บทที่ 1123 หัวใจเด็กหนุ่มแตกสลาย

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1123 หัวใจเด็กหนุ่มแตกสลาย

บทที่ 1123 หัวใจเด็กหนุ่มแตกสลาย

“สวัสดีสหาย เราเป็นเพื่อนกันได้หรือเปล่า?”

เด็กหนุ่มผู้มีใบหน้าสดใสและหล่อเหลายืนอยู่เบื้องหน้า และพูดสิ่งที่ยากจะตอบออกมา

ซูเสี่ยวเถียนมองอีกฝ่าย ดูไม่มีกาลเทศะต้องเป็นเด็กใหม่แน่ ๆ

แล้วทำไมถึงคิดหนัก? เพราะเธอเป็นคนมีชื่อเสียงหรือ?

มีแค่เด็กใหม่เท่านั้นที่ไม่ทราบเรื่องนี้

และการหาเพื่อนในยุคนี้ไม่ใช่คบเป็นเพื่อน แต่หมายถึงขอจีบต่างหาก

“สหายตัวน้อย เธอตั้งใจเรียนดีกว่านะ เรื่องเป็นเพื่อนอะไรนั่นไว้รอโตกว่านี้เถอะ!”

น้ำเสียงมากประสบการณ์ แต่ใบหน้าเด็กน้อยของซูเสี่ยวเถียนทำเอาอีกฝ่ายนึกสับสน

ทำไมคนที่อายุน้อยกว่าถึงพูดแบบนี้ล่ะ?

เหมือนโดนผู้ใหญ่ดุตอนกลับบ้านเลย

“ฉันแค่อยากเป็นเพื่อนกับเธอเฉย ๆ นะ ไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝงเลย! จากนี้ไปเรามาตั้งใจเรียนด้วยกันเถอะ!”

น้ำเสียงฟังดูเขินอาย ดูออกเลยว่าพยายามมาก

ซูเสี่ยวเถียนหน้าตาสวยไม่น้อย ทำให้เด็กหนุ่มยิ่งมั่นใจในหน้าตาตัวเองเช่นกัน

เด็กสาวระเบิดเสียงหัวเราะ

“พวกฉันอยู่ปีสี่แล้วนะ”

“…”

เด็กหนุ่มสับสน

“ฉันใกล้จะไปฝึกงานแล้วด้วย ขอโทษที่ไปเรียนกับเธอไม่ได้นะ!”

ว่าจบ เธอก็อดเผยสีหน้าขมขื่นออกมาไม่ได้

คนอื่น ๆ จะได้ฝึกงานแล้ว แต่ตัวเธอกลับไม่รู้จะไปที่ไหนดี

ฝึกที่จิ่งเฉิงก็ไม่ได้อะไรเท่าไรหรอก แล้วก็ไม่น่าสนใจด้วย

ลองถามลุงเขยดูดีกว่าว่าไปฝึกด้วยได้ไหม

ไม่รู้ว่ามหาวิทยาลัยจะนับเป็นเกรดหรือเปล่าเพราะมันไม่ตรงสาย

แต่เธอเชื่อว่าวุฒิการศึกษาไม่ใช่เรื่องจำเป็น

เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ใบประกาศนียบัตรต่างหากคือสิ่งที่จำเป็น!

เด็กหนุ่มไม่รู้อีกฝ่ายกังวลอะไร

เพราะมัวแต่นิ่งค้างอยู่อย่างนั้น

ไม่ว่าจะคิดยังไงสิ่งที่ซูเสี่ยวเถียนพูดคือเรื่องโกหก

ผู้หญิงตรงหน้าที่ท่าทางเหมือนเด็กอายุสิบหกไม่ก็สิบเจ็ดเนี่ยนะเป็นเด็กปีสี่?

ถ้าบอกเป็นเด็กมัธยมปลายยังเชื่อมากกว่าอีก

สงสัยตนได้ยินผิดเอง

ไม่ไกลจากกันนัก ฉู่เยว่และจ้าวหงเหมยกำลังกลั้นเสียงหัวเราะใจแทบขาด

ทั้งสองเกือบขำตายเสียแล้ว

เหตุการณ์ตรงหน้าตลกมาก

อีกหนึ่งหัวใจที่แตกสลายเพราะโดนเสี่ยวเถียนทำร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ!

“เธอว่าหัวใจพ่อหนุ่มนั่นโดนแทงเป็นชิ้น ๆ หรือยัง?” จ้าวหงเหมยลดเสียง

“น่าจะใกล้แล้วละ ตั้งแต่ขึ้นปีสี่มา เสี่ยวเถียนเหมือนคนจะเข้าประตูวิวาห์ทุกเมื่อเลย”

ฉู่เยว่อยากรู้จริง ๆ เมื่อก่อนไม่เห็นมีใครมาไล่จีบเพื่อนคนนี้เลย แล้วทำไมครึ่งปีให้หลังถึงมีแต่พวกแกว่งเท้าหาเสี้ยนเยอะขนาดนี้?

“กลับไปโม้ให้ทุกคนฟังกัน งานนี้สนุกแน่!” จ้าวหงเหม่ยตัดสินใจทันที

ฉู่เยว่ไม่ค้าน สุขใดเล่าไม่เท่าสุขกันถ้วนหน้า!

ทั้งสองเห็นพ้องต้องกัน

ก่อนเดินออกไปในสภาพเหมือนคนใกล้หมดลมหายใจ

“อยู่นี่เองเสี่ยวเถียน หาง่ายเหลือเกิน” จ้าวหงเหมยกล่าว

ซูเสี่ยวเถียนถาม “ไม่ได้กรอกเอกสารกันอยู่หรือ ทำไมถึงออกมาได้ล่ะ?”

“อาจารย์ฮั่วให้มาตามน่ะซี่ ท่านบอกว่ากระทรวงการต่างประเทศกับกระทรวงพาณิชย์ส่งจดหมายเชิญมาขอความเห็นเธอให้ไปฝึกงานด้วยน่ะ!”

ฉู่เยว่เอ่ยแล้วมองเด็กหนุ่มด้วยท่าทีร้ายกาจ

ตอนนี้เห็นสีหน้าไอ้หนุ่มชัดแล้ว

ไม่เชื่อว่าเสี่ยวเถียนเป็นเด็กปีสี่สินะ งั้นก็ต้องช่วยยืนยัน!

เด็กหนุ่มคิดว่าได้ยินผิดไปเลยจะถามอีกรอบ

แต่ก็ต้องมาตกใจกับประโยคของฉู่เยว่แทน

คนที่ดูเด็กกว่าเราคือรุ่นพี่จริง ๆ หรือ?

คิดว่าโกหกเพื่อปฏิเสธอ้อม ๆ เสียอีก?

เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อครู่ได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่านะ?

กระทรวงพาณิชย์?

กระทรวงการต่างประเทศ?

ใช่สถานที่ที่ตนรู้จักหรือเปล่านะ?

ที่ซึ่งชีวิตนี้คงไม่อาจได้ย่างก้าวเข้าไปได้

เหมือนฝันเลย

ต่อให้จิ่งเฉิงเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีกว่าที่อื่น ๆ แต่สองหน่วยงานนี้คงไม่เชิญนักศึกษาไปฝึกงานหรอก!

ถ้าไม่ได้ฝันแล้วจะเป็นอะไรได้อีก?

เด็กหนุ่มมองสามสาวเดินหัวเราะคิกคักจากไปด้วยสีหน้าว่างเปล่า ราวกับหลงละเมอ

ตอนนั้นเองที่มีสองหนุ่มเดินเข้ามาหา

“เหล่าต้วน แกมายืนทำอะไรตรงนี้เนี่ย?” หนุ่มร่างอ้วนตบไหล่

หนุ่มผู้ร่าเริงมองทิศทางที่ไร้ผู้คน “เมื่อครู่นี้ฉันเจอเพื่อนคนหนึ่งเด็กมากเลย ตั้งใจจะเป็นเพื่อนด้วย แต่เจ้าตัวว่าเป็นรุ่นพี่ปีสี่แล้ว!”

ในน้ำเสียงมีความผิดหวัง

“เฮ้อ… ก็ช่างเขาไปซี่ ไปเหอะ เตะบอลกัน!” หนุ่มร่างอ้วนไม่ได้สนใจ

“แล้วสักพักก็มีเพื่อนเขามาบอกว่ากระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงการต่างประเทศส่งจดหมายเชิญเธอไปฝึกงานด้วยนะ ฉันฝันหรือเปล่าเนี่ย?”

“อะไรนะ ไหนพูดอีกทีซิ!” หนุ่มผอมสูงโพล่งขึ้นมา

“กระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงการต่างประเทศส่งจดหมายเชิญเธอไปฝึกงาน ฉันฝันหรือเปล่า!”

หนุ่มผู้ร่าเริงนามเหล่าต้วนพูดอีกรอบ

“แกไม่ได้ฝันเว้ยเหล่าต้วน แกได้เจอเทพธิดาของจิ่งเฉิงแล้ว!”

หนุ่มผอมสูงตื่นเต้นมาก ตัวสั่นเทิ่มไปหมด

“เทพธิดาอะไร?”

“เธอคนนั้นชื่อซูเสี่ยวเถียน!” หนุ่มผอมสูงตะโกนลั่น

“ซูเสี่ยวเถียน?”

ฟังดูคุ้น ๆ แฮะ!

“นักศึกษาที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยจิ่งเฉิง เป็นเด็กจากห้องเรียนพิเศษของโรงเรียนมัธยมอันดับ 7 เชี่ยวชาญหลายภาษาและเป็นนักธุรกิจอัจฉริยะ ฉันได้ยินมาว่าเธอได้วิจัยงานหลายอย่างเลยโดยเฉพาะการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชเกษตร ส่วนด้านการเรียนเรียกได้ว่าผู้มีพรสวรรค์ระดับเชี่ยวชาญทุกแขนง”

“เมืองขนมของมหาวิทยาลัยก็เป็นทรัพย์สินของเธอ หลู่เซียงเซียงที่เรากินบ่อย ๆ นั่นก็ของเธออีก ไม่ใช่ของครอบครัวด้วยนะ!”

รู้เลยว่าหนุ่มผอมสูงคนนี้เป็นแฟนตัวยงและรู้ทุกเรื่องของซูเสี่ยวเถียนเลย

เวลาพูดเรื่องนี้ทีไร มันทำให้คนรู้สึกว่าเขาภาคภูมิใจมาก!

——————————————