บทที่ 1047 ดื่มชา

บทที่ 1047 ดื่มชา

“ฮูหยินเจียง ข้าไม่รู้ว่าท่านพาข้ามาที่นี่เพื่อดูอะไร ที่นี่ไม่มีดอกไม้หรือทิวทัศน์ใด ฮูหยินต้องการให้ข้าดูฮูหยินอย่างนั้นหรือ?”

กู้เสี่ยวหวานหัวเราะ มองฮูหยินเจียงด้วยท่าทางหยอกล้อ

ฮูหยินเจียงจ้องมองมามาเหลิ่ง ความภาคภูมิใจฉายชัดในแววตา ซึ่งถ้ากู้เสี่ยวหวานเดาไม่ผิด นอกจากความภาคภูมิใจแล้วยังมีความชั่วร้าย

ฮูหยินเจียงคนนี้ เกรงว่านางจะมีความคิดที่ไม่ดี

ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนใดของตระกูลเจียง บริเวณรอบด้านรกร้าง นอกเหนือจากผนังที่แตกหักแล้วก็ยังมีวัชพืชขึ้นสูง

เมื่อมองท่าทางการเฝ้าระวังของกู้เสี่ยวหวาน ฮูหยินเจียงก็เดาได้ว่ากู้เสี่ยวหวานอาจเข้าใจสิ่งที่นางกำลังสื่อ

นางภูมิใจมากขึ้น แต่เข้าใจแล้วอย่างไรเล่า นี่ก็เป็นการกระโดดเข้าไปในกับดักของด้วยตนเองไม่ใช่หรือ?

ที่นี่อยู่ห่างไกลจากลานด้านหน้า เกรงว่ากว่าอาโม่จะหาที่นี่พบ กู้เสี่ยวหวานก็คง…

หยินเจียงหัวเราะดังมากขึ้นเรื่อย ๆ “เสี้ยนจู่ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ามีตำแหน่งอันสูงส่งค้ำคออยู่ ข้าคงไม่ชอบเจ้าจริง ๆ”

“ข้าก็เช่นกัน ท่านไม่ชอบข้า ข้าก็ไม่ชอบท่าน” กู้เสี่ยวหวานตอบกลับอย่างสุภาพ

สำหรับคนที่มาบอกว่าไม่ชอบตัวเอง อาวุธที่มีประโยชน์เพียงอย่างเดียวคือการต่อสู้กลับ “ข้าไม่ชอบท่านมากกว่าอีก”

ใบหน้าของฮูหยินเจียงขึ้นสีแดงก่ำ

กู้เสี่ยวหวานมองไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็วเฝ้าดูทางหนีทีไล่ และคิดถึงเส้นทางที่เดินผ่านมา แต่น่าเสียดายที่กู้เสี่ยวหวานเป็นคนหลงทิศทาง แค่เลี้ยวโค้งสองครั้งนางก็จำอะไรไม่ได้แล้ว

รอยยิ้มของฮูหยินเจียงเริ่มลึกลงไปเรื่อย ๆ เมื่อมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน แฝงไปด้วยเจตนาร้าย

ความไม่สบายใจของกู้เสี่ยวหวานมีมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังคงถามอย่างใจเย็น “ฮูหยินเจียง ท่านหมายถึงอะไร เชิญข้าให้มาชื่นชมซากกำแพงเช่นนี้หรือ”

ฮูหยินเจียงส่ายศีรษะซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า “ไม่ใช่ เสี่ยวหวาน ตราบใดที่เจ้าร่วมมือกับข้า ในอนาคตครอบครัวเจียงทั้งหมดจะเป็นของเจ้า”

ฮูหยินเจียงกล่าว ในสายตาการแสดงอย่างมุ่งมั่นและมั่นใจอย่างยิ่ง

กู้เสี่ยวหวานเยาะเย้ย “ฮูหยินเจียงหมายถึงอะไร?”

“ตราบใดที่เจ้าเต็มใจที่จะเป็นลูกสะใภ้ของข้า ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเจียงหรือต่อจากนี้อีกร้อยปีพวกมันทั้งหมดเป็นของเจ้า”

ฮูหยินเจียงตอบอย่างหนักแน่น

เหมือนเป็นการล่อลวงกู้เสี่ยวหวาน

กู้เสี่ยวหวานมองไปที่กำแพงที่ชำรุดผุพัง และมองไปที่วัชพืชที่ขึ้นอยู่ทั่วไปปลิวไปมาตามสายลม

ภาพแบบนี้ช่างดูไร้ชีวิตชีวา

ทำให้ขนอ่อนลุกชัน

สถานที่แบบนี้มีเพียงกู้ซินเถาเท่านั้นที่เหมาะสม

กู้เสี่ยวหวานหัวเราะ “ลูกพี่ลูกน้องของข้าชอบตระกูลเจียงมาก ถ้าฮูหยินเจียงพูดกับนางเป็นการส่วนตัว นางคงจะมีความสุขจนแทบเสียสติ”

ฮูหยินเจียงจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม คนอย่างกู้ซินเถาไม่มีความยับยั้งชั่งใจ และสถานะก็ต่ำต้อยเกินไป ส่วนตระกูลเจียงของนางก็สูงเกินเอื้อม

เมื่อเห็นว่าฮูหยินเจียงไม่ได้พูดต่อ กู้เสี่ยวหวานจึงกล่าวต่อ “ฮูหยินเจียงคงไม่ชอบที่สถานะของลูกพี่ลูกน้องของข้าที่ต่ำต้อยเกินไป”

ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ มันก็เป็นเช่นนั้น

มีคนพูดแอบพูดในใจ แต่ไม่มีใครกล้าพูดมันออกมา

ฮูหยินเจียงยิ้มอย่างร่าเริงและไม่ตอบคำถามของกู้เสี่ยวหวาน แต่กล่าวว่า “เสี้ยนจู่ ตอนนี้เจ้าร่ำรวยและเป็นคนที่มีเกียรติที่สุดในเมืองหลิวเจียนี้ สถานะก็สูงส่งทัดเทียมกับตระกูลเจียงของข้าที่มีสถานะสูงส่งและมีฐานะร่ำรวยเช่นกัน ช่างเหมาะสมกับแม่นางกู้เป็นอย่างมาก”

เหมาะสมกับใคร?

เหมาะสมกับตระกูลเจียงหรือ?

กู้เสี่ยวหวานต้องการขอบคุณฮูหยินเจียงจริง ๆ การพูดไปเช่นนั้นอย่างไรก็พูดไม่ได้เด็ดขาด

กู้เสี่ยวหวานต้องการออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด และไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับฮูหยินเจียงมากเกินไป ใครจะรู้ว่าจุดประสงค์ของนางที่มาเกลี้ยกล่อมตัวเองคืออะไร?

เมื่อเห็นดวงตาของกู้เสี่ยวหวานมองไปทุกที่ราวกับมองหาทางหนี ฮูหยินเจียงตบมือของนาง จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากข้างหลัง

กู้เสี่ยวหวานหวาดกลัวเล็กน้อย และมองย้อนกลับไปก็พบว่าเป็นกู้ซินเถา

กู้เสี่ยวหวานถูกทำให้ตกใจจึงดึงกริชออกมา จากนั้นก็เก็บกลับเข้าไปในแขนเสื้ออีกครั้ง

“เสี่ยวหวาน ไม่เจอกันนานเลย ตั้งแต่เจ้าได้รับการแต่งตั้งเป็นเสี้ยนจู่ในครั้งนั้น พวกเราพี่น้องไม่เคยเห็นสภาพอากาศที่ดีเช่นนี้ ข้าเดินไปรอบ ๆ และมาที่นี่ ข้าไม่ได้คาดหวังเช่นกันว่าจะมาพบเจ้าในศาลา ด้านหน้าของเจ้า ฮูหยินเจียงได้เตรียมผลไม้และของหวานไว้มากมาย ทำไมเราสองพี่น้องไม่ไปด้วยกันล่ะ”

กู้เสี่ยวหวานไม่ได้ปฏิเสธและติดตามนางไป

ฮูหยินเจียงยืนอยู่ข้างหลังและเห็นกู้เสี่ยวหวานเดินไปกับกู้ซินเถา ในที่สุดก็วางหินในหัวใจลงได้

ความระมัดระวังของกู้เสี่ยวหวานนี้สูงเกินไป และเมื่อครู่ก็ทำให้นางสงสัย

ฮูหยินเจียงปรับท่าทีของนางและเดินตามไปที่ศาลา

หลังจากต้มชาสำหรับกู้เสี่ยวหวานเสร็จ นางจึงยื่นถ้วยชาไปข้างหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวหวาน เจ้าลองชิมดู นี่คือชาที่ข้าต้มเอง ข้าได้ยินมาว่าชานี้พิเศษมาก เป็นชาที่สาวชาวนาต้องตื่นก่อนรุ่งสางเพื่อไปเก็บน้ำหวานจากดอกไม้ที่หายาก ข้าจึงนำมาต้มให้เจ้าดื่ม”

กู้เสี่ยวหวานมองไปที่ถ้วยชาที่อยู่ข้างหน้า หากแต่ไม่เอื้อมมือไปหยิบมันขึ้น แต่ใช้นิ้วชี้เคาะเพื่อส่งสัญญาณให้กู้ซินเถาวางไว้ที่ด้านหน้าของนาง กู้ซินเถาที่ถือมานานและเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่รับสักที สีหน้าจึงเริ่มบูดบึ้ง แต่เนื่องจากสถานะของกู้เสี่ยวหวานและการเตรียมการในวันนี้ นางจึงไม่กล้าแม้แต่จะปริปากบ่น

เมื่อมองถ้วยชาที่อยู่ข้างหน้า ชานี้ก็มีกลิ่นหอมมาก มันไม่ใช่กลิ่นของชาบริสุทธิ์

ยังมีเครื่องหอมอื่น ๆ ผสมกัน

กู้เสี่ยวหวานมองไปที่ถ้วยชาและนิ่งงันอยู่อย่างนั้น เมื่อกู้ซินเถาเห็นกู้เสี่ยวหวานนิ่งเฉยจึงเริ่มวิตกกังวลเล็กน้อย