บทที่ 1087 แผนการใหม่ของเถียนเสี่ยวเหอ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1087 แผนการใหม่ของเถียนเสี่ยวเหอ

บทที่ 1087 แผนการใหม่ของเถียนเสี่ยวเหอ

“แต่เสี่ยวเฉ่าไม่ใช่สมาชิกบ้านเราอีกต่อไปแล้วนะ!” ซูผิงอันโน้มน้าว

ประโยคนี้ทำภรรยาโกรธจัด

ไม่ใช่สมาชิกบ้านเราแล้วยังไง?

แค่เลี้ยงมันจนโตก็ถือว่าเป็นบุญคุณอันใหญ่หลวงแล้วไม่ใช่หรือ?

“แล้วยังไง? บุญคุณที่เลี้ยงดูจนโต ตบ ๆ ตูดนิดหน่อยก็จบแล้วงั้นเรอะ? เป็นไปไม่ได้ พ่อแม่คุณมันโง่ โดนหลอกเข้าแล้วละสิ ฉันไม่โดนหลอกง่าย ๆ หรอก!”

“อยากจะถุยเหลือเกิน เมื่อก่อนก็มองไม่ออกหรอกนะว่าซูเสี่ยวเฉ่ามันเจ้าเล่ห์ เห็นท่าทางซื่อ ๆ ที่ไหนได้เอาแต่หลอกชาวบ้าน!”

“ถุย แม่เซี่ยเยี่ยนอี้ นังแพศยาหน้าด้าน ไอ้ลูกไม่มีพ่อ!”

ซูผิงอันไม่กล้าพูดต่อ จึงรีบหาเรื่องอื่นคุยแทน

วันที่สาม เถียนเสี่ยวเหอเดินทางไปบ้านซู และตั้งใจจะหารือกับซูเสี่ยวเฉ่า (ไม่ว่ามันจะชื่ออะไรสำหรับเธอ มันก็คือซูเสี่ยวเฉ่า มองมุมไหนก็คงเป็นน้องสามีเหมือนเดิม) เรื่องเจ้าของสร้อยคอ

“เสี่ยวเหอมาเรอะ? ว่างงานหรือไง?”

เหลียงซิ่วเอ่ย

นึกประหลาดใจที่จู่ ๆ อีกฝ่ายก็มาหา

ว่ากันตามหลักแล้วเราไม่ได้ญาติดีอะไรสักนิดเดียว อีกฝ่ายจึงไม่น่าเป็นฝ่ายถ่อมาหาเองสิ

“คุณอา ตอนนี้ครอบครัวเราก็เป็นญาติกันแล้ว เจ้าเสี่ยวเฉ่ามันเพิ่งจะแต่งงาน แต่กลับไม่รู้จักไปอวยพรปีใหม่ให้พวกพี่ชายพี่สะใภ้บ้างเลย ฉันจึงต้องมาเองไง!”

เหลียงซิ่วเข้าใจถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงดี ‘นี่คิดมาหาเรื่องถึงบ้านเลยว่างั้น?’

แต่นี่มันช่วงปีใหม่ เถียนเสี่ยวเหอเป็นลูกสะใภ้ของครอบครัวผู้ใหญ่บ้านด้วย ตนจึงไม่มีเจตนายั่วยุ

“เยี่ยนอี้กับซานกงกลับเมื่อวานไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่งั้นไปหาเองไหมล่ะ!”

เถียนเสี่ยวเหอได้ยินเพียงประโยคเดียว

“เยี่ยนอี้กับซานกงกลับไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว!”

ทำไมกะทันหันขนาดนี้?

ไปไม่ลาเลยหรือ?

ทันใดนั้นสีหน้าของหญิงสาวก็แปรเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดไม่น้อย

เป็นไปได้ยังไงกัน?

“ทำไมจู่ ๆ ก็กลับล่ะ?”

นังสารเลวซูเสี่ยวเฉ่ามันกลับเมืองหลวงเนี่ยนะ แล้วสร้อยของเธอจะทำยังไงล่ะ?

ในหัวเจ้าตัวเอาแต่คิดเรื่องนี้

ไม่บรรลุเป้าหมายเสียแล้ว

หญิงสาวกัดฟันกรอด สั่นเทิ้มทั่วทั้งร่าง

เธอคิดว่านังนั่นมันจะต้องรู้แผนการแน่ ๆ ไม่งั้นทำไมจู่ ๆ ก็ไปเสียล่ะ?

เถียนเสี่ยวเหอไม่ใช่คนที่เต็มใจยอมแพ้

เธอจึงรีบคิดอย่างรวดเร็ว

ก่อนจะมีแผนการอื่นปรากฏขึ้นในใจ

อาจารย์เซี่ยหนานก็เป็นคนเมืองกรุงไม่ใช่หรือไง?

อาจารย์มหาวิทยาลัยถือเป็นคนมีหน้ามีตา

บอกให้อีกฝ่ายหางานในเมืองหลวงให้ตนทำดีกว่า

คงจะดีถ้าหาให้สามีด้วย

ความคิดเถียนเสี่ยวเหอช่างบรรเจิดเป็นอย่างยิ่ง

ไม่ว่าจะตำแหน่งผู้อำนวยการหรือรองผู้อำนวยการก็วางไว้อย่างดิบดีแล้ว

สิ่งเดียวที่พลาดคือพ่อสามีสอดมือเข้ามาเสียแล้ว

เพื่อขัดขวางแผนการนั่น ซูฉางจิ่วจึงบอกชาวบ้านทุกคนว่าเถียนเสี่ยวเหอไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้

คนที่เคยทำลายฟาร์มเพาะพันธุ์มาก่อน ย่อมไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้ดีหรอก

ทั้งยังบอกให้พวกชาวบ้านคิดถึงชีวิตที่ดีในภายภาคหน้าด้วย

หลายคนที่ลังเลว่าจะลงคะแนนเสียงให้กับเถียนเสี่ยวเหอดีไหม แต่ก็นึกใบหน้าผู้ใหญ่บ้านขึ้นมาก่อนจะรู้สึกตัว

นี่เป็นฟาร์มเพาะพันธุ์ของกิจการหมู่บ้าน ถ้าถูกทำลายผลประโยชน์ย่อมสูญเสียไปแน่

ถึงจะไม่ได้เรียนมาสูง แต่ทุกคนล้วนเป็นมนุษย์

เพราะเรื่องนี้ เถียนเสี่ยวเหอถงได้เอาแต่โวยวาย

แต่แม่สามีไม่อยู่ ในฐานะลูกสะใภ้จึงตามราวีพ่อสามีทุกวี่ทุกวัน

ซูฉางจิ่วหาทางหลีกเลี่ยงนานพอสมควร จนอีกฝ่ายไม่สามารถทำอะไรได้

สุดท้ายก็ทำได้เพียงกล้ำกลืนแล้วเฝ้ามองผู้อื่นดูแลฟาร์มไป

แม้แต่ในฝันยังเป็นเรื่องนี้ ถ้าได้เธอไปดูแลป่านนี้คงรุ่งโรจน์มหาศาลแล้ว

ในเมื่อไม่มีหนทางร่ำรวยและชีวิตที่ดีขึ้นจึงคิดหาวิธีอื่น

ยิ่งคิดเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกว่าความคิดเป็นไปได้มากขึ้นเท่านั้น

ได้ยินคนบอกว่าถนนในเมืองหลวงปูด้วยทองคำ แกก้มไปก็เก็บเงินขึ้นมาได้เลย

ถึงจะเกินจริงไปหน่อย แต่คิดว่ามันอาจหาเงินได้เยอะนะ

ตระกูลซูไปเมืองหลวงไม่ใช่หรือ ชีวิตดีเอา ๆ ไม่ใช่หรือไง?

ถ้าเธอไป คงยืนด้วยความสามารถของตัวเองได้

แถมยังมีอาจารย์เซี่ยหนานเป็นหนี้บุญคุณบ้านเราอีก

แล้วทำไมถึงไม่พยายามช่วยให้เธออยู่ดีกินดีกับเขาบ้าง?

ทว่าฝั่งบ้านซูไม่มีใครล่วงรู้ความคิดเหล่านี้

แค่เห็นเจ้าตัวรีบมารีบกลับเท่านั้น

“มีอะไรหรือ? ไม่ทันเอะอะก็ไปเสียแล้ว?” หวังเซียงฮวาสงสัย

ตอนที่ได้ยินเสียงยังนึกห่วงอยู่ นึกว่าจะซวยอีกรอบเสียอีก

กลายเป็นว่าพอได้ยินข่าวซานกงกับเสี่ยวเฉ่า ดันหมุนตัวกลับไปเลย

อารมณ์เหวี่ยงหรือไง?

“เหอะ คนแบบนั้นจะมีอะไรได้? มันไม่ใช่คนโง่ ถ้ามาสร้างปัญหาที่บ้านเราฉันจะฉีกปากมันเลยคอยดู”

ฉีเหลียงอิงเอ่ยวาจารุนแรง

มีหลายคนในหมู่บ้านที่ไม่เคยมีเรื่องกับชาวบ้าน แต่ตนเชื่อว่าชำนาญความสามารถด้านนี้พอตัว

ซูเสี่ยวเถียนมองคนที่จากไป เริ่มคิดแล้วว่าไม่น่าง่ายดายแบบนี้หรอก

ถ้าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผลประโยชน์ของบ้านเราก็ไม่ต้องไปสนใจ

ตอนนั้นเองที่สายตาเหลือบไปเห็นซูเสี่ยวถง

อีกฝ่ายอายุมากกว่าหลานชายกลุ่มโต ๆ เล็กน้อย

เขาสนิทกับพวกซูโส่วเวิน แต่ไม่สนิทกับซูเสี่ยวเถียนน้องเล็กของบ้านนัก

รู้แค่ว่าเธอเป็นที่รักของบ้านมาก ทุกคนจึงพยายามปกป้องเธอเต็มที่

ทว่านิสัยกลับไม่ได้เอาแต่ใจสักนิด คนในหมู่บ้านเองยังชมเชยกันเลย

หลังจากนั้นก็ได้ยินว่าเจ้าตัวเรียนเก่งมาก สอบเข้ามหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติได้หลังจากเดินทางไปถึงเมืองหลวง

ตอนนั้นชาวบ้านชมเธอเสมอเลย

แล้วคราวนี้ก็เพิ่งได้มารู้จักตอนที่เธอกลับมา

เด็กคนนี้มีความรู้เยอะ พูดน้อย ทุกอย่างที่พูดมีเหตุผลมากจนเขายังกระจ่าง

ตนเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้ใหญ่บ้านเอาแต่บอกให้เรียนรู้จากหลาน ๆ บ้านนี้

สมกับที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน มองคนขาดจริง ๆ

“พี่เสี่ยวถง มีอะไรหรือเปล่าคะ?”

ความสัมพันธ์ระหว่างซูเสี่ยวถงกับตระกูลซูไม่อาจพูดได้ว่าสนิทกันดี ปกติไม่ไปมาหาสู่ถ้าไม่มีเรื่องอะไรน่ะ