ตอนที่ 1105 กองทัพที่พ่ายแพ้

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1105 กองทัพที่พ่ายแพ้

“เทียนเฟิ่งภูมิใจในกองทัพช้างของพวกเขามาก การที่พวกเราล้อมเมือง ทว่า ไม่บุกโจมตีคือการทำให้เทียนเฟิ่งสับสน” เสิ่นคุนหยางกล่าว

เมื่อฟังคำกล่าวของไป๋ชิงอวี๋และเสิ่นคุนหยางจบ หยางอู่เช่อและไป๋จิ่นจื้อจึงกระจ่างแจ้งทันที

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ “ดังนั้นหากเทียนเฟิ่งส่งทูตออกมาพบข้า พวกเจ้าปล่อยให้พวกเขามาได้เลย ไม่จำเป็นต้องขวางไว้ จะเจรจาเช่นไร จะหาข้ออ้างในการทำศึกกับเทียนเฟิ่งในวันพรุ่งนี้จนพวกเขาตั้งตัวไม่ทันได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความสามารถของหลิ่วหรูซื่อแล้ว”

“ไป๋จิ่นจื้อรับบัญชาเจ้าค่ะ!” ไป๋จิ่นจื้อกัดฟันกรอด สงครามยังไม่ทันเริ่มนางก็รู้สึกตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวแล้ว

“หยางอู่เช่อรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”

ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางไป๋จิ่นจื้อ “ไป๋จิ่นจื้อ เจ้าพากองกำลังซั่วหยางที่จี้ถิงอวี๋เป็นคนฝึกฝนไปโจมตีเมือง เมื่อเริ่มทำสงครามในวันพรุ่งนี้ พวกเจ้าต้องปีนขึ้นไปบนกำแพงเมืองให้ได้ภายในหนึ่งชั่วยาม! ตอนนั้นเทียนเฟิ่งจะยังตั้งตัวไม่ทัน พวกเขาต้องคิดว่าต้าโจวทำไปเพื่อแก้แค้นที่เทียนเฟิ่งยกทัพบุกไปยังเมืองผิงหยาง พวกเขายังอยากเช่าเมืองของต้าเยี่ยนและต้าโจวอยู่จึงไม่มีทางตอบโต้กลับแน่นอน พวกเขาจะทำเพียงหนีเท่านั้น หน้าที่ของพวกเจ้าคือบีบให้พวกเขาหนีออกจากเมืองไปให้ได้ ทำได้หรือไม่!”

ไป๋ชิงเหยียนจะชิงลงมือกับเทียนเฟิ่งในตอนที่พวกเขายังตั้งตัวไม่ทัน

“พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ!” ไป๋จิ่นจื้อมองไปทางไป๋ชิงเหยียนด้วยดวงตาเป็นประกาย “หากทำไม่ได้ จิ่นจื้อจะถือศีรษะมาพบพี่หญิงใหญ่เจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า สายตาหยุดอยู่ที่ไป๋ชิงอวี๋และเซี่ยอวี่จั่ง “ไป๋ชิงอวี๋ เซี่ยอวี่จั่ง พวกเจ้านำทหารคนละห้าพันนายออกเดินทางขนน้ำมันไปสร้างกับดักตรงบริเวณทิศเหนือของภูเขาหานเหวินในคืนนี้ จำไว้ให้ดีว่าพวกเราจะเริ่มทำสงครามในยามเหม่าของวันพรุ่งนี้ ภายในหนึ่งชั่วยาม ขอเพียงประตูเมืองทิศเหนือถูกทำลายหรือประตูเมืองทิศเหนืออาจยังไม่ถูกทำลาย เทียนเฟิ่งที่ถูกศัตรูล้อมไว้ทั้งสี่ด้านต้องหลบหนีไปยังซีเหลียงแน่นอน พวกเจ้าคำนวณเวลาให้ดี เตรียมกับดักให้พร้อมก่อนเวลานั้นจะมาถึง!”

“ไป๋ชิงอวี๋รับบัญชาขอรับ!”

“เซี่ยอวี่จั่งรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”

“แม่ทัพเสิ่นคุนหยาง…” ไป๋ชิงเหยียนเดินไปหยุดอยู่หน้าเสิ่นคุนหยาง “ท่านจงนำทหารหนึ่งหมื่นห้าพันนายออกเดินทางไปสร้างกับดักบริเวณทางออกทิศใต้ของภูเขาหานเหวินและทางเหนือของแม่น้ำตันสุ่ยเพื่อจัดการกับทหารที่หนีรอดจากเซี่ยอวี่จั่งและอาอวี๋ไปได้เดี๋ยวนี้”

เสิ่นคุนหยางตะลึง เหตุใดจึงให้เขานำทหารไปมากมายถึงเพียงนี้ ทว่า เขาไม่ได้ถามออกไป

“เสิ่นคุนหยางรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!” เสิ่นคุนหยางรับคำ

“อาอวี๋และลุงเสิ่นอยู่ต่อก่อน เสี่ยวซื่อ แม่ทัพเซี่ย แม่ทัพหยางไปเตรียมตัวก่อนเถิด” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบจึงหันไปกล่าวกับเว่ยจง “ไปเชิญเฝิงกงกงที่รออยู่ที่โถงรับรองหน้ามาที”

“พ่ะย่ะค่ะ!” เว่ยจงรับคำแล้วจากไป

“กระหม่อมเล่าขอรับ” เฉิงหย่วนจื้อเบิกตาโพลง

“ไม่ต้องห่วง ข้ามีงานอื่นให้ท่านทำ…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับเฉิงหย่วนจื้อยิ้มๆ

เฉิงหย่วนจื้อจึงกำหมัดคารวะแล้วจากไป

เมื่อภายในห้องเหลือเพียงเสิ่นคุนหยาง ไป๋ชิงอวี๋และไป๋ชิงเหยียน เสิ่นคุนหยางจึงรีบกล่าวกับไป๋ชิงเหยียน “หากพวกเราไปกันหมด เมืองผิงหยางจะเหลือฝ่าบาทเพียงองค์เดียว หากเกิดสิ่งใดขึ้นคงไม่ดีแน่ ฝ่าบาททรงพระครรภ์อยู่ควรถอยไปเมืองอื่นก่อนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“ลุงเสิ่นคิดว่าหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ข้าจะปกป้องเมืองผิงหยางไม่ได้เลยหรือ” ไป๋ชิงเหยียนรู้ว่าเสิ่นคุนหยางเป็นห่วงนาง หญิงสาวกล่าวเสียงเบา “ลุงเสิ่นไม่ต้องห่วง ข้ารู้ขอบเขตดี”

ไป๋ชิงอวี๋ซึ่งยืนเอามือไขว้หลังรู้เรื่องราวทั้งหมดดี ชายหนุ่มกล่าวกับเสิ่นคุนหยาง “ลุงเสิ่นควรเชื่อใจพี่หญิงนะขอรับ”

เมื่อเสิ่นคุนหยางเห็นไป๋ชิงเหยียนยืนกรานจึงได้แต่เม้มปากแน่น เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นกล่าว “กระหม่อมแค่พาคนไปสร้างกับดักที่ภูเขาหานเหวินและแม่น้ำตันสุ่ย ไม่จำเป็นต้องนำคนไปมากถึงหนึ่งหมื่นห้าพันนาย เอาไปเพียงห้าพันนายก็พอแล้วขอรับ”

“ข้าให้ลุงเสิ่นนำทหารไปหนึ่งหมื่นห้าพันนายเพราะมีแผนอื่นอยู่ บางทีลุงเสิ่นอาจพบสิ่งเหนือความคาดหมาย ป้องกันไว้ดีกว่าแก้!”

ทหารหนึ่งหมื่นห้าพันนายของเสิ่นคุนหยางไม่ได้ไปที่นั่นเพื่อดักจับทหารเทียนเฟิ่งและซีเหลียงที่หลบหนีไปได้เท่านั้น

“เรื่องเหนือความคาดหมายหรือขอรับ” เสิ่นคุนหยางมองไปทางไป๋ชิงอวี๋ด้วยสีหน้างุนงง

ดวงตาเป็นประกายของไป๋ชิงเหยียนจ้องไปทางเสิ่นคุนหยาง “ลุงเสิ่น ที่ข้าให้ลุงเสิ่นนำทหารหนึ่งหมื่นห้าพันนายไปยังภูเขาหานเหวินเพราะต้องการให้ซีเหลียงคิดว่าต้าโจวทุ่มกองกำลังทั้งหมดที่มีบุกโจมตีเทียนเฟิ่ง เมืองผิงหยางไม่มีกองกำลังเหลือแล้ว”

“ซีเหลียง?” เสิ่นคุนหยางมีสีหน้าตกตะลึง

ไป๋ชิงอวี๋หันกลับไปมองแผนที่อีกครั้ง สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ภูเขาไหลอัน “พี่หญิงขอรับ” ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า จากนั้นกล่าวขึ้นช้าๆ “กองทัพหั่วอวิ๋นของซีเหลียงอยู่ที่ใด หลี่เทียนเจียวและอวิ๋นพั่วสิงอยู่ที่ใด หลายวันมานี้ข้าเอาแต่คิดเรื่องนี้มาโดยตลอด จักรพรรดินีหลี่เทียนเจียวแห่งซีเหลียงไม่เคยปิดบังเรื่องการเมืองกับหลี่เทียนฟู่ บัดนี้หลี่เทียนฟู่ได้รับการสนับสนุนจากเทียนเฟิ่งให้ขึ้นครองบัลลังก์เป็นจักรพรรดินี ทว่า เหตุใดเทียนเฟิ่งจึงยังจับตัวหลี่เทียนเจียวไม่ได้เสียที ต่อมาข้านึกถึงอวิ๋นพั่วสิง ด้วยนิสัยของเขา เขาคงเตรียมป้องกันกองทัพช้างของเทียนเฟิ่งตั้งแต่รับรู้ถึงการมีอยู่ของเทียนเฟิ่งแล้ว”

“บัดนี้เทียนเฟิ่งและหลี่เทียนฟู่กำลังเร่งกันออกตามหาหลี่เทียนเจียวและกองกำลังกบฏของซีเหลียง ทว่า พวกเขาไม่สามารถออกค้นหาในแคว้นได้อย่างเปิดเผย ระหว่างที่เดินทางมายังเมืองผิงหยางข้านึกถึงภูเขาไหลอันซึ่งเป็นเขตแดนติดต่อระหว่างซีเหลียงและต้าโจวที่ไม่มีคนควบคุมดูแลขึ้นมาได้! อวิ๋นพั่วสิงทำสงครามกับพวกเรามาหลายปี ก่อนหน้านี้หากเขาไม่บุกโจมตีเมืองผิงหยางก็บุกทำลายอำเภอเฟิง เขาคุ้นเคยกับภูมิประเทศของสองที่นี่เป็นอย่างดี”

ไป๋ชิงเหยียนหยิบแผนที่ของเซียวรั่วไห่ออกมากางบนโต๊ะเล็ก ไป๋ชิงอวี๋และเสิ่นคุนหยางเข้ามาดู ทั้งสองคนรู้จักสองพี่น้องเซียวรั่วไห่และเซียวรั่วเจียงเป็นอย่างดี มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเซียวรั่วไห่เป็นคนทำแผนที่นี้ขึ้นมา

“ดังนั้นข้าเลยให้หรู่ซยงลองไปสำรวจที่ภูเขาไหลอัน นึกไม่ถึงเลยว่าอวิ๋นพั่วสิงจะพากองทัพหั่วอวิ๋นและทหารของแปดตระกูลสูงศักดิ์ของซีเหลียงที่ไม่ยอมจำนนต่อเทียนเฟิ่งไปซ่อนตัวอยู่ในภูเขาไหลอันจริงๆ” ไป๋ชิงเหยียนชี้ลงบนตำแหน่งในแผนที่

“เสี่ยวไป๋ไซว่หมายความว่าต้องการให้กระหม่อมแสร้งทำเป็นนำทหารหนึ่งหมื่นห้าพันนายไปดักจับทหารเทียนเฟิ่งและซีเหลียงที่หลบหนีไปได้ ทว่า แท้จริงแล้วต้องการให้กระหม่อมไปทำลายรังของกองทัพหั่วอวิ๋นหรือขอรับ” เสิ่นคุนหยางถาม

ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้า “ลุงเสิ่นพาทหารหนึ่งหมื่นห้าพันนายตรงไปยังภูเขาหานเหวินและแม่น้ำตันสุ่ยเลย เดี๋ยวข้าจะปล่อยหลี่จือเจี๋ยกลับไปบอกอวิ๋นพั่วสิงและหลี่เทียนเจียวว่าหากต้องการร่วมมือกับต้าโจวจริงๆ ก็จงให้กองทัพหั่วอวิ๋นเดินทางไปยังภูเขาหานเหวินเพื่อดักโจมตีทหารเทียนเฟิ่งและซีเหลียงที่หลบหนีจากอาอวี๋และแม่ทัพเซี่ยไปได้ หากกองทัพอวิ๋นไปจริง…ลุงเสิ่นและทหารอีกหนึ่งหมื่นห้าพันนายก็ทำเพียงดูเรื่องสนุกอยู่เฉยๆ เท่านั้น ต้องทำให้กองทัพหั่วอวิ๋นสูญเสียเกินครึ่ง ทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่เป็นอันตรายต่อต้าโจวอีกต่อไป หากกองทัพหั่วอวิ๋นไม่ไป เช่นนั้นก็ลำบากลุงเสิ่นจัดการกับกองทัพที่หลบหนีมาอย่างพ่ายแพ้เหล่านั้นให้ราบคาบด้วย”

“หากกองทัพหั่วอวิ๋นไม่ได้ไปยังภูเขาหานเหวินก็แสดงว่าพวกเขาจะมุ่งหน้าไปยังเมืองผิงหยาง” ไป๋ชิงอวี๋ไม่เชื่อใจซีเหลียงตั้งแต่แรก ยิ่งไม่เคยเชื่อใจหลี่จือเจี๋ย

หลี่จือเจี๋ยกล่าวว่าต้องการร่วมมือกับต้าโจว ยินดีตกเป็นรัฐบรรณาการของต้าโจว ทว่า ลับหลังกลับหลอกล่อให้เทียนเฟิ่งนำกองทัพช้างบุกมายังเมืองผิงหยาง สารเลวสิ้นดี!

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าน้อยๆ

“ไม่ได้นะขอรับ!” เสิ่นคุนหยางหน้าเปลี่ยนสีทันที “กองทัพหั่วอวิ๋นลอกเลียนแบบมาจากค่ายหู่อิงของกองทัพไป๋ หากพวกนั้นบุกมายังผิงหยาง เมืองผิงหยางต้องตกอยู่ในอันตรายแน่ เสี่ยวไป๋ไซว่ยังอยู่ในเมืองผิงหยาง จะปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นไม่ได้เด็ดขาด!”