บทที่ 1088 หนิงอันสอบผ่านซิ่วไฉ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1088 หนิงอันสอบผ่านซิ่วไฉ

บทที่ 1088 หนิงอันสอบผ่านซิ่วไฉ

เมื่อไม่มีเล่ห์เหลี่ยมของตระกูลเจียง กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกสดชื่นมาก แม้ว่านางจะค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรื่องระหว่างเฉินจื่อไป๋และเกาเยว่เหมย แต่เฉินจื่อไป๋ก็เลือกทางเดินของเขาแล้ว และเกาเยว่เหมยคือสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ

จะเจอหรือไม่ขึ้นอยู่กับโชคของทั้งสองคน

ตราบใดที่เกาเยว่เหมยยังมีชีวตอยู่ มีคนรัก ในที่สุดพวกเขาก็จะแต่งงานกัน

หลังจากเหตุการณ์นี้ อีกเหตุการณ์สำคัญหนึ่งก็เกิดขึ้นในเมืองหลิวเจีย

เฉาซื่อถูกประหารในฤดูใบไม้ร่วงที่ลานประหาร

นี่เป็นครั้งแรกจริง ๆ ที่มีการประหารผู้หญิงเกิดขึ้น และผู้คนทั้งหมดในเมืองหลิวเจียต่างพากันไปที่ลานประหารเพื่อดูการตัดศีรษะ

กู้ฉวนโซ่วกล่าวว่า เขาจะเป็นผู้ชายหรือไม่นั้น ไม่ต้องให้เฉาซินเหลียนมาเป็นกังวล ไม่ต้องกังวลจริง ๆ และได้ยินมาว่าเขาได้แต่งงานกับหญิงม่ายคนหนึ่งในภายหลัง และได้ยินมาว่าสามีของหญิงม่ายเสียชีวิตไปนานแล้ว และนางก็ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว

เมื่อหญิงม่ายแต่งงานกับกู้ฉวนโซ่ว ก็ได้ยินมาอีกว่านางท้องได้หลายเดือนแล้ว ครั้นลองคิดดูแล้ว เด็กในท้องคงจะเป็นลูกของกู้ฉวนโซ่ว

ได้ยินมาว่าก่อนที่เฉาซินเหลียนจะถูกตัดศีรษะ หญิงม่ายได้ให้กำเนิดลูกชายคนหนึ่ง ซึ่งหน้าตาคล้ายคลึงกับกู้ฉวนโซ่ว

กู้ฉวนโซ่วจงใจพาลูกชายแรกเกิดไปที่ห้องขังของเฉาซินเหลียน และได้ยินว่าเฉาซินเหลียนไม่ได้โกรธเคืองแต่อย่างใด

เฉาซินเหลียนถูกประหารชีวิต กู้ฉวนโซ่วมีลูกชายอีกคน กู้ถิงถิงและกู้ซุ่นสีซึ่งได้รับการเลี้ยงดูในบ้านของหญิงม่ายจึงกลายเป็นส่วนเกินของครอบครัว

เนื่องจากกู้ซุ่นสีเป็นลูกชาย กู้ฉวนโซ่วจึงเก็บเขาไว้และส่งกู้ถิงถิงกลับไปยังครอบครัวของเฉาซินเหลียน โดยอ้างว่าครอบครัวไม่สามารถเลี้ยงดูคนจำนวนมากได้

และเกิดอะไรขึ้นต่อหลังจากนั้นไม่มีใครล่วงรู้ได้

ดูเหมือนว่าตอนนี้ในเมืองหลิวเจียจะไม่มีข่าวคราวของกู้ซินเถา แต่เมื่อมีผู้คนเอ่ยถึงนาง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ หญิงคนนี้ช่างไร้ยางอายจริง ๆ

ครึ่งปีผ่านไป…

ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า

ปีนี้กู้เสี่ยวหวานโตขึ้นอีกหนึ่งปี ตอนนี้นางก็มีอายุสิบสี่ปีและก้าวเข้าสู่ช่วงวัยสาวอย่างเต็มตัว ถ้าเป็นในชาติก่อน นางคงจะสามารถมีความรักได้แล้วจริง ๆ

ปีนี้กู้หนิงอันได้เข้าร่วมการสอบอีกครั้ง หลังจากรายชื่อถูกประกาศ ครั้งนี้ผลคะแนนการสอบของเขาได้ที่หนึ่ง ได้รับการยอมรับว่าเป็นบัณฑิต ในชั่วข้ามคืน ชื่อเสียงของตระกูลกู้ในเมืองหลิวเจียกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ไม่มีวันสั่นคลอน และไม่มีใครสามารถทำให้พวกเขาขุ่นเคืองได้

ตระกูลจ้าวปฏิบัติต่อกู้เสี่ยวหวานด้วยความเคารพ และไม่กล้าพูดถึงความคิดที่จะให้กู้เสี่ยวหวานมาเป็นสะใภ้ของตระกูลอีกต่อไป โนเวลพีดีเอฟ

ตระกูลกู้ได้กลายเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหลิวเจีย

ตราบใดที่ทุกคนกล่าวถึงสวนกู้ พวกเขาทั้งหมดจะกล่าวถึงตระกูลกู้ด้วยความเคารพ และเมื่อพวกเขาพูดถึงกู้เสี่ยวหวาน พี่สาวคนโตของตระกูลกู้ พวกเขาต่างจะยกย่องนางอย่างชื่นชม

ไม่เพียงแต่ในเมืองหลิวเจีย แต่ยังรวมถึงในเมืองรุ่ยเสียนด้วย ตระกูลกู้ค่อย ๆ รุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ

กู้หนิงอันได้รับการยอมรับว่าเป็นบัณฑิต ซึ่งเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ในเมืองหลิวเจียเพื่อแสดงความยินดี

ในวันที่ประกาศรายชื่อ กู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือมุ่งหน้าไปยังเมืองรุ่ยเสียนเพื่อดูประกาศด้วยตนเอง

เมื่อเห็นรายชื่อถูกติดประกาศ และรายชื่อแรกคือกู้หนิงอัน กู้เสี่ยวหวานรู้สึกตื้นตันจนพูดไม่ออก

ได้ยินเพียงเสียงโห่ร้องและเสียงถอนหายใจจากคนรอบข้าง

กู้เสี่ยวหวานมองที่ชื่อ ‘กู้หนิงอัน’ สามคำที่เขียนไว้และรู้สึกตื่นเต้นมาก

“ในที่สุด…ข้าว่าแล้วเชียว”

ในที่สุดน้องชายของนางก็สอบผ่าน กู้เสี่ยวหวานร้องไห้ด้วยความปลื้มปีติ

หญิงสาวโอบรอบเอวของฉินเย่จือและเงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างตื่นเต้น นางไม่สนใจสายตาประหลาดใจจากคนรอบข้าง และกระโดดขึ้นอย่างมีความสุข “พี่เย่จือ หนิงอันสอบผ่านแล้ว หนิงอันสอบผ่านแล้ว”

ฉินเย่จือก้มศีรษะลงมองดูท่าทางตื่นเต้นของกู้เสี่ยวหวานด้วยความรัก

การกระทำของกู้เสี่ยวหวานในขณะนี้ ในสายตาของผู้อื่นคงดูไม่เหมาะสม หากแต่ในใจของเขากลับเต็มไปด้วยความสุข

นี่คือหวานเอ๋อร์ที่เป็นของเขาคนเดียว

ไม่ว่าเวลาไหน ตราบใดที่นางยิ้มให้เขา หัวใจของเขาก็หวานราวกับกินน้ำผึ้ง

ฉินเย่จือไม่สนใจสายตาแปลกประหลาดของผู้คนรอบข้าง แล้วเคาะจมูกของกู้เสี่ยวหวานแผ่วเบา ก่อนเอ่ยเคล้ารอยยิ้ม “เจ้าสามารถวางใจได้แล้ว”

ปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างชายหน้าตาหล่อเหลาและสตรีอันงดงาม เมื่ออยู่ต่อหน้ารายชื่อสีแดงแผ่นใหญ่นั้นจึงดูงดงามราวกับภาพวาด

ชายหญิงรูปงามล้วนสวมใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส และปฏิบัติตัวด้วยความสนิทสนม เด็กรอบ ๆ ต่างมองเขาด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่ได้มีความรู้สึกเกลียดชังเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับรู้สึกถึงความริษยาในใจ

ทุกคนต่างมองคู่สร้างคู่สมคู่นี้ด้วยความอิจฉา และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคงจะดีไม่น้อยหากพวกเขามีความรักในวัยเด็กเช่นนี้

กู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือกุมมือกันแน่นและเดินจากไป ในขณะที่พวกเขาเดินจากไปไกล ดูเหมือนว่ายังคงได้ยินเสียงหัวเราะที่มีเสน่ห์ของหญิงผู้นั้น และเสียงทุ้มลึกมีเสน่ห์ของชายผู้นั้น ทุกสายตาจ้องมองไปที่แผ่นหลังของพวกเขาอย่างเหม่อลอย

ริษยา ริษยา ตอนนี้เหลือแต่ความริษยา

ข่าวการสอบผ่านของกู้หนิงอัน ทุกคนทราบข่าวด้วยความรวดเร็ว กู้เสี่ยวหวานไม่ได้กลับไปที่เมืองหลิวเจียทันที แต่ขอให้อาโม่ไปส่งข่าวที่สวนกู้โดยเร็ว

และนางอยากจะจัดงานฉลอง จึงคิดจัดงานฉลองขึ้นในเมืองรุ่ยเสียน

ดังนั้นอาโม่จึงขับรถม้าและพาผู้คนทั้งหมดไปที่เมืองรุ่ยเสียน โดยตั้งใจที่จะไปเฉลิมฉลองให้กู้หนิงอันโดยเฉพาะ

เนื่องจากฉินเย่จือกล่าวว่าหลังจากนั้นไม่นาน เขาจะพากู้เสี่ยวหวานไปที่ภูเขาหมิน

คาดว่าการเดินทางครั้งนี้จะใช้เวลานานหลายเดือน

ก่อนหน้านั้นให้นางพาทุกคนไปที่เมืองรุ่ยเสียนเพื่อเปิดหูเปิดตาและชมทิวทัศน์ของเมืองนี้ มีคนในครอบครัวมากมายไม่เคยออกจากเมืองหลิวเจียเลย

เมื่อกู้หนิงอันทราบข่าวว่าเขาสอบผ่านแล้ว เขาก็ไปที่หอหนังสืออวี้ทันทีเพื่อขอบคุณอาจารย์

สวีเซียนหลินและสวีเฉิงเจ๋อรู้อยู่แล้วว่าในครั้งนี้กู้หนิงอันจะได้รับการยอมรับในฐานะบัณฑิตอย่างแน่นอน

เมื่อปีที่แล้วกู้หนิงอันสอบผ่านแล้ว หากไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ของกู้จือเหวิน ในเวลานี้กู้หนิงอันคงจะได้เรียนอยู่ที่เมืองรุ่ยเสียน

สวีเฉิงเจ๋อมีความสุขมาก ดังนั้นเขาจึงแนะนำให้ทุกคนเฉลิมฉลอง