บทที่ 1108 ไปคิดบัญชีกับตระกูลจิน

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1108 ไปคิดบัญชีกับตระกูลจิน

บทที่ 1108 ไปคิดบัญชีกับตระกูลจิน

ความคิดของนางกับเขาตรงกันทุกประการ เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ก็เกิดแรงกระตุ้นในใจ และต้องการจัดการกับความเย่อหยิ่งของตระกูลจิน

ในครั้งนั้น จินซื่อข่ายลวนลามถานอวี้ซูกลางวันแสก ๆ

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ กู้หนิงผิงรู้สึกโกรธมากและต้องการที่จะจัดการจินซื่อข่ายเพื่อให้เขารู้ว่าใครคือคนที่เขาไม่ควรรุกราน

ยิ่งกว่านั้น ครั้งนี้จินซื่อข่ายเข้ามาข่มขู่ถึงที่ร้านจิ่นฝู แม้ว่าตนเองไม่ได้ทำ แต่ต้นเหตุก็มาจากเขา

ถานอวี้ซูเดินทางกับถานเย่สิงมาตลอดทั้งปี

ถานเย่สิงนำกองกำลังทหารออกไปสู้รบและมักจะมีอารมณ์ร้อน แม้ว่าถานอวี้ซูจะมีนิสัยร่าเริง แต่นางก็มีความยุติธรรมเช่นเดียวกับถานเย่สิง

เมื่อได้ยินว่าตระกูลจินทำสิ่งชั่วร้ายมากมาย แต่ไม่มีใครสนใจพวกเขา ด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านนางจึงรีบไปยังตระกูลจินทันที

นางต้องการแก้แค้นตระกูลจิน

กู้หนิงผิงต้องการติดตามนางไปด้วย ดังนั้นเขาจึงติดตามถานอวี้ซูและรีบออกจากร้านจิ่นฝูไป

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีเท่าไรนัก อาอวี้จึงรีบตามไปทันที

ลูกจ้างภายในร้านมองคนที่วิ่งออกไปอย่างเหม่อลอย และตอนนี้แผ่นหลังของพวกเขาก็หายลับไปจากสายตา จากนั้นก็พลันรู้สึกตัวว่าพวกเขากำลังจะไปที่บ้านตระกูลจินเพื่อชำระบัญชีกับจินซื่อข่าย ดังนั้นจึงกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ลูกจ้างในร้านไม่รีรออีกต่อไป และรีบขึ้นไปชั้นบนเพื่อบอกเรื่องนี้กับกู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือ

เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินว่า กู้หนิงผิงพาถานอวี้ซูไปที่ตระกูลจินเพื่อชำระแค้น นางจึงรีบตามทั้งสองออกไปทันที แต่เมื่อไปถึงก็ไม่พบเจอใครเลย

บ้านตระกูลจินตั้งอยู่ในสถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในเมืองรุ่ยเสียน

มีสิงโตหินตัวใหญ่สองตัวอยู่ตั้งตระหง่านอยู่หน้าบ้าน เพราะชื่อเสียงของตระกูลจิน ผู้คนจึงไม่กล้าย่างเท้าผ่านตระกูลจิน

กู้เสี่ยวหวานไม่พบทั้งกู้หนิงผิงและถานอวี้ซู เมื่อพูดตามเหตุผล กู้หนิงผิงและถานอวี้ซูควรจะมาถึงบ้านตระกูลจินแล้ว แต่นี่ไม่มีเสียงหรือการเคลื่อนไหวที่ตระกูลจินเลย

กู้เสี่ยวหวานรู้สึกแปลกใจ นางมองไปที่ฉินเย่จืออย่างสงสัยและพูดว่า “พี่เย่จือ ทำไมไม่เห็นใครเลย พวกเขายังมาไม่ถึงหรือ?”

ฉินเย่จือมองไปรอบ ๆ เมื่อไม่เห็นเบาะแสใด จึงคิดในใจว่าพวกกู้หนิงผิงคงเปลี่ยนใจแล้ว ดังนั้นพวกเขาทั้งสองจึงกลับไปที่ร้านจิ่นฝู

หากแต่ก็ยังไม่พบใครอยู่ดี กู้หนิงผิงและถานอวี้ซูไม่อยู่ที่นี่ ไม่รู้ว่าพวกเขาหายไปที่ใด

แม้แต่อาอวี้ก็หายไปเช่นกัน

กู้เสี่ยวหวานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล

แต่เมื่อนึกถึงกู้หนิงผิงและถานอวี้ซู บางทีพวกเขาอาจมีเรื่องอื่นที่ต้องทำ ดังนั้นกู้เสี่ยวหวานจึงรออยู่ที่ร้านจิ่นฝู

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่กลางวันจนถึงเย็น ทั้งสองคนก็ยังไม่กลับมา

กู้เสี่ยวหวานรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แม้ว่าถานอวี้ซูและกู้หนิงผิงจะชอบเที่ยวเล่น แต่พวกเขาจะปรากฏตัวในร้านจิ่นฝูตรงเวลาอาหารเสมอ เช่นเดียวกับวันนี้ตอนเที่ยง มันแปลกที่พวกเขาไม่กลับมาในเวลาอาหารเย็นด้วยซ้ำ อีกทั้งยังไม่มีข่าวคราว สัญชาตญาณของกู้เสี่ยวหวานบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

กู้หนิงผิงและคนอื่น ๆ ต้องเจอเรื่องอะไรเป็นแน่

ฉินเย่จือส่งอาโม่ออกไปเพื่อถามข่าวและสั่งให้เขารีบกลับมา “ไม่ดีแล้ว ข้าได้ยินว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่ประตูตระกูลจินเมื่อตอนเที่ยงของวันนี้ พวกเขาจับกุมคนสามคนเข้าไปในตระกูลจิน”

สามคน…

อาจเป็นกู้หนิงผิง ถานอวี้ซู และอาอวี้หรือเปล่า?

“มีคนเห็นหรือไม่ว่าสามคนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร”

“ข้าได้ยินว่าเป็นผู้ชายหนึ่งคนกับผู้หญิงสองคน”

อาโม่สอบถามข่าวมาเล็กน้อย เมื่อเขาได้ยินก็รู้ว่าใครที่ถูกจับกุมไป

เมื่อนึกถึงกู้หนิงผิงและถานอวี้ซูที่ถูกตระกูลจินจับตัวไป กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกคิดอะไรไม่ออก และนั่งหมดแรงอยู่บนเก้าอี้

ฉินเย่จือรีบดึงนางอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล เราจะไปเดี๋ยวนี้”

“พี่เย่จือ ข้าจะไปด้วย” กู้เสี่ยวหวานดึงแขนเสื้อของฉินเย่จือและรีบพูดอย่างร้อนรน

ฉินเย่จือเป็นห่วงกู้เสี่ยวหวานจึงตบมือของนางเบา ๆ อย่างปลอบโยน “เจ้าไม่รู้ศิลปะการต่อสู้ เจ้าควรอยู่รอที่นี่มากกว่า”

ฉินเย่จือปลอบโยนกู้เสี่ยวหวานให้นางสบายใจ “ไม่ต้องกังวลไป ข้าจะพากู้หนิงผิงและคนอื่น ๆ กลับมาในคืนนี้”

บ่ายวันนี้ กู้เสี่ยวหวานยังได้รู้เรื่องราวของตระกูลจินจากคนในเมืองรุ่ยเสียน

ตระกูลจินสามชั่วอายุคนก่ออาชญากรรมทุกประเภท หากถานอวี้ซูและกู้หนิงผิงตกอยู่ในมือของพวกเขา นั่นอาจจะกลายเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด

กู้เสี่ยวหวานไม่กล้าคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความกังวลในใจของนางเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ นางไม่สามารถนั่งอยู่นิ่ง ๆ ได้ นางลุกขึ้นยืนและพูดอย่างหนักแน่น “พี่เย่จือ หากยังไม่พบพวกเขา ข้าจะอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไร ข้าจะไปกับเจ้าด้วย ไม่ต้องห่วงข้า”

เมื่อเห็นท่าทางแน่วแน่ของกู้เสี่ยวหวาน ฉินเย่จือก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า “เอาล่ะ ไปกันเถอะ”

ป้าจางและกู้ฟางสี่ได้ข่าวว่ากู้หนิงผิงถูกจับไปโดยตระกูลจิน พวกนางก็รู้สึกกังวล

ยิ่งไปกันหลายคน ไม่เพียงแต่ไม่เกิดประโยชน์อะไร กลับกันถ้าตอนนั้นขัดคอกันขึ้นมาก็คงจะยากลำบาก

กู้เสี่ยวหวานจึงเกลี้ยกล่อมให้พวกนางรออยู่ที่ร้านจิ่นฝู

หากกู้หนิงผิงและถานอวี้ซูไม่ได้ถูกตระกูลจินจับตัวไป แต่เพียงแค่ออกไปเที่ยวเล่น กู้เสี่ยวหวานก็ยังคงวางใจได้มากกว่านี้

แต่หากเป็นเช่นนั้นก็ควรแจ้งนางเสียหน่อย

ป้าจางและกู้ฟางสี่ร้อนรนเป็นกังวล แต่พวกนางก็รับรู้เป็นอย่างดี หากพวกนางเอาแต่ดื้นรั้นก็มีแต่จะสร้างปัญหาให้กับฉินเย่จือและคนอื่น ๆ เท่านั้น ดังนั้นพวกนางจึงพยักหน้าอย่างประหม่า

และได้แต่มองไปที่ฉินเย่จือและคนอื่น ๆ ออกจากร้านจิ่นฝูไป และรีบมุ่งหน้าไปที่บ้านตระกูลจินในความมืดมิด

ด้วยอำนาจของตระกูลจิน จึงไม่มีใครสนใจว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่ตระกูลจิน เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นในเวลานี้ สีหน้าของเขาไม่ดีนัก และรีบออกไปเปิดประตูพร้อมสาปแช่ง

เมื่อเปิดประตูก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู “พวกเจ้าเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่”