ตอนที่ 1144 ซ่อนไม่อยู่

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1144 ซ่อนไม่อยู่

เฉิงหย่วนจื้อขี่ม้าพุ่งตรงไปยังเมืองอย่างรวดเร็ว ซือหม่าผิงรีบขี่ม้านำทหารตามหลังไปติดๆ ขบวนกองทัพของต้าโจวบุกเข้าไปในเมืองเฉวี่ยนหยาราวกับคลื่นที่ซัดโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง

“ลุงเสิ่น!” ไป๋จิ่นจื้อเห็นว่าแม้แต่ซือหม่าผิงยังได้บุกเข้าไปในเมืองจึงรีบกระตุกม้าไปด้านหน้าด้วยความโมโห จากนั้นกล่าวกับเสิ่นคุนหยางอีกครั้ง “ลุงเสิ่น ข้า…”

“ท่านลืมไปแล้วหรือว่ารับปากกับเซี่ยวไป๋ไซว่ไว้ว่าอย่างไร! ท่านรับปากว่าจะฟังคำสั่งข้าทุกอย่าง…” เสิ่นคุนหยางกล่าวเสียงขรึม

คุณชายห้ากำชับเขาก่อนจากไปว่าแม้ไป๋จิ่นจื้อจะกล้าหาญ ทว่า นางอารมณ์ร้อนและวู่วามเกินไป ชายหนุ่มต้องการให้เขาช่วยดัดนิสัยของไป๋จิ่นจื้อ เสิ่นคุนหยางเห็นด้วยกับคำกล่าวของคุณชายห้า หากเขาสามารถช่วยดัดนิสัยไป๋จินจื้อได้สำเร็จ วันหน้าหญิงสาวจะกลายเป็นแม่ทัพที่กล้าหาญและเก่งกาจของกองทัพไป๋ได้แน่

“ลุงเสิ่น!” ไป๋จิ่นจื้อร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว ทว่า ทำได้เพียงพาม้าผิงอันย่ำเท้าไปมาอยู่บริเวณนั้นเท่านั้น

หลู่หยวนเผิงขี่ม้าขึ้นมาจากทางด้านหลังด้วยสีหน้าอารมณ์ดี เขาทำความเคารพเสิ่นคุนหยาง จากนั้นกล่าวขึ้น “แม่ทัพเฉิงให้ข้าคอยติดตามเกาอี้จวิน แม่ทัพเสิ่น ท่านจะให้ข้าและเกาอี้จวินอ้อมเข้าไปโจมตีจากประตูทิศอื่นใช่หรือไม่ขอรับ”

หลู่หยวนเผิงรู้ดีว่าการทำสงครามทุกครั้งไป๋จิ่นจื้อจะบุกเป็นทัพด่านหน้าเสมอ หากเขาติดตามไป๋จิ่นจื้อเขาต้องได้บุกโจมตีเป็นกลุ่มแรกแน่นอน

ทว่า ครั้งนี้หลู่หยวนเผิงวางแผนผิดแล้ว

เรื่องที่เขาน้ำตาไหลถูกคนหลายคนนำไปฟ้องเฉิงหย่วนจื้อและเสิ่นคุนหยาง เสิ่นคุนหยางคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่ทหารห้ามมีคือความหวาดกลัว หากเขาหวาดกลัวจะทำให้ทหารคนอื่นๆ ในกองทัพพลอยรู้สึกเช่นนั้นไปด้วย ดังนั้นเฉิงหย่วนจื้อและเสิ่นคุนหยางจึงคัดหลู่หยวนเผิงออกจากกองทัพฝ่ายโจมตี

“บุกอันใดกันเล่า!” ใจของไป๋จิ่นจื้อเต็มไปด้วยโทสะ นางเหลือบมองไปทางหลู่หยวนเผิงที่กำลังอารมณ์ดีแวบหนึ่งแล้วกลอกตาให้ จากนั้นหันไปมองบรรดาทหารที่กำลังโจมตีเมืองอีกครั้ง ม้าศึกผิงอันของนางอยู่ย่ำเท้าไปมาอย่างอยู่ไม่เป็นสุขตลอดเวลา “พวกเราสองคนต้องมองดูคนอื่นโจมตีเมืองต่างหาก!”

“ห้ะ!” หลู่หยวนเผิงเบิกตาโพลง

วันที่หนึ่ง เดือนหนึ่ง รัชศกหยวนเหอปีที่สอง กองทัพของเกาอี้จวินและเสิ่นคุนหยางยึดเมืองเฉวี่ยนหยาของซีเหลียงได้ ทหารฝ่ายศัตรูเสียชีวิตห้าพันนาย ถูกจับเป็นเชลยหนึ่งหมื่นสองพันนาย

เมื่อแม่ทัพเซี่ยเค่อที่กำลังเร่งเดินทางนำกองทัพช้างหลักไปรวมตัวกับซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นได้รับจดหมายฉบับที่สองจากซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเขาจึงสั่งให้ทหารตั้งค่ายพักแรม วันรุ่งขึ้นเขาจะเปลี่ยนเส้นทางมุ่งหน้าไปยังซีเหลียงแทน

ไป๋ชิงเหยียนและไป๋ชิงอวี๋ได้รับข่าวเรื่องการเปลี่ยนเส้นทางของแม่ทัพเซี่ยเค่อจากไป๋ชิงฉีและข่าวที่ศิษย์ของจอมเวทย์แห่งเทียนเฟิ่งหาตัวซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น จากนั้นซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเปลี่ยนเส้นทางมุ่งหน้าไปยังตอนใต้ของซีเหลียงแทนแล้ว ไป๋ชิงเหยียนเดาว่าครั้งนี้เทียนเฟิ่งคงคิดถอยทัพกลับไปยังแคว้นของตัวเองซึ่งอยู่ด้านหลังภูเขาหิมะเพื่อเอาตัวรอดก่อน เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึงจึงจะยกทัพบุกมาโจมตีพวกนางใหม่

ทว่า ตอนนี้อำนาจการตัดสินใจไม่ได้อยู่ในมือของเทียนเฟิ่งอีกต่อไปแล้ว

ในเมื่อเริ่มต้นสงครามแล้วพวกนางก็ต้องโจมตีจนเทียนเฟิ่งสูญเสียอย่างหนักให้เหมือนกันซีเหลียงในตอนนั้น นางต้องทำให้เทียนเฟิ่งไม่มีกำลังบุกมารุกรานชายแดนของแคว้นอื่นได้อีกอย่างน้อยอีกสิบปี จากนั้นค่อยสร้างด่านขึ้นมาบนเส้นทางเพียงหนึ่งเดียวที่เชื่อมต่อระหว่างเทียนเฟิ่งและซีเหลียงเพื่อป้องกันกองทัพช้าง ชาวบ้านจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไร้ความกังวล

เมื่อตัดสินใจได้แล้วไป๋ชิงเหยียนจึงเดินไปหน้าแผนที่ จากนั้นกล่าวกับไป๋ชิงอวี๋ “หากเทียนเฟิ่งจะหนีไปพวกเขาไม่สามารถเดินผ่านดินแดนของแคว้นต้าโจวได้ บัดนี้ทางถนนทางตอนเหนือของภูเขาถงกู่อยู่ในการควบคุมของต้าโจว หากดูตามตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้ พวกเขาคงทำได้เพียงอ้อมภูเขาชวนหลิงไปยังภูเขาหลิวเซียงซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองจงซานเท่านั้น”

หญิงสาวหันไปกล่าวกับเสิ่นชิงจู๋ “ส่งคนไปบอกต้าเยี่ยนว่าเทียนเฟิ่งจะถอยทัพหนีแล้ว พวกเราต้องกำจัดกองทัพช้างส่วนใหญ่ของเทียนเฟิ่งให้ได้ก่อนที่พวกเขาจะหนีกลับไป การสร้างกองทัพช้างขึ้นมาใหม่ต้องใช้เวลา ขอเพียงพวกเราสังหารช้างเหล่านั้นได้มากเท่าใด พวกเขายิ่งต้องใช้เวลาสร้างกองทัพช้างขึ้นมาใหม่นานขึ้นเท่านั้น พวกเราต้องรีบไปดักซุ่มโจมตีทางฝั่งตะวันตกของภูเขาหลิวเซียง”

“เจ้าค่ะ” เสิ่นชิงจู๋รับคำแล้วรีบสั่งให้คนไปสั่งข่าวให้ต้าเยี่ยนรับรู้ทันที

“ต้าโจวไม่ได้ควบคุมฝั่งตะวันออกเมืองจงซานเพราะพื้นที่แถบนั้นส่วนใหญ่ล้วนเป็นภูเขา แม้ประสบการณ์ภูเขาหานเหวินจะทำให้เทียนเฟิ่งหลีกเลี่ยงการเดินผ่านหุบเขา ทว่า หากพวกเขาต้องการถอยหนีกลับไปยังดินแดนที่อยู่หลังภูเขาหิมะโดยเร็วที่สุด พวกเขาก็มีเพียงเส้นทางนี้ทางเดียวเท่านั้น” ไป๋ชิงอวี๋ชี้ไปยังตำแหน่งภูเขาหลิวเซียงที่อยู่ติดกับหุบเขาชวนหลิงซึ่งเป็นเส้นทางเดียวที่สามารถเชื่อมต่อไปยังแคว้นเทียนเฟิ่งซึ่งอยู่หลังภูเขาหิมะลูกนั้นได้

“ในเมื่อเทียนเฟิ่งตัดสินใจจะถอยทัพกลับไปยังแคว้นของตัวเอง ดังนั้นสงครามครั้งนี้จะเป็นสงครามครั้งสุดท้ายระหว่างเราและเทียนเฟิ่ง พวกเราต้องสู้สุดกำลัง!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับไป๋ชิงอวี๋

“พี่หญิงมอบให้เป็นหน้าที่ของข้าเถิดขอรับ ข้าจะนำทัพไปยังภูเขาหลิวเซียงเองขอรับ” ไป๋ชิงอวี๋ประคองแขนของไป๋ชิงเหยียนให้นั่งลงบนเก้าอี้ “บัดนี้จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนเสด็จกลับไปยังเมืองหลวงของต้าเยี่ยนพร้อมกับไทเฮาแล้ว เมื่อพวกเราทำลายล้างซีเหลียงเสร็จ พวกเราจะเริ่มเจรจาเรื่องการรวบรวมสองแคว้นให้เป็นหนึ่งอย่างเป็นทางการ พี่หญิงควรกลับเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ ที่สำคัญตอนนี้พี่หญิงกำลังตั้งครรภ์อยู่ หากไม่กลับไปเมืองหลวงเสียทีท่านแม่คงไม่สบายใจมากขอรับ”

“หากข่าวการเดินทางกลับเมืองของพี่หญิง ข่าวเรื่องที่พี่ชายสามเปลี่ยนเส้นทางนำทัพไปยังเมืองซีเหลียงและข่าวเรื่องที่กองทัพใหญ่ของต้าโจวบุกโจมตีเมืองซีเหลียงแพร่ไปถึงหูของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นและอาเซี่ยเค่อ พวกเขาต้องลดความหวาดระแวงลงแน่ขอรับ พวกเขาคงคิดว่าพวกเราไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาแล้วเมื่อเห็นว่าพวกเขายอมถอยทัพกลับแคว้นของตัวเอง คิดว่าพวกเรากลับหันไปโจมตีแย่งชิงดินแดนของแคว้นซีเหลียงกับต้าเยี่ยนแทนแน่ขอรับ”

“พวกเขาคงคิดไม่ถึงแน่ว่ากองทัพที่อยู่ไกลจากพวกเขามากกว่ากองทัพของพี่ชายสามกำลังมุ่งหน้าบุกไปดักซุ่มโจมตีพวกเขา ขอเพียงพวกเขาาประมาท พวกเราจะทำสงครามได้อย่างง่ายดายขึ้นขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้ายิ้มๆ ที่นางไม่สั่งให้ไป๋ชิงฉีบุกไปดักซุ่มโจมตีก็เพราะสาเหตุนี้เหมือนกัน

“สามารถปล่อยข่าวเรื่องที่พี่จะเดินทางกลับเมืองหลวงออกไปได้” ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองแผนที่ที่ทอแสงนวลจากเปลวไฟอีกครั้ง “ตั้งแต่ที่พวกเราได้ภูเขาถงกู่มาครอง ซีเหลียงก็เหลือด่านปราการเพียงหนึ่งเดียวนั่นก็คือด่านเย่เฉิงเท่านัน้! แม้แม่ทัพเย่โส่วกวนซึ่งมีหน้าที่คุ้มกันเมืองเย่จะไม่ได้ทำสงครามาหลายปี ทว่า เขาเป็นคนมีความสามารถ เมื่อพี่หญิงรองของเจ้ามาถึงและยึดด่านเย่เฉิงได้ พี่จะเดินทางกลับเมืองหลวงทันที!”

ขอเพียงโจมตีด่านเย่เฉิงได้สำเร็จ หนทางข้างหน้าในการบุกยึดแคว้นซีเหลียงของต้าโจวจะราบรื่นขึ้นมาก

ตระกูลเย่ของซีเหลียงปกป้องด่านเย่เฉิงมาทุกรุ่น ได้ยินว่าเมื่อก่อนจักรพรรซีเหลียงองค์ก่อนอยากร่วมมือกับหนานเยี่ยนทำสงครามกับต้าจิ้น ทว่า แม่ทัพเย่โส่วกวนผู้นี้คัดค้านหัวชนฝา ต่อมาจึงถูกจักรพรรดิแห่งซีเหลียงตำหนิและไม่พอใจ

ไป๋ชิงอวี๋นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง “เมื่อพี่หญิงรองมาถึง พี่หญิงเดินไปทางรวมตัวกับพี่ชายสามก่อนแล้วค่อยไปยังด่านเย่เฉิงนะขอรับ ข้าและพี่หญิงรองจะนำทัพไปดักซุ่มโจมตีกองทัพช้างของเทียนเฟิ่งร่วมกับต้าเยี่ยน จากนั้นค่อยไปรวมตัวกับพี่หญิงที่ด่านเย่เฉิงขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนกำชับต่อ “ผลประโยชน์ที่ได้จากสงครามที่ภูเขาหลิวเซียง…”

“พี่หญิงไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ” ไป๋ชิงอวี๋กล่าวยิ้มๆ “ยกให้กองทัพต้าเยี่ยนมากกว่าเพื่อซื้อใจทหารต้าเยี่ยนเหล่านั้นขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนไม่เป็นห่วงในการจัดการเรื่องต่างๆ ของไป๋ชิงอวี๋

วันที่หก เดือนหนึ่ง รัชศกหยวนเหอปีที่สอง เกาอี้จวินและเสิ่นคุนหยางยึดด่านตันได้ วันเดียวกันนั้นกองทัพของฝู่กั๋วจินไป๋จิ่นซิ่วเดินทางไปถึงหนาเจียงและรวมตัวกับกองทัพของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเป็นที่เรียบร้อย

ไป๋จิ่นซิ่วได้รับรายงานระหว่างเดินทางมายังหนานเจียงว่าไป๋ชิงอวี๋กลับมาแล้ว เมื่อเข้าไปในค่ายทหารหญิงสาวจึงกลั้นน้ำตาไม่อยู่อีกต่อไป