาผลงาน!!
ด้วยวิธีนี้มันไม่เพียงแต่จะล้างแค้นให้จ้าวลัทธิบูชาไฟคนก่อนอย่างถังซวนเท่านั้น มันยังได้หน้าครั้งยิ่งใหญ่เพื่อเอากลับไปเกทับเหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายในเผ่ามังกร!
นับว่าเป็นหนึ่งหินสอยสองวิหก!
อย่างไรก็ตามแม้มันจะบังเกิดความคาดหวังเช่นนี้ หากแต่มันก็ไม่ได้หวังมากเกินไปว่ามันจะมีโชคพบตัวต้วนหลิงเทียนที่ลัทธิบูชาไฟ…จะให้ไปตามหาที่ไหนมันก็ไม่กล้า
เพราะสุดท้ายแล้วคำสั่งของเผ่ามังกรย่อมถือเป็นที่สุด…
ทว่าตอนนี้
ต้วนหลิงเทียนเสมือนนำตัวเองใส่พานมาถวายมันถึงหน้าประตู!
เรื่องนี้จะไม่ให้มันตื่นเต้นยินดีได้ยังไง? จะไม่ให้มันมีความสุขได้อย่างไรไหว!?