บทที่ 1076 กู้เสี่ยวหวานหมดสติ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1076 กู้เสี่ยวหวานหมดสติ

บทที่ 1076 กู้เสี่ยวหวานหมดสติ

ใบหน้าของฮูหยินเจียงเต็มไปด้วยความคับข้องใจ ราวกับว่าการที่กู้เสี่ยวหวานมาที่นี่เพื่อตามหาใครสักคน นางคิดผิดเต็ม ๆ และเป็นการรุกรานตระกูลเจียง

หลังจากนั้น ความคับข้องใจก็แปรเปลี่ยนเป็นความสุขและความตื่นเต้น “เสี้ยนจู่ เราไม่จำเป็นต้องพูดถึงเกาเยว่เหมยแล้ว มานี่สิ นี่คือชาปี้หลัวชุนจากตระกูลเจียงของเรา รสชาติหอมหวาน เจ้ารีบลองชิมดู” หลังจากพูดจบ นางก็หยิบถ้วยชาส่งให้กู้เสี่ยวหวานอย่างกระตือรือร้น

กู้เสี่ยวหวานจะกล้าดื่มได้อย่างไร?

ชาของตระกูลเจียง ใครจะรู้ว่าตระกูลเจียงผสมอะไรลงไปบ้าง

ครั้นเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ยอมดื่ม ฮูหยินเจียงจึงยื่นถ้วยชาไปที่ด้านหน้าของกู้เสี่ยวหวานอย่างกระตือรือร้น กู้เสี่ยวหวานรู้สึกรำคาญจึงปัดถ้วยชากระเด็นตกลงบนพื้นจนเกิดเสียงดัง

เมื่อเห็นชาสาดกระเซ็นเต็มพื้น ฮูหยินเจียงดูเป็นทุกข์เล็กน้อย “เสี้ยนจู่ นี่คือชาปี้หลัวชุนที่ดีที่สุด ช่างน่าเสียดายจริง ๆ”

กู้เสี่ยวหวานรออย่างใจจดใจจ่อและอยากจะรู้ว่าเกาเยว่เหมยอยู่ที่ไหน

ยิ่งเกาเยว่เหมยใช้เวลากับพ่อม่ายนานเท่าไร สถานการณ์ของนางก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น

“ฮูหยินเจียง เกาเยว่เหมยอยู่ที่ไหน และญาติห่าง ๆ ของท่านซ่อนตัวอยู่ที่ไหน” กู้เสี่ยวหวานถามด้วยความโกรธ

“ข้าจะรู้ได้อย่างไร” ฮูหยินเจียงพูดอย่างไม่พอใจ “ญาติห่าง ๆ ของข้ามีปัญหาแปลก ๆ ไม่ว่าเขาจะแต่งงานกับใคร เขาชอบที่จะปิดบังก่อน สามีภรรยาอยู่ด้วยกันมาสักพักแล้ว เจ้าก็รู้ว่าญาติห่าง ๆ ของข้าอายุสี่สิบกว่าปีแล้ว และไม่มีลูกชายกับลูกสาวสักคน ข้าเดาว่าเมื่อมีเรื่องมงคลเมื่อไร พวกเขาก็จะกลับมา”

ครั้นได้ยินสิ่งนี้ กู้เสี่ยวหวานก็ตกตะลึง

เป็นไปได้หรือไม่ว่าเยว่เหมย…

กู้เสี่ยวหวานไม่กล้าแม้แต่จะคิด นางพุ่งไปข้างหน้า ชี้ไปที่หน้าฮูหยินเจียงและสาปแช่ง “ฮูหยินเจียง เกาเยว่เหมยอยู่ที่ไหน รีบส่งตัวนางมา ไม่เช่นนั้นอย่าตำหนิข้าที่หยาบคายกับท่าน!”

ฮูหยินเจียงไม่ได้ใส่ใจกับคำที่กู้เสี่ยวหวานสาปแช่ง “สิ่งที่เสี้ยนจู่พูดนั้นช่างน่าขันจริง ๆ ขายลูกสาวของตัวเอง ข้าจะไปหาได้ที่ไหน ข้าไม่ได้เป็นแม่ของนาง ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่านางอยู่ที่ไหน ถ้าเจ้าอยากรู้ เจ้าก็ไปถามเกาเยว่เหมยดูเอาสิ ชะตากรรมของตนเองอาภัพยิ่งนัก แล้วจะตำหนิใครได้ที่มีแม่แบบนั้น”

ฮูหยินเจียงโต้กลับอย่างไร้มารยาท

ทันใดนั้น อาจั่วก็ได้ยินกลิ่นบางอย่างที่แปลกประหลาด และตะโกนขึ้นฉับไว “คุณหนูรีบปิดปากและจมูกเร็วเข้า”

อาจั่วและอาโม่ดูเหมือนจะได้กลิ่นอะไรแปลก ๆ จึงรีบกลั้นหายใจทันที

แต่มันก็สายเกินไปสำหรับกู้เสี่ยวหวาน

กู้เสี่ยวหวานรู้สึกวิงเวียนศีรษะเล็กน้อยและเริ่มรู้สึกมึนงง อาการวิงเวียนศีรษะทำให้กู้เสี่ยวหวานอ่อนแรง

แต่ยังคงมีสติสัมปชัญญะอยู่เล็กน้อย และเอ่ยขึ้น “เกาเยว่เหมยอยู่ที่ไหน”

อาจั่วรีบปรี่เข้าไปพยุงกู้เสี่ยวหวานไว้ก่อนที่นางจะล้มลง

กู้เสี่ยวหวานสูดดมกลิ่นนั้นมากเกินไป ทำให้นางหมดสติไปในทันที

อาโม่ไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไป เขารีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อพยุงกู้เสี่ยวหวาน จากนั้นแบกกู้เสี่ยวหวานไว้บนหลัง

“พวกเราไปกันเถอะ”

“คิดว่าจะออกจากตระกูลเจียงของข้าได้ง่าย ๆ งั้นหรือ บ้านของข้าไม่ใช่สถานที่ที่นึกจะเข้ามาก็เข้ามา และอยากออกก็ออกไป พวกเจ้ารีบมาจับพวกนางไว้เร็วเข้า!” ฮูหยินเจียงคำรามเสียงกึกก้อง อาโม่ที่แบกกู้เสี่ยวหวานไว้บนหลังและอาจั่วกำลังหมุนกายเตรียมจากไป

ไม่รู้ว่าชายในชุดดำปกปิดใบหน้าจำนวนมากปรากฏตัวมาจากที่ไหน พวกมันใช้ดาบชี้ไปที่พวกกู้เสี่ยวหวาน

จำนวนคนมากขึ้นเรื่อย ๆ และลานบ้านของฮูหยินเจียงก็ถูกล้อบรอบเอาไว้อย่างสมบูรณ์

กู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ ถูกล้อมรอบอยู่ตรงกลาง เมื่อเห็นคนในชุดดำมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจั่วก็ตะโกนสั่ง “อาโม่ รีบพาคุณหนูหนีไป!”

หลังจากพูดจบ นางก็ผลักอาโม่ที่แบกกู้เสี่ยวหวานอยู่บนหลังให้รีบออกไปจากลานบ้านทันที

วิชาตัวเบาของอาโม่นั้นดีมาก ชายในชุดดำเห็นว่าพวกเขาหนีไปจึงรีบไล่ตาม แต่มันจะเทียบกับวิชาตัวเบาของอาโม่ได้อย่างไร แม้ว่าเขาจะแบกกู้เสี่ยวหวานไว้ข้างหลังก็ตาม แต่คนเหล่านั้นก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอาโม่ หลังจากนั้นไม่นาน อาโม่ที่แบกกู้เสี่ยวหวานไว้บนหลังของเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องลอย

เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานหนีไปได้ ฮูหยินเจียงก็กระทืบเท้าด้วยความโกรธ “ข้าจ่ายเงินให้เศษสวะอย่างพวกเจ้าไปโดยเปล่าประโยชน์ แม้แต่เด็กผู้หญิงก็จับไม่ได้ด้วยซ้ำ”

แม้ว่ากู้เสี่ยวหวานจะหนีไปได้ แต่อาจั่วที่ติดตามกู้เสี่ยวหวานมากลับถูกชายในชุดดำจับตัวเอาไว้

ไม่ว่าศิลปะการต่อสู้ของอาจั่วจะเก่งกาจแค่ไหน สองหมัดก็เทียบไม่ได้กับสี่มือ และชายชุดดำจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ปิดกั้นทุกทางช่องทางการหนีรอดของอาจั่ว นางหมดเรี่ยวแรง และในที่สุดอาจั่วก็ถูกฮูหยินเจียงจับตัวไว้ได้

“เจ้าอยู่ในมือของข้า ดังนั้นข้าไม่เชื่อว่ากู้เสี่ยวหวานจะไม่กลับมาเพื่อช่วยเจ้า” ฮูหยินเจียงสั่งให้คนจับอาจั่วไปขังไว้เพื่อรอให้กู้เสี่ยวหวานกลับมาอีกครั้ง

เมื่อฮูหยินเจียงทำสิ่งนี้เสร็จ ก็มีข่าวแว่วมาจากด้านหน้าว่านายท่านเจียงบอกให้นางรีบไปหา

ฮูหยินเจียงจัดการหลายเรื่องมาทั้งวันและก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย “นายท่านมีอะไรหรือ ทำไมถึงรีบร้อนเช่นนี้”

“ข้าไม่รู้สิ นายท่านบอกให้ฮูหยินรีบไปขอรับ” คนรับใช้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “ฮูหยิน คนจากตระกูลหลิวอยู่ที่นี่”

ทันทีที่นางได้ยินว่ามีคนจากตระกูลหลิวกำลังมา ฮูหยินเจียงก็ขมวดคิ้วทันทีและพึมพำว่า “ทำไมผู้หญิงที่ผู้ไร้ยางอายคนนั้นถึงมาที่นี่อีก”

เมื่อนึกถึงหลิวเทียนฉือ ฮูหยินเจียงก็โกรธมาก

ถ้าหลิวเทียนฉือคนนี้แต่งงานกับหย่วนเอ๋อร์ของนางด้วยใจจริง ทำไมวันนี้นางถึงต้องเจอปัญหาใหญ่ขนาดนี้?

ในอดีตนางเคยใจดีกับหลิวเทียนฉือ ผ้าไหมสีแดงเลือดที่ตัวเองกัดฟันซื้อให้นาง นางใช้เงินไปหลายหมื่นตำลึงเงินเพื่อลงทุนกับหญิงคนนั้น

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฮูหยินเจียงก็ยิ่งโกรธมากขึ้น “บอกนายท่านไปว่าข้าเหนื่อยนิดหน่อย ข้าจะไปพักผ่อนก่อน”

คุณหนูคนนี้มาที่นี่เป็นครั้งที่สามแล้ว

ฮูหยินเจียงไม่ต้องการเห็นหลิวเทียนฉืออีกครั้งจริง ๆ

ครั้นได้ยินว่านายหญิงจะไม่ออกไปต้อนรับ คนรับใช้คนนั้นก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย “ฮูหยิน แต่ไม่ใช่แค่หลิวเทียนฉือเท่านั้นที่อยู่ที่นี่ แต่หลิวเทียนหมิง ลูกชายคนโตของตระกูลหลิวก็อยู่ที่นี่ด้วย”

ทันทีที่นางได้ยินว่าหลิวเทียนหมิงมา ฮูหยินเจียงก็ไม่สนใจความเหนื่อยล้าและเดินตามคนรับใช้ออกไปที่ห้องโถงด้านหน้า