ตอนที่ 1145 ทำลายซีเหลียง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1145 ทำลายซีเหลียง

เมื่อเห็นพี่หญิงใหญ่และร่างสูงโปร่งของไป๋ชิงอวี๋ยืนอยู่ที่หน้าค่ายทหารไป๋จิ่นซิ่วกระโดดลงจากหลังม้าทันทีโดยไม่รอให้ม้าหยุดวิ่ง ลำคอของหญิงสาวร้อนผ่าวขึ้นอย่างคุมไม่อยู่ นางอยากเอ่ยเรียกอาอวี๋ ทว่า เมื่ออ้าปากกลับเต็มไปด้วยเสียงสะอื้น ลำคอของนางตีบตันจนกล่าวสิ่งใดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

หญิงสาวจ้องไปยังร่างของไป๋ชิงอวี๋นิ่ง เร่งฝีเท้ามุ่งตรงไปยังร่างของไป๋ชิงเหยียนและไป๋ชิงอวี๋เร็วขึ้นเรื่อยๆ

ไป๋ชิงเหยียนเห็นใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตาของไป๋จิ่นซิ่วจึงหันไปกล่าวกับไป๋ชิงอวี๋ยิ้มๆ “เจ้าไปรับพี่สาวรองของเจ้าเถิด!”

ไป๋ชิงอวี๋รับคำและเดินเข้าไปหาไป๋จิ่นซิ่ว ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

สองพี่น้องพบหน้ากัน ไป๋จิ่นซิ่วจับท่อนแขนของไป๋ชิงอวี๋แน่น นางมองดูน้องชายที่ร่างสูงโปร่งกว่าตอนก่อนออกรบมากพลางเอื้อมมือไปสัมผัสหน้ากากเงินบนใบหน้าของน้องชายเบาๆ จมูกของหญิงสาวสั่นไหวเล็กน้อย น้ำตาไหลพรากออกมาจากดวงตาไม่ขาดสาย นางเอ่ยถามเสียงเบาหวิว “ยังเจ็บอยู่หรือไม่”

ไป๋ชิงอวี๋จับมือไป๋จิ่นซิ่วแน่น จากนั้นส่ายหน้าด้วยดวงตาแดงก่ำ “ไม่เจ็บแล้วขอรับพี่หญิงรอง”

เมื่อได้ยินเสียงแหบพร่าของไป๋ชิงอวี๋ไป๋จิ่นซิ่วยิ่งรู้สึกปวดใจยิ่งกว่าเดิม นางไม่รู้ว่าอาอวี๋ผ่านความยากลำบากและทุกข์ทรมานมามากเท่าใด

“หลายปีมานี้เจ้าต้องอยู่ที่หรงตี๋อย่างยากลำบากใช่หรือไม่…” ไป๋จิ่นซิ่วมองดูน้องชายที่เดิมทีคือคุณชายผู้สูงศักดิ์ที่สุดในเมืองหลวง น้องชายของนางคือทายาทสายหลักที่ควรได้รับความรักและทะนุถนอมมากที่สุดจากทุกคนในตระกูล ทว่า เขากลับต้องไปออกรบในสนามรบจนใบหน้าเสียโฉมและเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพียงเพราะท่านปู่ต้องการแสดงความจงรักภักดีต่อราชวงศ์ต้าจิ้นจนไม่เหลือทางรอดให้ตระกูลไป๋

เดิมทีอาอวี๋ของนางคือคุณชายสูงศักดิ์รูปงามที่สตรีมากมายในเมืองหลวงต่างหมายปอง

บุรุษตระกูลไป๋ทุกคนคือวีรบุรุษคนดีของตระกูลไป๋ ทว่า เหตุใดพวกเขาจึงมีจุดจบเช่นนี้กัน

“พี่หญิงรอง อาอวี๋มีชีวิตรอดมาได้เพราะสหายมากมายในกองทัพไป๋เสียสละชีวิตของเขาเพื่ออาอวี๋ขอรับ พวกเขาสละชีวิตของตัวเองเพื่อให้ข้าได้มีชีวิตอยู่ต่อไป เทียบกับพวกเขาแล้ว…ความลำบากเพียงแค่นี้ไม่ถือเป็นความลำบากเลยขอรับ”

ไป๋จิ่นซิ่วพยักหน้าพลางบีบมือไป๋ชิงอวี๋แน่น “กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว!”

ตอนไป๋ชิงเหยียนขึ้นครองราชย์ไป๋จิ่นซิ่วยังไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของอาอวี๋ ต่อมาพี่หญิงใหญ่ยึดครองหรงตี๋ได้จึงส่งคนไปบอกให้นางรับรู้ นางจึงได้รู้ว่าตอนที่พี่หญิงใหญ่ขึ้นครองราชย์อาอวี๋มาร่วมเป็นสักขีพยานอย่างที่พี่หญิงใหญ่ประกาศในราชโองการว่าให้กองทัพไป๋ทุกคนที่รอดชีวิตจากสงครามที่หนานเจียงกลับมาร่วมเป็นสักขีพยานในงานบรมราชาภิเษกของนาง ไม่เพียงเท่านี้…อาอวี๋ยังช่วยยึดครองหรงตี๋ให้ต้าโจว ทำให้ต้าโจวเดินไปในหนทางที่ต้องการรวบรวมใต้หล้าได้อย่างราบรื่นขึ้นกว่าเดิม

ไป๋จิ่นซิ่วจับมือไป๋ชิงอวี๋แน่นไม่ยอมปล่อย เมื่อไป๋ชิงเหยียนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า หญิงสาวจึงทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนทั้งน้ำตา “พี่หญิงใหญ่!”

จี้หลางหวาซึ่งติดตามไป๋จิ่นซิ่วมาจากเมืองหานเดินลงมาจากรถม้าเช่นเดียวกัน หญิงสาวเห็นไป๋ชิงเหยียนจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก นางรีบวิ่งเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียน จากนั้นทำความเคารพ “คุณหนูใหญ่!”

เสิ่นชิงจู๋เห็นไป๋ชิงเหยียนถลกชายกระโปรงเตรียมเดินลงบันไดหน้าค่ายทหารจึงรีบเข้าไปช่วยประคองเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะลื่นล้มบนพื้นหิมะ

ไป๋ชิงเหยียนประคองร่างของจี้หลางหวาให้ลุกขึ้นยิ้มๆ นางเห็นชายกระโปรงของจี้หลางหวาเต็มไปด้วยเกล็ดหิมะ “รีบลุกขึ้นเถิด ล้วนเป็นคนกันเองทั้งสิ้นไม่จำเป็นต้องมากพิธีเช่นนี้! ให้ชิงจู๋พาเจ้าไปพักผ่อนก่อน…”

“เจ้าค่ะคุณหนูใหญ่” จี้หลางหวารับคำ

เมื่อเห็นเสิ่นชิงจู๋พาจี้หลางหวาจากไป ไป๋ชิงเหยียนจึงเดินไปจับมือไป๋จิ่นซิ่วพลางกล่าวขึ้น “พวกเราเข้าไปสนทนากันต่อด้านในเถิด ด้านนอกอากาศหนาว…”

ไป๋จิ่นซิ่วพยักหน้า จากนั้นเดินเข้าไปในกระโจมพร้อมกับไป๋ชิงเหยียนและไป๋ชิงอวี๋

สามพี่น้องสนทนาเรื่องแคว้นเทียนเฟิ่งจบ ไป๋จิ่นซิ่วจึงเล่าเรื่องเมืองหานให้ไป๋ชิงเหยียนฟังต่อ “บัดนี้ฉินหล่างทำงานได้คล่องตัวแล้ว มีหลู่หยวนชิ่งและเฉินเจาลู่คอยช่อยเหลือ ชาวบ้านสนับสนุนระบอบการปกครองใหม่เป็นอย่างดีเจ้าค่ะ ตระกูลสูงศักดิ์ของเมืองหานหวาดกลัวกองทัพเซิ่งจึงไม่กล้าก่อเรื่องวุ่นวาย ทว่า ข้าบอกกับฉินหล่างแล้วว่าให้พยายามใช้ไม้อ่อนมากกว่าไม้แข็ง เมตตาชาวบ้านเหล่านั้นให้มาก ตระกูลสูงศักดิ์เหล่านั้นจึงไม่กล้าลงมือทำสิ่งใดเจ้าค่ะ ตอนนี้ข้าให้แม่ทัพจ้าวเซิ่งอยู่รอคำสั่งที่เมืองผิงหยางเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “วั่งเกอเล่า”

“ระหว่างทางมาที่นี่ข้าส่งวั่งเกอกลับไปเมืองหลวงแล้วเจ้าค่ะ ข้าคิดว่าหากมีวั่งเกอและเสี่ยวปาคอยอยู่ข้างกายท่านแม่ ท่านป้าสะใภ้และบรรดาท่านอาสะใภ้พวกท่านคงไม่รู้สึกเหงาเจ้าค่ะ” เมื่อไป๋จิ่นซิ่วเอ่ยถึงวั่งเกอดวงตาของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

ทว่า ไป๋จิ่นซิ่วยังรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เห็นอวิ๋นพั่วสิงเสียชีวิตกับตาของตัวเอง “เสียดายที่ข้ามาไม่ทันช่วยพี่หญิงใหญ่กับอาอวี๋สังหารอวิ๋นพั่วสิงเจ้าค่ะ”

“อวิ๋นพั่วสิงตายด้วยคมดาบของแม่ทัพเฉิง ถือว่าได้แก้แค้นให้ท่านพ่อและเสี่ยวสือชีแล้ว! ทว่า นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ตอนนั้นซีเหลียงร่วมมือกับหนานเยี่ยนและไส้ศึกของแคว้นต้าจิ้นทำให้ทหารกองทัพไป๋ของพวกเราล้มตายไปมากมาย ความแค้นของพวกเราไม่มีทางดับลงหากซีเหลียงไม่ดับสูญ!”

แม้อวิ๋นพั่วสิงจะเสียชีวิตไปแล้ว ทว่า ไป๋ชิงเหยียนยังคงรู้สึกโกรธแค้นทุกครั้งที่เอ่ยถึงสงครามที่หนานเจียง

ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางไป๋จิ่นซิ่วพลางกล่าวขึ้น “ปลายเดือนสองจะมีการจับสอบชุนเหวย เมื่อยึดด่านเย่เฉิงได้พี่จะรีบเดินทางกลับเมืองหลวงทันที แม้พี่ไม่สามารถอยู่ร่วมสู้รบกับพวกเจ้าได้จนจบ แม้น้องหญิงสามมีหน้าที่สำคัญต้องรับผิดชอบ ทว่า คนอื่นที่เหลือของตระกูลไป๋ต้องมีส่วนร่วมในการทำลายซีเหลียงในครั้งนี้ จะขาดผู้ใดไปอีกไม่ได้แม้แต่คนเดียว”

“พี่หญิงใหญ่สังหารอวิ๋นพั่วสิงได้แล้ว เมื่อยึดด่านเย่เฉิงได้ ปล่อยให้พวกเราจัดการเรื่องที่เหลือได้เลยเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวด้วยความมั่นใจ “หากอวิ๋นพั่วสิงยังมีชีวิตอยู่อาจทำให้พวกเราทำลายล้างซีเหลียงได้ช้าลงกว่าเดิม ทว่า ซีเหลียงที่ไร้อวิ๋นพั่วสิง ขอเพียงด่านเย่เฉิงถูกทำลาย ขอเพียงจับตัวเย่โส่วกวนได้ ซีเหลียงไม่มีทางต้านทหารพลทหารม้าเหล็กของต้าโจวได้แน่นอนเจ้าค่ะ”

“ซีเหลียงขัดแย้งกันเองภายใน ต่อมาถูกเทียนเฟิ่งเข้าแทรกแซงจนหลี่เทียนฟู่ได้ขึ้นครองบัลลังก์แทนหลี่เทียนเจียว ตอนนี้ทั้งทหารและชาวเมืองซีเหลียงคงอยู่ด้วยความหวาดกลัว เป็นเวลาที่เหมาะสมในการทำสงครามที่สุด เมื่อพวกเรายึดด่านเย่เฉิงได้ พวกเราต้องทำลายซีเหลียงได้ภายในสามเดือนแน่นอนเจ้าค่ะ จากนั้นค่อยแต่งตั้งหลี่เทียนฟู่เป็นอ๋อง ให้นางใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมืองหลวงของต้าโจวตลอดชั่วชีวิตของนางก็สิ้นเรื่องเจ้าค่ะ”

ไป๋จิ่นซิ่วยืดกายตรงยกมือคารวะไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ เมื่อยึดด่านเย่เฉิงได้สำเร็จ พวกเราจะยึดซีเหลียงให้ได้ภายในสามเดือนเจ้าค่ะ!”

คืนนั้นไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนเครื่องแต่งกายออกเดินทางไปรวมตัวกับไป๋ชิงฉี ไป๋ชิงอวิ๋น ไป๋จิ่นเจา ไป๋จิ่นหวาและไป๋จิ่นเซ่อที่ด่านเย่เฉิง

ไป๋ชิงเหยียนให้เสิ่นเหลียงอวี้นำกองทัพหู่อิงร่วมมือกับไป๋ชิงอวี๋ เมื่อขับไล่เทียนเฟิ่งกลับแคว้นไปได้สำเร็จค่อยเดินทางมารวมตัวกับกองทัพใหญ่ภายหลัง

ก่อนไป๋จิ่นจื้อจากไปหญิงสาวทิ้งกองทัพย่อยของซั่วหยางไว้ประมาณสิบห้าหน่วยเพื่อใช้ในการโจมตีเมือง

ไป๋ชิงอวี๋และไป๋จิ่นซิ่วออกไปส่งไป๋ชิงเหยียน เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนขึ้นไปบนรถม้าเรียบร้อยไป๋ชิงอวี๋จึงหันไปกล่าวกับไป๋จิ่นซิ่ว “พี่หญิงรอง คืนนี้ถอนค่ายเถิดขอรับ พวกเราต้องมุ่งหน้าไปยังภูเขาหลิวเซียงโดยเร็วที่สุด! ต้าเยี่ยนยึดเมืองฟางจงได้แล้ว หากเทียนเฟิ่งที่เตียมถอยทัพกลับรู้ข่าวนี้เข้าพวกเขาต้องเร่งเดินทางให้เร็วกว่าเดิมแน่นอน พวกเราควรเร่งเดินทางไปยังภูเขาหลิวเซียงโดยเร็วที่สุดเพื่อความไม่ประมาทขอรับ”