ตอนที่ 2,373 : ไปเอา ‘ความมั่นใจ’ มาจากไหน?

“ไอ้โง่!”

ในขณะที่หลี่ปิงบังเกิดความสุขความยินดีจนหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังปานคนเสียสติอยู่นาน ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็รำคาญจนทนไม่ไหว กล่าวคำ 2 พยางค์ออกมาเบาๆ

ถึงแม้เสียงจะไม่ได้ดังมากมายอะไร และยังถูกเสียงหัวเราะของหลี่ปิงกลบไว้แทบมิด แต่อย่างน้อยๆมันก็ยังพอดังไปถึงหูของหลี่ปิง รวมถึงหูทุกคนที่อยู่ในที่นี้…

ไอ้โง่?

ได้ยินคำนี้ของต้วนหลิงเทียน เสียงหัวเราะของหลี่ปิงพลันชะงักลงทันใดราวกับมีใครเอื้อมมือมาบีบลำคอของมันเอาไว้ เพื่อไม่ให้มันหัวเราะต่อยังไงยังงั้น…

และตอนนี้ทึกสายตาของคนลัทธิบูชาไฟก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนอย่างพร้อมเพรียง

“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้…เรียกหาท่านบรรพบุรุษหลี่ปิงว่า ‘ไอ้โง่’ หรือ? ใช่ข้าฟังอะไรผิดไปหรือไม่?”

เหล่าคนของลัทธิบูชาไฟย่อมตกใจไม่น้อย ศิษย์คนหนึ่งถึงกับอดถามตัวเองว่าฟังผิดไปหรือไม่ออกมาไม่ได้ ทั้งๆมันที่ยังคิดว่าตัวเองได้ยินไม่ผิดก็ตาม

“ศิษย์พี่ท่านได้ยินไม่ผิดหรอก…เมื่อกี้ท่านบรรพบุรุษถูกเรียกว่า ‘ไอ้โง่’ จริงๆ…”

ศิษย์ลัทธิบูชาไฟที่ลอยร่างใกล้เคียงกลืนน้ำลายดังเอื๊อก ก่อนที่จะมองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาอื้ออึง

ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ไฉนถึงได้ห้าวหาญนัก! กล้าเรียกบรรพบุรุษของลัทธิบูชาไฟพวกมันว่า ‘ไอ้โง่’ เชียวหรือ?!

ต้องทราบด้วยว่าบรรพบุรุษลัทธิบูชาไฟของพวกมันคนนี้เป็นถึง เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์เชียวนะ!!

ถึงแม้ตอนนี้บรรพบุรุษของพวกมันจะทำได้แค่สู้เสมอกับเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่ติดตามรับใช้อยู่ข้างกายต้วนหลิงเทียน…

แต่เมื่อครู่พวกมันย่อมได้ยินคำพูดของบรรพบุรุษพวกมันชัดสองหู…

ว่าลัทธิบูชาไฟของพวกมันนั้น ยังมีอีกหนึ่งเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์! กระทั่งยังสามารถเรียกให้มาที่นี่ได้ตลอดเวลา! หรือต้วนหลิงเทียนคิดว่านั่นเป็นแค่คำขู่ลอยๆ?

ต้องทราบด้วยว่าหากบรรพบุรุษลัทธิบูชาไฟอีกคนของพวกมันมาถึง…ยามร่วมมือกับบรรพบุรุษหลี่ปิง เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ที่เป็นข้ารับใช้ข้างกายต้วนหลิงเทียนคนนั้นย่อมรับมือไหวเป็นแน่!

และตอนนี้เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสของลัทธิบูชาไฟทั้งหมดก็คิดไปในทำนองเดียวกัน

ด้วยเหตุนี้ยามพวกมันมองไปยังร่างต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง พวกมันจึงอดส่ายหน้าออกมาไม่ได้

“เสียสติ! ต้วนหลิงเทียนผู้นี้เสียสติจนเลอะเลือนแล้ว!!”

“ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าจริงอยู่ที่ครึ่งก้าวเซียนอมตะมิได้ธรรมดาสามัญ…หากแต่เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ย่อมไม่ธรรมดาสามัญยิ่งกว่า! ต้วนหลิงเทียนผู้นี้กำลังแกว่งเท้าหาเสี้ยนโดยแท้!!”

“ข้าล่ะมิทราบจริงๆว่ามันไปเอาความมั่นใจมาแต่ที่ใดถึงได้หาญกล้าเรียกหาท่านบรรพบุรุษว่า ‘ไอ้โง่’…เพราะที่พึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมันก็คงไม่พ้นข้ารับใช้ชรานั่น ทว่าตอนนี้ถึงจะเป็นเซียนอมตะเสเพล 4ทัณฑ์เช่นกันก็ไร้ประโยชน์!!”

ตอนนี้เหล่าศิษย์และอาวุโสทั้งหลายของลัทธิบูชาไฟเริ่มรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนกลายเป็นเลอะเลือนขึ้นมาแล้วจริงๆ

“เจ้า…สารเลวน้อยเจ้ากล้าด่าข้า ‘ไอ้โง่’ งั้นหรอ!?”

ในขณะที่เหล่าศิษย์และอาวุโสกำลังสนทนาถึงเรื่องนี้ หลี่ปิงที่เป็นคนถูกด่าถึงกับถลึงตามองต้วนหลิงเทียนอย่างดุร้าย แววตายังเยียบเย็นปานอสรพิษจับจ้องเหยื่อ ราวกับจะแช่ร่างต้วนหลิงเทียนให้เป็นประติมากรรมน้ำแข็ง!

ขณะเดียวกันพลังทั่วร่างของหลี่ปิงก็พุ่งสูงขึ้น มวลพลังที่ปะทุขึ้นมาช่างลุกโชนเสมือนเพลิงไฟ อานุภาพถึงขั้นสะท้านสะเทือนความว่างโดยรอบ!

เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ!

รอยแตกเริ่มบังเกิดขึ้นยังความว่างเปล่ารอบกายหลี่ปิง ประหนึ่งอสรพิษตัวเล็กนับร้อยพันเลื้อยวนเวียนอยู่รอบร่างหลี่ปิง ช่วนให้ผู้คนที่แลเห็นอดบังเกิดความขนลุกขึ้นมาไม่ได้!

“ข้าจะให้โอกาสสุดท้ายกับเจ้า…”

ต้วนหลิงเทียนไม่ได้ตอบคำถามหลี่ปิงแต่อย่างไร หากแต่เลือกจะเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเฉยเมย กล่าวออกเสียงเบา “จงสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าเสีย ว่าจากนี้จวบจนชั่วชีวิตเจ้าจะไม่โผล่หัวมาเหยียบลัทธิบูชาไฟอีก…จากนั้นก็เร่งไสหัวออกจากลัทธิบูชาไฟไปให้พ้นหน้าข้า”

ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวคำนี้ออกมา ทุกผู้คนถึงกับเงียบงันไร้สำเนียง!

กระทั่งหลี่ปิงยังถึงกับตะลึงกับคำพูดของต้วนหลิงเทียน มันยังสงสัยว่าใช่หูมันหลอน จนได้ยินอะไรผิดไปหรือไม่…

ผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้ ที่พลังฝึกปรือมีแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะ กลับกล้าพูดให้มันสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าด้วยเรื่องเหลวไหลแบบนี้จริงๆ?

ตอนนี้ไม่เพียงหลี่ปิงเท่านั้นที่คิดว่าใช่ต้วนหลิงเทียนรับประทานยาผิดขนานจนสติเลอะเลือนไปแล้วหรือไม่ กระทั่งเหล่าศิษย์และอาวุโสของลัทธิบูชาไฟยังคิดว่าสติสตังต้วนหลิงเทียนท่าทางจะไปกันใหญ่แล้วจริงๆ…

“ศิษย์น้องข้าขอถามเจ้าอีกครั้ง…นี่หูข้ายังดีอยู่และไม่ได้ยินอันใดผิดไปแน่นะ? ต้วนหลิงเทียนพึ่งบอกให้ท่านบรรพบุรุษกล่าวคำสาบานว่าจะไม่มาเหยียบลัทธิบูชาไฟเรา แถมยังให้ท่านบรรพบุรุษไสหัวออกไปจากลัทธิบูชาไฟของพวกเรา?”

“ท่านได้ยินไม่ผิดหรอกศิษย์พี่…ข้าเองก็ได้ยินชัดเต็มสองรูหูเลย! อันที่จริงข้าก็กำลังจะถามท่านเหมือนกัน…”

“สวรรค์! ผู้ใดบอกข้าได้บ้าง…ว่าต้วนหลิงเทียนมีทุนรอนอันใดกันแน่ ไฉนถึงได้หาญกล้ากล่าวแรงถึงขนาดนี้!? ”

หลังเหล่าศิษย์และอาวุโสของลัทธิบูชาไฟดึงสติที่หลุดลอยเพราะตะลึงกับวาจาต้วนหลิงเทียนกลับเข้าร่างได้สำเร็จ พวกมันก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังร่างต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาทำราวกับมองสัตว์ประหลาด!

และตอนนี้ไม่ใช่แค่ศิษย์และอาวุโสของลัทธิบูชาไฟและชนชั้นรองจ้าวลัทธิเท่านั้น

กระทั่งเหล่าผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ก็ได้แต่มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเหวอๆ ด้วยไม่ทราบว่าต้วนหลิงเทียนไฉนถึงได้หาญกล้ากล่าวคำแบบนั้นออกมา

“ผู้พิทักษ์หลิงเทียน…คงมิใช่ว่าไม่ได้ยินที่ท่านบรรพบุรุษหลี่ปิงกล่าวบอกหรอกนะ? ว่าลัทธิบูชาไฟเรายังมีบรรพบุรุษเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์อยู่อีกคน…และสามารถเรียกให้มาได้ตลอดเวลา?”

“มันเองก็แค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะมิใช่หรือไร ต่อให้ข้างกายจะมีเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ติดตามรับใช้…แต่ไหนเลยจะรับมือการผนึกกำลังของบรรพบรุษทั้ง 2 ของพวกเราที่บรรลุเซียนอมตะเสเพล 4ทัณฑ์เหมือนกันได้?”

“มัน….ไปเอาความมั่นใจมาจากที่ไหนกัน?”

ต่างจากเหล่าศิษย์และอาวุโสของลัทธิบูชาไฟที่คิดว่าต้วนหลิงเทียนเสียสติ ชนชั้นผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ได้แต่สงสัยว่าต้วนหลิงเทียนไปเอาความมั่นใจมาจากที่ไหนกันแน่!

ต้วนหลิงเทียนที่แท้มีทุนรอนอันใด ไฉนถึงได้หยิ่งผยองถือดีแบบนี้!?

สำหรับบุคลิกของต้วนหลิงเทียนนั้นพวกมันไม่ได้รู้จักมาแค่วันสองวัน กระทั่งยังรับรู้ถึงวีรกรรมทั้งหมดที่ต้วนหลิงเทียนก่อขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เข้ามายังลัทธิบูชาไฟ!

และทุกเรื่องราวที่ผ่านมา ต้วนหลิงเทียนไม่เคยเป็นฝ่ายแพ้พ่ายสักครั้ง!

อีกทั้งทุกคราก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะก่อวีรกรรมสะท้านสะเทือน เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้…ไร้ผู้ใดดูดี!หากทว่าผลลัพธ์สุดท้ายที่ออกมาก็ทำให้ทุกผู้คนที่ปรามาสถึงกับหาคำพูดไม่เจออยู่ร่ำไป!

ด้วยเหตุนี้ทำให้พวกมันรู้สึกไปอย่างไม่ทันรู้ตัว…

ต้วนหลิงเทียนมิใช่คนหยิ่งผยองถือดีอะไรแน่นอน การที่อีกฝ่ายกล้าทะนงตนต่อหน้าบรรพบุรุษของพวกมัน ย่อมมีความเป็นไปได้ประการเดียวเท่านั้น…

ต้วนหลิงเทียนมั่นใจในตัวเอง!

อย่างไรก็ตามเรื่องที่ ‘ความทะนงตัว’ ครานี้ของต้วนหลิงเทียนมาจากไหน พวกมันมิอาจทราบได้จริงๆ!

“หรือว่า…ข้างกายผู้พิทักษ์หลิงเทียนยังมีข้ารับใช้ที่พลังฝึกปรือบรรลุถึงเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์อยู่อีก? แถมคนผู้นั้นสามารถปรากฏตัวได้ทุกเวลา?”

“เป็นไปได้หรือไม่…ในฐานะผู้นำแห่ง 7 ทวาราเที่ยงแท้ ผู้พิทักษ์หลิงเทียนยังมี ‘ไพ่ตาย’ อันใดอยู่ในมือ แต่ไพ่ตายที่ทำให้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ยังไม่อาจขู่ขวัญใดๆได้มันคืออะไรกันแน่?”

เรียกว่าจังหวะนี้เหล่าผู้พิทักษ์ทั้ง 4 พากันคิดไปในทำนองเดียวกัน ว่าต้วนหลิงเทียนต้องมีดีอะไรสักอย่างแน่นอน…แต่พวกมันเองก็ไม่อาจบอกได้ว่าพวกมันคิดถูกหรือไม่…

“หืม?”

ทันใดนั้นผู้พิทักษ์สื่อเฟิงที่กำลังมองไปทางต้วนหลิงเทียนอยู่ ก็คล้ายจะพบอะไรบางอย่าง สองตามันเบิกกว้างทอประกายเหลือเชื่อราวกับได้เห็นโลกใหม่ จึงเร่งส่งเสียงไปหาผู้พิทักษ์ชิงหั่วที่อยู่ข้างๆทันที

“ผู้พิทักษ์ชิงหั่ว เจ้าดูนังหนูหรูเยี่ยนศิษย์เจ้าเร็ว! ไฉนเรื่องมาถึงขั้นนี้แต่สายตานางจึงแลดูสงบนักเล่า? ทำราวกับทุกเรื่องราวยังไม่ใหญ่โต คล้ายมิได้เห็นว่าที่ต้วนหลิงเทียนเอ่ยกับท่านบรรพบุรุษเป็นเรื่องผิดแปลกอะไร!?”

“อีกทั้งดูจากทีท่าอาการของนางที่แลดูใจเย็นไม่ทุกข์ไม่ร้อนนั่น ยังบอกให้พวกเรารู้ชัด…ว่านางเชื่อมั่นในตัวต้วนหลิงเทียนว่ามีดีมากพอที่จะกล่าวเช่นนั้นออกมา!”

วาจาที่ส่งผ่านพลังไปของผู้พิทักษ์สื่อเฟิง เต็มไปด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ

“ท่าน…มิลองกล่าวถามนางดูหน่อยเล่า ว่าต้วนหลิงเทียนไปเอาความกล้ามาแต่ที่ใด?”

ผู้พิทักษ์สื่อเฟิงยังคงส่งเสียงผ่านพลังกล่าวแนะผู้พิทักษ์ชิงหั่ว

ได้ยินคำของผู้พิทักษ์สื่อเฟิง ผู้พิทักษ์ชิงหัวก็ละสายตาจากต้วนหลิงเทียนไปมองก่านหรูเยี่ยนศิษย์ของตัวเองซึ่งตอนนี้กลายเป็นจ้าวลัทธิไปแล้วทันทีอย่างไม่รู้ตัว

เป็นธรรมดาที่มันจะพบเห็นว่า…

ก่านหรูเยี่ยนไม่เพียงแลดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนยังเฉยเมยไร้เรื่องราว คล้ายไม่ได้เป็นกังวลอะไรกับคำพูดของต้วนหลิงเทียนเลย…

“หรูเยี่ยน…เจ้าบอกอาจารย์ได้หรือไม่ ว่าผู้พิทักษ์หลิงเทียนไปเอาความมั่นใจมาแต่ที่ใด ถึงได้หาญกล้ากล่าววาจาอุกอาจกับท่านบรรพบุรุษเช่นนี้? ”

ผู้พิทักษ์ชิงหั่วส่งเสียงผ่านพลังถามก่านหรุเยี่ยนตามตรง

“ไปเอาความมั่นใจมาจากที่ไหน?”

ก่านหรูเยี่ยนอึ้งไปเล็กน้อยที่อยู่ๆก็มีเสียงกล่าวถามส่งถึงหู แต่พอฟังดูก็พบว่าเป็นอาจารย์ตัวเองที่ส่งเสียงกล่าวถามมา และถามเรื่องอะไร จึงกล่าวตอบผ่านการส่งเสียงกลับไปทันที

“ท่านอาจารย์อย่าได้กล่าวถึงบรรพบุรุษลัทธิบูชาไฟของเราอย่างหลี่ปิงคนนี้คนเดียวเลย…ต่อให้ยามนี้มีบรรพบุรุษของลัทธิบูชาไฟเราที่เป็นเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์อยู่ที่นี่อีกคน ให้ทั้งคู่ผนึกกำลังกันให้ตายก็มิใช่คู่มือของมัน!”

“ที่ท่านถามข้าว่ามันเอาความมั่นใจมาจากที่ใด ข้าสามารถตอบท่านได้ทันทีว่าเป็นเพราะพลังฝีมือของมันเอง…”

“หาไม่แล้ว…ท่านมิคิดบ้างเหรอว่าไฉนเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์อย่างเฉินอี้หรูถึงได้ยินยอมติดตามเป็นข้ารับใช้ของมัน? นั่นเพราะพลังฝีมือของเฉินอี้หรูเทียบมันไม่ได้เลย!”

สำหรับอาจารย์ที่เลี้ยงดูมาแต่เล็กแต่น้อย ก่านหรูเยี่ยนย่อมไม่อะไรต้องปิดบัง จึงกล่าวบอกทั้งหมดออกไปตามตรง

“เจ้าว่าอะไรนะ!?”

หลังได้ยินเสียงผ่านพลังตอบกลับมาของก่านหรูเยี่ยน ผู้พิทักษ์ชิงหั่วอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกตกใจ!

ต่อให้บรรพบุรุษอีกคนของลัทธิบูชาไฟ ที่เป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์มาถึงที่นี่แล้วผนึกกำลังกับหลี่ปิงให้ตาย ก็ไม่ใช่คู่มือของต้วนหลิงเทียน?

ที่เฉินอี้หรูยอมสยบติดตามต้วนหลิงเทียนดั่งข้ารับใช้แบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะพลังฝีมือของมันอ่อนด้อยกว่าต้วนหลิงเทียน?

“มัน…มันมิใช่ว่าเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะหรือไร?”

ผู้พิทักษ์ชิงหั่วอดส่งเสียงผ่านพลังถามต่อด้วยความฉงนใจไม่ได้ “ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าเรา หากมิได้เป็นเซียนอมตะเสเพล เช่นนั้นพลังฝึกปรือที่เข้าถึงได้อย่างไรก็แค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะ และนั่นย่อมมิมีทางเทียบกับเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ได้เลย…แล้วพลังฝีมือของมันจะร้ายกาจกว่า 2 เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ผนึกกำลังกันได้อย่างไร?”

“ท่านอาจารย์ จริงอยู่ที่มันเป็นเพียงครึ่งก้าวเซียนอมตะ…แต่ทว่ามันต่างจากครึ่งก้าวเซียนอมตะทั่วไปในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า”

ก่านหรูเยี่ยนกล่าวตอบ “เอาเป็นว่าตอนนี้ท่านมิต้องห่วงอันใดมันเลย…กับอีแค่เซียนอมตะเสเพล 4ทัณฑ์อย่าว่าแต่ 2 ให้มาเป็น 10 ก็มิใช่คู่มือมันแม้แต่น้อย”

หากเป็นคนอื่นมาบอกชิงหั่วแบบนี้ ให้เอามีดหั่นผักปาดคอมันจนตายมันก็ไม่เชื่อว่าใต้หล้ามีเรื่องเหลวไหลเช่นนี้จริงๆ

ทว่าผู้ที่กล่าวบอกมันคือศิษย์ที่มันเลี้ยงมาแต่เล็กจนโต!

และมันมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าศิษย์คนนี้ไม่มีวันโกหกมันแน่!

ฟืด!

หลังสูดหายใจเข้าลึกกๆระงับบอารมณ์พุ่งพล่าน ชิงหั่วก็ส่งเสียงไปถึงผู้พิทักษ์สื่อเฟิง และกล่าวเล่าทุกถ้อยคำที่ก่านหรูเยี่ยนบอกมา

“อะไรนะ!?”

“หรูเยี่ยนบอกเจ้าว่า…เซียอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ 2 คน ให้ผนึกกำลังกันให้ตายก็มิใช่คู่มือผู้พิทักษ์หลิงเทียน? และอย่าว่าแต่ 2 ให้มี 10 ก็ทำอะไรไม่ได้?”

“เรื่องแบบนี้…มันเป็นไปได้ยังไง?”

หลังได้ยินเสียงผ่านพลังของผู้พิทักษ์ชิงหั่ว ผู้พิทักษ์สื่อเฟิงก็ตกใจถึงที่สุด

ครู่ต่อมาผู้พิทักษ์สื่อเฟิง ก็นำความนี้กล่าวส่งเสียงผ่านพลังไปบอกผู้พิทักษ์หงอวิ๋นกับผู้พิทักษ์เหลิ่งอิงให้รู้สถานการณ์ และหลังจากที่ทั้งสองได้รู้ก็พากันตกอกตกใจไม่น้อย ถึงขั้นอึ้งไปอยู่นานยากจะคืนสติ…

“ให้โอกาสสุดท้ายแก่ข้า? ให้ข้ากล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าว่าชั่วชีวิตจะไม่มาเหยียบลัทธิบูชาไฟอีก…กระทั่งหลังข้ากล่าวสาบานแล้ว ยังจะให้ข้ารีบไสหัวออกจากลัทธิบูชาไฟไปให้พ้นหน้าเจ้า?”

คำกล่าวของต้วนหลิงเทียน ทำให้หลี่ปิงอึ้งไปพักหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นานมันก็มีโมโหหนักหนา ทั่วร่างเริ่มแผ่แรงกดดันพลังไร้สภาพออกมาบีบคั้นในบรรยากาศ! มวลพลังทั่วร่างทะลักออกมาคล้ายมังกรพิโรธที่หมดสิ้นความอดทน!!

“ต้วนหลิงเทียน! เจ้ามันหาเรื่องตายเอง!!”

เสียงตะคอกด้วยความเกรี้ยวกราดแผดลั่นออกมา มวลพลังอันน่าพรั่นพรึงของหลี่ปิงเองก็ระเบิดปะทุออกมาจนฟ้าแทบถลมทลาย! คนคล้ายเตรียมพร้อมพุ่งไปเข่นฆ่าสังหารต้วนหลิงเทียน!!

“ท่านบรรพบุรุษ!!”

ทว่าวินาทีที่หลี่ปิงกำลังจะลงมือ ผู้พิทักษ์สื่อเฟิงพลันตะโกนกล่าวรั้งตัวหลี่ปิงเอาไว้ดังลั่นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง!