บทที่ 1166+1167 ข้าจะเอาเรื่องเจ้า(1)/ข้าจะเอาเรื่องเจ้า (2)

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1166+1167 ข้าจะเอาเรื่องเจ้า(1)/ข้าจะเอาเรื่องเจ้า (2)

บทที่ 1166 ข้าจะเอาเรื่องเจ้า (1)

“พวกข้าเป็นใครน่ะหรือ พวกข้าเป็นพ่อและแม่ของเด็กหญิงที่เจ้ารังแกอย่างไรเล่า! ท่าทางของเจ้าก็ดูเหมือนบัณฑิตผู้อ่อนโยน เหตุใดจึงมีการกระทำราวกับสัตว์ร้ายเช่นนี้ ถ้าวันนี้พวกข้าไม่เห็นกับตา เกรงว่าเจ้าจะเอาเปรียบลูกสาวข้าแล้วหายไปอย่างลอยนวล โลกนี้ไม่มีเรื่องดี ๆ เช่นนั้นหรอก” เกาต้าผิงดูลูกสาวที่เหมือนจะถูกเอาเปรียบและถามหาความรับผิดชอบ

เมื่อเห็นสิ่งนี้ เกาซื่อรีบไปช่วยกู้หนิงอันและพูดว่า “ท่านพี่ พี่สะใภ้ พวกท่านมาได้อย่างไรหรือ พวกท่านเข้าใจผิดแล้ว เมื่อครู่เกาเหลียนจือพลัดตกลงไปในน้ำ กู้หนิงอันผู้นี้ที่เป็นคนช่วยนางขึ้นมา”

เมื่อเกาซื่อบอกว่าเกาเหลียนจือตกลงไปในแม่น้ำและถูกกู้หนิงผิงช่วยขึ้นมา สวีซื่อก็หลั่งน้ำตาออกมาทันที “อุ้มเหลียนจือขึ้นมาหรือ? ไม่นะ… เหลียนจือของข้า”

สวีซื่อคว้าตัวเกาเหลียนจือและกล่าวตำหนิ “ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือว่าชายหญิงนั้นไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน เจ้าเป็นหญิงและถูกกอดโดยชายแปลกหน้าเช่นนี้ อนาคตเจ้าจะแต่งงานได้อย่างไร เหลียนจือ ลูกสาวผู้น่าสงสารของข้า ฮือ ๆๆ”

เกาเหลียนจือรู้สึกตกตะลึงเมื่อนางได้ยินเช่นนั้น นางจ้องมองสวีซื่อที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายอย่างพูดอะไรไม่ออก

นางจ้องมองที่ใบหน้าของกู้หนิงอันสลับกับใบหน้าของบิดามารดาด้วยแววตาว่างเปล่า

เกาต้าผิงและสวีซื่อดูโกรธ ในขณะที่กู้หนิงอันดูหดหู่ใจ

กู้หนิงอันรู้สึกหวาดกลัว เมื่อครู่ที่เขากระโดดลงไปในลำธารเพื่อช่วยชีวิตผู้คนอย่างเร่งรีบ เขาจึงไม่สนใจเรื่องการเว้นระยะห่างระหว่างชายหญิง

กู้หนิงอันเป็นเพียงเด็กอายุสิบสองปี เมื่อพ่อแม่ของเกาเหลียนจือบอกว่าเขากำลังเอาเปรียบลูกสาวของพวกเขา ร่างกายก็พลันแข็งทื่อและจ้องมองเกาต้าผิงอย่างแน่วแน่

“ข้ามองเจ้าเหมือนบัณฑิต เจ้าทำเรื่องอนาจารเช่นนี้ได้อย่างไร ลูกสาวของข้าเป็นหญิง เป็นเด็กสาวจากครอบครัวที่ดี เจ้าเอาเปรียบนางเช่นนี้ แล้วในอนาคตนางจะแต่งงานได้อย่างไร” เกาต้าผิงแสดงความเสียใจและโศกเศร้า

เมื่อมองไปที่กู้หนิงอันอย่างเศร้าใจแล้ว เขาก็หันไปมองเกาเหลียนจือ ใบหน้าของเขานั้นดูเป็นทุกข์ยิ่งนัก

สวีซื่อร้องไห้ทันที ในขณะนี้นางถอดเสื้อผ้าของนางและสวมให้เกาเหลียนจือ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความทุกข์และน้ำตาก็หลั่งรินออกมา

เมื่อเห็นสวีซื่อร้องไห้ เกาเหลียนจือก็เริ่มร้องไห้เช่นกัน “ท่านแม่ ฮือ ๆๆ”

เมื่อเกาเหลียนจือร้องไห้ เกาต้าผิงก็พูดด้วยพลังอันล้นเปี่ยม “ดูลูกสาวของข้าสิ นางเป็นเช่นนี้ ในอนาคตเจ้าจะให้นางทำอย่างไร นางจะแต่งงานได้อย่างไร”

เกาเหลียนจือสะอื้นไห้ และเมื่อเห็นท่านพ่อของนางตำหนิกู้หนิงอันก็รู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ นางผละออกจากมือของสวีซื่อ และเดินหน้าไปช่วยกู้หนิงอัน “ท่านพ่อ มันไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด นายน้อยกู้เขาช่วยข้า ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เกรงว่าข้าคงจะจมน้ำตายไปแล้ว”

เมื่อเห็นว่าเกาเหลียนจือแก้ตัวให้กู้หนิงอัน สวีซื่อก็คว้าตัวเกาเหลียนจือและตะโกนอย่างไม่พอใจ “เจ้าเด็กโง่ ท่านพ่อของเจ้ากำลังขอความเป็นธรรมให้เจ้า แต่เจ้ายังคงพูดเข้าข้างเขา”

เมื่อเห็นว่าท่านพ่อและท่านแม่โกรธเคืองเช่นนี้ เกาเหลียนจือก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก นางทำได้เพียงมองไปที่เกาซื่อราวกับขอความช่วยเหลือ โดยหวังว่าท่านอาของนางจะพูดสิ่งที่ดีต่อกู้หนิงอัน

….

บทที่ 1167 ข้าจะเอาเรื่องเจ้า (2)

เมื่อเห็นคำขอร้องของเกาเหลียนจือ เกาซื่อจึงพูดว่า “ท่านพี่ พี่สะใภ้ พวกท่านเข้าใจผิดแล้ว นายน้อยกู้ผู้นี้ช่วยเหลือเหลียนจือจริง ๆ!”

เกาซื่อดูเหมือนจะพยายามช่วยกู้หนิงอัน แต่เมื่อสวีซื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด นางก็ยิ่งไม่เห็นด้วยมากยิ่งขึ้น “เจ้าเองก็เป็นผู้หญิง เจ้าก็รู้ว่าชื่อเสียงของหญิงสาวมีความสำคัญมากเพียงใด เจ้าดูเหลียนจือตอนนี้สิ เขาสามารถมองทะลุไปทั่วร่างของนางได้ ตอนนางล้มลงในอ้อมแขนของเขา นางถูกเขากอดและสัมผัสเนื้อตัว แล้วตอนอยู่ในน้ำในที่ที่เรามองไม่เห็นล่ะ ถ้าคนอื่นรู้เรื่องนี้ เหลียนจือก็แปดเปื้อนแล้ว เจ้าจะให้นางมีหน้าไปแต่งงานกับใครได้อีกหรือ?”

สวีซื่อร้องไห้ และสิ่งที่นางพูดดูเหมือนจะมีเหตุผล

เกาซื่อที่ถูกตำหนิมองไปที่กู้หนิงอันอย่างช่วยไม่ได้

กู้หนิงอันตอบโต้อย่างรวดเร็ว “ข้าเป็นคนซื่อตรง ข้าช่วยคนได้ทันท่วงทีและสถานการณ์บีบบังคับจริง ๆ เป็นทางเลือกสุดท้าย เหตุใดพวกท่านตอบแทนบุญคุณด้วยความเกลียดชัง”

“ตอบแทนบุญคุณด้วยความเกลียดชัง? พวกข้าตอบแทนบุญคุณด้วยความเกลียดชังงั้นหรือ” เกาต้าผิงยิ้มกว้าง เสียงที่ดังก้องของเขาดูเหมือนจะกลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้เรื่องนี้

แน่นอนว่า เมื่อมีคนได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายที่ริมลำธาร จึงแห่กันมาที่นี่ทันที

เมื่อเห็นชายหญิงวัยกลางคนท่าทางแปลก ๆ กับเกาเหลียนจือและเกาซื่อ พวกเขาทั้งหมดมองไปที่กู้หนิงอันด้วยความขุ่นเคืองใจ

พวกเขาเห็นกู้หนิงอันยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม ร่างทั้งร่างเปียกโชกเหมือนเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ

เมื่อมองไปที่เกาเหลียนจืออีกครั้ง แม้ว่านางจะสวมเสื้อผ้าอยู่ แต่ก็มองออกได้ไม่ยากว่านางเองก็เพิ่งขึ้นมากจากน้ำเช่นกัน

เมื่อเห็นว่ามีคนอยู่รอบ ๆ เกาต้าผิงคงกลัวคนอื่นจะไม่รู้ว่ากู้หนิงอันเอาเปรียบลูกสาวของตน เขาจึงตะโกนขึ้นเสียงดัง “ทุกคนมาช่วยตัดสินที ลูกสาวของข้าถูกคนผู้นี้เห็นเรือนร่าง สัมผัส กอด ข้าไม่รู้ว่าเมื่อครู่เขาทำอะไรกับลูกสาวข้าไว้บ้าง ตอนที่อยู่ในน้ำ ข้าก็ไม่รู้ว่าลูกสาวของข้าถูกกระทำอย่างไร ข้าอยากจะขอร้องพวกเจ้าให้มาช่วยตัดสินชื่อเสียงของลูกสาวข้า ชื่อเสียงนั้นได้หายไป แล้วอนาคตลูกสาวข้าเล่าจะทำเช่นไร!”

“ฮือ… ครอบครัวของข้ามีลูกสาวคนเดียว นางถูกเลี้ยงดูประคบประหงมมาอย่างดีตั้งแต่นางยังเด็ก ครอบครัวมอบแต่สิ่งดี ๆ ให้นาง และข้าหวังว่านางจะได้พบผู้ชายดี ๆ ในอนาคตและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่ตอนนี้ ฮือ ฮือ ฮือ” สวีซื่อร้องไห้สะอึกสะอื้นและพูดอะไรไม่ออก

ตอนนั้นเองที่ทุกคนตระหนักได้ว่า ชายหญิงวัยกลางคนสองคนนี้เป็นพ่อและแม่ของเกาเหลียนจือ และเป็นพี่ชายและพี่สะใภ้ของเกาซื่อ

“แม่นางเกา บอกท่านพ่อท่านแม่ของเจ้าสิว่าเจ้าตกลงไปในลำธาร และในเวลานั้นมันเป็นเรื่องฉุกละหุก ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกระโดดลงไปในน้ำเพื่อช่วยเจ้า มันเป็นอุบัติเหตุ” กู้หนิงอันเห็นพ่อแม่ของเกาเหลียนจือใส่ร้ายตน จึงได้แต่ฝากความหวังไว้กับเกาเหลียนจือและเกาซื่อ

“เกาซื่อ ท่านก็รู้เช่นกันว่าแม่นางเกาตกลงไปในลำธาร และชีวิตของนางกำลังตกอยู่ในอันตราย ข้ากระโดดลงไปในน้ำเพื่อช่วยนางโดยไม่ทันได้คำนึงถึงการเว้นระยะห่างระหว่างชายหญิง”

หลังจากที่ทุกคนฟังคำพูดของกู้หนิงอันแล้ว พวกเขาก็เชื่อมโยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและหลัง

นั่นคือ เกาเหลียนจือตกลงไปในลำธารและได้รับการช่วยเหลือโดยกู้หนิงอัน ร่างกายของทั้งคู่จึงเปียกปอน และพ่อแม่ของเกาเหลียนจือก็บังเอิญผ่านมาเห็น หลังจากมองดูแล้วก็รู้ได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่กู้หนิงอันสมควรทำเช่นนั้น