บทที่ 1044 ยืมเงินมาเปิดร้าน

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1044 ยืมเงินมาเปิดร้าน

บทที่ 1044 ยืมเงินมาเปิดร้าน

เสี่ยวเถียนมองเห็นความเป็นไปได้ในการเปิดร้านอาหารว่าง

ขนาดผู้ชายยังชอบ นับประสาอะไรกับผู้หญิงล่ะ

ทีแรกว่าจะลองถามเรื่องรสชาติดู แต่เห็นทุกคนก้มหน้าก้มตากินไม่พูดไม่จา จึงล้มเลิกแผนการแล้วหันไปกินของตัวเองต่อ

หลังจากกินหมาล่าทั่งหมดถ้วย ร่างกายมีเหงื่อออกเต็มไปหมด รู้สึกสุขใจมาก

ขนาดต่งเยี่ยนอันที่เป็นคนเงียบ ๆ ยังพึงพอใจไม่ต่างกัน เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อบนจมูก

“ถ้าเป็นไปได้ก็อยากกินทุกวันเลย!”

จูหลานฮวารีบถามทันที “สาวน้อย หนูว่าถ้าฉันเปิดร้านขาย เธออยากกินหรือเปล่า?”

“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ถ้าหนูมีเงินเหลือหนูยินดีซื้ออยู่แล้ว!” ต่งเยี่ยนอันยินดี

“คุณป้าจะเปิดร้านใช่ไหมคะ? มาเปิดที่หน้ามหาวิทยาลัยหนูไหม?”

เธอเห็นว่าสิ่งนี้สะดวกต่อตัวเองดีเลยพูดไปแบบนั้น

แต่เสี่ยวเถียนรู้สึกว่าเป็นความคิดที่ดีมาก

เธอยังคิดอยู่ว่าจะหาทำเลตรงไหนดี ซึ่งเพื่อนก็ได้แก้ปัญหาให้แล้ว

แถว ๆ มหาวิทยาลัยจิ่งเฉิงมีโรงเรียนอยู่หลายแห่ง และนักศึกษาส่วนใหญ่ก็ยังได้รับเงินอุดหนุนไม่ได้ลำบาก

ยิ่งถ้าฐานะทางบ้านดีด้วยจะได้เงินอุดหนุนอีกนิดหน่อย

รวม ๆ แล้วค่าครองชีพของนักศึกษาไม่ได้ต่ำเลย

หมาล่าทั่งเป็นอาหารราคาถูก ถึงจะแพงกว่าอาหารของโรงเรียน แต่ว่าทางโรงอาหารได้รับเงินอุดหนุน

กอปรกับลูกค้าเป็นเด็กด้วย จึงยอมรับของใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเปิดแถวนั้นธุรกิจรุ่งเรืองแน่

“ไหน ๆ วันนี้ก็เป็นวันหยุด สองวันนี้เราไปดูทำเลที่หน้าโรงเรียนกันดีกว่าค่ะ ถ้าเปิดร้านได้ ทำความสะอาดให้เสร็จอาจจะเปิดทันโรงเรียนเปิดก็ได้นะ”

เสี่ยวเถียนดีใจตัวแทบลอย

อากาศเริ่มเย็นแล้ว หมาล่าทั่งจะต้องได้รับความนิยมแน่นอน

จูหลานฮวากำลังคิดอยู่ว่าอยากหาให้ได้ไว ๆ แต่ก็ไม่นึกว่าจะไวขนาดนี้

มันคือการเปิดร้านค้านะ ไม่ได้ลงไปทำงานในทุ่ง

ไม่จำเป็นต้องวางแผนเอาไว้ก่อนทำก็ได้หรือ?

แต่ถ้าหาเงินไม่ได้เราจะล้มละลายเอานะ

เธอลังเล

ต่งเยี่ยนอันส่งกำลังใจอยู่ข้าง ๆ

“เสี่ยวเถียนพูดจริงนะคะคุณป้า เธอวิสัยทัศน์ดีมากเลยค่ะ ถ้าเธอชอบอะไรจะไม่มีทางขาดทุนแน่นอน ฟังเธอเถอะค่ะ”

เพื่อที่อนาคตจะได้กินหมาล่าทั่งต่อ หญิงสาวจึงทุ่มเทกับการเชิญชวนมาก ๆ

หออีหมิงทำอาหารอร่อย แต่ราคาแพง เธอไม่มีปัญญาจ่ายได้ทุกวันหรอกนะ

ส่วนหมาล่าทั่งยังไม่รู้ราคาหรอก แต่ไม่แพงแน่นอน

และสิ่งนี้ก็ชักชวนจูหลานฮวาได้จริง ๆ

ซูฉางจิ่วเริ่มเป็นกังวล

เราเพิ่งจะคุยกันเองไม่ใช่หรือ ทำไมมาเรื่องเปิดร้านแล้วเนี่ย?

“ตอนนี้เราไม่มีเงินนะ คิดให้รอบคอบละ”

ถ้าเราเปิดร้านได้ ภรรยาคงไม่กลับบ้านแล้วละ

แต่รสชาติหมาล่าทั่งนี่อร่อยมากจริง ๆ ต้องมีคนมาซื้อเยอะแน่

เขาเคยคิดจะใช้ชีวิตในเมืองหลวงเหมือนกัน แต่เราต้องพิจารณากันในระยะยาว ไหนจะมีงานที่ต้องกลับไปดูแลอีก

บางทียังคิดเลยว่าอยากเปิดโรงงานในหมู่บ้านเพื่อแก้ปัญหาด้านการเงินให้ชาวบ้านน่ะ

แต่ถ้าอยู่เมืองหลวงจะกลับไปได้ยังไงล่ะ?

ต่อให้ไม่ได้เปิดโรงงานยังไงก็ต้องมอบหมายหน้าที่เอาไว้

สิ้นปีจะมีการเลือกตั้งอีกครั้ง ไว้ลาออกตอนเลือกผู้ใหญ่บ้านคนใหม่แล้วกัน การส่งมอบหน้าที่จะได้ราบรื่น

น่าเสียดายที่ภรรยาไม่ได้สนใจความคิดของสามี

พอหาลู่ทางสร้างเงินได้แล้ว เราก็เปิดร้านกันเลยไม่ดีกว่าหรือ?

เกิดรออีกหน่อยจนคนอื่นเอาไปทำธุรกิจเองจะเสียใจก็ไม่ทันแล้วละ

“พ่อคุณ สองวันนี้ฉันจะเข้าเมืองไปดูนะ ถ้าสำเร็จตอนสิ้นปีจะได้มีสินสอดให้ลูก”

งานแต่งลูกกับซานกงกำหนดไว้ในเดือนสิบสอง เป็นช่วงวันหยุดพอดีด้วย เรากลับบ้านไปเลี้ยงแขกได้

สองวันนี้จูหลานฮวานึกเสียใจอยู่ตลอด ทรัพย์สินไม่มี ขนาดเงินสำหรับสินสอดลูกก็ไม่พร้อม

แม้เซี่ยหนานจะบอกว่าเตรียมไว้ให้ลูกสาวเขาแล้วก็ตาม

แต่เราก็อุตส่าห์เลี้ยงเสี่ยวเฉ่า คงดูไม่ดีถ้าไม่มีให้

ถ้าเปิดร้านได้จะต้องหาเงินค่าสินสอดทันแน่นอน

ซูฉางจิ่วเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง

ก็จริงนะ หลังจากลูกสาวทำงาน เธอก็ส่งเงินอุดหนุนมาให้เราตลอด คุยกันไว้แต่แรกแล้วละ ว่าจะเตรียมสินสอดไว้ให้ลูก แต่ตอนนี้เราไม่มีเงินเลยสักแดงเดียว

“แต่เธอไม่มีเงินเปิดร้านนะ!”

เขาพยายามโน้มน้าว

ถึงพวกเขาจะสร้างกำไรได้ แต่ก็ต้องมีเงินทุนก่อนหรือเปล่า

เลยตั้งใจว่าอยากจะกลับไปคิดก่อน

อาจจะขอยืมเงินจากคนรู้จักบางคนได้

“หนูมีเงินอยู่นะคะ ให้ป้ายืมไปเปิดร้านก่อนได้” เสี่ยวเถียนยิ้มจาง ๆ

เธอเต็มใจช่วยอยู่แล้ว เพราะพวกเขาดีต่อเธอมาตลอด

เด็กสาวไม่มีทางลืมคนที่คอยดูแลมาตลอดหรอก

ถ้าคนอื่นดีมา เธอดีกลับอยู่แล้ว

อีกอย่างพอพี่เสี่ยวเฉ่ากับพี่สามแต่งงาน บ้านเราจะสนิทกันมากขึ้นอีก

ช่วยลุงกับป้าก็เหมือนช่วยพี่ ๆ เขานั่นแหละ

“น่าอายจะตาย หนูเป็นเด็กนะ แต่เราเป็นผู้ใหญ่…” ซูฉางจิ่วรีบปฏิเสธ

“เสี่ยวเถียนมีเงินครับ พี่ไม่ต้องห่วงนะ เขามีเงินให้ยืมจริง ๆ” ซูเหล่าต้ายิ้ม

อันที่จริง ตนเคยคิดจะให้พี่ชายคนนี้ยืมนะ แต่เห็นว่าบ้านเรากำลังจะเกี่ยวดองกัน ถ้าให้ไปซูฉางจิ่วอาจจะคิดมาก

ในเมื่อหลานสาวเสนอ ปัญหาก็เป็นอันได้รับการแก้ไขแล้ว

เสี่ยวเถียนพยักหน้า “พ่อใหญ่พูดถูกค่ะ หนูมีเงินเยอะเลย”

ฝ่ายลุงรู้ว่าหลานรวย ถึงอยากปฏิเสธแต่ภรรยากลับรับไว้แล้ว

“ยัยเด็กคนนี้ อย่ามาอวดกันสิ!” จูหลานฮวาแกล้งดุ “ตกลงจ้ะ ป้าจะยืมเงินเราไปเปิดร้านแล้วกัน”