บทที่ 1168 คำแนะนำ

บทที่ 1168 คำแนะนำ

หลังจากนั้นทั้งสองได้หารือเรื่องโรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่อ

ซูเสี่ยวเถียนตัดสินใจลงทุนด้วยเงินตัวเอง และสร้างขึ้นไว้ในพื้นที่หรือที่ดินซึ่งจัดสรรไว้ของหมู่บ้าน

ซูฉางจิ่วไม่ได้คัดค้าน

เพราะทั้งเรื่องฟาร์มและโรงงานแปรรูปอาหารก่อนหน้านั้นก็มีไว้เพื่อที่ชาวบ้านจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น

“เรื่องนี้เดี๋ยวลุงจัดการเอง”

เพราะจำได้ว่าผู้นำกรมพาณิชย์ของมณฑลต้องการร่วมมือกับซูเสี่ยวเถียน

แต่เหมือนว่าเธอจะไม่สนใจโรงงานในมณฑลพวกนั้นเลย

ไม่รู้โรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรหรือเปล่า

แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขาเลยไม่คิดจะถาม

“ไว้กลับไปทำรังวัดให้ เดี๋ยวจะโทรหานะถ้าเสร็จแล้ว”

“ขอบคุณค่ะ ช่วงนี้หนูคงกลับไม่ได้เพราะงานยุ่งมาก พี่สี่ก็ไปต่างประเทศด้วย คงไม่กลับอีกนานเลยค่ะ”

ส่วนพี่ชายคนอื่น ๆ ก็มีงานของเขา เรื่องที่ดินตลอดจนเรื่องโรงงานต้องพึ่งพาลุงฉางจิ่วแล้วละ

“มีเรื่องอะไรก็บอกนะ ถ้าช่วยได้ลุงจะช่วย”

นอกจากเรื่องที่ดินแล้วยังมีเรื่องก่อสร้างอีก

เขาดีใจหากช่วยเหลือได้

ที่ครอบครัวเรามีชีวิตที่ดีได้ก็มาจากเสี่ยวเถียนนั่นแหละ

ในเมื่อมีเรื่องที่ต้องคิด หลังจากอยู่ต่ออีกเจ็ดแปดวันเขาก็กลับบ้านไป

ช่วงนี้ตึกห้าชั้นที่ว่าสร้างเสร็จแล้ว

เพราะเธอมีข้อกำหนดเยอะเลยใช้เวลานานพอสมควร

ในเมื่อต้องสร้างหลายชั้น เธอจึงตัดสินใจวางรากฐานที่มั่นคงไปเลย

ส่วนทีมวิศวกรที่รับหน้าที่ก็คือเหล่าเฉียนผู้รับผิดชอบตกแต่งภายในร้านเมืองอาหารว่างนั่นแหละ

ตอนเขาเข้ามาดูแลโครงการนี้ได้ตัดตัวเลือกที่จะยอมแพ้ออกไปเลย

โชคดีที่หลังจากก่อสร้างแล้วเขาก็ช่วยตกแต่งภายในตัวอาคารด้วย

กอปรกับซูเสี่ยวเถียนไม่ได้จ่ายเงินช้า ทีมวิศวกรเลยขยายใหญ่ขึ้น

นอกจากนี้เหล่าเฉียนยังแบ่งสมาชิกออกเป็นทีมก่อสร้าง และทีมตกแต่งภายใน

เด็กสาวในตอนนี้จึงพึงพอใจกับตึกหลังนี้มาก

“ลุงเฉียนทำงานละเอียดมากเลยค่ะ” เธอเอ่ยหลังจากสำรวจทุกชั้น

ทุกอย่างได้รับการตกแต่งตามความต้องการ มีความเรียบง่ายแต่อลังการไม่น้อย

สมัยนี้ไม่ถือว่าเป็นที่นิยม แต่ทำให้คนเห็นรู้สึกสบายตา

“เพราะได้เสี่ยวเถียนช่วยไง ถ้าเธอไม่ไว้ใจพวกเรา ลุงกับพวกพี่น้องก็คงกลับบ้านไปทำฟาร์มแล้วละ” เหล่าเฉียนเอ่ยด้วยความสุภาพ

ตอนนั้นเขาก็เคยเห็นทีมวิศวกรอื่นเช่นกัน แต่คนส่วนใหญ่เหล่านั้นล้วนหายหน้าหายตาไป ดังนั้นไม่ต้องกล่าวถึงการขยับขยายกลุ่มเลย

“ก่อนหน้านี้หนูไปที่โรงงานมาค่ะ หอพักสร้างไวมากเลย เร็วกว่าตึกนี้อีกค่ะ”

“ทีมลุงมีเยอะแล้วน่ะ ทุกคนคล่องแคล่วได้จากประสบการณ์นี่แหละ”

“ลุงเคยคิดจะก่อตั้งบริษัทก่อสร้างอย่างเป็นทางการบ้างไหมคะ?”

เพราะในท้ายที่สุดสมาชิกจะค่อย ๆ ลดลงเพราะกิจการไปไม่รอด

อีกอย่างทีมวิศวกรระดับรากหญ้าซึ่งไม่มีคุณสมบัติอย่างเป็นทางการ ทำให้ไม่สามารถรับงานในหลาย ๆ โครงการได้ เลยทำให้พัฒนาต่อไปได้ช้าและโดนกำจัดไปในที่สุด

แต่ถ้าจดทะเบียนเป็นบริษัทอย่างเป็นทางการจะเกิดความแตกต่างทันที ช่วงแรก ๆ อาจจะมีปัญหานิดหน่อย แต่ถ้าผ่านไปได้แล้วทุกอย่างจะราบรื่นมาก

“ลุงเป็นแค่ชาวนา จะไปตั้งบริษัทได้ยังไงล่ะ?” เหล่าเฉียนลูบหัวยิ้ม ๆ

ซูเสี่ยวเถียนถาม “ชาวนาแล้วยังไงคะ? ครอบครัวหนูก็เป็นชาวนาค่ะ พูดรวม ๆ เมืองหลวงมีคนตั้งเยอะแยะ มีตั้งหลายคนที่พื้นเพเดิมเป็นชาวนาน่ะ?”

เหล่าเฉียนขบคิด

หากเป็นแบบนี้ต่อไป ทีมเราคงไปไม่รอด

แต่ไม่มีวิธีแก้ปัญหา

โชคดีที่ได้เสี่ยวเถียนเตือนสติ

“แล้วจะได้ผลไหม?”

“ลองดูค่ะ ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้หรอกนะคะ หนูได้ยินมาว่ามีหลาย ๆ ที่กำลังติดต่อลุงอยู่ด้วยนี่นา”

เด็กสาวยิ้ม พอเห็นผลงานก่อสร้าง ชื่อเสียงของทีมนี้ย่อมเป็นที่รู้จักอย่างเลี่ยงไม่ได้

เพราะแบบนั้นก็มีบริษัทหลายเจ้าติดต่อมา

นี่คงเป็นโอกาสของพวกเขาที่จะเริ่มต้น แต่ไม่รู้ว่าเหล่าเฉียนจะคว้าไว้ได้ไหม

“ลูกน้องลุงมีเยอะอยู่ ไม่ต้องห่วงนะ ถ้ายังสร้างตึกไม่เสร็จลุงจะไม่รับงานอื่นก่อนแน่”

ท่าทางของเหล่าเฉียนเปลี่ยนไปทันควัน เพราะคิดว่าซูเสี่ยวเถียนไม่พอใจ

“คนเยอะน้อยไม่สำคัญหรอกค่ะ ยังไงก็รับคนเข้าทีมเพิ่มได้ เพราะหลังจากจ่ายค่างวดรอบสุดท้ายแล้วก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้วค่ะ”

เหล่าเฉียนค่อนข้างประหลาดใจ

“ลุงแค่คิดว่าตัวเองเป็นชาวนาแก่ ๆ คนหนึ่งไม่ค่อยรู้เรื่องบริหารจัดการเท่าไร แล้วจะเปิดบริษัทได้ยังไง เกิดทำไม่ดีขึ้นมาเขาว่ากันว่าจะเสียเงินเยอะมากเลยนะ”

เหล่าเฉียนกลัวว่าถ้าจะขยายทีม แต่บริหารกันไม่ได้ เงินที่หามาด้วยความยากลำบากจะไม่หายไปหมดหรือ?

“ลองคิดดูค่ะ ลองไปปรึกษาคนอื่น ๆ ดูนะ”

เธอไม่อยากพูด เพราะมันเรื่องของคนอื่น แค่เตือนเฉย ๆ เราตัดสินใจแทนไม่ได้หรอก

เหล่าเฉียนเงียบไป

เส้นทางของเขามันราบรื่นมาก แต่พอมีลูกน้องเพิ่มมากขึ้นเหล่าเฉียนไม่กล้าเดิมพันกับมัน

ทุกคนมีลูกมีเมียต้องดูแล ถ้าบริษัทล้มละลายบ้านเขาอดอยากเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าพี่น้องทุกคนไม่มีเงินนี่คือเรื่องใหญ่

แต่อย่างที่เสี่ยวเถียนบอก ถ้าไม่ก่อตั้งบริษัทมันจะเป็นอุปสรรคในอนาคตแน่

แล้วควรทำยังไงดีล่ะ?

ซูเสี่ยวเถียนไม่สนใจความคิดอีกฝ่าย เธอทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว

ตอนนี้ตึกของเธอเสร็จเรียบร้อย พร้อมดำเนินธุรกิจ

สองพี่น้องได้วางแผนไว้ละเอียดยิบสำหรับตึกห้าชั้นหลังนี้แล้ว

ชั้นหนึ่งชั้นสองไว้เป็นร้านอาหาร

ชั้นแรกจะเป็นของหออีหมิงทั้งหมด เธอตั้งใจจะทำร้านหม้อไฟกับร้านปิ้งย่างชั้นสอง

ชั้นสามเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ และชั้นสี่ห้าเป็นพื้นที่ขายเสื้อผ้า

โชคดีที่มีเงินอยู่ในมือ ไม่อย่างนั้นคงทำไม่สำเร็จแน่ ๆ