ตอนที่ 1188 สังหารให้หมด

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1188 สังหารให้หมด

“เพราะต้องการให้ซีเหลียงรู้ว่าในด่านเย่เฉิงมีกองทัพรักษาการอยู่จำนวนมาก พวกเขาจะได้ไม่กล้าบุกมาโจมตีด่านเย่เฉิง ให้ซีเหลียงคิดว่าต้าโจวทยอยส่งกองทัพมายังด่านเย่เฉิงไม่ขาดสาย…”

น้ำเสียงของไป๋ชิงเหยียนหนักแน่น “ในเมื่อรู้แล้วว่าแม่ทัพชราชุยซานจงเป็นคนนำทัพออกรบด้วยตัวเอง พวกเราจึงประมาทไม่ได้เด็ดขาด ด่านเย่เฉิงมีความสำคัญกับต้าโจวและซีเหลียงมาก เป็นด่านที่ควรแย่งชิงมากกว่าด่านชิวซานเสียอีก แม่ทัพชราชุยชอบใช้กลอุบาย พวกเราก็สามารถเลียนแบบเขาได้”

“พรุ่งนี้อาฉีค่อยพากองทัพอีกครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่ออกจากเมือง จากนั้นแบ่งกำลังครึ่งหนึ่งให้แม่ทัพหยางพากลับมาในเมือง อีกสองวันอาเจวี๋ยค่อยพาเสี่ยวลิ่วและเสี่ยวชีออกจากเมือง จากนั้นแบ่งกองกำลังอีกครึ่งหนึ่งกลับมา เช่นนี้พวกเราจะสามารถยื้อเวลาได้จนกว่าแม่ทัพจ้าวเซิ่งจะพากองทัพจ้าวมาเสริมทัพที่ด่านเย่เฉิง”

ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางไป๋จิ่นเจา

“ถึงเวลานั้นเสี่ยวอู่ค่อยออกเดินทางไปช่วยเสริมทัพอาอวี๋และจิ่นซิ่วพร้อมกับแม่ทัพจ้าว”

“พี่หญิงสั่งให้แม่ทัพจ้าวออกเดินทางมาเสริมทัพเมื่อใดเจ้าคะ”

ดวงตาของไป๋จิ่นเจาเป็นประกายขึ้นทันที “พี่หญิงใหญ่ช่างเก่งจริงๆ เจ้าค่ะ”

“หากข่าวนี้รู้ไปถึงหูคนซีเหลียงและแม่ทัพชราชุย พวกเขาจะคิดว่ากองทัพต้าโจวของเรามีกองกำลังเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแสนนาย”

ไป๋ชิงอวิ๋นยกถ้วยโจ๊กขึ้น

“หากแม่ทัพชราชุยต้องการเผชิญหน้ากับกองทัพต้าโจวก็ต้องคิดให้มากหน่อย เขาคงไม่กล้าบุกมาโจมตีด่านเย่เฉิงเพราะคิดว่าต้าโจวทยอยส่งทัพเสริมมายังด่านเย่เฉิงไม่หยุด”

“เมื่อคืนพี่อ่านบันทึกการรบของแม่ทัพชราชุยที่ผ่านมาเกือบทั้งหมด พี่พบว่าแม่ทัพชราชุยพร้อมใช้ทุกวิธีเพื่อเอาชนะศึก ท่านปู่ใช้ว่าคำไม่เลือกวิธีบรรยายการรบของแม่ทัพชุย ทว่า พี่พบว่าหากไม่ถึงคราวจำเป็นจริงๆ แม่ทัพชราชุยจะไม่เผชิญหน้ากับกองทัพใหญ่ซึ่งๆ หน้า!”

ไป๋ชิงเหยียนรับถ้วยชาร้อนจากเว่ยจงมาถือไว้ในมือ

“ดังนั้นขอเพียงด่านเย่เฉิงมีกำลังเสริมทยอยเข้ามาไม่หยุดหย่อน แม่ทัพชราชุยซานจงไม่มีทางเสี่ยงบุกมายังด่านเย่เฉิงแน่ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้พวกเจ้าก็ต้องระวังตัวให้ดี!”

“พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องห่วงขอรับ!” ไป๋ชิงฉีไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย

วันต่อมายังมีชาวบ้านซีเหลียงที่จากไปแล้วย้อนกลับมาอย่างที่ไป๋ชิงเหยียนคาดการณ์ไว้จริงๆ ทว่า พวกเขาถูกไล่ไปหมด วันนี้ทหารต้าโจวสังหารชาวบ้านที่คิดบุกเข้าไปในเมืองได้สามคนจึงไม่มีชาวบ้านซีเหลียงคนอื่นกล้าบุกเข้าไปในด่านเย่เฉิงอีก

ชาวบ้านในด่านเย่เฉิงรู้สึกใจหาย โชคดีที่พวกเขาไม่ได้วู่วามเดินทางออกจากเมืองไป

ช่วงกลางวันไป๋ชิงเหยียนสั่งให้ทหารไปเปลี่ยนทะเบียนของชาวบ้านซีเหลียงที่ไปขึ้นทะเบียนยินยอมเป็นชาวบ้านต้าโจวที่จวนว่าการเมื่อวานเป็นชาวบ้านของต้าโจว ชาวบ้านซีเหลียงที่ไม่ได้ไปขึ้นทะเบียนและไม่ได้เดินทางออกจากเมืองอยู่จะถูกขับไล่ออกจากด่านเย่เฉิงทันที

ทุกถนนในด่านเย่เฉิงเต็มไปด้วยทหารของต้าโจว ทหารต้าโจวไปเปลี่ยนทะเบียนชาวบ้านซีเหลียงให้กลายเป็นคนต้าโจวตามบ้านเรือนต่างๆ ไป๋ชิงเหยียนสั่งให้ขึ้นทะเบียนให้เสร็จภายในสองวัน มิเช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อการผลักดันระบอบการปกครองใหม่

กองทัพเป็นคนจัดการเรื่องต่างๆ พวกเขามีกำลังคนเพียงพอ อีกทั้งทำทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดพวกเขาก็เปลี่ยนทะเบียนราษฎร์ทั้งหมดเสร็จในช่วงบ่ายของวันที่สาม

ต่อมาไป๋ชิงเหยียนสั่งให้ทหารไปสำรวจตามบ้านเรือนต่างๆ ว่ายังมีคนซีเหลียงที่จงใจไม่ขึ้นทะเบียนหลงเหลืออยู่หรือไม่ หากมีให้ขับไล่ออกจากด่านเย่เฉิงทั้งหมด ผู้ใดไม่เชื่อฟังจะถูกลงโทษในฐานะสายลับของซีเหลียง

การกระทำที่เด็ดขาดได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก

วันที่สี่ต้าโจวติดประกาศใช้การปกครองระบอบใหม่ในด่านเย่เฉิง มีคนอธิบายรายละเอียดการปกครองระบอบใหม่ให้ชาวบ้านซีเหลียงที่เพิ่งกลายเป็นชาวบ้านต้าโจวฟังอย่างละเอียด จากนั้นพาชาวบ้านเหล่านั้นไปแบ่งที่ดิน

ต้าโจวไม่เพียงงดเก็บภาษีชาวบ้านเป็นเวลาสามปี หลังจากนี้จะส่งเสบียงอาหารมาช่วยบรรเทาทุกข์ชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนจากความหิวโหยอีกด้วย ไป๋ชิงอวิ๋นบอกกับชาวบ้านทุกคนว่าจะไม่ปล่อยให้คนต้าโจวอดอยากเด็ดขาด

เมื่อชาวบ้านในด่านเย่เฉิงเห็นว่าต้าโจวกล่าวจริงทำจริง ที่สำคัญการปกครองระบอบใหม่ของต้าโจวมีประโยชน์ต่อชาวบ้านเป็นอย่างมากจึงยิ่งรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวมาก พวกเขารู้สึกโชคดีที่เลือกเป็นชาวบ้านของต้าโจว ไม่ได้หนีไปจากด่านเย่เฉิง

ต้าโจวเปลี่ยนคนของทางการในด่านเย่เฉิงใหม่เกือบทั้งหมด เก็บคนของทางการเดิมที่มีชื่อเสียงในทางที่ดีไว้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น

การกระทำที่ยิ่งใหญ่ของต้าโจวแสดงให้ชาวบ้านทุกคนเห็นแล้วว่าต้าโจวไม่มีทางทอดทิ้งด่านเย่เฉิง ชาวบ้านจึงสบายใจขึ้นไม่น้อย พวกเขาไม่จำเป็นต้องอยู่อย่างหวาดกลัวว่าวันนี้เพิ่งกลายเป็นคนต้าโจว พรุ่งนี้จะต้องเปลี่ยนกลับไปเป็นคนซีเหลียงอีกครั้ง ไม่แน่อาจถูกกำจัดเพราะต้องสงสัยว่าเป็นสายลับของซีเหลียงอีก

ผ่านไปไม่นานชาวบ้านเร่ร่อนกลุ่มแรกก็เดินทางมายังด่านเย่เฉิงของต้าโจว หนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้นมีชาวบ้านซีเหลียงในด่านเย่เฉิงที่ตัดสินใจเดินทางออกจากเมืองรวมอยู่ด้วย

ชาวบ้านจากเมืองอื่นที่หิวโหยจนต้องกัดเปลือกไม้กินคุกเข่าอยู่นอกเมืองเย่เฉิง พวกเขากล่าวว่าได้ยินข่าวจากชาวบ้านที่เดินทางไปจากด่านเย่เฉิงว่ากองทัพต้าโจวมีเมตตา ไม่สังหารชาวบ้านบริสุทธิ์ อีกทั้งอนุญาตให้ชาวบ้านซีเหลียงกลายเป็นชาวบ้านต้าโจว ชาวบ้านอ้อนวอนขอเข้าไปในเมือง ขอเพียงพวกเขามีชีวิตรอดต่อไปพวกเขายินดีกลายเป็นคนของต้าโจว

มารดาที่ผอมโซจนแทบดูไม่ได้อุ้มลูกน้อยที่หายใจรวยระรินมาคุกเข่าขออาหารกินอยู่นอกด่านเย่เฉิง ขอร้องให้กองทัพต้าโจวช่วยชีวิตลูกของนาง

เมื่อได้รับรายงานไป๋ชิงอวิ๋นสั่งให้คนนำเสบียงไปให้ชาวบ้านเหล่านั้นกินประทังชีวิตหนึ่งมื้อตามคำสั่งของไป๋ชิงเหยียน ให้หมอออกไปรักษาอาการของชาวบ้านที่ป่วยหนักจนแทบไม่มีลมหายใจ จากนั้นประกาศกับชาวบ้านทุกคนว่ามีโอกาสกลายเป็นชาวบ้านต้าโจวเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

หากต้องการเข้าเมืองมาเป็นชาวบ้านของต้าโจวและได้รับที่อยู่อาศัยที่ทางการของต้าโจวแบ่งสรรให้ ทุกคนต้องทำตามคำสั่งของต้าโจว ต้าโจวไม่ได้มอบที่อยู่อาศัย ที่ดินและเสบียงให้พวกเขาเปล่าๆ พวกเขาต้องร่างสัญญากู้ยืมกับทางการ พวกเขาต้องคืนเสบียงหรือเงินที่ได้จากผลผลิตในการเพาะปลูกหรือทำนาในปีหน้าให้แก่ทางการให้ครบภายในระยะเวลาสามสิบปี ทุกปีจะมีดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้น ยิ่งคืนเงินหมดเร็วเท่าใดก็จะยิ่งเสียดอกเบี้ยน้อยเท่านั้น

ตอนนี้กองทัพซีเหลียงกำลังออกค้นเสบียงตามเมืองต่างๆ ชาวบ้านซีเหลียงไม่เหลือทางรอดแล้ว ตอนนี้ขอเพยงพวกเขาได้เข้าไปในด่านเย่เฉิงพวกเขาก็จะมีอาหารประทังชีวิต ต้าโจวจะมอบบ้านให้พวกเขาอยู่อาศัยอีกด้วย อย่าว่าแต่ให้พวกเขาชดใช้คืนเป็นเวลาสามสิบปีเลย ให้พวกเขาชดใช้ทั้งชีวิตพวกเขาก็ยินดี

ชาวบ้านที่อยู่ในด่านเย่เฉิงรู้ข่าวจึงเข้าใจเรื่องทุกอย่างขึ้นมาทันที มิน่าต้าโจวจึงไม่อนุญาตให้ชาวบ้านที่ออกจากเมืองไปแล้วกลับเข้าเมืองอีก ที่แท้พวกเขาเหลือที่ไว้ให้ชาวบ้านเร่ร่อนเหล่านี้นี่เอง ชาวบ้านในด่านเย่เฉิงรู้สึกโชคดีที่ตอนนั้นพวกเขาตัดสินใจไม่จากบ้านเกิดของตัวเองไป พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าสถานการณ์ในซีเหลียงจะย่ำแย่ถึงเพียงนี้แล้ว

พวกเขาได้ยินชาวบ้านเร่ร่อนเหล่านั้นขอร้องอ้อนวอนเข้ามาในเมือง กล่าวว่าเมืองของพวกเขาเริ่มจะกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันเองแล้ว พวกเขาแค่อยากมีชีวิตรอดจึงมาขอร้องกองทัพต้าโจวเช่นนี้

ไม่นานไป๋ชิงอวิ๋นจึงพาทหารต้าโจวออกไปจดบันทึกรายชื่อของชาวบ้านที่อพยพมายังด่านเย่เฉิง แม่ทัพคุ้มกันด่านเย่เฉิงกล่าวชัดเจนว่าไม่อนุญาตให้ชาวบ้านด่านเย่เฉิงที่ออกจากด่านเย่เฉิงไปแล้วแฝงตัวเข้าไปในเมืองพร้อมกับกลุ่มชาวบ้านอพยพเหล่านี้ หากทหารต้าโจวตรวจเจอจะสังหารทิ้งทันที

ก่อนหน้านี้มีตัวอย่างชาวบ้านถูกสังหารหลังจากคิดบุกเข้าไปในด่านเย่เฉิงมาแล้ว ผู้ใดจะกล้าบุกเข้าไปในด่านเย่เฉิงอีก

แน่นอนว่าต้องมีชาวบ้านซีเหลียงที่เดิมทีอาศัยอยู่ในด่านเย่เฉิงที่แอบโกหกว่าตัวเองมาจากเมืองอื่นแฝงตัวอยู่ในกลุ่มของชาวบ้านเร่ร่อนอยู่แล้ว