ตอนที่ 1040 ปัญหาใหญ่หลวง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1040 ปัญหาใหญ่หลวง

ไม่นานในสนามล้วนเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของเหล่าสตรีที่ออกไปเล่นว่าวราวกับเมื่อครู่ไม่มีเรื่องของคุณหนูทั้งสองของตระกูลฉินเกิดขึ้นแต่อย่างใด

ไป๋ชิงเหยียนกลับไปพักในกระโจมก่อนเพราะกำลังตั้งครรภ์อยู่ เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินจากไป เสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานจึงดังขึ้นมากกว่าเดิม เป็นเสียงหัวเราะที่ไพเราะและไร้ความกังวลใดๆ

สตรีหม้ายที่แต่งงานใหม่บางคนซึ่งมีฝีมือในงานศิลปะใช้ใบไม้ถักเป็นตัวตั๊กแตนหรือนก บรรดาสตรีสูงศักดิ์ต่างชื่นชอบในงานฝีมือของสตรีหม้ายเป็นอย่างมาก สตรีหม้ายจากครอบครัวธรรมค่อนข้างเคารพยำเกรงสตรีจากตระกูลสูงศักดิ์ ไม่กล้าเข้าไปหาพวกนางก่อน สตรีตระกูลสูงศักดิ์เห็นแก่ระบอบการปกครองใหม่จึงยินดีร่วมวงสนทนากับสตรีหม้ายเหล่านั้น

ไป๋ชิงเหยียนอ้างว่ากลับไปพักผ่อน ทว่า แท้จริงแล้วฮูหยินสี่หวังซื่อกำลังนอนสลบไม่ได้สติอยู่ภายในกระโจม ฟางซื่อและพี่ชายของนางถูกขันทีจับให้นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยร่างที่สั่นเทาด้านนอกฉากกั้นลายอัญมณีทั้งแปด ฟางซื่อพยายามคิดหาทางออกอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าไป๋ชิงเหยียนจะเตรียมป้องกันเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว ทว่า นางไม่ได้ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่

ไม่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ก็ดี เช่นนี้แสดงว่าไป๋ชิงเหยียนเป็นห่วงชื่อเสียงของอาสะใภสี่ของตัวเอง มีคำโบราณเกล่าวไว้ว่าขว้างหนูแต่กลัวกระทบของมีค่าที่วางอยู่ด้านข้าง ไป๋ชิงเหยียนไม่กล้าสังหารนางอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นหากเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ผู้อื่นอาจกล่าวถึงอาสะใภ้สี่ของไป๋ชิงเหยียนในทางเสียๆ หายๆ ได้

อย่างมากไป๋ชิงเหยียนก็คงให้ไป๋ฉีเหอหย่ากับนาง ทว่า ตอนนี้ไป๋ชิงผิงและบุตรชายคนโตของนางกำลังอยู่ในวัยแต่งงาน บุตรสาวของนางใกล้จะโตเป็นสาวแล้ว แม้บุตรชายคนโตจะไม่เอาไหน ทว่า เห็นแก่ไป๋ชิงผิงและบุตรสาวของนาง ไป๋ฉีเหอต้องขอร้องให้ไป๋ชิงเหยียนยืดเวลาเรื่องหย่าออกไปก่อนแน่นอน…

ขอเพียงไป๋ชิงเหยียนยอมตกลง ฟางซื่อจะหาวิธีมัดใจสามีของตัวเองกลับมาอีกครั้ง ถึงเวลานั้นหากนางสามารถตั้งท้องบุตรของไป๋ฉีเหอได้อีกคน ไป๋ชิงเหยียนคงไม่อาจไม่สนใจสายเลือดของตระกูลไป๋ได้

อาสะใภ้สี่ของไป๋ชิงเหยียนไม่ได้เป็นอันใดแม้แต่น้อย ที่สำคัญหวังซื่อไม่ได้สกุลไป๋ ขอเพียงนางตั้งครรภ์ขึ้นมาอีกครั้ง นั่นคือสายเลือดของตระกูลบรรพบุรุษไป๋อย่างแท้จริง!

ฟางซื่อประมวลผลในสมองอย่างรวดเร็ว ไป๋ฉีเหอยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ เขากำหมัดแน่น หน้าซีดเผือด

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินเข้ามาด้านใน ไป๋ฉีเหอไม่กล้าสู้หน้าไป๋ชิงเหยียน เขารีบคุกเข่าคำนับแนบพื้นโดยไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น

เขาป้องกันทุกคนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋ ทว่า ไม่ได้ป้องกันคนข้างกายของตัวเอง เขานึกว่าที่ฟางซื่อไม่ได้ก่อเรื่องใดๆ ขึ้นอีกในช่วงนี้เป็นเพราะนางกลับตัวแล้ว สำนึกได้แล้ว ดังนั้นไป๋ฉีเหอจึงเห็นแก่ความกตัญญูของไป๋ชิงผิง ยอมปล่อยฟางซื่อไปเพื่อบุตรชาย

เขานึกไม่ถึงเลยว่าฟางซื่อจะใจกล้าถึงขนาดวางแผนทำร้ายฮูหยินสี่ของตระกูลไป๋เช่นนี้!

ทั้งหมดเป็นความผิดของเขาเอง เขาไม่ควรใจอ่อน ไม่ควรกลัวสู้หน้าบุตรชายและบุตรสาวของตัวเองไม่ได้หากหย่ากับฟางซื่อ หลังผ่านเรื่องนี้ไป ฝ่าบาทที่เดิมทีไม่ได้มีความผูกพันใดๆ กับตระกูลบรรพบุรุษไป๋อยู่แล้วคงยิ่งเกลียดคนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋มากขึ้นไปอีก!

อาผิงของเขาเป็นเด็กดี ความสัมพันธ์ของอาผิงกับฝ่าบาทและอนาคตของอาผิงถูกนางแพศยาคนนี้ทำลายจนหมดสิ้นแล้ว!

“ท่านพี่ ท่านพี่ช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ!…” เมื่อฟางซื่อเห็นรองเท้าหนังประดับมุกของไป๋ชิงเหยียนจึงเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที นางเอ่ยเรียกไป๋ฉีเหอเสียงสะอื้น คลานเข่าหวังเข้าไปจับชายเสื้อของไป๋ฉีเหอ ทว่า ถูกขันทีจับกดให้คุกเข่าอยู่ที่เดิมเสียก่อน

“ท่านพี่…” ฟางซื่อร้องเรียก

“น้องเขย น้องเขยเห็นแก่หน้าอาผิงช่วยพวกเราด้วยเถิด เจ้าช่วยขอร้องฝ่าบาทให้พวกเราที น้องสาวข้าเพียงแค่เลอะเลือนไปชั่วขณะเท่านั้น!” พี่ชายของฟางซื่อรีบกล่าวขึ้น

ไป๋ฉีเหอได้ยินคำกล่าวของสองพี่น้อง ทว่า ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ทั้งสิ้น

“ไป๋ฉีเหอทำผิดต่อฝ่าบาท! กระหม่อมมัวแต่ควบคุมคนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋ ทว่า ควบคุมคนของตัวเองได้ไม่ดี กระหม่อมไม่เพียงไม่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระของฝ่าบาทได้ ยังปล่อยให้นางแพศยาผู้นี้ก่อปัญหาใหญ่หลวงเช่นนี้ขึ้นอีก กระหม่อมไม่คู่ควรเป็นประมุขตระกูลไป๋พ่ะย่ะค่ะ!”

ไป๋ฉีเหอก้มศีรษะคำนับแนบพื้น

ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางสองพี่น้องตระกูลฟางนั่งคุกเข่าตัวสั่นเทาอยู่บนพื้นนิ่ง พี่ชายหวาดกลัวจนแทบเป็นลมหมดสติ มือที่วางอยู่ข้างกายสั่นระริกจนควบคุมไม่ได้

ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางไป๋ฉีเหอ จากนั้นกล่าวขึ้นเสียงเบา “ประมุขไป๋ลุกขึ้นก่อนเถิด”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบจึงเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ ไป๋ฉีเหอไม่กล้าลุกขึ้นยืน เขาได้แต่คุกเข่าหันไปทางไป๋ชิงเหยียน

ฟางซื่อตัวสั่นราวกับลูกนก เมื่อได้ยินไป๋ชิงเหยียนบอกให้ไป๋ฉีเหอลุกขึ้น ฟางซื่อจึงคิดว่าไป๋ชิงเหยียนยังเห็นแก่หน้าไป๋ฉีเหอที่เป็นประมุขตระกูลไป๋อยู่จึงรีบเอ่ยขอร้องไป๋ฉีเหอ

“ท่านพี่ ท่านเห็นแก่ลูกชายและลูกสาวของเรา ช่วยขอร้องให้ข้าด้วยเถิดเจ้าค่ะ ข้าเลอะเลือนไปชั่วขณะ คนตระกูลบรรพบุรุษไป๋เหล่านั้นเริ่มมีความคิดเช่นนี้ก่อน ข้าจึงเลอะเลือนตามไปด้วยเจ้าค่ะ”

“สองพี่น้องตระกูลฟางร่วมมือกันทำร้ายอาสะใภ้สี่ของข้า หวังทำลายชื่อเสียงของอาสะใภ้สี่ของข้าเพื่อบีบให้นางแต่งงานด้วย นี่คือโทษประหาร ผู้ใดขอร้องล้วนไม่มีผลทั้งสิ้น!”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงราบเรียบ ทว่า แผงไปด้วยไอสังหาร

“เจ้าคิดว่าหากเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่แล้วข้าจะปล่อยพวกเจ้าสองพี่น้องไปอย่างนั้นหรือ”

ฟางซื่อถูกกล่าวจี้แทงใจดำ ตัวนางสั่นเทายิ่งกว่าเดิม

“หากข้าอยากให้พวกเจ้าตาย ข้ามีวิธีตั้งมากมายให้พวกเจ้าหายไปจากโลกนี้อย่างไร้ร่องรอย ไม่ก็ทำให้พวกเจ้าป่วยตายไปจากโลกนี้…”

ฟางซื่อไม่คิดว่าไป๋ชิงเหยียนแค่ขู่พวกนางเท่านั้น อำนาจของราชวงศ์มีมากล้น ขอเพียงจักรพรรดิมีความคิดเช่นนี้ มีคนมากมายพร้อมจัดการเรื่องนี้แทนจักรพรรดิ ต่อให้นางมีร้อยชีวิตหรือพันชีวิตก็คงไม่เพียงพอ

ความรู้สึกมากมายถาโถมขึ้นในใจของฟางซื่อ น้ำตาของนางไหลพรากทันทีดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

“ฝ่าบาท! ฝ่าบาท พี่ชายของหม่อมฉันไม่รู้เรื่องอันใดด้วยเพคะ!” ฟางซื่อรีบก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียน น้ำตาอาบใบหน้า “ก่อนหน้านี้หม่อมฉันเคยบอกเรื่องนี้กับพี่ชาย ทว่า พี่ชายของหม่อมฉันไม่เห็นด้วย เขาเกลี้ยกล่อมให้หม่อมฉันอยู่อย่างสงบเสงี่ยม วันนี้หม่อมฉันให้คนหลอกพี่ชายขึ้นไปบนรถม้าคันนั้นเองเพคะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่ชายของหม่อมฉัน ฝ่าบาทได้โปรดวินิจฉัยด้วยเพคะ!”

ฟางซื่อเป็นคนทำเรื่องนี้เอง นางรู้ดีว่าขอเพียงรักษาชีวิตของนางเอาไว้ได้ หากนางยกบุตรชายและบุตรสาวมาเป็นข้ออ้าง ต่อให้ไป๋ฉีเหอไม่เต็มใจสักเพียงใด เขาก็ต้องปล่อยให้นางอยู่ในตระกูลไป๋ต่อไป

ทว่า หากนางลากพี่ชายของนางเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย พี่ชายของนางต้องตายแน่ๆ!

ที่สำคัญหากไป๋ชิงเหยียนคิดสังหารนางคิดมาจริงๆ แล้วนางทำให้พี่ชายเดือดร้อนไปด้วย เมื่อนางตายไปแล้วไป๋ฉีเหอแต่งงานกับภรรยาใหม่ หากภรรยาใหม่ให้กำเนิดบุตร เช่นนั้นคงไม่มีผู้ใดคอยช่วยเหลือไป๋ชิงผิงอีก

พี่ชายของนางมีบุตรอีกมากมาย นางจะปล่อยให้หลานชายและหลานสาวของนางตายไปด้วยไม่ได้ ไม่ว่าจะสังหารหรือหย่า ให้โทษตกอยู่ที่นางเพียงคนเดียวก็พอแล้ว

ชุนเถากัดฟันมองไปทางฟางซื่อเขม็ง นางยกชาสายน้ำผึ้งไปให้ไป๋ชิงเหยียนดื่มดับโทสะ

ไป๋ชิงเหยียนรับถ้วยชามาจากชุนเถา จากนั้นเอ่ยขึ้นอย่างไม่รีบร้อน

“พี่ชายของเจ้าไม่กล้า ทว่า เจ้ากลับใจกล้ายิ่งนัก เจ้าเหิมเกริมถึงขนาดกล้าวางแผนทำร้ายคนในราชวงศ์เลยหรือ…”

“ฝ่าบาทได้โปรดไว้ชีวิตด้วยเพคะ!” ฟางซื่อก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียนไม่หยุด

พี่ชายของฟางซื่อเห็นท่าทีของฟางซื่อ เขารู้ว่าน้องสาวทำไปเพื่อตระกูลฟางจึงรีบก้มศีรษะคำนับเช่นเดียวกัน “ฝ่าบาทได้โปรดไว้ชีวิตน้องสาวของกระหม่อมด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ น้องสาวของกระหม่อมไม่ใช่คนร้ายกาจ นางแค่ได้ยินว่าคนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋จะยกเรื่องระบอบการปกครองใหม่ขึ้นมาเป็นประเด็นเพื่อแต่งงานกับฮูหยินตระกูลไป๋ นางจึงเลอะเลือนไปชั่วขณะพ่ะย่ะค่ะ!”