ตอนที่ 1109 นั่งรอความตาย

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1109 นั่งรอความตาย

“ครั้งนี้ต้าโจวกับต้าเยี่ยนร่วมมือกันโจมตีกองทัพช้างของเทียนเฟิ่ง หากต้าโจวกล้ายกทัพออกมาจากเมืองทั้งหมด ต้าเยี่ยนก็คงกล้าเช่นเดียวกัน! ในเมื่อต้าโจวและต้าเยี่ยนเคยเผชิญหน้ากับกองทัพช้างมาก่อนพวกเขาย่อมรู้ดีว่าหากต้องทำสงครามจริงๆ พวกเขาต้องกำจัดกองทัพช้างของเทียนเฟิ่งให้ได้เกินครึ่ง มิเช่นนั้นอาจเกิดปัญหาร้ายแรงตามมาภายหลังได้!” อวิ๋นพั่วสิงวางที่คีบเหล็กลง จากนั้นเงยหน้ามองหลี่เทียนเจียว “ดังนั้นกระหม่อมกล้าพนันว่าต้าโจวและต้าเยี่ยนต้องทุ่มกองกำลังทั้งหมดที่มีในตอนนี้เพื่อทำสงครามกับเทียนเฟิ่ง เมืองผิงหยางต้องว่างเปล่าไร้การป้องกันแน่พ่ะย่ะค่ะ”

“ท่านพ่อหมายความว่าให้พวกเราทำตามคำสั่งของต้าโจวโดยการยกทัพไปดักซุ่มโจมตีที่ภูเขาหานเหวินหรือขอรับ” อวิ๋นหลิงจื้อถาม

ไม่รอให้อวิ๋นพั่วสิงเอ่ยตอบ หลี่เทียนเจียวกล่าวขึ้นก่อน “สิ่งที่พวกเราทำได้มีเพียงการยอมสวามิภักดิ์ต่อต้าเยี่ยน ต้าโจวหรือเทียนเฟิ่งเท่านั้นอย่างนั้นหรือ เหตุใดพวกเราถึงได้ขี้ขลาดและอ่อนแอเพียงนี้กัน!”

อวิ๋นหลิงจื้อมองไปทางอวิ๋นพั่วสิงแวบหนึ่ง จากนั้นเอ่ยถามอย่างนอบน้อม “ฝ่าบาททรงหมายความเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”

“หากต้าเยี่ยนและต้าโจวยกทัพออกมาทั้งเมืองจริงๆ แทนที่พวกเราจะทำตามคำสั่งของไป๋ชิงเหยียน ยอมเป็นรัฐบรรณการของพวกเขา เหตุใดพวกเราไม่ยกทัพบุกไปจับตัวไป๋ชิงเหยียนที่เมืองผิงหยางแทนเล่า”

อวิ๋นเทียนเอ้ามองไปทางปู่ของตัวเองอย่างนึกไม่ถึง

“ต้าโจวและต้าเยี่ยนไม่มีทางรบชนะกองทัพช้างของเทียนเฟิ่งได้ง่ายๆ การเอาชนะช้างศึกที่มีเกราะป้องกันทั้งตัวเช่นนั้น หากพวกเขาชนะก็คงสูญเสียไม่ต่างกัน!” หลี่เทียนเจียวเอื้อมมือไปอังไฟ หญิงสาวก้มมองเปลวไฟที่ประทุอยู่ในเตาผิง “ปล่อยให้เทียนเฟิ่งและต้าโจวทำสงครามกันจนพ่ายแพ้ยับเยินทั้งสองฝ่าย ให้หลี่เทียนฟู่ไม่มีกองทัพช้างเป็นที่พึ่ง เมื่อพวกเราจับเป็นไป๋ชิงเหยียนจักรพรรดินีแห่งต้าโจวได้ กองทัพซีเหลียงที่ยอมสวามิภักดิ์กับหลี่เทียนฟู่เพราะหวาดกลัวอำนาจของเทียนเฟิ่งต้องกลับมาอยู่ใต้อาณัติของเราตามเดิมแน่นอน คนซีเหลียงที่ลอบช่วยเหลือพวกเราอยู่อย่างลับๆ จะได้เปิดเผยตัวออกมาได้อย่างสง่าผ่าเผยเสียที”

อวิ๋นพั่วสิงหยัดกายตรง หลี่เทียนเจียวกล่าวมีเหตุผล!

หากไม่มีกองทัพช้างของเทียนเฟิ่งคอยหนุนหลัง หลี่เทียนฟู่ไม่มีทางทำสิ่งใดได้ตามอำเภอใจต่อไปแน่ เมื่อตระกูลสูงศักดิ์ของซีเหลียงที่ถูกบังคับให้สวามิภักดิ์ต่อหลี่เทียนฟู่เห็นว่าหลี่เทียนเจียวจับตัวไป๋ชิงเหยียนได้ พวกเขาต้องกลับมาสวามิภักดิ์ต่อหลี่เทียนเจียวอีกครั้งแน่นอน ไม่ว่าอย่างไรคนซีเหลียงก็คงไม่อยากให้แคว้นของตัวเองตกเป็นของผู้อื่นแน่

“ทว่า เราต้องแน่ใจก่อนว่าต้าโจวยกกองทัพไปต่อสู้กับเทียนเฟิ่งทั้งเมือง เมืองผิงหยางไม่มีทหารคุ้มกันอยู่แล้วจริงๆ” อวิ๋นหลิงจื้อกล่าว

อวิ๋นหลิงจื้อยังมีความกังวลอยู่ ทว่า เขาต้องยอมรับว่าวิธีของหลี่เทียนเจียวคือวิธีที่จะทำให้กองทัพหั่วอวิ๋นสูญเสียน้อยที่สุดในตอนนี้แล้ว

ตอนที่หลี่เทียนเจียวส่งหลี่จือเจี๋ยไปเจรจากับไป๋ชิงเหยียนที่ต้าโจว อวิ๋นพั่วสิงตัดสินใจไว้แล้วว่าเมื่อต้าโจวขับไล่เทียนเฟิ่งไปได้สำเร็จ เมื่อซีเหลียงกลับคืนสู่ภาวะปกติ หากจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงตัดสินใจสวามิภักดิ์ต่อต้าโจว เขาจะพลีชีพเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของแคว้นซีเหลียง

ดังนั้นแม้อวิ๋นพั่วสิงจะเป็นกังวลกับแผนการของหลี่เทียนเจียว ทว่า เขาสนับสนุนแผนการนี้ยิ่งนัก

“ข้าส่งคนไปสืบแล้ว อีกไม่นานคงกลับมารายงาน” หลี่จือเจี๋ยกล่าว

หลี่เทียนเจียวหันไปมองหลี่จือเจี๋ยด้วยแววตาอ่อนโยนอย่างที่ไม่ค่อยแสดงออกให้เห็น หญิงสาวมองไปยังตำแหน่งขาที่ว่างเปล่าภายในผ้าห่มของหลี่จือเจี๋ย ดวงตาร้อนผ่าวขึ้นทันที “เหยียนอ๋องลำบากเพราะซีเหลียงแล้ว”

หลี่จือเจี๋ยส่ายหน้า “หลี่จือเจี๋ยคือคนของราชวงศ์ซีเหลียง กระหม่อมทำเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อจักรพรรดิองค์ก่อน ไทเฮาและตระกูลของพวกเรา เป็นสิ่งที่สมควรแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“เป็นคนของราชวงศ์เหมือนกัน ทว่า น้องสาวแท้ๆ ของเรากลับต้องการให้ซีเหลียงทั้งแคว้นแก้แค้นให้ขันทีเพียงคนเดียว!” หลี่เทียนเจียวนึกถึงน้องสาวของตัวเองขึ้นมา ดวงตาของนางพร่ามัวมากขึ้นกว่าเดิม นางถอนหายใจยาวออกมา “หากครั้งนี้พวกเรายึดซีเหลียงกลับคืนมาได้เราจะไม่ใจอ่อนกับหลี่เทียนฟู่อีกเด็ดขาด เราจะถือเสียว่าเราไม่เคยมีน้องสาวอย่างนาง!”

แม้เรื่องของหลี่เทียนฟู่จะไม่ได้เป็นเพียงเรื่องในครอบครัวของหลี่เทียนเจียว ถือเป็นเรื่องของแคว้นด้วย ทว่า อวิ๋นพั่วสิงและหลี่จือเจี๋ยต่างไม่สามารถแทรกแซงเรื่องนี้ได้

“รอก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” หลี่จือเจี๋ยกล่าว “เมื่อองครักษ์ที่กระหม่อมส่งไปสืบสถานการณ์กลับมา ฝ่าบาทจะได้รู้ว่าควรเดินหมากต่อไปเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่เทียนเจียวพยักหน้า หญิงสาวกำชับให้หลี่จือเจี๋ยพักผ่อน จากนั้นเดินออกไปจากถ้ำของหลี่จือเจี๋ย หญิงสาวส่งคนไปจับตาดูค่ายทหารของต้าเยี่ยน หากต้าเยี่ยนส่งกองทัพไปยังเมืองผิงหยางให้รีบกลับมารายงานนางทันที

ความเจ็บปวดทำให้แผ่นหลังของหลี่จือเจี๋ยเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ที่เจ็บปวดกว่าร่างกายคือใจที่ยากจะยอมรับว่าตัวเองสูญเสียขาไปข้างหนึ่งแล้ว ความอ่อนล้าจากการสูญเสียเลือดมากเกินไปทำให้หลี่จือเจี๋ยอยากล้มตัวลงนอนด้วยความวิงเวียน ทว่า เขาฝืนร่างกายของตัวเองเอาไว้ เขารู้ดีว่าเมื่อองครักษ์ที่เขาส่งไปสืบว่าต้าโจวส่งกองกำลังทั้งหมดในเมืองผิงหยางออกไปทำสงครามกับเทียนเฟิ่งจริงหรือไม่กลับมาคือช่วงที่ซีเหลียงจะตัดสินใจทำสิ่งสำคัญที่สุด…ว่าที่สุดแล้วพวกเขาจะยอมสวามิภักดิ์ต่อต้าโจวหรือจะเสี่ยงต่อสู้ครั้งสุดท้ายกันแน่

หลี่จือเจี๋ยไม่กล้าล้มตัวลงนอน เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะเจ็บปวดหรือเสียใจ

เวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆ ขณะที่ฟ้ากำลังจะมืดสนิทลงองครักษ์ที่หลี่จือเจี๋ยส่งไปสืบจึงขี่ม้าเร็วกลับมายังภูเขาไหลอัน ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

หลี่จือเจี๋ยได้รับรายงานว่าทหารผู้นั้นถูกพาตัวไปยังที่พักของหลี่เทียนเจียวทันทีที่กลับมาถึง ชายหนุ่มจึงสั่งให้คนแบกเขาไปยังที่พักของหลี่เทียนเจียว

ตอนที่หลี่จือเจี๋ยไปถึง เขาได้ยินทหารองครักษ์รายงานหลี่เทียนเจียวว่า “กระหม่อมซ่อนตัวอยู่ในกองหิมะนานจนเห็นว่าทหารของต้าโจวยกทัพออกจากค่ายทหารไปทั้งหมด เหลือเพียงทหารคุ้มกันค่ายส่วนหนึ่งเท่านั้น กระหม่อมจึงย้อนกลับเข้าไปในเมืองผิงหยางโดยอ้างว่าเหยียนอ๋องลืมของไว้ในเมือง กระหม่อมสำรวจรอบเมืองพบว่านอกจากทหารคุ้มกันเมืองร้อยกว่านายแล้ว เมืองผิงหยางไม่มีทหารใดๆ หลงเหลืออยู่ทั้งสิ้นพ่ะย่ะค่ะ”

เปลวไฟในถ้ำสะบัดไปมา เสียงไฟในเตาผิงปะทุขึ้นเล็กน้อย

หลี่เทียนเจียวกำหมัดแน่น “ไป๋ชิงเหยียนคงรู้ดีว่าต้องจบสงครามนี้ให้ได้ก่อนฤดูหนาวจะสิ้นสุดลง ดังนั้นนางจึงทุ่มกองกำลังทั้งหมดเพื่อขับไล่เทียนเฟิ่งออกไปให้ได้เช่นนี้”

หลี่เทียนเจียวกล่าวจบจึงเงยหน้าขึ้น ดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกายและหนักแน่น “เมื่อต้าโจวและต้าเยี่ยนร่วมมือกันขับไล่เทียนเฟิ่งกลับไปได้สำเร็จ พวกเขาต้องหันกลับมาโจมตีซีเหลียงแน่นอน ซีเหลียงของพวกเราจะนั่งรอความตายอยู่เฉยๆ ไม่ได้เด็ดขาด ส่งคนไปจับตาดูความเคลื่อนไหวที่เมืองผิงตู้ไว้ เมื่อต้าเยี่ยนและต้าโจวบุกโจมตีเมืองผิงตู้เมื่อใด ซีเหลียงจะถือโอกาสนี้บุกไปจับตัวไป๋ชิงเหยียนที่เมืองผิงหยางโดยมีแม่ทัพอวิ๋นเป็นคนนำทัพ!”

อวิ๋นพั่วสิงขบกรามแน่นทันทีที่ได้ยินคำกล่าวของหลี่เทียนเจียว เขาตัดสินใจนำชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงเพื่อความอยู่รอดของซีเหลียง เขาตะโกนเสียงดังลั่น “ให้ทหารเตรียมตัวให้พร้อม!”

“ท่านปู่ ขอเพียงพวกเราจับเป็นไป๋ชิงเหยียนได้ ทหารที่ทรยศฝ่าบาทจะกลับมาสนับสนุนฝ่าบาทใช่หรือไม่ขอรับ” อวิ๋นเทียนเอ้ากำดาบที่เอวของตัวเองแน่น

อวิ๋นพั่วสิงพยักหน้า “แน่นอน!”

อวิ๋นเทียนเอ้าคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น เงยหน้ามองอวิ๋นพั่วสิง “หลานขอนำทัพด่านหน้าบุกไปจับตัวไป๋ชิงเหยียนเพื่อแก้แค้นให้ท่านลุงใหญ่ขอรับ!”

เมื่ออวิ๋นพั่วสิงได้ยินหลานชายเอ่ยถึงบุตรชายคนโตของตน ขอบตาของเขาร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เขาประคองร่างของหลานชายขึ้นมา “เด็กดี”

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นยืนอยู่บนกำแพงเมือง เมื่อเห็นกองทัพต้าโจวล้อมเมืองผิงตู้ไว้ ทว่า ไม่ได้มีท่าทีจะลงมือใดๆ เขาจึงส่งทหารที่ค่อนข้างชำนาญภาษากลางขี่ช้างยักษ์ออกไปขอพบแม่ทัพใหญ่ของอีกฝ่ายที่นอกเมือง