ตอนที่ 1034 ดีใจ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1034 ดีใจ

“เจ้าค่ะ…ไม่ชอบสักอย่าง” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว ช่วงนี้นางชอบกินอาหารรสเผ็ดเป็นพิเศษ

แม้โบราณจะกล่าวไว้ว่าหากชอบทานรสจัดขณะตั้งครรภ์จะได้บุตรสาว ทว่า เมื่อเห็นว่าบุตรสาวดูมีชีวิตชีวาและคล่องแคล่วมากหลังตั้งครรภ์ ต่งซื่อจึงคิดว่าเป็นบุตรชาย ตอนนี้ต่งซื่อจึงไม่รู้ว่าควรจะเตรียมเสื้อผ้าของสตรีหรือบุรุษให้เด็กในครรภ์ดี

ฉินหมัวมัวใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากหัวเราะ “ไทเฮาทรงกังวลว่าควรจะเตรียมเสื้อผ้าเช่นไรให้ทายาทตัวน้อยของราชวงศ์ที่ยังไม่ได้ลืมตาดูโลกเพคะ”

“ผ้าสีสันสดใสที่เตรียมไว้คราวที่แล้วคงใช้การไม่ได้แล้ว เปลี่ยนเป็นสีม่วงเถิด เช่นนี้จะได้ใช้ได้ทั้งชายและหญิง” ต่งซื่อกล่าวยิ้มๆ

ตอนนี้ในใจของต่งซื่อเต็มไปด้วยเด็กในท้องของไป๋ชิงเหยียน นางตั้งตารอวันที่เขาจะลืมตาขึ้นมาดูโลกแห่งนี้

ต่งซื่อลูบไปที่ท้องของไป๋ชิงเหยียนอย่างแผ่วเบา จากนั้นมองไปทางเหล่าสตรีที่เล่นสนุกกันอยู่ด้านนอก ว่าวของบางคนพันติดกันยุ่งเหยิง เมื่อเห็นว่าลอยสูงไปกว่านี้ไม่ได้แล้วจึงจำต้องถอนตัวออกจากการแข่งขัน จากนั้นตะโกนส่งกำลังใจให้ญาติผู้พี่ของตัวเองแทน

“ฝ่าบาท…” ฝูรั่วซีเดินขึ้นมาบนบันไดสูงที่ปูด้วยพรมแดง จากนั้นคุกเข่าข้างหนึ่งรายงานไป๋ชิงเหยียน “ฝ่าบาท เยว่สือ องครักษ์ข้างกายของพระภัสดามาพ่ะย่ะค่ะ เขากล่าวว่าส่งตำราของพระภัสดาที่ฝ่าบาททรงรับสั่งให้เขาไปขนกลับมามาหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ต่งซื่อหันไปมองไป๋ชิงเหยียน เซียวหรงเหยี่ยนถือโอกาสนี้ส่งจดหมายมาให้บุตรสาวของนางใช่หรือไม่นะ

ไป๋ชิงเหยียนคิดไม่ถึงว่าเยว่สือจะกลับมาเร็วถึงเพียงนี้ หญิงสาวพยักหน้าพลางกล่าวขึ้น “ให้เยว่สือเข้ามาได้”

“พ่ะย่ะค่ะ!” ฝูรั่วซีเดินออกไปตามเยว่สือ

ไม่นานเยว่สือจึงเดินเข้ามา เขาทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน จากนั้นกล่าวขึ้น “ฝ่าบาท เยว่สือจัดเก็บตาราของนายท่านส่งมาให้ฝ่าบาททั้งหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ เยว่สือนำจดหมายที่หลานชายของนายท่านเขียนถึงฝ่าบาทมาให้ฝ่าบาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

เยว่สือเดินโน้มกายไปด้านหน้า ส่งจดหมายในมือให้ไป๋ชิงเหยียนด้วยมือทั้งสองข้าง

หลานชายอย่างนั้นหรือ

ไป๋ชิงเหยียนรับจดหมายมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ดูเหมือนว่าหลังจากเซียวหรงเหยี่ยนเสียชีวิตลง หลานชายของเซียวหรงเหยี่ยนพ่อค้าที่ร่ำรวยอันดับหนึ่งในใต้หล้าจะรับช่วงต่อกิจการของตระกูลเซียวแทนสินะ

“ชุนเถา จัดที่นั่งให้เยว่สือที” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวพลางแกะจดหมายออกอ่าน

เยว่สือรับคำพลางเดินไปหยิบเบาะรองนั่งมาให้เยว่สือนั่ง

เซียวหรงเหยี่ยนถามสารทุกข์สุขดิบของไป๋ชิงเหยียนและเด็กในท้อง จากนั้นเล่าเรื่องที่ทูตของซีเหลียงเดินทางมาขอเสบียงอาหารจากต้าเยี่ยนให้หญิงสาวฟัง ต้าเยี่ยนเตรียมขายเสบียงอาหารให้ซีเหลียงในราคาที่สูงกว่าตลาดสิบเท่าดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

ชายหนุ่มกล่าวว่าเขารวบรวมตำราที่เหลืออยู่ทั้งหมดของจีโฮ่วฝากให้เยว่สือนำมาให้หญิงสาวทั้งหมดแล้ว เขากำชับไป๋ชิงเหยียนว่าบันทึกเกี่ยวกับแนวทางการปกครองที่เหลือของจีโฮ่วค่อนข้างล้ำหน้าเกินไป มารดาของเขาไม่แนะนำให้เขาและพี่ชายนำไปเป็นแบบอย่างปฏิบัติ ดังนั้นไป๋ชิงเหยียนอ่านผ่านๆ ก็พอ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพิจารณามากนัก

ต่อมาคือการบรรยายความคิดถึงที่เซียวหรงเหยี่ยนมีต่อไป๋ชิงเหยียน ชายหนุ่มกำชับให้ไป๋ชิงเหยียนดูแลตัวเองให้ดี สุดท้ายบอกว่ารักหญิงสาวมากเพียงใด

ใบหูของไป๋ชิงเหยียนแดงก่ำขึ้นเล็กน้อย เมื่ออ่านจบไป๋ชิงเหยียนพับจดหมายเก็บตามเดิม จากนั้นเงยหน้ามองเยว่สือที่นั่งอยู่อย่างสำรวม หญิงสาวกล่าวยิ้มๆ “ข้าจะเขียนจดหมายตอบกลับหลานชายของหรงเหยี่ยน เจ้าช่วยนำกลับไปให้เขาที”

“เยว่สือจะจัดการให้เรียบร้อยพ่ะย่ะค่ะ” เยว่สือยืดกายตรงพลางกำหมัดรับคำ

ฟางซื่อและกวนหมัวมัวประคองหวังซื่อเดินห่างออกไปจากเสียงครื้นเครง ฟางซื่อหันไปกล่าวกับกวนหมัวมัว “หมัวมัวช่วยไปหยิบเครื่องแต่งกายของฮูหยินสี่บนรถม้ามาก่อนเถิด ข้าจะประคองฮูหยินสี่เข้าไปในกระโจมก่อน ฮูหยินสี่จะได้ไม่จับไข้ หากไม่เช่นนั้นความผิดข้าคงใหญ่หลวงมากแน่”

กวนหมัวมัวเหลือบมองฟางซื่อแวบหนึ่งอย่างสงสัย ทว่า ได้ยินหวังซื่อกล่าวขึ้น “หมัวมัวไปหยิบชุดกระโปรงสีเขียวมาให้ข้าที…”

“เจ้าค่ะ!” กวนหมัวมัวยังไม่วางใจ นางกำชับให้หลิงอวิ๋นและหลิงซิ่วดูแลฮูหยินสี่ให้ดี จากนั้นจึงเดินไปหยิบเครื่องแต่งกายของฮูหยินสี่บนรถม้า

เมื่อฟางซื่อเห็นกวนหมัวมัวเดินจากไปแล้วจึงกล่าวขึ้นยิ้มๆ “ฮูหยินสี่จะเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงสีเขียว ข้ารู้สึกว่าเครื่องประดับบนศีรษะตอนนี้ไม่ค่อยเข้ากับชุดใหม่ของท่าน บังเอิญข้านำเครื่องประดับศีรษะมาอีกชุด หวังว่าฮูหยินสี่จะไม่รังเกียจเจ้าค่ะ”

“ไม่จำเป็นต้องทำถึงเพียงนี้…” ฮูหยินสี่กล่าวเสียงอ่อนโยน “ฮูหยินประมุขไป๋ไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย”

ฟางซื่อน้ำตาคลอทันที “ฮูหยินสี่ได้โปรดรับไว้เถิดเจ้าค่ะ! มิเช่นนั้นกลับไปข้าต้องโดนประมุขไป๋ตำหนิแน่ ข้าเองก็คงรู้สึกผิดมาก เครื่องประดับศีรษะชุดหนึ่งไม่ได้มีค่ามากมายอันใดนัก คงเทียบไม่ได้กับชุดที่ข้าทำเปื้อนเจ้าค่ะ ฮูหยินสี่รับไว้เถิดเจ้าค่ะ ข้าจะได้สบายใจ”

หวังซื่อทำได้เพียงตอบรับ ในใจคิดว่าค่อยหาโอกาสมอบเครื่องประดับศีรษะชุดใหม่และของขวัญอื่นให้ฮูหยินประมุขไป๋ภายหลัง ฮูหยินประมุขไป๋จะได้สบายใจ ไม่เอาแต่คิดถึงเรื่องนี้อีก

ฟางซื่อรีบหันไปกล่าวยิ้มๆ “รบกวนพวกเจ้าคนใดคนหนึ่งไปหาสาวใช้นามว่าผูหลิ่วที่กระโจมที่พักข้า ให้นางนำเครื่องประดับศีรษะหยกขาวออกมาให้ข้าที”

หลิงซิ่วมองไปทางหลิงอวิ๋น “บ่าวไปเองเจ้าค่ะ หลิงอวิ๋นดูแลฮูหยินสี่ให้ดี ข้าจะรีบกลับมา!”

“ลำบากเจ้าแล้ว” ฟางซื่อกล่าวยิ้มๆ

ด้านในของกระโจมที่ถูกตั้งขึ้นบริเวณลับตาคนปูด้วยพรมหนานุ่ม มีไว้สำหรับให้ตระกูลสูงศักดิ์เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย

กระโจมถัดไปด้านในคือกระโจมสำหรับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของสตรีตระกูลสูงศักดิ์ องครักษ์ที่เฝ้าอยู่บริเวณนี้มีไม่มาก ทหารรักษาพระองค์อยู่ไกลจากตรงนี้ ฟางซื่อเตรียมคนมารออยู่ที่นี่นานแล้ว บัดนี้ข้างกายของหวังซื่อมีเพียงสาวใช้อ่อนแอที่จัดการได้ง่ายเพียงคนเดียวเท่านั้น

ฟางซื่อประคองหวังซื่อเข้าไปในกระโจม หลิงอวิ๋นที่เดินตามอยู่ด้านหลังรู้สึกปวดบริเวณท้ายทอย จากนั้นสลบไปทันที

ฟางซื่อเหลือบมองไปทางด้านหลังแวบหนึ่ง เมื่อเห็นหลิงอวิ๋นถูกลากตัวออกไปจึงยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย นางประคองให้หวังซื่อนั่งลง สายตาเหลือบมองไปทางกระถางธูปหอมทรงสัตว์มงคลและกาน้ำชากระเบื้องที่วางอยู่บนโต๊ะ

“ข้ารินน้ำชาให้ฮูหยินสี่นะเจ้าคะ” ฟางซื่อกล่าว

หวังซื่อพยักหน้าพลางปลดเสื้อคลุมออกวางไว้บนโต๊ะด้านข้าง จากนั้นกล่าวขึ้น “เหตุใดจึงไม่เห็นสาวใช้และหมัวมัวที่คอยรับใช้ที่นี่”

ฟางซื่อรินน้ำชาให้หวังซื่อ “อาจไปแอบอู้อยู่แถวนี้เจ้าค่ะ ทว่า มิเป็นอันใดเจ้าค่ะ ข้าจะช่วยฮูหยินสี่เอง ฮูหยินสี่ไม่ต้องเกรงใจเจ้าค่ะ นี่คือความผิดของข้า ข้าดีใจที่ได้ชดใช้ความผิดเจ้าค่ะ”

“เจ้าไม่ได้ตั้งใจ ไม่จำเป็นต้องเก็บไปใส่ใจ” หวังซื่อใส่สร้อยลูกประคำไว้ที่ข้อมือ จากนั้นรับชาจากฟางซื่อมาจิบเล็กน้อย

กลิ่นหอมๆ อ่อนคล้ายแป้งจากกระถางธูปลอยฟุ้งขึ้นกลางอากาศ ไม่เหมือนกลิ่นที่สตรีตระกูลสูงศักดิ์ใช้ยามปกติ

ฟางซื่อนั่งอยู่ข้างกายหวังซื่อ นางใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา จากนั้นลอบใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกไว้

ไม่นานตาของหวังซื่อเริ่มหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ นางรู้สึกง่วงอย่างบอกไม่ถูก นางวางถ้วยชากระเบื้องลงบนโต๊ะ จากนั้นสลบไปทันที

ฟางซื่อใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกเอาไว้ เมื่อเห็นหวังซื่อสลบไปจึงรีบเปิดกระถางธูปออก เทน้ำชาลงไปดับไฟในกระถางธูป จากนั้นเทขี้เถ้าในกระถางธูปลงบนผ้าเช็ดหน้าของตน เทน้ำในกาน้ำชาทิ้ง จากนั้นตะโกนเสียงดัง “เข้ามา!”

******************************