บทที่ 1051 อารมณ์รักของหนุ่มสาว

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1051 อารมณ์รักของหนุ่มสาว

บทที่ 1051 อารมณ์รักของหนุ่มสาว

หากแต่ไม่มีผู้ใดเอ่ยอะไรออกมา

กู้เสี่ยวหวานยังคงกระชากประตูไม่หยุด หากแต่ไม่มีผู้ใดสักคนยอมเปิดประตู

ลานบ้านแห่งนี้อยู่ไกลเกินไป และไม่มีเงาของคนแม้แต่คนเดียว นับประสาอะไรกับข้างนอก

“เสี้ยนจู่” ทันใดนั้น เสียงที่คุ้นเคยก็ดังมาจากด้านหลัง

กู้เสี่ยวหวานหันไปมองด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง คนผู้นั้นคือ ฮูหยินเจียงและกู้ซินเถา

ครั้นกู้เสี่ยวหวานเห็นเป็นพวกเขา นางก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกและพูดว่า “ฮูหยินเจียง พวกท่านหายไปไหนมาหรือ ข้าหวาดกลัวแทบแย่”

ฮูหยินเจียงแสยะยิ้มและเอ่ยอย่างเสแสร้ง “เสี้ยนจู่ ข้าต้องขออภัยด้วยจริง ๆ เมื่อครู่ข้ามีเรื่องต้องจัดการ จึงไม่ได้สนใจที่จะทักทายเสี้ยนจู่ ปล่อยให้เจ้าหวาดกลัวแย่แล้ว ข้าช่างหยาบคายจริง ๆ”

กู้เสี่ยวหวานได้แต่ยืนยิ้ม หากแต่ไม่ส่งเสียงออกมา แต่ท่าทางหวาดระแวงของกู้เสี่ยวหวานไม่อาจหลอกลวงผู้พบเห็นได้

เมื่อครู่หยินเจียงกับกู้ซินเถากำลังซ่อนตัวอยู่ในที่ลับตาคน ในจุดนี้พวกนางสามารถมองเห็นกู้เสี่ยวหวานได้อย่างชัดเจน แต่กู้เสี่ยวหวานไม่อาจมองเห็นพวกนางได้ พวกนางสองคนจ้องมองการเคลื่อนไหวของกู้เสี่ยวหวานไม่ละสายตา

ความหวาดกลัวที่เกิดขึ้น กู้เสี่ยวหวานไม่ได้แกล้งทำแต่อย่างใด นางรู้สึกหวาดกลัวมากจริง ๆ

ฮูหยินเจียงจูงมือกู้เสี่ยวหวานและพูดอย่างรักใคร่ “ข้ากำลังยุ่งอยู่ด้านหลัง จึงบอกให้กู้ซินเถาอยู่ช่วยงานข้าตรงนั้น เลยไม่ได้ส่งคนมาบอกเจ้าก่อน เจ้าคงตกใจแย่เลย”

“ไม่…ไม่เป็นไร” กู้เสี่ยวหวานพยายามระงับความตึงเครียดที่แล่นพล่านของตัวเองอย่างรวดเร็ว และเอ่ยเสียงกระท่อนกระแท่น

หากแต่ฮูหยินเจียงยังคงมองเห็นความหวาดวิตกในแววตาของนาง และอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะในใจ ก็แค่เด็กที่ยังไม่โตคนหนึ่ง คิดว่าตนเองกล้าหาญมากหรืออย่างไรกัน ต่อให้เกิดเรื่องขึ้นมาจริง ๆ ก็คงร้องไห้กระจองอแงหาแม่อยู่ดี

“เสี่ยวหวาน ด้านหลังมีของสวยงามละลานตา ได้ยินว่าตระกูลเจียงมีสมบัติมากมายอยู่ที่ลานด้านหลังนี้เอง ข้าพาเจ้าไปดูดีหรือไม่?” กู้ซินเถาพูดจบก็ลากกู้เสี่ยวหวานออกไปทันที

กู้เสี่ยวหวานเดินตามแรงลากของกู้ซินเถา ฮูหยินเจียงจึงรีบเอ่ยขึ้น “ไปดูกันสิ มีหลายสิ่งหลายอย่างในตระกูลเจียงของข้าที่เจ้าไม่เคยเห็น”

กู้ซินเถาพากู้เสี่ยวหวานมาที่ห้องห้องหนึ่ง นางเดินกรีดกรายเข้าไปและหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ “เสี่ยวหวาน นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดของตระกูลเจียง เจ้าลองดูสิ”

กู้เสี่ยวหวานส่งเสียงตอบรับในลำคอและหยุดฝีเท้าลง

ภายในห้องถูกปัดกวาดเช็ดถูจนสะอาดสะอ้าน ไม่รู้ว่าวันธรรมดามีคนอยู่ที่นี่หรือเปล่า เพราะอยากชวนสาว ๆ มาเที่ยวเล่น จึงถูกทำความสะอาดห้องนี้เป็นอย่างดี

ตู้หลายใบถูกวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ ภายในตู้เต็มไปด้วยสิ่งของต่าง ๆ คาดว่าน่าจะเป็นของสะสมที่กู้ซินเถาพูดถึง

อย่างไรก็ตาม กู้เสี่ยวหวานไม่เคยศึกษาเกี่ยวกับสิ่งของเหล่านี้มากนัก นางไม่สามารถบอกความแตกต่างระหว่างของเลียนแบบกับของแท้ได้

นอกจากนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางได้ไปที่พระราชวังต้องห้าม สมบัติภายในนั้นมีอายุมากกว่าห้าพันปี หลังจากเที่ยวชมในพิพิธภัณฑ์แล้ว ในนี้ก็มีสมบัติเพียงไม่กี่ชิ้น

เด็กสาวไม่มีกระจิตกระใจจะคิดสิ่งใดแล้ว

กู้ซินเถานั่งได้ไม่นาน ทันใดนั้นก็เกิดอาการปวดท้องขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความลำบากใจ “เสี่ยวหวาน เจ้าคอยอยู่ที่นี่ก่อนนะ ข้าขอไปเข้าห้องน้ำเพียงครู่เดียว เจ้าอย่าไปไหนเสียก่อนล่ะ ประเดี๋ยวข้ากลับมา”

พูดจบก็ใช้มือกุมท้อง แล้ววิ่งออกไปด้วยสีหน้าลำบากใจ

กู้เสี่ยวหวานยังไม่ทันตอบรับ กู้ซินเถาก็วิ่งหายลับไปจากสายตา

เวลาผ่านไปไม่นาน กู้เสี่ยวหวานพลันได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังมาจากข้างนอก กู้เสี่ยวหวานผุดลุกขึ้นยืน และเห็นอาโม่ย่องเข้ามาอย่างเงียบ ๆ โดยแบกกู้ซินเถาที่บอกว่ากำลังจะไปห้องน้ำไว้บนไหล่

ใบหน้าของกู้ซินเถาแดงก่ำ ปากส่งเสียงร้องคร่ำครวญ เสียงประหลาดที่นางได้ยินเมื่อครู่ มันออกจากปากของกู้ซินเถา

ตอนนี้ดวงตาของนางขุ่นมัว ไม่มีสมาธิ และไม่มีสติสัมปชัญญะ

นางไปเข้าห้องน้ำตามที่บอกเอาไว้ที่ไหนกัน จริง ๆ แล้วนางหลบอยู่ตรงมุมข้างนอกเพื่อดูการเคลื่อนไหวด้านในต่างหาก!

อาโม่ซึ่งแอบตามอยู่ข้างกายกู้เสี่ยวหวานตลอด เขามองเห็นท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ของคนเหล่านี้แล้ว ดังนั้นจึงแสร้งเล่นละครกับกู้ซินเถาสักฉาก

อาโม่โยนกู้ซินเถาลงกับพื้นด้วยแรงที่ไม่เบานัก ทำให้ได้ยินเสียงเด็กสาวร้องโอดครวญออกมา

ครั้นเห็นกู้ซินเถานอนอยู่บนพื้น ทันใดนั้นนางก็เริ่มทำท่าทางแปลกประหลาด

แต่เมื่อได้ยินนางกรีดร้องเสียงหลง มือทั้งสองข้างเริ่มอยู่ไม่สุข นึกไม่ถึงว่านางจะฉีกเสื้อผ้าของตัวเองออก เคลื่อนไหวมือลูบไล้ลำคอจรดลงบนสะโพก ริมฝีปากก็ส่งเสียงร้องครวญครางไม่หยุด

อาโม่ซึ่งเห็นการกระทำของเด็กสาว ใบหน้าจึงเกิดสีแดงก่ำ แล้ววิ่งออกไปทันที

เสี่ยวหวานชะงักงันไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้สติกลับคืนมา

เมื่อครู่ หากว่านางดื่มชาตรงหน้าเข้าไปจริง ๆ เกรงว่าตอนนี้ คนที่ทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้คงกลายเป็นตนเองเสียแล้ว

นึกไม่ถึงเลยว่ากู้ซินเถากับฮูหยินเจียงจะใช้วิธีสกปรกเช่นนี้

กู้ซินเถาปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตน เผยให้เห็นตู้โตว*[1] ขาทั้งสองข้างบิดรัดเข้าหากันแน่น มือพลางลูบไล้ทุกส่วนของร่างกายอย่างเร่าร้อน

ดูเหมือนว่าร่างกายของนางกำลังร้อนรุ่ม มือเริ่มอยู่ไม่สุขและลูบไล้ไปทั่วร่างกาย นางส่งเสียงคร่ำครวญด้วยความสุข

กู้เสี่ยวหวานมองด้วยความงุนงง ใช้เวลาอยู่นานกว่านางจะได้สติ

นี่กู้ซินเถา…

ภายในถ้วยชามีสิ่งใดกันแน่

ในเวลานั้น กู้เสี่ยวหวานรู้สึกว่าชาที่กู้ซินเถารินให้ตนเองนั้นมีบางอย่างผิดปกติ จึงกังวลว่าคนคนนี้อาจจะใส่อะไรบางอย่างลงไปในชา นางจึงฉวยโอกาสนั้นรินชาทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้ากลับเข้าไปในกาน้ำชา

สลับเปลี่ยนกับชาของฮูหยินตรงหน้าตนเอง

ชาที่ฮูหยินดื่มก็รินออกมาจากกาเดียวกัน

ต่อมากู้ซินเถาดื่มชาเข้าไปหลายถ้วย ซึ่งทั้งหมดถูกรินออกมาจากกาน้ำชาใบเดียวกัน

กู้เสี่ยวหวานรู้สึกสงสัย หากกู้ซินเถามีสภาพเช่นนี้ ไม่รู้ว่าตอนนี้ฮูหยินเจียงจะเป็นอย่างไร

เมื่อคิดได้แบบนี้ นางก็เห็นอาโม่เดินเข้ามาแบบเงียบ ๆ ด้วยสีหน้าลำบากใจ พยายามไม่มองไปที่กู้ซินเถาที่กำลังร้องคร่ำครวญอยู่ที่พื้น เขากระซิบว่า “ฮูหยินเจียงกำลังมา นางมาคนเดียว”

*[1] ตู้โตว คือ เสื้อชั้นในของหญิงจีนสมัยโบราณ มีลักษณะคล้ายผ้ากันเปื้อน สำหรับคาดรอบอกและมีสายผูกคอกับเอว