ตอนที่ 1156 ไม่ประมาณตน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1156 ไม่ประมาณตน

เจ้าเมืองได้ยินดวงตาจึงเปล่งประกายขึ้นทันที เขารีบหันไปมองภรรยาของตัวเอง

“ฮูหยิน! นี่คือทางรอดของพวกเราทั้งตระกูลนะ!”

เย่อิงน่านกำมือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อแน่น ป้ายหยกคือสิ่งเดียวที่นางสามารถใช้ต่อรองกับต้าโจวได้ นางต้องใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด

“แล้วตำแหน่งขุนนางของสามีข้าล่ะ ข้าต้องการให้พวกเจ้ามอบตำแหน่งเสนาบดีกรมการคลังของต้าโจวให้สามีของข้า อีกทั้งรับปากว่าจะไม่มีวันยึดตำแหน่งของเขากลับคืน!”

เย่อิงน่านกล่าวเสียงดัง

เสนาบดีกรมการคลังคือตำแหน่งที่คนมากมายอยากทำ

รอยยิ้มของเซียวรั่วไห่กว้างขึ้นเรื่อยๆ

“ฮูหยินเจ้าเมืองได้คืบจะเอาศอกอย่างนั้นหรือ”

“ข้าไม่ได้ได้คืบจะเอาศอก ทว่า หากผู้ใดที่ไหนก็ไม่รู้เป็นคนนำป้ายหยกนี้ไปให้บ่าวรับใช้ชายผู้นั้นเขาคงไม่เชื่ออย่างแน่นอน นี่คือเรื่องคอขาดบาดตาย บุตรสาวของข้าต้องเป็นคนเสี่ยงนำป้ายหยกนี้เดินทางไปยังด่านเย่เฉิงด้วยตัวเอง”

แววตาของเย่อิงน่านหนักแน่น

“การให้โอกาสเข้าร่วมการสอบขุนนางคือสิ่งที่บุตรสาวของข้าควรได้รับอยู่แล้ว ทว่า ข้าและสามีของข้าล่ะ พวกเจ้าไม่ควรดูแลพวกเราอย่างนั้นหรือ”

เย่อิงน่านกัดฟันกรอด จากนั้นกล่าวเสริม

“ข้าสามารถยอมถอยให้ได้ น้องชายของจักรพรรดินีแห่งต้าเยี่ยนไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับบุตรสาวของข้า ทว่า จักรพรรดินีแห่งต้าโจวต้องให้น้องสาวของนางหมั้นหมายกับบุตรชายของข้า มิเช่นนั้นต่อให้ข้าทำลายป้ายหยกนั้นจนแหลกละเอียดก็ไม่มีทางมอบมันให้พวกเจ้าเด็ดขาด คนอย่างเย่อิงน่านยอมหักไม่ยอมงอ ชาตินี้ข้าไม่เคยก้มหัวให้ผู้ใดมาก่อน!”

เจ้าเมืองเบิกตาโพลงมองไปทางเย่อิงน่าน เขารู้สึกว่าเย่อิงน่านเป็นบ้าไปแล้ว จักรพรรดินีแห่งต้าโจวแสดงจุดยืนของพระองค์ชัดเจนถึงเพียงนี้แล้วเย่อิงน่านยังไม่ยอมทิ้งความโลภที่มีในใจไปอีกหรือ!

“เจ้าจะทำลายตระกูลของเราทั้งตระกูลอย่างนั้นหรือ!”

เจ้าเมืองยอมอ่อนข้อให้เย่อิงน่านมาตลอดชีวิต นี่คือครั้งแรกที่เขากล่าววาจาแข็งกร้าวกับนางเช่นนี้

“เจ้าไม่เคยก้มหัวให้ผู้ใดเลยก็จริง ทว่า เจ้าไม่คิดหรือว่าก่อนหน้านี้ผู้ที่เจ้าพบเจอคือผู้ใด คนเหล่านั้นล้วนเป็นญาติของเจ้า ทว่า ครั้งนี้คนที่เจ้าเผชิญหน้าอยู่ด้วยคือจักรพรรดินีแห่งแคว้นต้าโจว! ข้าและท่านพ่อตาตามใจเจ้าจนเจ้าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เจ้ากำลังทำร้ายครอบครัวของพวกเราอยู่เจ้ารู้ตัวบ้างหรือไม่!”

“ข้าไม่รู้!” เย่อิงน่านตวาดเสียงดังลั่น

“ข้าทำเพื่อท่านและลูกๆ มาทั้งชีวิต ท่านมีสิทธิ์อันใดมาตำหนิข้า”

“ฮูหยินเจ้าเมืองช่างเลอะเลือนจริงๆ”

เซียวรั่วไห่กล่าวเสียงเรียบ

“ต่อให้หมั้นหมายกันแล้วก็ไม่มีผลอันใดอยู่ดี หากฝ่าบาทไม่พอพระทัย พระองค์สามารถทำให้ลูกชายหรือลูกสาวของเจ้าตายไปจากโลกนี้ก่อนวัยอันควรได้ทุกเมื่อ เจ้าคิดว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวของพวกเราจะไม่กล้าสังหารทายาทของขุนนางกบฏของแคว้นศัตรูอย่างนั้นหรือ”

แผ่นหลังของเย่อิงน่านชาวาบ

“ขอเพียงฝ่าบาทของข้าขุ่นเคืองพระทัยหรือไม่พอพระทัย เรื่องไม่จำเป็นต้องถึงมือองครักษ์ลับ ขอเพียงแพร่งพรายข่าวนี้ออกไปย่อมมีคนมากมายพร้อมที่จะกำจัดพวกเจ้าแทนฝ่าบาทอยู่แล้ว”

เซียวรั่วไห่ส่ายหน้าช้าๆ

“ความปลอดภัยของคนทั้งครอบครัวหรือการแต่งงานกับราชวงศ์ ฮูหยินเลือกเอาเองก็แล้วกัน”

เย่อิงน่านทรุดตัวลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง ร่างทั้งร่างราวกับคนไร้วิญญาณขึ้นมาทันที

เจ้าเมืองคลานเข้าไปหาฮูหยินของตัวเอง เขากระชากป้ายหยกไปจากเย่อิงน่าน จากนั้นคลานเข่าไปหาเซียวรั่วไห่พลางชูป้ายหยกในมือขึ้นเหนือศีรษะ

“ใต้เท้า ได้โปรดทูลให้ฝ่าบาทไว้ชีวิตฮูหยินของข้าที่ล่วงเกินพระองค์สักครั้งเถิดขอรับ ข้าจะรับผิดทุกอย่างเองคนเดียว ได้โปรดทูลให้ฝ่าบาทไว้ชีวิตลูกทั้งสองของข้าด้วยเถิดขอรับ ข้ายินดีตามชดใช้ความผิดเดี๋ยวนี้ขอรับ”

ดวงตาของเย่อิงน่านไหววูบ นางมองไปทางสามีที่นางดูถูกมาตลอดชีวิตทันที

เซียวรั่วไห่รับป้ายหยกไปจากเจ้าเมือง จากนั้นประคองร่างของเจ้าเมืองให้ลุกขึ้น เขาหันไปถามเย่อิงน่านอีกครั้ง

“ฮูหยิน นอกจากป้ายหยกแผ่นนี้แล้ว เจ้ายังมีข้อความใดที่สามารถทำให้บ่าวรับใช้ชายผู้นั้นเชื่อได้สนิทใจอีกหรือไม่”

น้ำตาของเย่อิงน่านไหลพรากออกมาจากดวงตา ทว่า นางยังคงดึงดันไม่ยอมกล่าวสิ่งใดออกมาทั้งสิ้น

“ฮูหยิน!” เจ้าเมืองเอ่นเรียกภรรยาของตัวเองด้วยความร้อนใจ

เย่อิงน่านกำหมัดแน่น นางมองไปทางเซียวรั่วไห่

“ต้องให้บุตรสาวของข้าเดินทางไปยังด่านเย่เฉิงด้วยตัวเอง บุตรสาวของข้ามีใบหน้าคล้ายคลึงกับข้าตอนเป็นสาว ขอเพียงบุตรสาวของข้านำป้ายหยกไปพบเขาด้วยตัวเอง เขาต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อข้าอย่างแน่นอน!”

มือของเจ้าเมืองขยับเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าบุตรสาวของตัวเองมีหน้าตาคล้ายคลึงกับภรรยาตอนสาวแม้แต่น้อย เขารู้ทันทีว่าภรรยาของตัวเองกำลังวางแผนอื่นอยู่ในใจ ทว่า เขาไม่กล้าเปิดโปงนางต่อหน้าเซียวรั่วไห่ ทำเพียงส่งสายตาเตือนเย่อิงน่านเท่านั้น ทว่า เย่อิงน่านยังคงมองไปทางเซียวรั่วไห่นิ่งราวกับไม่เห็นสายตาของสามีที่ส่งมา

เซียวรั่วไห่เหลือบมองเย่อิงน่านแวบหนึ่ง จากนั้นตะโกนเรียกคนด้านนอก

“พาเจ้าเมืองและฮูหยินไปพักผ่อน!”

เย่อิงน่านที่กำลังจะถูกทหารพาตัวออกไปด้านนอกมองไปทางเซียวรั่วไห่ที่กำลังพิจารณาป้ายหยกในมืออย่างละเอียดแวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวเสริมขึ้น

“หากเจ้าเป็นคนนำป้ายหยกไปพบเขา เขาอาจไม่เชื่อใจเจ้า มีเพียงบุตรสาวของข้าแสร้งทำเป็นหลบหนีออกจากเมืองซุ่นหนิงและแสดงป้ายหยกต่อหน้าเขาเท่านั้น เขาถึงจะเชื่อ”

เซียวรั่วไห่ยกยิ้มมุมปาก หากฮูหยินเจ้าเมืองผู้นี้ไม่กล่าวเช่นนี้เซียวรั่วไห่คงยังสงสัยในความน่าเชื่อถือของป้ายหยกแผ่นนี้ ทว่า เมื่อได้ยินนางกล่าวเช่นนี้เซียวรั่วไห่จึงวางใจว่าป้ายหยกแผ่นนี้ไม่มีทางนำอันตรายมาสู่พวกเขาแน่ๆ

ชายหนุ่มกล่าวขึ้นยิ้มๆ

“ขอบคุณฮูหยินมาก พาฮูหยินไปพักผ่อนก่อน ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้าเมืองต่ออีกสักหน่อย”

สิ้นเสียงเย่อิงน่านถูกพาตัวออกไปทันที ก่อนจากไปนางมองไปทางสามีของตัวเองตาเขม็งเพื่อสื่อว่าห้ามให้เขากล่าวสิ่งใดที่ไม่ควรออกไปเด็ดขาด

เมื่อเย่อิงน่านจากไป เซียวรั่วไห่มองไปทางเจ้าเมืองยิ้มๆ

“เจ้าเมืองมีสิ่งใดอยากกล่าวอีกหรือไม่ สิ่งนี้สำคัญต่อครอบครัวของท่าน หากฮูหยินของท่านลืมกล่าวสิ่งใดออกมา ท่านสามารถช่วยเสริมได้ ขอเพียงพวกเรายึดด่านเย่เฉิงได้ ครอบครัวของเจ้าเมืองจะกลายเป็นคนที่มีความดีความชอบในครั้งนี้ พวกท่านไม่เพียงแต่จะปลอดภัย เกียรติยศและความมั่งคั่งกำลังรอท่านอยู่ในวันข้างหน้าด้วย”

เจ้าเมืองรู้สึกหวาดกลัว เขากล่าวตามตรง

“ข้าไม่สนเรื่องเกียรติยศหรือความมั่งคั่งขอรับ ขอเพียงครอบครัวของข้าปลอดภัยข้าก็สบายใจแล้วขอรับ ข้าหวังเพียงหลังจากต้าโจวยึดด่านเย่เฉิงได้สำเร็จ พวกท่านจะปล่อยพวกเราทั้งครอบครัวไปอย่างปลอดภัยขอรับ”

เซียวรั่วไห่มองดูเจ้าเมืองที่ดูซื่อสัตย์และพยายามแสดงความจริงใจออกมาอย่างให้เขาเห็นอย่างเต็มที่นิ่ง จากนั้นพยักหน้าเล็กน้อย

“ข้ารับปากท่าน”

เจ้าเมืองโค้งกายคำนับเซียวรั่วไห่อีกครั้งพลางกล่าวขึ้น

“บุตรสาวของข้าไม่ได้มีใบหน้าคล้ายคลึงกับภรรยาตอนนางยังเป็นสาว หลายปีมานี้เย่โส่วกวนสั่งห้ามไม่ให้ภรรยาของข้าไปเหยียบด่านเย่เฉิง นางจึงไม่ได้กลับไปที่นั่นหลายสิบปีแล้ว บุตรสาวของข้าหน้าตางดงาม ทว่า เป็นคนมีแผนการเช่นเดียวกัน ข้าคิดว่าใต้เท้าไม่ควรให้นางเป็นคนนำป้ายหยกไปยังด่านเย่เฉิงขอรับ หากนางเกิดคิดไม่ซื่อขึ้นมาอาจกระทบแผนการใหญ่ของพวกท่านได้ขอรับ”

บัดนี้อำนาจของต้าโจวมากกว่าซีเหลียง แม้เจ้าเมืองจะเป็นคนซีเหลียง ทว่า เขาไม่อยากทำตัวเป็นคนไม่ประมาณตน

เขาไม่อยากให้บุตรสาวของตัวเองเดินทางไปยังด่านเย่เฉิงเพราะกลัวว่าอาจเกิดสิ่งใดขึ้นกับบุตรสาวของตัวเอง

หากพวกเขาต้องตายจริงๆ เจ้าเมืองอยากให้ทุกคนในครอบครัวอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน

“ได้ ข้ารู้แล้ว” เซียวรั่วไห่พยักหน้าให้เจ้าเมือง

“ช่วงนี้เจ้าเมืองเชิญพักผ่อนอยู่ในจวนเจ้าเมืองก่อน ข้าจะสั่งให้คนดูแลท่านและครอบครัวเป็นอย่างดี หากท่านมีสิ่งใดอยากได้ ขอเพียงไม่มากเกินไป พวกเราจะทำตามคำขอของท่าน เจ้าเมืองยังมีบาดแผลอยู่ เชิญพักผ่อนตามสบาย ต้าโจวของพวกเราไม่สังหารคนบริสุทธิ์อยู่แล้ว”