บทที่ 1077 กำลังจะพ่ายแพ้

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1077 กำลังจะพ่ายแพ้

บทที่ 1077 กำลังจะพ่ายแพ้

เจียงอวิ้นหลิ่วนั่งลงที่เก้าอี้ด้านหน้าในห้องโถงพร้อมกับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่มีท่าทางและใบหน้าเศร้าหมอง แต่ดวงตาดำขลับคู่นั้นกำลังเปล่งประกาย

สันนิษฐานว่านั่นคือ หลิวเทียนหมิง ลูกชายคนโตของตระกูลหลิว

หลิวเทียนฉือนั่งลงอย่างเหนียมอาย ฟังทั้งสองคุยกันด้วยรอยยิ้มมุมปากของนาง ยิ้มอย่างเขินอายเหมือนสตรีจากตระกูลใหญ่

ข้างหลังนางคือสาวใช้ตัวน้อยและแม่นม ทั้งหมดล้วนเป็นคนที่พวกเขาไม่คุ้นเคย และไม่รู้ว่าเสี่ยวเถากับเสี่ยวเหอหายไปไหน

ครั้นเห็นฮูหยินเจียงเดินเข้ามา หลิวเทียนฉือก็ลุกขึ้นทันทีและเดินไปข้างหน้าเพื่อคำนับ “ฮูหยินเจียง”

ฮูหยินเจียงไม่คาดคิดว่าหลิวเทียนฉือจะทักทายตนเอง ดังนั้นจึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่หลังจากที่ตระหนักได้ ก็จำใจยอมรับคำทักทายของหลิวเทียนฉือ

ฮูหยินเจียงเห็นหลิวเทียนหมิงเดินเข้ามาและมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ตนเอง “ฮูหยินเจียง ที่ผ่านมาเราทำให้ฮูหยินเจียงเดือดร้อนและมีหลายสิ่งผิดพลาด โปรดอภัยให้ข้าด้วยเถิดฮูหยินเจียง”

หลิวเทียนหมิงเป็นคนมีการศึกษาดีและเข้าใจมารยาท ดังนั้นฮูหยินเจียงจึงประทับใจในกิริยาของชายชาตรีที่สงบเสงี่ยมเจียมตัว

นางเคยพบหลิวเทียนฉือมาก่อน ฮูหยินเจียงคิดเสมอว่าบุตรชายของของตระกูลหลิวนั้นก็คงหยิ่งยโสและมีอำนาจเช่นเดียวกับหลิวเทียนฉือ แต่เมื่อได้พบหลิวเทียนหมิงก็รู้สึกว่าช่างแตกต่างออกไป

มีความรู้และมีเหตุผล ประทับใจตั้งแต่แรกพบ

นอกจากนี้ นี่คือบุตรชายคนโตของตระกูลหลิว และภูมิหลังของเขาดีกว่าบุตรสาวที่เกิดจากอนุภรรยาอย่างหลิวเทียนฉือ

ฮูหยินเจียงไม่ใช่คนที่ไว้ใจได้ เมื่อเห็นความเคารพของหลิวเทียนหมิง นางรีบพูดด้วยความเคารพว่า “ไม่เป็นไรหรอกนายน้อยหลิว คนกันเองทั้งนั้น”

หลิวเทียนหมิงดึงตัวหลิวเทียนฉือเข้ามาและพูดด้วยรอยยิ้ม “ฮูหยินเจียง นายท่านเจียง พวกข้ามาในวันนี้เพื่อจะขอขมา”

อาโม่พากู้เสี่ยวหวานกลับบ้าน ระหว่างทางอาโม่วิ่งสุดชีวิตเพื่อหลีกเลี่ยงคนชุดดำเหล่านั้น

คนชุดดำเหล่านั้นไม่กล้าทำอะไรมากนัก เนื่องจากอยู่ในชุดดำจึงกลัวว่าจะเป็นจุดสนใจ เมื่อเห็นว่าไม่พบร่องรอยของอาโม่ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับไปที่บ้านเจียงเพื่อจับกุมอาจั่ว

อาโม่วิ่งกลับไปที่สวนกู้อย่างรวดเร็ว

เฉินจื่อไป๋กำลังรออยู่ที่บ้านอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อเขาเห็นอาโม่รีบวิ่งกลับมาโดยที่มีกู้เสี่ยวหวานอยู่บนหลัง เขาก็ตกใจเช่นกัน “เกิดอะไรขึ้นกับแม่นางกู้”

เขารีบช่วยอาโม่เข้าไปในห้องด้านหลัง แต่กู้เสี่ยวหวานยังคงไม่ได้สติและไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น

กู้ฟางสี่ได้ยินว่ากู้เสี่ยวหวานหมดสติกลับมา นางจึงรีบวิ่งไป ครั้นเห็นว่าหลานสาวของตนสลบไสล หัวใจของนางก็ปวดร้าว “เกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวหวาน”

อาโม่ขมวดคิ้วและพูดว่า “มียาสลบในน้ำชา พวกเราประมาทเกินไป”

“พี่อาจั่วล่ะ” กู้เสี่ยวอี้ถาม

“นางเข้าไปขวางพวกนั้นไว้เพื่อให้เราออกมาก่อน”

อาโม่กล่าวอย่างตำหนิตัวเอง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะตำหนิตัวเอง เรื่องที่ใหญ่กว่าคือต้องทำให้กู้เสี่ยวหวานฟื้นก่อน

เฉินจื่อไป๋ตื่นตระหนกและนั่งลงบนพื้นกล่าวโทษตัวเอง “ทั้งหมดมันเป็นความผิดของข้า มันเป็นความผิดของข้า”

เนื่องจากทุกคนมัวแต่ดูแลกู้เสี่ยวหวาน จึงไม่มีใครสังเกตว่าเฉินจื่อไป๋ได้ไปออกไปจากสวนกู้แล้ว เขาออกไปด้วยความบ้าคลั่ง

ภายในชาของฮูหยินเจียงถูกผสมด้วยยาสลบ เมื่อมันผสมกับกลิ่นหอมของชา อาโม่และอาจั่วไหวตัวทันจึงไม่ได้สูดดมเข้าไปมากนัก แต่กู้เสี่ยวหวานนั้นอยู่ใกล้และได้สูดเข้าไปเต็มปอด ทำให้นางหมดสติไปในที่สุด

“ข้ามียาขับพิษอยู่ ท่านอารีบไปเอาน้ำมาหนึ่งแก้วแล้วป้อนให้นาง” อาโม่หยิบยาออกจากแขนเสื้อของเขาและส่งให้กู้ฟางสี่

กู้ฟางสี่ไม่ได้คิดด้วยซ้ำ เหตุใดอาโม่จึงมียาขับพิษติดตัว แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงป้อนมันให้กู้เสี่ยวหวาน

หลังจากผ่านไปหนึ่งเค่อ กู้เสี่ยวหวานก็เริ่มมีสติและเริ่มรู้สึกตัว

“อาโม่ อาจั่วอยู่ที่ไหน” กู้เสี่ยวหวานรู้สึกงุนงงเมื่อนึกถึงตอนที่ได้ยินอาจั่วตะโกนบอกให้พวกเขาหนีออกมาก่อน

อาจั่วไม่ได้กลับมา นางคงยังติดอยู่ในบ้านตระกูลเจียง

“พี่เฉินล่ะ?”

“ทุกคนค้นหาจนทั่ว และเพิ่งพบว่าเฉินจื่อไป๋หายตัวไป”

“ว่าอย่างไรนะ เมื่อครู่เขายังอยู่ที่นี่”

อาจั่วยังไม่กลับมาและเฉินจื่อไป๋ก็หายตัวไป กู้เสี่ยวหวานเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นในใจ “ไปตระกูลเจียงกันเถอะ พี่เฉินต้องไปชำระบัญชีที่บ้านของตระกูลเจียงเป็นแน่”

แต่อาโม่ปฏิเสธ หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรเขาก็ไม่ให้กู้เสี่ยวหวานไป และตนเองมุ่งหน้าไปที่นั่นพร้อมฉือโถว

แต่เปล่าประโยชน์

ไม่มีร่องรอยของเฉินจื่อไป๋

อาจั่วยังติดอยู่ภายในบ้านตระกูลเจียง ควรทำอย่างไรดี

กู้เสี่ยวหวานก็ตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ตระกูลเจียงกำลังจะจัดงานแต่งงานในไม่ช้า

ข่าวที่ว่าหลิวเทียนฉือกลับมาที่เมืองหลิวเจียและต้องการแต่งงานกับเจียงหย่วน ดูเหมือนข่าวจะแพร่กระจายไปทั่วเมือง

กู้เสี่ยวหวานไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเหตุใดครอบครัวเจียงจึงจัดงานรื่นเริงในเวลานี้

ตอนนี้ไม่รู้ว่าเกาเยว่เหมยจะอยู่หรือตาย ไม่รู้ว่าอาจั่วเป็นอย่างไรบ้าง แล้วไหนจะเฉินจื่อไป๋ที่หายตัวไปอีก

การหายตัวไปของพวกเขาทั้งสามคน ต้องมีความเชื่อมโยงกับตระกูลเจียงเป็นแน่

กู้เสี่ยวหวานใช้เวลาทั้งวันในสวนกู้เพื่อคิดหาวิธี ตระกูลเจียงกำลังจะจัดงานแต่งงาน และในช่วงเวลานี้คนเฝ้ายามเข้มงวดมาก จึงไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปเลย

แม้ว่ากู้เสี่ยวหวานจะมีตำแหน่งเป็นถึงเสี้ยนจู่ แต่นางก็ไม่สามารถเข้าไปในบ้านของใครก็ได้โดยพลการ

ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้ตระกูลเจียงได้จ้างเจ้าหน้าที่จำนวนมากจากศาลาว่าการมาเฝ้าประตู

ถึงกระนั้นอาโม่ก็ยังสามารถแอบเข้าไปได้ถึงสองหรือสามครั้ง แต่ทุกครั้งที่เขากลับมาก็พบว่าไม่ประสบความสำเร็จ และเขาไม่เจอผู้ใดเลย

เมื่อฉินเย่จือกลับถึงบ้าน กู้เสี่ยวหวานรู้สึกกระวนกระวายจนนางแทบจะบ้า

“พี่เย่จือ พี่คิดว่าตอนนี้ควรทำอย่างไรดี” กู้เสี่ยวหวานกังวลมากจนแทบจะหลั่งน้ำตา

เฉินจื่อไป๋ไม่เท่าไรเพราะเขาเป็นผู้ชาย แต่อาจั่วและเกาเยว่เหมยเป็นผู้หญิง

ยิ่งไปกว่านั้น เกาเยว่เหมยถูกพ่อม่ายคนนั้นจับตัวไป ใครจะรู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับนาง?

“หวานเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตระกูลหลิวกลับมาที่เมืองหลิวเจียมีจุดประสงค์อะไร” ฉินเย่จือถามเมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานบอกว่านางไม่รู้ จากนั้นเขาก็เปิดปากพูดอย่างเงียบ ๆ “ระหว่างเดินทางมาที่นี่ ข้าได้ยินคนจากราชสำนักกล่าวว่า ฮ่องเต้ส่งคนสองคนไปตรวจสอบการลักลอบขายเกลือเถื่อน ความเจริญรุ่งเรื่องของตระกูลเจียงใกล้จบลงแล้ว”