ตอนที่ 1078 ซาบซึ้งจนวันตาย

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1078 ซาบซึ้งจนวันตาย

เมื่อเห็นอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนมู่หรงเหยี่ยนเดินข้ามธรณีประตูเรือนหน่วนฮวาเข้ามาด้านใน ไป๋จิ่นจื้อทำความเคารพชายหนุ่มเพราะถือว่าเขาคือแขกคนหนึ่ง “ท่านอ๋องเก้า…”

มู่หรงเหยี่ยนปลดเสื้อคลุมขนจิ้งจอกออก จากนั้นทำความเคารพกลับไป๋จิ่นจื้อ “เกาอี้จวิน”

นางกำนัลก้าวไปรับเสื้อคลุมขนจิ้งจอกมาจากมู่หรงเหยี่ยน จากนั้นถอยหลังไปอย่างนอบน้อม

“เชิญท่านอ๋องเก้านั่งก่อน…” ไป๋จิ่นจื้อผายมือเชิญมู่หรงเหยี่ยนยิ้มๆ ด้วยท่าทีที่สุขุมกว่าเมื่อก่อนมาก ตอนนี้นางเป็นถึงเกาอี้จวิน ไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสาและเอาแต่ใจอย่างที่มู่หรงเหยี่ยนเคยเห็นอีกต่อไปแล้ว

มู่หรงเหยี่ยนเข้าใจว่าไป๋ชิงเหยียนให้เว่ยจงพาเขามารับประทานอาหารร่วมกับทุกคนเพราะต้องการบอกเรื่องข้อตกลงระหว่างต้าโจวและต้าเยี่ยนให้ไป๋ชิงอวี๋และไป๋จิ่นจื้อรู้

ไป๋ชิงอวี๋รู้ฐานะที่แท้จริงของเขาตั้งแต่แคว้นต้าโจวยังไม่สถาปนาขึ้น ทว่า ไป๋จิ่นจื้อที่อยู่ใกล้ชิดกับไป๋ชิงเหยียนมาโดยตลอดคงยังไม่รู้เรื่องนี้

มู่หรงเหยี่ยนพยักหน้า จากนั้นนั่งลงตรงฝั่งตรงข้ามไป๋ชิงอวี๋ สายตาดำขลับภายใต้หน้ากากจ้องไปยังไป๋ชิงอวี๋นิ่ง

นางกำนัลรินน้ำชาให้มู่หรงเหยี่ยน ไป๋จิ่นจื้อแนะนำไป๋ชิงอวี๋ให้มู่หรงเหยี่ยนรู้จัก “นี่คือน้องชายแท้ๆ ของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว พี่ชายห้าของข้า…”

“ข้าเคยพบคุณชายห้ามาก่อน…” มู่หรงเหยี่ยนยิ้มออกมาน้อยๆ

เมื่อคิดได้ว่าสุดท้ายแล้วมู่หรงเหยี่ยนยอมรับผิดชอบแต่งงานกับพี่หญิง อีกทั้งยอมสละฐานะของเซียวหรงเหยี่ยนทิ้งไป ไป๋ชิงอวี๋จึงพอใจในตัวชายหนุ่มขึ้นมาก ที่พี่หญิงเชิญมู่หรงเหยี่ยนมารับประทานอาหารพร้อมกับเขาและเสี่ยวซื่อคงเป็นเพราะอยากเปิดเผยฐานะของชายหนุ่มให้เสี่ยวซื่อรับรู้ ให้พวกเขาอยู่กันอย่างปรองดอง

ไป๋ชิงอวี๋ไม่อยากให้พี่หญิงผิดหวังจึงรับคำของมู่หรงเหยี่ยน “ใช่แล้ว อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนมีวาสนากับตระกูลไป๋มาก…”

ไป๋จิ่นจื้อฟังออกว่าทั้งสองคนกำลังกล่าวเป็นนัยๆ ทว่า ยังไม่ทันเอ่ยถามพี่ชายห้าของตัวเองก็เห็นบรรดานางกำนัลเดินถืออาหาร สุรา ผลไม้สด ของว่างและขนมต่างๆ เข้ามาด้านในเสียก่อน

“เหตุใดพี่หญิงใหญ่ยังไม่มาอีก” ไป๋จิ่นจื้อหันไปถามเว่ยจงที่กำลังมองดูนางกำนัลจัดเรียงอาหาร

เว่ยจงรีบตอบคำถามไป๋จิ่นจื้อด้วยท่าทีนอบน้อม “เรียนเกาอี้จวิน เมื่อครู่ฝ่าบาททรงรับสั่งให้จัดอาหารขึ้นโต๊ะได้เลยขอรับ ฝ่าบาทใกล้เสด็จมาแล้วขอรับ”

ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้า นางมองไปทางมู่หรงเหยี่ยนที่สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าแวบหนึ่ง จากนั้นมองไปทางพี่ชายห้า ทั้งสองคนล้วนใส่หน้ากาก เช่นนี้จะรับประทานอาหารได้อย่างไรกัน…

พี่ชายยังไม่เท่าใดเพราะสวมหน้ากากเพียงครึ่งเดียว ทว่า อ๋องเก้ามู่หรงเหยี่ยนจะรับประทานอาหารเช่นไรกัน

ไม่รู้ว่าไป๋จิ่นจื้อคิดสิ่งใดอยู่จึงเกือบหลุดหัวเราะออกมา สาวน้อยรีบใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากของตัวเองทันที

เมื่อเห็นชุนจือแหวกม่านให้ไป๋ชิงเหยียนเดินเข้ามา ไป๋จิ่นจื้อรีบลุกขึ้นยืน “พี่หญิงใหญ่”

ไป๋ชิงอวี๋และมู่หรงเหยี่ยนลุกขึ้นยืนเช่นเดียวกัน

“คนกันเองรับประทานอาหารร่วมกันไม่จำเป็นต้องมากพิธี นั่งลงเถิด” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางมู่หรงเหยี่ยนยิ้มๆ จากนั้นเดินไปยังที่นั่งของตัวเองด้านหน้าสุด

“คนกันเองอย่างนั้นหรือ” ไป๋จิ่นจื้อไม่เข้าใจ สาวน้อยนั่งลงพลางมองไปทางมู่หรงเหยี่ยน

อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนกลายเป็นคนกันเองกับพวกนางตั้งแต่เมื่อใดกัน

ทว่า อยู่ต่อหน้าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน ไป๋จิ่นจื้อจึงไม่กล้าถามออกไป

นางกำนัลถือกะละมังน้ำ กาน้ำชาและผ้าเช็ดมือเข้ามาจากทางประตูด้านข้างสองฝั่ง พวกนางนั่งลงด้านหลังไป๋ชิงเหยียน ไป๋จิ่นจื้อ มู่หรงเหยี่ยนและไป๋ชิงอวี๋เพื่อปรนนิบัติทุกคนล้างมือ บ่าวรับใช้สองคนยกกระถางธูปหอมทรงสัตว์มงคลเข้ามาวางไว้กลางเรือน

ด้านข้างของกระถางธูปหอมโปร่งใสจนมองเห็นไฟที่ปะทุอยู่ด้านในกระถาง นางกำนัลสองคนแบกหมูย่างทั้งตัวเข้ามาด้านใน หมูที่ย่างสุกจนหนังกลายเป็นสีน้ำผึ้งส่งกลิ่นหอมยั่วยวนมาแต่ไกล

นางกำนัลที่ล้างมือจนสะอาดแล้วคุกเข่าลงข้างเตาผิง จากนั้นหันเนื้อหมูออกเป็นชิ้นบางๆ วางลงบนจานกระจก นางกำนัลวางจานเนื้อหมูย่างลงตรงหน้าเจ้านายทุกคน จากนั้นถอยหลังไปอย่างนอบน้อม

“เว่ยจง ที่นี่ไม่ต้องการคนคอยรับใช้ เจ้าพาทุกคนออกไปเถิด” ไป๋ชิงเหยียนใช้ผ้าขนหนูเช็ดมือพลางกล่าวขึ้น

“พ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อเว่ยจงพานางกำนัลซึ่งยืนอยู่เต็มห้องจากไป ไป๋ชิงเหยียนหันไปทางไป๋จิ่นจื้อ “อาอวี๋ เสี่ยวซื่อ อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนผู้นี้คือพี่เขยของพวกเจ้า…”

ไป๋จิ่นจื้อเบิกตาโพลง “พี่หญิงใหญ่จะแต่งงานเชื่อมไมตรีกับต้าเยี่ยนหรือเจ้าคะ!”

แต่งงานทางการเมืองอย่างนั้นหรือ

ไป๋จิ่นจื้อกำหมัดแน่น นางมองไปทางมู่หรงเหยี่ยนด้วยแววตาไม่เป็นมิตร “พี่หญิงใหญ่ทำเพื่อสัญญาพันธมิตรระหว่างสองแคว้นหรือเจ้าคะ หากนี่คือข้อตกลงที่ต้าเยี่ยนเสนอให้พวกเรา ข้าไม่เห็นด้วยเจ้าค่ะ!”

พี่หญิงใหญ่เคยกล่าวไว้ว่าจะไม่ปล่อยให้สตรีของต้าโจวแต่งงานเชื่อมไมตรีกับแคว้นอื่น ทว่า นางจะปล่อยให้พี่หญิงใหญ่เสียสละความสุขทั้งชีวิตของตัวเองไม่ได้เด็ดขาด

“พี่หญิงใหญ่รักพี่เขยมาก เสี่ยวซื่อเชื่อว่าหากพี่เขยรู้ว่าพี่หญิงใหญ่จะแต่งตั้งสามีคนใหม่ เขาต้องอยากให้พี่หญิงใหญ่เลือกคนที่พี่หญิงใหญ่รักอย่างแท้จริง ไม่ใช่เสียสละตัวเองเพื่อแคว้นเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นจื้อกล่าวอย่างโมโห จู่ๆ นางก็นึกถึงพี่เขยที่ป่วยหนักจนเสียชีวิตขึ้นมา นางเริ่งสงสัยว่าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนคนนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของพี่เขยของนาง “อ๋องเก้าผู้นี้สวมหน้ากากทั้งวัน ผู้ใดจะรู้ว่าใบหน้าของเขาอัปลักษณ์หรือดูดีกันแน่เจ้าคะ!”

ถึงแม้จะสงสัย ทว่า ไป๋จิ่นจื้อไม่มีหลักฐานจึงไม่กล้ากล่าวออกมา มิเช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้นได้

ไป๋ชิงอวี๋ได้ยินคำกล่าวของไป๋จิ่นจื้อจึงเม้มปากแน่น รักพี่เขยมากอย่างนั้นหรือ พี่หญิงใหญ่รักมู่หรงเหยี่ยนจริงๆ อย่างนั้นสินะ

ไป๋จิ่นจื้อยืดแผ่นหลังตรง จากกำหมัดคารวะไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่ได้โปรดไตร่ตรองเรื่องนี้ให้ดีอีกรอบเถิดเจ้าค่ะ”

มู่หรงเหยี่ยนเงยหน้าถอดหน้ากากบนใบหน้าของตัวเองออก จากนั้นเงยหน้ามองไปทางไป๋จิ่นจื้อ “เสี่ยวซื่อปกป้องเหยี่ยนจนถึงเพียงนี้ เหยี่ยนจะซาบซึ้งจนวันตาย”

ไป๋จิ่นจื้อได้ยินเสียงของมู่หรงเหยี่ยนจึงหันกลับไปมอง เมื่อเห็นใบหน้าของชายหนุ่มชัดเจนจึงเบิกตาโพลง จากนั้นลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ “ท่าน…”

“เซียวหรงเหยี่ยนคือนามปลอมของมู่หรงเหยี่ยน พี่เขยของเจ้าปลอมตัวเป็นพ่อค้าเซียวหรงเหยี่ยนเพื่อเดินทางไปทำการค้าตามแคว้นต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้น” ไป๋ชิงเหยียนอธิบายให้ไป๋จิ่นจื้อที่มีท่าทีตกใจฟัง

มู่หรงเหยี่ยนวางหน้ากากลงบนโต๊ะด้านข้าง จากนั้นลุกขึ้นยืนคำนับไป๋จิ่นจื้อ “ก่อนหน้านี้ข้าจำเป็นต้องหลอกเสี่ยวซื่อด้วยความจนใจ ข้าต้องปกปิดฐานะของตัวเองเพื่อต้าเยี่ยน หวังว่าเสี่ยวซื่อจะไม่ถือสา”

“ทว่า…” ไป๋จิ่นจื้อยังไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง

พี่หญิงใหญ่กล่าวว่าพี่เขยยังมีชีวิตอยู่ ทว่า นางนึกไม่ถึงเลยว่าเซียวหรงเหยี่ยนจะคือมู่หรงเหยี่ยน!ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

เซียวหรงเหยี่ยนคือคนละคนกับมู่หรงเหยี่ยนชัดๆ คนหนึ่งคือผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนที่โหดร้ายอำมหิต แม้นางจะไม่เคยพบผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนมาก่อน ทว่า เคยได้ยินความโหดร้ายของชายหนุ่มมามาก เรียกว่าเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจ สังหารคนโดยไม่ลังเลสักนิด!

ส่วนเซียวหรงเหยี่ยนคือพ่อค้าอันดับหนึ่งแห่งแคว้นเว่ย เขามีบุญคุณต่อตระกูลไป๋ เป็นคนรักของพี่หญิงใหญ่ เป็นพ่อค้าที่สุขุมอ่อนโยน เมื่ออยู่ใกล้เขาจะรู้สึกสงบราวกับลมในฤดูใบไม้ผลิ ที่สำคัญเซียวหรงเหยี่ยนคือบุรุษหนุ่มผู้มากความสามารถ บทกลอนของเขามีชื่อไปทั่วทุกแคว้น ได้รับคำชื่นชมจากบัณฑิตมากมาย เขามีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลสูงศักดิ์ของทุกแคว้น มีสหายอยู่ทั่วทั้งใต้หล้า

สองคนนี้จะกลายเป็นคนเดียวกันได้อย่างไร!

ไป๋จิ่นจื้อเห็นท่าทีสงบนิ่งของพี่ชายห้าจึงรู้ทันทีว่าพี่ชายห้ารู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว มีเพียงนางเท่านั้นที่ไม่รู้เรื่องอันใดเลย ไป๋จิ่นจื้อที่ใจขุ่นมัวเล็กน้อยหันไปมองพี่หญิงใหญ่ของตัวเอง