บทที่ 1157 การเป็นแม่ทำให้เข้มแข็ง

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1157 การเป็นแม่ทำให้เข้มแข็ง

หลังจากประสบเรื่องราวมากมายก็ทำให้เจ้าตัวแข็งแกร่งขึ้น

แต่ผู้หญิงที่อ่อนแอกลับกลายเป็นแม่ทำให้เข้มแข็งได้

บางทีถ้าไม่มีลูกสาวทั้งสอง เจ้าตัวคงฟื้นฟูจิตใจไม่ได้หรอก

ถึงจะเสียใจต่ออีกฝ่าย แต่จากสภาพจิตใจก็คิดได้ว่า หลังการทดสอบครั้งนั้นหูเสี่ยวเหลียนจะมีอนาคตอันสดใสแน่นอน

แม้จะต้องเดินทางออกจากลี่เฉิง แต่สำหรับสามแม่ลูกถือเป็นการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตนเอง

ต่อให้ไม่มีพ่อ แต่ก็หนีออกจากครอบครัวแบบนั้นมาได้

ถือว่าดีกับเด็ก ๆ ไม่น้อย

ซูเสี่ยวเถียน “พอมาถึงเมืองหลวงพี่ก็ตั้งแผงขายเลยหรือคะ?”

หูเสี่ยวเหลียนส่ายหัว ใบหน้ามีรอยยิ้มอันขมขื่นปรากฏอยู่

“ตอนมาถึงฉันหางานค่ะ แต่ว่าต้องเลี้ยงลูกด้วย เลยปรับเรื่องเวลาไม่ได้”

สุดท้ายก็โดนเลิกจ้าง

ต่อมาก็ได้ทำงานอีก แต่มีปัญหาเรื่องเวลาเหมือนกันเลยไม่ได้ทำนานเท่าไร

ไม่ว่าจะทำที่ไหนก็ต้องทำงานมากกว่าสิบชั่วโมงต่อวัน เธอห่วงที่จะทิ้งลูกไว้ลำพังที่บ้าน

ไม่ทำงานก็ไม่ได้เพราะต้องเลี้ยงลูก เงินที่เอามาจากลี่เฉิงก็ไม่พอค่าใช้จ่ายอีก

เพื่อความอยู่รอดเลยใช้เงินที่มีอยู่ซื้อของพวกนี้มาตั้งแผงขายแทน

พอต้มน้ำหวานเสร็จก็เติมถังเหล็ก แล้วตั้งแผงขายได้แค่ช่วงสั้น ๆ

“แล้วตอนนี้พี่พักที่ไหนคะ?”

“ฉันเช่าห้องน่ะ พี่สะใภ้ที่เป็นเจ้าของใจดีมากเลย เวลาออกมาขายก็ได้เขาช่วยดูแลลูกให้”

ระหว่างนั้นมีลูกค้าเข้าร้านสองคน

เธอง่วนกับการดูแลลูกค้า ส่วนเด็กสาวเฝ้ามองภาพตรงหน้า

ภาษาจีนกลางเจ้าตัวไม่ดีเท่าไร มีสำเนียงท้องถิ่นชัดแต่ฟังออก

ซูเสี่ยวเถียนพึงพอใจมาก จนเผลอยิ้มออกมา

หลังจากลูกค้าได้น้ำหวานไป เธอก็ถามอีก “แล้ววันหนึ่งพี่ขายได้เท่าไรคะ?”

“ถ้าไม่รวมค่าใช้จ่ายฉันทำได้ไม่กี่หยวนหรอก ถือว่าดีนะ เพราะขายไม่ถึงสองชั่วโมงน่ะ”

หูเสี่ยวเหลียนพอใจมาก เป็นเรื่องที่ไม่กล้าจินตนาการมาก่อนเลย

ตอนออกจากลี่เฉิงยังคิดอยู่เลยว่าโลกกว้างใหญ่ใบนี้จะมีพื้นที่สำหรับเธอไหม

แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันผ่านไปได้

แล้วเธอก็ดูแลลูกด้วยตัวเองด้วย

ซูเสี่ยวเถียนบอก “งั้นเดี๋ยวฉันทิ้งที่อยู่บ้านไว้ให้นะคะ มีเรื่องอะไรมาหาได้เลยนะ”

เธอเต็มใจช่วยเหลือผู้หญิงคนนี้มาก

“คุณช่วยฉันไว้แล้วนะคะ ฉันจะพึ่งพาคุณอีกได้ยังไงกัน!”

“ใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัยมีร้านเมืองอาหารว่างค่ะ ที่นั่นยังไม่มีของหวานไปขายเลย ถ้าพี่หูยินดีพี่ไปเปิดขายที่นั่นได้นะ”

คงขายตรงนี้ไปตลอดไม่ได้ แต่ถ้ามีที่ตั้งแผงถาวร เวลาในการเปิดขายจะเพิ่มมากขึ้นแล้วก็หาเงินได้มากขึ้นด้วย

หูเสี่ยวเหลียนถูกล่อลวงทันที

แต่ว่าเธอเป็นคนเข้มแข็ง และไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณผู้อื่น

จ้างหงเหมยที่อยู่ข้าง ๆ รีบร้องเรียก “พี่สาว น้ำหวานร้านพี่ทั้งอร่อยทั้งราคาถูกเลยนะคะ ถ้าไปเปิดขายที่นั่นต้องมีคนชอบแน่นอนค่ะ”

สาว ๆ ในมหาวิทยาลัยต้องชอบแน่

แม้ไม่รู้สถานการณ์ของอีกฝ่ายดี แต่เสี่ยวเถียนเต็มใจช่วยขนาดนี้ต้องไม่ใช่คนเลวอยู่แล้ว

เปิดร้านแถวนี้ครึ่งวันเพิ่งจะมีลูกค้าสักสองคน เธอว่าไปขายที่นั่นให้มีแผงประจำไปเลยดีกว่า ธุรกิจน่าจะดีขึ้นกว่านี้

“ใช่ค่ะพี่หู เปิดแผงขายในเมืองอาหารว่างขายดีเลยนะคะ แค่เดือนเดียวก็หาเงินได้เยอะกว่าพี่ขายตรงนี้อีกนะ แถมที่นั่นมีห้องเก็บของ มีแผงขายประจำ พี่พาลูกไปด้วยก็ได้ หลังจากนั้นก็อาจจะหาโรงเรียนอนุบาลให้เด็ก ๆ ไปเรียนหนังสือนะ”

เรียนหนังสือ?

หูเสี่ยวเหลียนตื่นเต้นมาก

รายได้ในตอนนี้พอเลี้ยงสามคนแม่ลูก แต่ว่ามันยังน้อยไปเลยไม่กล้าส่งลูกเรียน

ช่วงนี้ยังคิดอยู่ว่าจะหาเงินเยอะ ๆ เพื่อมาดูแลพวกเขายังไงดี

แล้วการเตรียมการของซูเสี่ยวเถียนก็ได้แก้ไขปัญหาให้เธอแล้ว

“เป็นไปได้ด้วยหรือคะที่เราหาเงินได้มากกว่าขายของตรงนี้?” เธอถามด้วยสีหน้าอย่างมีความหวัง

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันพาพี่ไปดูเองค่ะ เห็นแล้วจะเข้าใจ!”

เธอขบคิด ต้องไปให้เห็นกับตาเจ้าตัวถึงจะเชื่อ

แผงขายทุกร้านในเมืองอาหารว่างขายดีทั้งหมด

แม้ตอนนี้จะเต็มทุกแผงแล้ว แต่สำหรับร้านน้ำหวานมันไม่ได้ใช้พื้นที่มากมายอะไร เพิ่มได้อีกเหมือนกัน

“ขอบคุณมากค่ะเจ้านาย คุณคือผู้มีพระคุณของฉันเลย!”

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่พี่ตั้งใจทำงานก็พอนะ!”

หลังจากทิ้งที่อยู่และเบอร์ติดต่อ ซูเสี่ยวเถียนก็เตรียมจ่ายเงิน

แต่อีกฝ่ายปฏิเสธ

“แค่น้ำหวานไม่กี่ถ้วยเองค่ะ ไม่ได้มีค่าอะไรขนาดนั้นหรอก ถ้าคุณให้เงินฉันอีกฉันคงไม่เหลือยางอายแล้วละ”

ซูเสี่ยวเถียนไม่ได้บังคับ

เพราะการหาปลามาให้กินไม่สู้สอนวิธีจับปลา*[1] ยังไงละ

ในเมื่อพบลู่ทางที่ดีกว่า สำหรับหูเสี่ยวเหลียนแล้วดีกว่ารับเงินอีกฝ่ายมาเสียอีก

เธอมองแผ่นหลังเด็กสาวที่จากไปด้วยแววตารื้นน้ำ

โชคดีจริง ๆ ที่ได้พบผู้หญิงดี ๆ แบบนี้

ช่วยมาตั้งแต่ลี่เฉิงจนถึงเมืองหลวงเลย

หากไม่เคยสนทนากันมาก่อน ก็คงไม่มีเธอในวันนี้

แม้การเดินทางมาเมืองหลวงจะเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่บางทีคงเพราะความสัมพันธ์ระหว่างอีกฝ่ายก็ได้

พวกซูเสี่ยวเถียนไม่รู้ว่าหูเสี่ยวเหลียนคิดอะไรอยู่

สาว ๆ เดินเที่ยวเล่นอย่างมีความสุข บางทีก็ดูเสื้อผ้าตัวใหม่ ๆ ไปร้านเครื่องประดับ หรือแวะร้านรองเท้าด้วย

เพราะเรากำลังจะเรียนจบกันแล้ว เตรียมเข้าสู่สังคมใหม่ การแต่งตัวในตอนนี้ยังดูเป็นนักศึกษาอยู่เลย

ซึ่งคนเข้าสังคมต้องแต่งตัวให้เหมาะกับการทำงานเสมอ

ทุกคนมีเงินพร้อม จะซื้อเสื้อผ้า รองเท้า และหมวกหากเห็นว่ามันเหมาะ

ไม่นานทั้งสามสาวต่างถือของพะรุงพะรัง

ไม่รู้หลี่เจี้ยนหงไปพูดอะไร ถึงทำให้จ้าวหงเหมยหัวเราะลั่นไม่อายคนผ่านไปผ่านมา

ผลของมันคือทำให้ชนกับใครบางคนเข้า

[1] หาปลามาให้กินหรือจะสู้สอนวิธีจับปลา หมายถึง แทนที่จะทำงานให้เขา ไม่สู้สอนให้เขาแก้ปัญหาด้วยตนเองเพื่อเอาชนะความยากลำบากดีกว่า