ตอนที่ 1126 พร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1126 พร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ

กองทัพช้างข้ามแม่น้ำตันสุ่ยไปอย่างรวดเร็ว อาจเป็นเพราะบาดแผลไฟลวกตามร่างกายเมื่อช้างสัมผัสกับน้ำพวกมันจึงรู้สึกมีชีวิตชีวาราวกับได้เกิดใหม่อีกครั้ง พวกมันแช่ตัวอยู่ในน้ำนิ่งไม่ยอมขยับไปที่ใดทั้งสิ้น

ทว่า ไม่นานความแสบร้อนบนร่างกายก็ถูกกระแสน้ำในแม่น้ำตันสุ่ยพัดหายไป พวกมันเริ่มรู้สึกหนาวจนต้องรีบเดินขึ้นไปบนฝั่ง จากนั้นมุ่งหน้าไปยังเมืองเฉวี่ยนหยาตามคำสั่งของขลุ่ย

เสิ่นคุนหยางนำกองทัพตามไปกวาดล้างทหารที่หลงเหลืออยู่บนฝั่งของกองทัพเทียนเฟิ่ง พวกเขาจับเชลยได้หลายคน เสิ่นคุนหยางมองตามแผ่นหลังของกองทัพช้างที่เดินข้ามแม่น้ำตันสุ่ยขึ้นไปบนฝั่งตรงข้ามอย่างทุลักทุเล จากนั้นสั่งให้ทหารถอยทัพ

ครั้งนี้เทียนเฟิ่งสูญเสียกองทัพช้างไปจำนวนมากจนเหลือช้างศึกเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น ส่วนต้าโจวของพวกเขาแทบไม่สูญเสียเลยสักนิด เป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่จริงๆ!

เสิ่นคุนหยางสั่งให้ทหารทุกคนรามือ พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่สามารถข้ามแม้น้ำไล่ตามพวกนั้นไปได้อย่างง่ายดาย เดิมทีพวกเขาก็ไม่ได้วางแผนจะข้ามตามไปต่อสู้กับเทียนเฟิ่งที่อีกฝั่งของแม่น้ำตันสุ่ยอยู่แล้ว

“เก็บกวาดสถานที่!” เสิ่นคุนหยางหันหัวม้ากลับไปออกคำสั่ง

ไป๋ชิงอวี๋ตามมาถึงภายหลัง เมื่อรู้ว่าสงครามยุติลงแล้วชายหนุ่มจึงสั่งให้ทหารส่วนหนึ่งเดินทางกลับไปก่อน ทหารอีกครึ่งหนึ่งอยู่เก็บกวาดสนามรบให้เรียบร้อย จากนั้นสั่งให้ทหารนำช้างที่ยังไม่ได้ถูกเผาจนมอดไหม้กลับไปยังเมืองเพื่อดูว่าจะนำเนื้อช้างไปทำเป็นเสบียงอาหารได้หรือไม่

“ให้พ่อครัวลองทำเกี๊ยวเนื้อช้างให้พวกเรากินในคืนสิ้นปีดูสักหน่อย” ไป๋ชิงอวี๋กล่าวจบจึงขี่ม้าพาทหารกลับไปยังเมือง

วันที่ยี่สิบเก้า เดือนสิบสอง รัชศกหยวนเหอปีที่หนึ่ง กองทัพต้าโจวและต้าเยี่ยนร่วมมือกันบุกโจมตีเมืองผิงตู้ของเทียนเฟิ่ง แคว้นเทียนเฟิ่งพ่ายแพ้หลบหนีไปอย่างยับเยิน

หลังจากผ่านสงครามที่ตึงเครียดในคืนนี้ไป เหล่าทหารยังคงตกอยู่ในความปลื้มปิติที่สามารถเอาชนะกองทัพช้างได้ ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่ากองทัพช้างของเทียนเฟิ่งไร้เทียมทาน นึกไม่ถึงคงเลยว่ากองทัพช้างเหล่นนี้จะตาบราบอยู่ในเมืองผิงตู้และหุบเขาหานเหวินภายในชั่วข้ามคืนเช่นนี้

เมื่อท้องฟ้าสว่างขึ้น ทหารช่วยกันดับไฟและลงไปเก็บเนื้อช้างและเสื้อเกราะเหล็กของช้าง พวกเขาตะโกนร้องอย่างดีใจว่าจะกินเกี๊ยวเนื้อช้างในคืนวันสิ้นปี พวกเขารู้สึกดีที่กำลังจะได้กินเนื้อของเหยื่อที่พวกเขาล่ามาได้ด้วยตัวเอง

วันที่สามสิบ เดือนสิบสองคือวันสิ้นปี เหล่าทหารมักนึกถึงคนในครอบครัวของตัวเอง พวกเขามองไปยังเนื้อช้างที่กำลังจัดการแล่ออกมาด้วยขอบตาร้อนผ่าว…หากพ่อ แม่ เมียและลูกของเขาได้ลิ้มลองรสชาติของมันด้วยก็คงจะดี

ขณะที่กองทัพของสองแคว้นกำลังช่วยกันเก็บกวาดสนามรบ ไป๋จิ่นจื้อมองดูเสื้อเกราะเหล็กของช้างศึกที่เหล่าทหารช่วยกันขนกลับเข้ามาในเมือง ขณะที่สาวน้อยกำลังคิดว่าสามารถนำเสื้อเกราะเหล่านี้ไปหลอมเป็นอาวุธให้กองทัพได้มากเท่าใดนางก็ได้รับรายงานว่าทหารต้าโจวและต้าเยี่ยนกำลังจะสู้กันเอง

ไป๋จิ่นจื้อเดือดดาลขึ้นมาทันที ทว่า เมื่อคิดได้ว่าอีกไม่นานสองแคว้นก็จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วนางจึงข่มโทสะที่มีอยู่ในใจลง จากนั้นให้คนไปรายงานพี่หญิงใหญ่และพี่ชายห้าที่กำลังปรึกษาเรื่องสำคัญอยู่กับอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนและแม่ทัพใหญ่เซี่ยสวิน ส่วนนางจะขวบม้าไปดูสถานการณ์ก่อน

“อยู่ที่ใด! รีบพาข้าไปเร็ว”

เมื่อได้ยินผลสรุปเรื่องการแบ่งจำนวนเสื้อเกราะเหล็กของกองทัพช้างให้ทั้งสองแคว้นของไป๋ชิงเหยียน เสิ่นคุนหยางมีท่าทีอึกอักเล็กน้อย เขาเหลือบมองไปทางอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนซึ่งสวมหน้ากากเงินปิดบังใบหน้าแวบหนึ่ง

มู่หรงเหยี่ยนนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “แม้สองแคว้นจะร่วมมือกัน ทว่า ต้าเยี่ยนส่งกองกำลังมาน้อยกว่าต้าโจว ที่สำคัญกองทัพต้าโจวเป็นคนดักซุ่มโจมตีที่หุบเขาหานเหวิน ทว่า ต้าเยี่ยนกลับได้รับช้างยักษ์มากกว่าต้าโจวเสียอีก เช่นนี้ไม่ยุติธรรมต่อต้าโจว ต้าเยี่ยนจะรับไว้เพียงช้างที่อยู่บริเวณประตูทิศเหนือของเมืองผิงตู้ไปจนถึงหน้าหุบเขาหานเหวินเท่านั้น

เซี่ยสวินกำหมัดแน่น เขาเริ่มรู้สึกไม่พอใจ “ท่านอ๋อง หากทำเช่นนี้เกรงว่าทหารอาจไม่พอใจได้ขอรับ”

แม้ต้าเยี่ยนจะมีกองกำลังน้อยกว่า ทว่า หากต้าเยี่ยนไม่ส่งกองกำลังมาช่วยเหลือ กองทัพช้างก็คงล้มตายมากถึงเพียงนั้นก่อนเดินทางไปถึงหุบเขาหานเหวินแน่

กองทัพซึ่งดักซุ่มอยู่ที่หุบเขาหานเหวินของต้าโจวล้วนโจมตีจากที่สูง แม้กองทัพโจมตีเมืองของเกาอี้จวินและหยางอู่เช่อจะสูญเสียไปเกือบครึ่งในช่วงแรกที่บุกยึดเมือง ทว่า กองทัพที่ดักซุ่มโจมตีในหุบเขาหานเหวินของต้าโจวแทบไม่สูญเสียเลยแม้แต่น้อย

ทว่า กองทัพของต้าเยี่ยนไม่เหมือนกัน ทหารของต้าเยี่ยนเผชิญหน้าต่อสู้กับกองทัพช้างของเทียนเฟิ่งซึ่งๆ หน้า พวกเขาเสียหายหนักมาก!

ต้าโจวเป็นคนยึดเมืองได้ดังนั้นเซี่ยสวินจึงไม่คัดค้านที่เมืองผิงตู้จะตกเป็นของต้าโจว ทว่า หากพวกเขาไม่ได้จำนวนช้างศึกที่มากกว่าคงไม่สมเหตุสมผลสักเท่าใดนัก

ไป๋ชิงเหยียนรู้สถานการณ์ในต้าเยี่ยนดี ภูมิประเทศของต้าเยี่ยนทำให้ต้าเยี่ยนไม่ค่อยมีเหมือง บัดนี้ต้าจิ้นถูกสถาปนาเป็นแคว้นต้าโจวแล้ว ภูเขาที่เซียวหรงเหยี่ยนซื้อไว้ก่อนหน้านี้จึงตกเป็นของต้าโจวโดยปริยาย

ถึงแม้ตอนนี้ต้าเยี่ยนจะสามารถใช้เหมืองของต้าเว่ยได้ ทว่า การหลอมอาวุธต้องใช้ระยะเวลา เสื้อเกราะเหล็กของแคว้นเทียนเฟิ่งที่ถอดออกมาจากลำตัวของช้างศึกไม่เพียงแต่สามารถนำไปหลอมเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งและทนทานได้ พวกเขายังสามารถนำเนื้อช้างไปทำเป็นเสบียงอาหารได้อีก แม้ของเพียงเท่านี้จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลงเสบียงในต้าเยี่ยนไม่ได้ ทว่า นี่ถือเป็นน้ำใจของต้าโจว

“ประตูทิศเหนือของเมืองผิงตู้ไม่มีที่สูงให้ขึ้นไปยืนโจมตี ต้าเยี่ยนเผชิญหน้ากับกองทัพช้างซึ่งๆ หน้า พวกเขาสูญเสียเป็นจำนวนมาก สองแคว้นร่วมมือกันต่อสู้ ต้าโจวโจมตีเมืองได้ก่อนจึงได้เมืองผิงตู้มาครอบครอง ดังนั้นต้าเยี่ยนจึงควรได้จำนวนช้างศึกมากกว่าต้าโจว!”

ไป๋ชิงเหยียนมองการณ์ไกลกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้

“หลังจากนี้ต้าเยี่ยนและต้าโจวยังต้องร่วมมือกันทำสงครามอีก ครั้งนี้ข้ายอมให้พวกท่าน ครั้งหน้าพวกท่านยอมให้ข้าบ้าง เช่นนี้พวกเราจึงจะจับมือกันเดินไปได้ไกลกว่าเดิม หากเอาแต่คิดกอบโกยผลประโยชน์ที่ได้ไว้ฝ่ายเดียว นานวันเข้าอีกฝ่ายอาจรู้สึกว่าเสียเปรียบ วันหน้าอาจเกิดการตะขิดตะขวงใจกันกันเกิดขึ้น!”

เซี่ยสวินได้ยินคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียนจึงหันไปมองทางหญิงสาว เขานับถือในความใจกว้างของไป๋ชิงเหยียนจากใจจริง เซี่ยสวินกลัวว่าอ๋องของเขาจะปฏิเสธจึงรีบหยัดกายขึ้นคำนับไป๋ชิงเหยียน

“จักรพรรดินีแห่งต้าโจวทรงมีเมตตา เซี่ยสวินนับถือยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ เซี่ยสวินจะจดความเมตตาของฝ่าบาทไว้ในใจไม่ลืมเลือนพ่ะย่ะค่ะ!”

เซี่ยสวินคิดว่าที่ไป๋ชิงเหยียนใจกว้างถึงเพียงนี้เป็นเพราะต้าโจวมีความอุดมสมบูรณ์และมั่งคั่งมากพอ ต้าจิ้นเป็นแคว้นที่มั่งคั่งอยู่ก่อนแล้ว ต่อมาเมื่อไป๋ชิงเหยียนยึดครองต้าเหลียงได้ก็มอบสูตรยาและยารักษาโรคระบาดให้ชาวบ้านต้าเหลียงอีก กล่าวได้ว่าหญิงสาวยึดต้าเหลียงได้โดยแทบไม่ต้องทำสงครามเลยด้วยซ้ำ ต้าโจวไม่ได้สูญเสียกำลังทหารมากมายนัก

ส่วนต้าเยี่ยนยึดต้าเว่ยมาได้จากการทำสงครามอย่างแท้จริง ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

กล่าวได้ว่าต้าโจวมีความพร้อมจึงใจกว้างได้ถึงเพียงนี้ ทว่า ต้าเยี่ยนไม่สามารถทำได้

นอกเมืองผิงหยาง

ทหารต้าโจวที่ยังไม่ได้ถอดชุดเกราะเปื้อนเลือดออกยืนแบ่งฝ่ายกับทหารต้าเยี่ยนที่ยังไม่ได้ถอดชุดเกราะออกเช่นเดียวกัน พวกเขาตะโกนด่าอีกฝ่ายเสียงดังลั่นด้วยใบหน้าเกรี้ยวกราดราวกับพร้อมระเบิดได้ทุกเมือง

“ต้าโจวของพวกเจ้าขับไล่เทียนเฟิ่งไปได้ด้วยตัวคนเดียวอย่างนั้นหรือ! พวกเจ้าได้เมืองผิงตู้ไปครองแล้ว พวกเจ้ายังจะเอาช้างศึกในเมืองผิงตู้และหุบเขาหานเหวินไปอีกหรือ พวกเจ้าให้ต้าเยี่ยนของพวกเราทำศึกโดยไม่ได้สิ่งใดตอบแทนเลยอย่างนั้นหรือ!” ทหารต้าเยี่ยนคนหนึ่งตวาดเสียงดังลั่น

ทหารต้าโจวเดินไปด้านหน้าอย่างไม่อยากยอมแพ้ จากนั้นตวาดกลับ “เกาอี้จวินของพวกข้าเป็นคนบุกเข้าไปในเมืองได้เป็นคนแรก ไล่ต้อนจนกองทัพช้างเหล่านั้นถอยหนีไปยังประตูทิศใต้ ต้าเยี่ยนของพวกเจ้าดักซุ่มโจมตีอยู่ที่ประตูทิศใต้เพียงแห่งเดียวไม่ใช่หรือ หากพวกเจ้าอยากได้ช้างศึกพวกเจ้าก็ควรสังหารด้วยตัวเองสิ! พวกเจ้าไม่มีความสามารถปล่อยให้กองทัพช้างหนีไปได้ บัดนี้กลับมาอิจฉาที่พวกเราได้ช้างมากกว่า หากพวกเจ้าอยากได้ เหตุใดพวกเจ้าไม่นำกองทัพบุกไปซุ่มโจมตีในหุบเขาหานเหวินเล่า!”