บทที่ 1043 มากินฟรีและมาลองกิน

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1043 มากินฟรีและมาลองกิน

บทที่ 1043 มากินฟรีและมาลองกิน

ด้วยความที่เป็นชาวชนบทผู้เรียบง่าย อาหารอันโอชะที่รู้จักมากที่สุดก็คือบะหมี่

ถึงจะมีกระเทียมกลีบเดียว แต่รสชาติอร่อยกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

แต่เธอไม่เคยลองชิมอาหารที่ปรุงหนัก ๆ แบบนี้มาก่อนเลย กลิ่นมันหอมมาก ๆ

“ลองชิมซุปดูสิ หอมไหม?” จูหลานฮวายิ้มราวกับนำเสนอ ก่อนยื่นถ้วยให้คนมาใหม่ดู

“พ่อใหญ่ ลุงฉางจิ่ว อยากกินอะไรคะ?” เสี่ยวเถียนถามแล้วหยิบส่วนของหวังเซียวฮวาออกมาจากหม้อก่อนปรุงรส

“ลุงกินถ้วยนี้ดีกว่า”

เขามองถ้วยในมือภรรยา รู้สึกว่ากลิ่นแปลก ๆ นิดหน่อย

“คุณก็เลือกเองสิ จะมาแย่งกันทำไม ต่อให้ฉันไม่รู้ แต่คุณจะต้องเลือกพวกมันฝรั่งหรืออะไรแน่ ๆ”

เธอไม่อยากแบ่ง ต่อให้เป็นสามีก็ไม่ยอม นี่เป็นถ้วยแรกของเธอนะ

“ดูเธอซิ ทำตัวขี้เหนียวเชียว”

ซูฉางจิ่วไม่พอใจ ก่อนไปเลือกของโปรด

ผู้ชายเลือกเร็วกว่ามาก จากนั้นก็ยื่นให้เสี่ยวเถียน

จูหลานฮวาเห็นเสี่ยวเถียนหยิบไปเป็นกำ พลางนึกอยู่ว่าเสี่ยวเถียนจะแยกผักออกมายังไง

หลังจากนั้นก็เห็นหลานสาวใช้ที่คีบแยกอาหารของแต่ละคนเอาไว้โดยการพิงขอบหม้อ

“ทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ?” คนเป็นป้าถามด้วยความประหลาดใจ

“เราหยิบเส้นใส่ปริมาณต่อถ้วยก็พอค่ะ ปกติเราจะกินข้าวประมาณหกในสิบส่วนน่ะ แล้วก็ควรแยกอาหารของแต่ละคนออกจากกัน ถ้าจำผิดจะเกิดปัญหาเอานะคะ”

“จะใช้ที่คีบเหมือนหนูก็ได้ หรือตะกร้อลวกเส้นแล้วแขวนมันไว้ที่ขอบหม้อค่ะ”

“ทำแบบไหนก็ได้ขอแค่จำได้ว่าอันไหนของใครก็พอค่ะ”

เสี่ยวเถียนตั้งใจสอน

จูหลานฮวาถึงกับหยุดมือแล้วนั่งฟังด้วยความตั้งใจ พยายามจดจำสิ่งสำคัญเอาไว้

เสี่ยวเถียนเสิร์ฟของทุกคนเสร็จก็ถึงตาของตัวเอง

เธอรอกินมานานแล้ว หลายปีที่ผ่านมาหลงลืมเมนูนี้ไปเลย วันนี้เพิ่งจะนึกขึ้นได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเธอจะเพลิดเพลินให้ถึงที่สุด

ในตอนที่จะลงมือก็ได้ยินเสียงจากด้านนอก

เป็นเสียงของผู้คนที่กำลังสนทนา

จะเป็นใครได้อีกถ้าไม่ใช่เหลยเกาเชา?

เสี่ยวเถียนออกไปดูก่อนจะพบว่ามีฝ่ายบริหารตามมาอีกหลายคน

จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามีเรื่องเกิดขึ้นที่โรงงาน

เธอรีบถอดผ้ากันเปื้อนออกทันที “ผู้อำนวยการเหลย เกิดอะไรขึ้นที่โรงงานคะ?”

เหลยเกาเชาไม่คิดว่าแม่ครัวในวันนี้คือเสี่ยวเถียน

สาวน้อยผู้น่ารักทำอาหารเป็นจริงหรือ?

มันเอาเข้าปากได้เนอะ?

แต่ไอ้กลิ่นที่ลอยอบอวลทั่วบ้านนี่คือกลิ่นอาหารใช่ไหมล่ะ?

กลิ่นรุนแรงเหมือนซุปไก่แต่ไม่ใช่ มันคืออะไรกัน?

หรือเธอเป็นแค่ลูกมือ?

เหลยเกาเชายืนคิดโดยไม่ปริปาก

และนั่นยิ่งทำให้เสี่ยวเถียนเป็นกังวล

หรือจะเกิดเรื่องที่ยากจะแก้ไขขึ้นจริง ๆ?

“ผู้อำนวยการเหลยพูดมาได้เลยค่ะ!”

น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความร้อนรน

อีกฝ่ายยิ้ม “ไม่ได้มีเรื่องใหญ่โตอะไรครับ ผมมีเรื่องอยากปรึกษาเลยมาหาคุณที่นี่น่ะ!”

จากสีหน้าก็พอตระหนักได้

ไม่น่ามาคุยเรื่องงานหรอก มากินของฟรีมากกว่า

ใครเชื่อก็โง่เต็มที่แล้ว

เด็กสาวเหลือบมองท้องฟ้า

เหลยเกาเชาไม่รู้จักเรียนรู้เสียบ้าง ข้าวมีอยู่นิดเดียวแต่ดันพาคนมาทั้งโคตรเลย มันต้องแบ่งกันกินนะ

เพราะที่หมู่บ้านหนานหลิ่งชาวบ้านจะไม่มาขอข้าวชาวบ้านเขากินน่ะ หรือที่อื่นไม่ถือกัน?

ช่างเถอะ คนไม่รู้ไม่ผิด

ไว้ค่อยพูดเรื่องนี้กับเหลยเกาเชาทีหลัง

ถ้ามาเป็นแขกที่บ้านคนอื่นเขา ทุกคนจะได้รับอาหารครบถ้วนทุกคนไม่ว่าจะยังไงก็ตาม

วันนี้มีเส้นและผักเตรียมไว้เพียบ เหลือก็แต่คนมาลองชิม

เด็กสาวขบคิดขณะมองประตูบ้าน

ทำไมต่งเยี่ยนอันยังไม่มาอีกนะ?

เมื่อเช้าบอกแล้วนะ ว่าเที่ยงให้มากินข้าวที่นี่ หรือหมกมุ่นกับการค้นคว้าจนลืมไปแล้ว?

ตอนนั้นเองที่คนในความคิดปรากฏตัว

“เสี่ยวเถียนวันนี้ทำอะไรกินเนี่ย กลิ่นหอมเชียว!”

เพราะพวกเขาได้รับเชิญมากินข้าวที่นี่ จึงเดาได้ว่ามีของอร่อย ๆ แน่นอน

แต่กลิ่นไม่หอมไปหน่อยหรือ?

“ฉันมั่นใจเลยว่าเธอต้องชอบแน่ ๆ พอได้กินแล้วจะต้องหลงรักเลย!” เสี่ยวเถียนต้อนรับเพื่อน

หมาล่าทั่งเป็นอาหารที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบ ต่งเยี่ยนอันย่อมไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน!

นอกจากเพื่อนแล้วเสี่ยวเถียนก็เชิญคนอื่น ๆ เข้ามาด้วย

คนพวกนี้มีเป้าหมายเดียวกัน ทั้งยังหิ้วสุรามาอีกสองขวดอีก

เสี่ยวเถียนกะว่าจะทำกับแกล้มไว้เพิ่มสักสองอย่าง ลุงฉางจิ่วจะได้ดื่มด้วย

ทีแรกทุกคนคิดว่าจะต้องไปรอที่ห้องหลักแต่เสี่ยวเถียนกลับพาไปที่ห้องครัวแทน

ก่อนที่เด็กสาวจะชี้อาหารเสียบไม้แล้วบอกให้แขกเลือก

ทุกคนรู้สึกแปลกตามาก พวกเขาจึงได้แต่ประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง

ว่าแต่อาหารจะพอหรือเปล่า?

มีผู้ใหญ่ตั้งหลายคน เริ่มคิดแล้วว่าคิดผิดหรือเปล่าที่มา!

กลับไปตอนนี้ยังมีอาหารที่โรงอาหารเหลืออีกไหมนะ?

เสี่ยวเถียนก็คิดเหมือนกัน ก่อนจะถามหวังเซียงฮวา “แม่ใหญ่ ที่บ้านมีหมั่นโถว ซาลาเปาม้วนหรืออย่างอื่นอีกไหมคะ?”

เพราะไม่คิดว่าคนจะมาเยอะ แถมมีแต่ผู้ใหญ่ทั้งนั้น จึงไม่ได้เตรียมอาหารจานหลักไว้เป็นพิเศษ

“มีจ้ะ ๆ แม่เพิ่งนึ่งเสร็จเมื่อกี้เลย เดี๋ยวไปตัดแบ่งออกมาให้นะ”

เพราะพวกเธอกะว่าจะนั่งกินในครัวกัน แต่แขกมาหาที่บ้านจึงต้องย้ายเข้าห้องหลักเท่านั้น

พวกเหลยเกาเชาน้ำลายแทบไหลตอนเห็นซูฉางจิ่วกับซูเหล่าต้ากินอย่างเอร็ดอร่อย

น่ากินจัง ถ้าได้กินต้องอร่อยมากกว่าเดิมแน่ ๆ!

ในไม่ช้าส่วนแบ่งอาหารก็มาถึง รวดเร็วกว่าที่คาดไว้มาก

ทุกคนเริ่มตะกละตะกลามแล้วกินด้วยความหิวโหย

อาหารของเสี่ยวเถียนหายร้อนแล้ว แต่ยังกินได้ไม่ได้ถือว่าเย็นมาก

ต่งเยี่ยนอันชิมคำแรกด้วยความตื่นเต้น

หอมมากเลย ไม่คิดเลยว่าเส้นธรรมดา ๆ จะมีรสชาติแบบนี้ได้

รสชาติวิเศษสุด ๆ!

“อร่อยมากเลย!”

สำหรับคนที่เพิ่งเคยกินหมาล่าทั่งเป็นครั้งแรกมักจะโดนกลิ่นหอมอันเข้มข้นดึงดูดเอาไว้ ทำให้หยุดกินไม่ได้

นี่คงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมอาหารว่างธรรมดา ๆ ถึงเป็นที่นิยมไปทั่วประเทศอย่างยาวนานหลายปี!

ทุกคนก้มหน้าก้มตากิน ไม่มีเสียงบทสนทนาเลย

เสี่ยวเถียนกินไปด้วย ไม่ลืมมองสีหน้าพวกเขาไปด้วย

ทุกคนดูตั้งใจกันมากเลย รู้เลยว่าอร่อยจริง ๆ