ตอนที่ 1110 เหิมเกริม

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1110 เหิมเกริม

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นขบกรามแน่น เขามองไปทางกองทัพต้าโจวที่ชูธงเฮยฟานไป๋หมั่งของกองทัพไป๋ขึ้นสูง จากนั้นหัวเราะเสียงเย็น “ล้อมแต่ไม่โจมตี พวกนั้นคงไม่กล้าโจมตีเมือง ทว่า ทนไม่ได้ที่ก่อนหน้านี้เทียนเฟิ่งนำกองทัพช้างไปล้อมเมืองผิงหยางของพวกเขาเอาไว้จึงต้องการกู้หน้าคืนบ้าง แสร้งทำเป็นไม่หวาดกลัวพวกเราให้พวกเราเห็น!”

ศิษย์คนโตของจอมเวทย์ยืนอยู่ข้างกายซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น ไม่รู้เพราะเหตุใดเมื่อเห็นกองทัพจำนวนมากที่อยู่ด้านล่างกำแพงเขาถึงรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ เขากล่าวขึ้น “ฝ่าบาท พวกเราถอยหนีจากเมืองผิงตู้ก่อนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ พวกเราอ่อนข้อให้ต้าโจว ชดใช้เงิน ของล้ำค่าและประจบประแจงพวกเขา ทำให้ต้าโจวสับสนคิดว่าเทียนเฟิ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อของพวกเขา บางทีต้าโจวและต้าเยี่ยนอาจยอมให้เทียนเฟิ่งเช่าดินแดนก็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ”

การยอมลดศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อให้ต้าโจวสับสนคือแผนการที่ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นคิดไว้ก่อนหน้านี้ ทว่า ตอนนี้ต้าโจวนำทัพมาล้อมเมืองผิงตู้เอาไว้ เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ออกมาจากปากของศิษย์คนโตของจอมเวทย์ ไม่รู้เพราะเหตุใดซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นจึงรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าใดนัก

“ต้าโจวและต้าเยี่ยนควรเป็นคนเสนอให้พวกเรายอมแพ้และถอยทัพออกจากเมืองผิงตู้ เช่นนี้พวกเราจะได้ทำข้อแลกเปลี่ยนกับพวกเขา หาทางให้ต้าโจวยอมเช่าดินแดนให้พวกเราได้” มือทั้งสองข้างของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกำขอบกำแพงแน่น สายตาหยุดอยู่ที่ร่างของทหารต้าโจว “แม้ต้องบีบให้หลี่เทียนฟู่ยกเมืองผิงตู้และแม่น้ำตันสุ่ยให้ต้าโจวทั้งหมด ต่อให้พวกเราต้องย้ายไปตั้งค่ายอยู่ที่เมืองเฉวี่ยนหยาซึ่งอยู่ตรงข้ามแม่น้ำตันสุ่ยแทนก็ตาม!” ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

ขอเพียงทำการแลกเปลี่ยนทางการค้ากับต้าโจวได้สำเร็จ เปิดโอกาสให้พ่อค้าของเทียนเฟิ่งเข้าไปสืบหาเบาะแสของหยกจักจั่นในต้าโจวได้ ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นยอมแม้กระทั่งเช่าเมืองเฉวี่ยนหยาจากต้าโจวเพื่อผูกไมตรีกับต้าโจว

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นคิดไว้อย่างดีแล้ว ด้านหน้าของเมืองเฉวี่ยนหยาคือแม่น้ำตันสุ่ยซึ่งเป็นปราการทางธรรมชาติ การถอยทัพไปอยู่ด้านหลังแม่น้ำตันสุ่ยมีประโยชน์ต่อเทียนเฟิ่งของพวกเขามากกว่า

ศิษย์คนโตของจอมเวทย์มองไปทางเมืองผิงหยางซึ่งอยู่ไกลออกไป สายตาหยุดอยู่ที่ร่างของไป๋จิ่นจื้อซึ่งขี่ม้าศึกสีขาวออกมาจากกลุ่มพลทหารม้าเหล็ก จากนั้นกล่าวขึ้น “จากสถานการณ์ที่พวกเราสืบรู้มา ต้าโจวไม่ใช่แคว้นที่ชอบทำสงคราม ขอเพียงพวกเราแสดงความจริงใจให้พวกเขาเห็น แสดงความเป็นมิตรให้พวกเขารับรู้อย่างเต็มที่ กระหม่อมคิดว่าต้าโจวคงยอมอยู่อย่างสันติกับพวกเราแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นส่ายหน้าน้อยๆ เขานึกถึงตอนเจรจาเชื่อมไมตรีระหว่างสี่แคว้นที่เขาคิดว่าสตรีล้วนใจอ่อนจึงคิดเข้าไปตีสนิทกับไป๋ชิงเหยียน ทว่า กลับถูกหญิงสาวเปิดโปงแผนการที่อยากครอบครองดินแดนของนางอย่างหมดเปลือก ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกล่าวขึ้น

“ไม่แน่เหมือนกัน จักรพรรดินีแห่งต้าโจวผู้นั้นฉลาดมาก นางรู้แผนการของพวกเราดี ข้ากลัวว่านางจะไม่รับไมตรีใดๆ จากพวกเราทั้งสิ้น!”

ทว่า หยกจักจั่นกลับอยู่ที่ต้าโจว ช่างเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวเสียจริง

“ให้ทหารทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม ขนก้อนหินและนำมันขึ้นมาให้หมด เตรียมรับมือให้พร้อมหากต้าโจวบุกโจมตีเมือง” ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นขบกรามแน่น เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นกล่าวต่อ “ให้ทหารซีเหลียงขึ้นมาเตรียมป้องกัน บอกพวกเขาว่าเทียนเฟิ่งกำลังช่วยพวกเขาทำสงคราม หากสูญเสียเมืองผิงตู้ไป เทียนเฟิ่งจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น”

“พ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพเทียนเฟิ่งรับคำแล้วจากไปทันที

ไป๋จิ่นจื้อขี่ม้าขาวเข้าไปด้านหน้า ยกแขนชี้หอกเงินหงอิงไปทางแม่ทัพเทียนเฟิ่งซึ่งนั่งอยู่บนหลังช้างศึก จากนั้นกล่าวอย่างไม่รีบร้อน

“ต้องการเจรจาอย่างนั้นหรือ! ได้เลย ทว่า เจ้าต้องลงมาจากหลังช้างยักษ์ตัวนั้นก่อน ข้าไม่ชอบเงยหน้าสนทนากับผู้อื่น!”

แม่ทัพเทียนเฟิ่งซึ่งนั่งอยู่บนหลังช้างโมโหกับท่าทีหยิ่งทระนงของไป๋จิ่นจื้อ ทว่า เมื่อนึกถึงคำกำชับของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น นึกถึงแม่ทัพที่นำกองทัพช้างสามสิบตัวบุกไปโจมตีเมืองผิงหยางจนถูกซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นตัดศีรษะ เขาจึงได้แต่ข่มโทสะพลางตบไปที่ศีรษะของช้างเบาๆ

ช้างส่งเสียงร้องออกมาทีหนึ่ง จากนั้นค่อยๆ ย่อกายลง

เมื่อช้างทรุดตัวลงถึงพื้นหิมะ แม่ทัพเทียนเฟิ่งจึงลุกขึ้นยืน เขาเหยียบไปบนหัวช้าง จากนั้นไถลตัวลงมาจากงวงของมัน เขาปลดดาบที่เอวส่งให้ทหารซึ่งติดตามมาด้วย จากนั้นเดินไปด้านหน้าเพื่อทำความเคารพ

“ได้โปรดมอบม้าให้ข้าสักตัว”

ไป๋จิ่นจื้อเห็นการลงจากหลังม้าของแม่ทัพเทียนเฟิ่งจึงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย หญิงสาวรู้สึกว่าวิธีลงจากหลังช้างเช่นนี้อยากอาจหาญยิ่งนัก เมื่อนางทำสงครามชนะ นางจะนำช้างไปเป็นพาหนะของนางสักตัว เช่นนี้เวลาทำสงครามคงดูองอาจยิ่งนัก

เสิ่นชิงจู๋ซึ่งขี่ม้าอยู่ด้านข้างไป๋จิ่นจื้อมองสำรวจแม่ทัพเทียนเฟิ่งตรงหน้า เมื่อแน่ใจว่าแม่ทัพผู้นี้ไม่มีอาวุธอื่นติดกายแล้วจริงๆ นางจึงพยักหน้าให้ไป๋จิ่นจื้อ

ไป๋จิ่นจื้อปักหอกเงินหงอิงลงบนพื้น จากนั้นจับด้ามของหอกเงินพลางกระโดดลงจากหลังม้า หญิงสาวหยุดยืนอยู่บนพื้นนิ่ง จากนั้นเดินตรงเข้าไปหาแม่ทัพเทียนเฟิ่งด้วยฝีเท้าที่มั่นคง

เสิ่นชิงจู๋ลงจากหลังม้า ตามไปคุ้มกันไป๋จิ่นจื้อ

“ไม่ทราบว่าเกาอี้จวินนำทหารต้าโจวมาล้อมเมืองผิงตู้ในวันนี้เพราะไม่พอใจที่แม่ทัพเทียนเฟิ่งอุกอาจนำกองทัพช้างบุกไปล้อมเมืองผิงหยางพร้อมกับจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงเพื่อจับตัวเหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ยเมื่อวานหรือขอรับ”

“ทูตของเทียนเฟิ่งไม่ได้นำคำของพี่หญิงใหญ่ของข้ามาบอกให้พวกเจ้ารับรู้อย่างนั้นหรือ คนเทียนเฟิ่งของพวกเจ้ากล้าลงมือสังหารองครักษ์ไป๋ของพวกข้า พวกเจ้าคิดว่าเรื่องนี้จะจบลงง่ายๆ อย่างนั้นหรือ ไม่ถามข้าไป๋จิ่นจื้อสักคำว่าตกลงหรือไม่!” ไป๋จิ่นจื้อมองขึ้นไปบนกำแพงเมืองผิงตู้ “วันนี้ข้า ไป๋จิ่นจื้อมาเพื่อแก้แค้น ข้าทำลายแคว้นต้าเหลียงได้ ข้าจะทำลายแคว้นเล็กๆ อย่างพวกเจ้าไม่ได้เชียวหรือ”

พี่ชายห้าไป๋ชิงอวี๋กำชับไป๋จิ่นจื้อก่อนออกเดินทางมาที่นี่ว่าให้นางทำตัวโอหังอย่างถึงที่สุด

นางต้องยื้อเวลาให้พี่ชายห้าและแม่ทัพเสิ่นคุนหยางมีเวลาเตรียมตัว ต้องยื้อเวลาไว้จนกว่ากองทัพต้าเยี่ยนจะเดินทางมาถึง ต้องยื้อเวลาจนกว่ากองทัพหั่วอวิ๋นจะเดินทางไปถึงเมืองผิงหยาง

แม่ทัพเทียนเฟิ่งแสยะยิ้มเย็นออกมาน้อยๆ “เกาอี้จวินเป็นสตรีสาวที่กล้าหาญย่อมไม่กลัวพวกเราเป็นธรรมดา! ทว่า กองทัพช้างของเทียนเฟิ่งของพวกเราไม่ใช่ว่าจะถูกกำจัดได้อย่างง่ายดาย! กองทัพช้างสามสิบตัวของพวกเราถูกต้าเยี่ยนและต้าโจวโจมตีพร้อมกันยังหนีรอดกลับมาได้ตั้งสิบกว่าตัว เห็นได้ชัดว่าพวกมันมีพลังมากเพียงใด”

เมื่อเห็นไป๋จิ่นจื้อชี้นิ้วมาทางเขาราวกับกำลังโมโห แม่ทัพเทียนเฟิ่งรีบก้มศีรษะทำความเคารพทันที จากนั้นกล่าวต่อ “ทว่า เทียนเฟิ่งของพวกเรามาที่นี่ตามคำขอร้องของซีเหลียง เดิมทีพวกเรามาเพื่อช่วยเหลือซีเหลียงให้รอดพ้นจากการโจมตีของหรงตี๋ ทว่า บัดนี้หรงตี๋ดับสูญไปแล้ว เทียนเฟิ่งของพวกเราจึงอยากผูกไมตรีทำการค้ากับต้าโจวอย่างจริงใจเพื่อประโยชน์ของชาวบ้านทั้งสองแคว้น ไม่ได้ต้องการทำสงครามกับต้าโจว เรื่องทุกอย่างล้วนมีทางแก้ไข พวกเราสองแคว้นลองเจรจากันก่อนดีหรือไม่ขอรับ”

สิ่งที่ไป๋จิ่นจื้อต้องการก็การที่เทียนเฟิ่งเสนอเรื่องการเจรจาเช่นนี้

“ได้สิ! พวกเราเจรจากันได้ ทว่า ข้าไม่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องนี้! เชิญจักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งไปเจรจากับพี่หญิงใหญ่ของข้าและใต้เท้าหลิ่วหรูซื่อที่เมืองผิงหยางพร้อมกับข้าดีหรือไม่” ไป๋จิ่นจื้อยกยิ้มมุมปาก

“เกาอี้จวินกำลังล้อเล่นกระมัง แม้จักรพรรดิของข้าจะอยากผูกมิตรกับต้าโจว ทว่า บัดนี้ต้าโจวล้อมเมืองผิงตู้อยู่ ต้าโจวเชิญจักรพรรดิของพวกเราไปยังผิงหยาง พวกเราย่อมกลัวเป็นธรรมดานะขอรับ” แม่ทัพเทียนเฟิ่งกล่าว

“เช่นนั้นเจ้าต้องการเจรจาเช่นไร” ไป๋จิ่นจื้อมีสีหน้าหงุดหงิดใจ “ให้พวกเราบุกเข้าไปเจรจาอย่างนั้นหรือ”

“บัดนี้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวกำลังตั้งครรภ์ หิมะตกหนักเช่นนี้ ไม่สู้เชิญใต้เท้าหลิ่วหรูซื่อมาเจรจาหน้าเมืองผิงตู้ดีหรือไม่…”