ตอนที่ 1106 เหยื่อล่อ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1106 เหยื่อล่อ

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเตรียมกล่าวสิ่งใดออกมา เสิ่นคุนหยางรีบยกมือห้ามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ข้าขอบังอาจกล่าวสักนิด หากเสี่ยวไป๋ไซว่ไม่ได้ตั้งครรภ์อยู่ ข้าเสิ่นคุนหยางจะไม่คัดค้านแผนการของเสี่ยวไป๋ไซว่แม้แต่น้อย ทว่า บัดนี้เสี่ยวไป๋ไซว่กำลังตั้งครรภ์ เดิมทีก็เคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวกอยู่แล้ว หากกองทัพหั่วอวิ๋นบุกมายังผิงหยาง ข้าไม่อยากคิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมาเลยขอรับ!”

เสิ่นคุนหยางกล่าวด้วยท่าทีนอบน้อม “เสิ่นคุนหยางเห็นเสี่ยวไป๋ไซว่ตั้งแต่เข้ามาในกองทัพไป๋ เสี่ยวไป๋ไซว่เคยเป็นทหารในสังกัดของข้า เสี่ยวไป๋ไซว่เรียกข้าว่าลุงเสิ่น วันนี้ข้าขอบังอาจขัดคำสั่งของเสี่ยวไป๋ไซว่สักครั้ง ข้าจะนำทหารไปเพียงสองพันนายเท่านั้น มิเช่นนั้นต่อให้ข้าต้องโดนโบยข้าก็ไม่มีทางทำตามคำสั่งขอรับ!”

เมื่อไป๋ชิงเหยียนได้ยินคำกล่าวของเสิ่นคุนหยางจึงรู้สึกอุ่นวาบขึ้นในใจ หญิงสาวกล่าวเสียงแผ่วเบา

“ลุงเสิ่น หลี่จือเจี๋ยเป็นคนฉลาดและเจ้าเล่ห์มาก จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงและอวิ๋นพั่วสิงก็ล้วนไม่ใช่คนธรรมดา เราต้องทำให้พวกเขาเห็นว่าเมืองผิงหยางไร้ซึ่งกองทัพใดๆ พวกเขาจึงจะกล้าออกมาร่วมมือกับพวกเราและกล้ามีจุดประสงค์อื่น”

เสิ่นคุนหยางได้ยินเช่นนี้จึงยิ่งร้อนใจ

“เช่นนั้นก็ยิ่งไม่ควรใช้เสี่ยวไป๋ไซว่เป็นเหยื่อล่อ ไม่ควรนำชีวิตของท่านเด็กในท้องมาเสี่ยงอันตรายขอรับ!”

“ลุงเสิ่น ท่านไม่ต้องเป็นห่วง…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวปลอบเสิ่นคุนหยางที่กำลังโมโหด้วยเสียงอ่อนโยน

“เสิ่นเหลียงอวี้นำกองทัพหู่อิงมารอยู่นอกเมืองผิงหยางนานแล้ว เซียวรั่วไห่ไปถ่ายทอดคำสั่งให้เสิ่นเหลียงอวี้รับรู้แล้ว…”

ค่ายหู่อิงในตอนนี้ไม่ใช่ค่ายหู่อิงอีกต่อไป พวกเขาคือกองทัพหู่อิง พวกเขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมากนัก…

ในเมื่อต้องการกำจัดกองทัพหั่วอวิ๋นที่เลียนแบบมาจากกองทัพหู่อิง เช่นนั้นก็ควรปล่อยให้กองทัพหู่อิงเป็นคนจัดการด้วยตัวเอง

เสิ่นคุนหยางตะลึง เขามองไปทางไป๋ชิงอวี๋

ไป๋ชิงอวี๋พยักหน้าให้เล็กน้อย ไม่เพียงแต่เสิ่นเหลียงอวี้เท่านั้น…คุณหนูรองฝู่กั๋วจวินไป๋จิ่นซิ่วของตระกูลไป๋ที่อยู่ไกลถึงเมืองหานก็นำทัพออกเดินทางมายังเมืองผิงหยางแล้วเช่นเดียวกัน

ก่อนที่ไป๋ชิงเหยียนจะออกเดินทางมายังเมืองผิงหยาง หญิงสาวให้คนนำจดหมายลับไปให้คุณชายสามไป๋ชิงฉีซึ่งอยู่ที่ด่านชิวซานและน้าชายต่งชิงเยว่ซึ่งอยู่ที่เมืองเติงโจวพร้อมกับข่าวเรื่องที่ช้างกลัวความหนาวเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวบอกให้พวกเขาอย่าประมาทเพียงเพราะไมตรีที่เทียนเฟิ่งหยิบยื่นให้ กล่าวว่าอาจเกิดสงครามขึ้นที่เมืองผิงหยาง ให้พวกเขาเตรียมตัวให้พร้อม

ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนเดินทางมาถึงเมืองผิงหยางและตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะทำสงครามกับเทียนเฟิ่ง หญิงสาวให้คนนำจดหมายไปยังหนานเจียงและเติงโจวอีกครั้งเพื่อบอกให้ไป๋ชิงฉีและท่านน้าชายต่งชิวเยว่รู้ว่าต้าโจวและต้าเยี่ยนจะทำสงครามกับเทียนเฟิ่งในวันที่ยี่สิบเก้า เดือนสิบสอง ให้พวกเขาบุกโจมตีกองทัพช้างของเทียนเฟิ่งทางทิศตะวันออกจนพวกนั้นตั้งตัวรับมือไม่ทัน

เมื่อขับไล่เทียนเฟิ่งออกไปจากดินแดนนี้เรียบร้อยแล้ว ต่อไปพวกนางจะบุกโจมตีซีเหลียงเต็มกำลัง

การแก้แค้นให้ตระกูลไป๋และกองทัพไป๋จะขาดคนตระกูลไป๋และกองทัพไป๋ไปไม่ได้แม้แต่คนเดียว!

ค่ายทหารซึ่งอยู่ห่างจากเมืองผิงหยางสามลี้ เสิ่นคุนหยางซึ่งคาบหญ้าแห้งไว้ในปากพาทหารสองสามนายขี่ม้าขึ้นไปอยู่บนเนินเขาสูง ดวงตาคมราวกับเหยี่ยวของเขามองไปยังเมืองผิงหยางซึ่งอยู่ไกลออกไป เมื่อเสี่ยวไป๋ไซว่มีคำสั่งลงมา…เขาจะกำจัดกองทัพหั่วอวิ๋นที่เลียนแบบกองทัพหู่อิงให้ราบคาบ ให้พวกมันได้รู้ว่ากองทัพหู่อิงของกองทัพไป๋ไม่ใช่กองทัพที่ซีเหลียงจะมาเลียนแบบกันได้ง่ายๆ

ไป๋ชิงเหยียนมองดูแผนที่ที่เซียวรั่วไห่ทำขึ้นนิ่ง ดวงตาที่ดูสงบราบเรียบแฝงไปด้วยไอสังหารที่ใกล้จะเอ่อล้นออกมา “นี่คือโอกาสครั้งสุดท้ายที่ข้าจะมอบให้ซีเหลียง! หากพวกเขาไม่ยอมร่วมมือกับพวกเราดีๆ กล้าลงมือกับพวกเราก่อน ข้าก็จะชำระแค้นเก่าและแค้นใหม่พร้อมกันทีเดียว หากพวกนั้นไม่อยากรอให้ถึงวันครบกำหนดสัญญาสามปี ต้าโจวก็ไม่ควรทำให้พวกนั้นผิดหวัง ข้าจะสนองความต้องการให้อย่างเต็มที่!”

เสิ่นคุนหยางเข้าใจขึ้นมาทันทีว่าเหตุใดไป๋ชิงเหยียนจึงวางแผนเรื่องทุกอย่างเช่นนี้…

ไป๋ชิงเหยียนเตรียมพร้อมไว้สองทาง!

กองทัพหู่อิงคือแผนสำรองของไป๋ชิงเหยียน!

ไป๋ชิงเหยียนสามารถละทิ้งความแค้น ยอมร่วมมือกับซีเหลียงต่อต้านเทียนเฟิ่งก่อนได้ ทว่า ซีเหลียงต้องแสดงความจริงใจให้ต้าโจวเห็น ไม่คิดบังอาจแทงข้างหลังต้าโจว

หากซีเหลียงกล้าแทงข้างหลังต้าโจว เช่นนั้นไป๋ชิงเหยียนก็จะใช้กองทัพหู่อิงทำลายล้างกองทัพหั่วอวิ๋นพร้อมกับร่วมมือกับต้าเยี่ยนขับไล่เทียนเฟิ่งออกไปจากดินแดนแห่งนี้

หากซีเหลียงยอมสวามิภักดิ์กับต้าโจว ไม่เพียงกองทัพช้างของเทียนเฟิ่งจะถูกทำลายอยู่ที่ภูเขาหานเหวินเท่านั้น นางจะให้เสิ่นคุนหยางทำให้แน่ใจว่ากองทัพหั่วอวิ๋นสูญเสียมากกว่าครึ่งจนไม่อาจเป็นอันตรายต่อต้าโจวได้อีก

นางกำจัดกองทัพอวิ๋นเพื่อที่ซีเหลียงจะได้ยอมจำนนต่อต้าโจวแต่โดยดี ไม่กล้าลุกขึ้นมาต่อต้านต้าโจวอีก ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

ทำลายกองทัพช้างเพื่อที่แคว้นเทียนเฟิ่งจะได้ไม่มีกำลังต่อสู้ ทำได้เพียงหนีกลับแคว้นของตัวเองไปแต่โดยดี

การฝึกฝนกองทัพช้างไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ ภายในช่วงเวลาสั้นๆ มันต้องใช้ทรัพยากรที่ไม่อาจคำนวณได้ แคว้นเทียนเฟิ่งที่ปราศจากกองทัพช้างก็เปรียบเสมือนเสือที่ถูกถอดเขี้ยวเล็บ ไม่มีความน่ากลัวอีกต่อไป

แววตาของไป๋ชิงอวี๋เคร่งขรึมลง “หากซีเหลียงยังไม่ประมาณตน กล้าแทงข้างหลังต้าโจวขณะที่ต้าโจวทำสงครามกับเทียนเฟิ่งอยู่ ต้าโจวของพวกเราจะรีบกำจัดกองทัพช้างเหล่านั้น ขับไล่เทียนเฟิ่งออกไปจากดินแดนของพวกเราให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยไปทำลายล้างซีเหลียงแล้วยกทัพบุกไปโจมตีแคว้นเทียนเฟิ่งให้ราบคาบ”

“ข้ายังมีเรื่องกังวลอีกเรื่อง” เสิ่นคุนหยางขมวดคิ้วแน่น “หากเทียนเฟิ่งไม่ได้คิดอยากผูกไมตรีกับต้าโจวเหมือนที่เสี่ยวไป๋ไซว่คาดการณ์ไว้ หากพวกเขาตั้งใจจะสู้รบให้ตายกันไปข้างหนึ่งกับต้าโจว ไม่หลบหนีไปยังภูเขาหานเหวินแต่มุ่งหน้าไปยังเมืองผิงหยางแทนล่ะขอรับ”

เสิ่นคุนหยางนึกถึงประตูเมืองผิงหยางที่แทบจะพังทลายลงมาเพียงแค่โดนช้างกระแทกเพียงครั้งเดียวในคืนนั้นก็อดรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาไม่ได้ “วันนั้นมีกองทัพช้างเพียงสามสิบตัว พวกเราและต้าเยี่ยนร่วมมือกันยังสูญเสียมากมายถึงเพียงนั้น ช้างยักษ์กระแทกประตูเมืองทีเดียวประตูก็มีสภาพเช่นนั้นแล้ว พวกเราพาทหารออกไปจากเมืองหมดแล้ว ต่อให้ในเมืองมีกองทัพหู่อิงอยู่ ข้าก็คิดว่าคงต้านทานไว้ไม่อยู่ขอรับ!”

“ลุงเสิ่น พวกเราทดสอบแล้วว่าพริกแห้งและพริกไทยเผามีผลกระทบต่อช้าง ที่สำคัญข้ากำชับเสี่ยวซื่อแล้วว่าระหว่างเดินทางไปเมืองผิงตู้ให้เหยียบหิมะให้กลายเป็นถนนน้ำแข็งทั้งหมด กลิ่นรบกวนประสาทสัมผัสของช้างและพื้นน้ำแข็งที่ลื่นคือสิ่งที่พวกเราค้นผลว่าสามารถรับมือกับช้างได้ดีที่สุดในตอนนี้”

เมื่อเห็นว่าเสิ่นคุนหยางเตรียมกล่าวสิ่งใดออกมาอีก ไป๋ชิงเหยียนจึงจำต้องบอกความลับบางอย่างที่เดิมทีไม่คิดจะบอกออกไปให้เสิ่นคุนหยางรับรู้

“ที่สำคัญที่สุด…ข้ากล้ารับประกันว่าเทียนเฟิ่งไม่กล้าตายไปพร้อมกับต้าโจวในตอนนี้เพราะก่อนออกเดินทางมายังเมืองผิงหยางข้าได้รับจดหมายลับที่ถูกส่งมาจากเทียนเฟิ่ง”

คนของไป๋จิ่นถงปลอมตัวเป็นพ่อค้าอยู่ในเทียนเฟิ่ง ผู้ดูแลกิจการเก่าแก่ของตระกูลไป๋ถูกไป๋จิ่นถงสั่งให้อยู่ในเทียนเฟิ่งต่อเพื่อสืบข่าว ครั้งนี้พวกเขาสืบได้ข่าวที่มีประโยชน์กว่าสิบข่าว พวกเขาเสี่ยงส่งข่าวเหล่านั้นให้เฉินชิ่งเซิง เฉินชิ่งเซิงส่งข่าวเหล่านั้นมาให้ไป๋ชิงเหยียนต่อ…

ในจดหมายกล่าวว่าจอมเวทย์ของเทียนเฟิ่งรับรู้เจตนาจากเทพเจ้าว่าเทพเจ้าเลือกเจ้าของให้ดินแดนแห่งนี้เรียบร้อยแล้ว หากเทียนเฟิ่งทำสงครามบนดินแดนแห่งนี้ทั้งๆ ที่ผู้ที่ถูกเลือกยังมีชีวิตอยู่ เทียนเฟิ่งจะถูกเทพเจ้าลงโทษ ต่อมาจอมเวทย์กระอักเลือดและเป็นลมไม่ได้สติจนถึงทุกวันนี้

ต่อมาศิษย์คนโตของจอมเวทย์เดินทางมาอยู่ข้างกายซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเพื่อช่วยเขาตามหาเจ้าของดินแดนที่เทพเจ้าเลือกให้พบ จากนั้นสังหารเจ้าของดินแดนทิ้งและยึดครองดินแดนแห่งนี้มาเป็นของตัวเองแทน