War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2391
ตอนที่ 2,391 : แดนลับต่างสวรรค์!
เรียกว่าในช่วงจังหวะเวลานี้ ผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้อย่างต้วนหลิงเทียน ถือเป็นบุคคลที่ร้อนแรงลือชื่อที่สุดในภูมิภาคเบื้องบนก็ว่าได้! ไม่ว่าจะผู้ฝึกตนทั่วไปหรือเหล่าเซียนอมตะเสเพล ก็หยิบยกเขาเป็นหัวข้อสนทนากันแทบทุกวัน!
ดังนั้นแล้วหลังจากที่เซียนอมตะเสเพลในจวนจดจำเฉินอี้หรูได้ ก็ไม่ยากที่จะระบุตัวตนต้วนหลิงเทียนที่มากับเฉินอี้หรู!
“ไฉนต้วนหลิงเทียนถึงมาที่นี่ได้?”
“นั่นสิ แถมดูท่าแล้ว…ดูเหมือนจะมาหาติงอี่เจียนพร้อมเฉินอี้หรูอีกด้วย”
“ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนมา พลังวิญญาณฟ้าดินก็เบาบางลงทันที…หรือการเปลี่ยนแปลงของพลังวิญญาณฟ้าดินจะเกี่ยวข้องกับมันกัน?”
“เจ้าถามข้า แล้วข้าจะไปถามใคร…”
…
เหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายได้แต่ลอยร่างขึ้นมาชมดูเรื่องราวอยู่ห่างๆ ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ต้วนหลิงเทียนสักเท่าไหร่
เพราะในบรรดาพวกมันนั้น ที่ร้ายกาจที่สุดก็เป็นแค่เซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์เท่านั้น…เช่นนั้นแล้วต่อหน้าต้วนหลิงเทียนพวกมันย่อมไม่กล้าเหิมเกริมอะไร!
ต้องทราบด้วยว่าต้วนหลิงเทียนู้นี้ กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ของเผามังกรอย่างตี้เฉิน ยังบีบคั้นให้คุกเข่าโขกหัวมาแล้ว!!
แต่เซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ที่ร้ายกาจที่สุดในหมู่พวกมันนั้น หากไปปะทะกับตี้เฉินล่ะก็…เกรงว่าคงได้ถูกทุบตีจนเละอย่างที่ไร้ซึ่งหนทางตอบโต้ตี้เฉินได้เลย…ประหนึ่งหนอนแมลงอ่อนแอต่อหน้าตี้เฉินเท่านั้น!
พวกมันไม่กล้าแม้แต่จะแหยมตี้เฉินด้วยซ้ำ แล้วพวกมันยังจะกล้าเหิมเกริมต่อหน้าต้วนหลิงเทียน?
“เฮอะ!”
ภายใต้สายตาทุกคน อยู่ๆต้วนหลิงเทียนก็พ่นลมสบถเสียงเย็น
ทันใดนั้นเจตนาฆ่าฟันพลันเอ่อล้นออกมาทั่วร่าง ยามจิตสังหารอำมหิตดังกล่าวเริ่มแผ่ซ่านครอบงำแผ่นฟ้า สภาวะคนคล้ายกลับกลายเป็นเทพสังหาร กลิ่นอายพลังอันน่าเกรงขามเริ่มกดดันบีบคั้นไปในบรรยากาศ พาลให้เหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายโดยรอบหน้าเสียทันที
ปง!
ต้วนหลิงเทียนย่ำเท้าลงก้าวหนึ่ง ความว่างเปล่าพลันปริแตก ก่อนที่จะบังเกิดรอยร้าวของมิติแผ่กำจายออกไปกลางฟ้าดั่งใยแมงมุม!
และทันทีที่ต้วนหลิงเทียนก้าวออกมาด้วยทีท่าเกรี้ยวกราดทรงพลังเช่นนี้ ติงอี่เจียนก็หน้าซีดเสียขวัญทันที บนใบหน้าของมันล้วนมีแต่ความหวาดกลัวและความตื่นตระหนกตกใจ
และในหัวของติงอี่เจียนก็หลงเหลือเพียงหนึ่งความคิดเท่านั้น
นั่นคือหวังว่าขอเพียงมันกระทำตัวต้อยต่ำต่อหน้าผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้คนนี้ แล้วอีกฝ่ายจะไม่ถือสาหาความที่มันเคยมีเรื่องมีราวกับเฉินอี้หรูอีก…
อย่างไรเมื่อ 30 ปีก่อน มันกับเฉินอี้หรูก็สู้เสมอกันไม่มีใครได้เปรียบ ต่างก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย
ในสายตาของมันเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เล็กน้อยนัก เพียงขอโทษดีๆต้วนหลิงเทียนผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้ก็สมควรเลิกแล้วต่อกัน ไม่คิดติดใจเอาความทำอะไรมันอีก…
อย่างไรก็ตาม ติงอี่เจียนไม่เคยคิดเคยฝันเลย…
ต้วนหลิงเทียนมาที่นี่วันนี้ไม่ใช่เพราะคิดออกหน้าให้เฉินอี้หรู…แต่เพื่อแก้แค้นให้สตรีนางหนึ่ง ยังเป็นสตรีหนึ่งในสตรีนับร้อยๆที่ตกตายหลังโดนมันย่ำยีขืนใจ…
บางทีมันอาจจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ ว่าครั้งหนึ่งเคยย่ำยีสตรีนามชิวมู่ชิง…
ทว่าต้วนหลิงเทียนมาเพื่อสตรีนางนั้น
“เดียรัจฉาน!”
ขณะที่ก้าวออกมา ทั่วร่างของต้วนหลิงเทียนยิ่งมาก็ยิ่งระเบิดพลังเซียนต้นกำเนิดที่ผสานไว้ด้วยพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดอันน่าพรั่นพรึง วาจาที่กล่าวออกยังเยียบเย็นนัก อย่างน้อยๆในสายตาติงอี่เจียนก็ช่างเยียบเย็นปานจะแช่ร่างมันให้กลายเป็นน้ำแข็ง!
ถึงแม้ว่าพื้นที่แถบนี้จะเป็นธารน้ำแข็ง อุดมไปด้วยหิมะและความหนาวเย็น…
ทว่าความเยียบเย็นอันเป็นผลพวงของอำนาจแห่งธรรมชาติกลับไม่ทำให้มันรู้สึกหนาวแต่อย่างไร แต่ความเย็นชาที่แผ่ซ่านออกมาจากต้วนหลิงเทียนทั้งจิตสังหารเลือดเย็นนั่น ทำให้มันรู้สึกราวกับหัวใจจะกลับกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง!!
ฟั่บบบ!!
เสียงหอนของกระบี่กรีดฟ้าพลันดังขึ้น! ไม่ทราบในฝ่ามือต้วนหลิงเทียนปรากฏกระบี่ 3 ตั้งแต่เมื่อไหร่ และมันพุ่งออกไปตั้งแต่ตอนไหน!!
หากทว่าหลังจากที่ตัวกระบี่พุ่งทะยานออกจากมือดั่งประกายแสง ความเร็วของมันก็สูงล้ำเหลือเกิน! กระบี่แหวกทะลวงความว่างไปด้วยความเร็วสุดที่ติงอี่เจียนจะตอบสนองใดได้ทัน ไม่มีเวลาแม้แต่จะให้มันตกใจ!
เรียกว่าก่อนที่จะได้รู้เรื่องราวอะไร กระบี่ก็บรรลุถึงเบื้องหน้าติงอี่เจียนแล้ว!
‘ไม่…’
กว่าที่ติงอี่เจียนจะทันได้ตอบสนองสิ่งใด ประกายกระบี่ที่พุ่งทะยานออกมาจากฝ่ามือต้วนหลิงเทียน ก็จรดที่หว่างคิ้วของมันเรียบร้อย จนถึงตอนนี้ติงอี่เจียนยังทำได้แค่ร่ำร้องในใจเท่านั้น!
พริบตาต่อมา
สึบบ!!
เสียงเจาะทะลวงนุ่มทุ้มหนึ่งดังขึ้นเข้าหูทุกผู้คน เป็นกระบี่เจาะทะลุหว่างคิ้ว ป่นทำลายดวงจิตของติงอี่เจียนจนแหลก!
ถึงแม้จะเป็นเซียนอมตะเสเพลที่ไร้ร่างเนื้อ…และมีรูปแบบร่างกายแตกต่างจากกมนุษย์ทั่วไป หากแต่หว่างคิ้วของมันก็ยังเชื่อมต่อกับดวงจิตโดยตรง ยามเมื่อถูกเจาะทะลวงแบบนี้ดวงจิตของมันย่อมแตกกสลาย ยากที่จะรวมตัวกลับคืน…
ยิ่งไปกว่านั้นกระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนยิงออกไป ไม่เพียงแต่เจาะทะลวงจนทำลายดวงจิตของติงอี่เจียน ยังปะทุพลังกระบี่ดุร้ายป่นทำลายวิญญาณที่แหลกเป็นเสี่ยงๆทั้งหมดของติงอี่เจี้ยงให้ป่นสลายไปไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยใดๆ…
โดนแบบนี้ติงอี่เจียนย่อมไม่มีทางรอดชีวิตไปได้…
ซัว! ซัว! ซัว!
…
หลังจากที่ดวงจิตถูกทำลายวิญญาณป่นสลาย ร่างพลังงานของติงอี่เจียนก็ดั่งเงาบุปผาในกระจกไม่ต่างเงาจันทร์กลางลำน้ำที่เลือนลับ เมื่อแตกสลายก็หายสาบสูญไปจากสวรรค์โลกอย่างสิ้นเชิง ไม่เหลือร่องรอยว่าเคยดำรงอยู่…
ผู้ชมโดยรอบถึงกับเงียบไปไร้สำเนียง
ในบรรดาเซียนอมตะเสเพลที่อาศัยอยู่ในจวนตอนนี้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เป็นตัวตนเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์และพอจะมองเห็นเงากระบี่ของต้วนหลิงเทียนได้อย่างเลือนราง…
กระบี่นั่น…พลังอานุภาพราวกับจะทะลวงฟ้าแหวกมิติ ทำลายได้ทุกสรรพสิ่ง!
“นี่ใช่…เคล็ดกระบี่อยู่ที่ใจ ขอบเขตที่ 3 ของเคล็ดวิชาบำเพ็ญจิตเต๋ากระบี่สูงสุดที่เซียนกระบี่ฟงชิงหยางคิดค้นขึ้นในปีนั้นใช่หรือไม่?”
เซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ทั้งหลาย อดไม่ได้ที่จะหนาวสะท้านอยู่ในใจ
ต่อให้เมื่อครู่เป็นพวกมันที่ไปเผชิญหน้ากับกระบี่ของต้วนหลิงเทียน ต่อให้พวกมันจะโชคดีหนีตายมาได้ แต่ก็ต้องบาดเจ็บสาหัสแน่นอน!
และหากต้วนหลิงเทียนส่งกระบี่บินออกมาอีกสัก 2-3 กระบี่ พวกมันก็ทำได้แค่ยอมตายแต่โดยดีเพราะไม่มีหนทางจะปัดป้องได้เลย…
“ว่ากันว่ายามที่ต้วนหลิงเทียนบีบคั้นให้ตี้เฉิน เซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ของเผ่ามังกรผู้นั้นคุกเข่าโขกหัวขอชีวิต ต้วนหลิงเทียนได้สำแดงเคล็ดที่ 4 ของยอดใจกระบี่เรียกว่ากระบี่ใจกระจ่างออกมา! ยังใช้ออกด้วยกระบวนท่าในตำนานที่เซียนกระบี่ฟงชิงหยางในปีนั้นใช้งานจนโด่งดัง…กายกระบี่รวมหนึ่ง!!”
“วันนั้น…เห็นว่าพลังอานุภาพเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์!”
“ลำพังแค่กระบี่บินอันฉับไวเหลือเชื่อนั่น ก็มีพลังเข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ได้ง่ายๆแล้ว….”
“ข้าเชื่อว่าต้วนหลิงเทียนมิต้องลำบากอันใดมากมาย เพียงสำแดงขอบเขตที่ 3 ของยอดใจกระบี่ เคล็ดกระบี่อยู่ที่ใจ ควบคุมกระบี่บินเข่นฆ่าเข้ามาจริงๆ อย่าว่าแต่เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์เลย กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ยังไม่มีปัญญาจะรับ! นับประสาอะไรกับขอบเขตที่ 4 ของยอดใจกระบี่…”
หลังจากฆ่าติงอี่เจียนแล้ว จิตสังหารที่เอ่อล้นออกมกาทั่วร่างต้วนหลิงเทียนก็สลายหายไป แรงกดดันอันน่ากลัวที่สะกดข่มบีบคั้นในบรรยากาศก็เริ่มจางหาย พอให้ทุกคนได้หายใจหายคออย่างโล่งอก
‘เจ้า…ขอให้พักผ่อนอย่างสงบ ไปสู่ภพภูมิที่ดี…’
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกอย่างเงียบงันในใจ ก่อนที่จะหันหน้าไปมองขอบฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
เป็นทิศทางเมืองชายแดนเขตตะวันตก ที่ชิวมู่ชิงสมควรตกตายในปีนั้น…
“ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะมิได้ง่ายดายอย่างที่พวกเราเข้าใจ…”
ตอนนี้เองเหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายที่มาชมดูเริ่มรู้สึกว่า เรื่องราวตรงหน้าไม่น่าจะเป็นอย่างที่พวกมันคิดไว้แต่แรก…
เดิมทีพวกมันคิดว่าที่ต้วนหลิงเทียนมาวันนี้ เป็นเพราะคิดล้างแค้นให้เฉินอี้หรูที่เคยมีเรื่องมีราวกับติงอี่เจียนเมื่อ 30 ปีก่อนเท่านั้น…
แต่ทว่าวันนั้นเฉินอี้หรูก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากมาย เพียงติงอี่เจียนขอขมาดีๆเรื่องก็น่าจะจบลงแค่นั้น
แต่คำ ‘เดียรัจฉาน’ ที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกพร้อมด้วยจิตสังหารอันรุนแรงนั่น ทำให้พวกมันตระหนักได้ทันทีว่าเรื่องราวหาได้ง่ายดายเพียงเท่านั้นไม่…
“เป็นไปได้หรือไม่ว่า…”
ในฐานะที่เป็นเซียนอมตะเสเพลที่มารวมตัวบ่มเพาะในสถานที่เดียวกัน พวกมันก็รู้ดีว่าลักษณะนิสัยของติงอี่เจียนเป็นอย่างไร บางคนก็เริ่มคาดเดาอะไรบางอย่างได้แล้ว…
“กลับกันเถอะ”
ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนก็หันไปกล่าวคำกับเฉินอี้หรู ก่อนที่ทั้งสองจะพุ่งร่างหายลับฟ้าไปทันที มาไวไปไวดั่งสายลมนัก พริบตาก็ไร้ซึ่งร่องรอยใดๆ…
แน่นอนว่าในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกับเฉินอี้หรูเหินร่างจากมา ทั้งคู่ไม่ได้มุ่งหน้าไปยังทิศใต้อันเป็นทิศทางที่ตั้งฐานที่มั่นชั่วคราวของ 7 ทวาราเที่ยงแท้แต่อย่างไร ทว่าเลือกที่จะมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกแทน!
จนเมื่อยืนยันได้อย่างแน่ชัดแล้วว่า เหินร่างกันมาจนอยู่นอกระยะรับรู้ของผู้ใด และมั่นใจว่าไม่มีใครลอบสะกดรอยตามมา ต้วนหลิงเทียนก็พาเฉินอี้หรูเหินตีวงโค้งอ้อมไปยังฐานที่มั่นชั่วคราวของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ทันที
ที่ต้วนหลิงเทียนกระทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้มีใครจับทิศทางที่เขากำลังมุ่งหน้าไปได้…
เพราะสุดท้ายแล้วตอนนี้ทั้งเขาและ 7 ทวาราเที่ยงแท้ก็ไม่ต่างอะไรจาก หนามตำตาเผ่ามังกกร…
และตอนนี้เขากำลังจะกลับไปเข้าแดนลับเซียนกระบี่ จึงไม่อยากให้เกิดเรื่องผิดพลาดอะไรขึ้นอีกจนทำให้พลาดการเข้าสู่แดนลับเซียนกระบี่ไป
ระหว่างเดินทางต้วนหลิงเทียนก็ได้จัดการอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลายออกไป และเริ่มให้ความสนใจไปยังเรื่องเข้าสู่แดนลับเซียนกระบี่
‘จากที่ผู้เฒ่าพยากรณ์บอกไว้ คนอื่นๆที่ถือครองกุญแจเข้าสู่แดนลับเซียนกระบี่อยู่ ได้ใช้กุญแจกันหมดแล้วทั้งสิ้น…มีเพียงกุญแจในมือของผู้เฒ่าพยากรณ์ดอกเดียวเท่านั้นที่ยังไม่เปิดใช้งาน จนเมื่อกุญแจดอกสุดท้ายเปิดใช้งานแล้วทางเข้าสู่แดนลับเซียนกระบี่ถึงจะเปิดออกพร้อมๆกันทุกที่!!’
‘แต่ไม่รู้ว่ากุญแจเปิดแดนลับเซียนกระบี่ที่ว่าตอนนี้มันอยูในมือผู้ใดบ้าง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเผ่ามังกรกับเผ่าหงส์ฟ้าไม่เว้นกระทั่งเผ่าปีศาจจะมีด้วยหรือไม่…’
ต้วนหลิงเทียนนั้นรู้เพียงกุญแจเปิดแดนลับเซียนกระบี่ไม่ได้อยู่ที่พวกเขาแค่ดอกเดียว ยังมีดอกอื่นอีกด้วย แต่เขากับผู้เฒ่าพยากรณ์ก็ไม่รู้จริงๆว่าใครถือครองไว้บ้าง…
และตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ…
ว่าสิ่งที่เรียกว่าแดนลับเซียนกระบี่นั้น ไม่ใช่อะไรที่เซียนกระบี่ฟงชิงหยางสร้างขึ้น ยิ่งไม่ได้มีชื่อเรียกกว่าแดนลับเซียนกระบี่ด้วยซ้ำ แต่เป็นเพียงแดนลับที่เซียนกระบี่ฟงชิงหยางมีโอกาสได้เข้าไปเท่านั้น…นามที่แท้จริงยัถูกเรียกว่าแดนลับต่างสวรรค์!
และในตอนนั้นตัวฟงชิงหยางเองก็ได้รับโชควาสนาจากแดนลับต่างสวรรค์ที่ว่าครั้งใหญ่! ถึงทำให้สามารถอาศัยด่านพลังครึ่งก้าวเซียนอมตะแต่ฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์…มีพลังทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!!
และกุญแจเข้าสู่แดนลับต่างสวรรค์ ก็ถูกส่งต่อกันมาใน 7 ทวาราเที่ยงแท้ สุดท้ายก็ถึงมือผู้เฒ่าพยากรณ์!
ด้วยเวลาที่ผ่านมานานเกินไปและไร้ผู้ใดได้เข้าไปอีกเลย ทำให้ผู้เฒ่าพยากรณ์เองก็เข้าใจเรื่องราวผิดเพี้ยนไป…
มันจึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแดนลับเซียนกระบี่ที่มันเข้าใจนั้น ไม่ใช่อะไรที่เซียนกระบี่ฟงชิงหยางสร้างไว้ แต่เป็นแค่แดนลับต่างสวรรค์ที่เซียนกระบี่ฟงชิงหยางมีโอกาสได้เข้าไปเท่านั้น…อีกทั้งหลังจากเข้าไปแล้ว ฟงชิงหยางก็ได้ใช้ลูกเล่นกับกุญแจเล็กน้อย ทำให้ไม่มีผู้ใดเปิดใช้งานกุญแจได้ตามแต่ใจอีกต่อไป และกลายเป็นสิ่งที่สืบทอดกันมาจนถึงทุกวันนี้…
และกุญแจที่ว่ายังจงใจทิ้งไว้ให้ผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้โดยเฉพาะ เพราะมีเพียงผู้สืบทอดนามพิรุณต่อจากฟงชิงหยางเท่านั้นถึงจะเปิดใช้มันได้…!
และตอนนี้ผู้สืบทอดนามหมอกพิรุณก็ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว ต้วนหลิงเทียน!
ต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่ได้รู้เลยว่าสิ่งที่เข้าเข้าใจว่ามันคือแดนลับเซียนกระบี่นั้น ไม่ใช่แดนลับที่เซียนกระบี่ฟงชิงหยางทิ้งมรดกไว้ให้เขาแต่อย่างไร…
เขายังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
ว่าสถานที่ๆเขากำลังจะเข้าไปก็คือ แดนลับต่างสวรรค์ ที่ฟงชิงหยางเคยมีโอกาสได้เข้าไปแสวงโชค รวมถึงกุญแจที่จะเปิดแดนลับเซียนสวรรค์นั้น แต่ละดอกยังอยู่กันคนละระนาบโลกียะด้วยซ้ำ!
กล่าวอีกอย่างได้ว่า ในระนาบโลกกียะแห่งนี้ ดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า…ไม่มีกุญแจดอกที่สองอยู่ในมือใครอีก!
กุญแจดอกที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ….และดอกอื่นๆ อยู่ในระนาบโลกียะอื่นๆ
และต้วนหลิงเทียนก็ยังอาจรู้ได้เลย
ว่าหนึ่งในกุญแจที่จะเปิดเข้าสู่แดนลับเซียนสวรรค์นั้น มันอยู่ในระนาบโลกียะที่มีดาวโลกอันเป็นดาวบ้านเกิดของเขาตั้งอยู่ในระนาบโลกียะแห่งนั้นด้วย
กล่าวได้ว่าทันทีที่กุญแจถูกเปิดใช้ ทางเข้าสู่แดนลับต่างสวรรค์ในระนาบโลกียะทั้งหลาย จะถูกเปิดออกพร้อมกัน…!