ตอนที่ 1193 ถ่ายทอดคำสั่ง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1193 ถ่ายทอดคำสั่ง

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า สถานการณ์รบถูกส่งมาอย่างไม่ขาดสาย ทหารที่นำจดหมายมาส่งต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา ให้เขาได้พักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่งนี้ค่อยถามก็ยังไม่สาย

“มีข่าวส่งมาว่าธงสัญลักษณ์ของกองทัพแม่ทัพชราชุยปักอยู่บนกำแพงเมืองอวิ๋นจิง ดูเหมือนว่าแม่ทัพชราชุยจะอยู่ปกป้องเมืองอวิ๋นจิงจนถึงที่สุดพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงรายงานพลางคีบอาหารให้ไป๋ชิงเหยียน “บัดนี้เมืองอวิ๋นจิงถูกปิดเมืองแล้ว อนุญาตให้เข้าได้แต่ห้ามออกจากเมืองพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนฟังเว่ยจงรายงานจบ หญิงสาววางรายงานสถานการณ์รบลงบนโต๊ะ จากนั้นเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะอย่างใช้ความคิด

ชุนจือและเว่ยจงยืนนิ่งอยู่ด้านหลังไป๋ชิงเหยียน พวกเขาไม่กล้าเอ่ยเร่งให้ไป๋ชิงเหยียนรับประทานอาหาร

ด้วยความเคยชินของแม่ทัพชราชุยซานจง การแขวนธงไว้บนกำแพงเมืองคือกลอุบายอย่างหนึ่งที่ต้องการหลอกล่อข้าศึกให้หลงกล

แม่ทัพชราชุยซานจงทำสงครามมาทั้งชีวิต เขาไม่มีทางรอให้ศัตรูบุกไปถึงหน้าบ้านของตัวเองโดยเขาทำเพียงรอคุ้มกันบ้านตัวเองแน่นอน

นี่ไม่ใช่ลักษณะการทำสงครามของแม่ทัพชราชุยซานจง

บางทีที่แม่ทัพชราชุยซานจงทำเช่นนี้อาจเพราะเขาต้องการช่วยปกปิดความเคลื่อนไหวของกองทัพซีเหลียงกองทัพอื่น

หากเปลี่ยนเป็นต้าโจว…หากต้าโจวถูกสองแคว้นที่จับมือเป็นพันธมิตรกันบุกโจมตีจากทั้งสี่ทิศ นางไม่มีทางทำเพียงคุ้มกันเมืองหลวงแน่นอน นางจะจงใจสร้างค่ายกลในเมืองหลวงเพื่อทำให้ศัตรูสับสน จากนั้นขับไล่กองทัพใหญ่ของสองแคว้นหรืออย่างน้อยแคว้นใดแคว้นหนึ่งกลับไปตั้งรับแทนการรุก เช่นนี้อวิ๋นจิงจะได้ไม่มีแรงกดดันมากนัก

ระหว่างกองทัพต้าเยี่ยนและต้าโจว หากขับไล่กองทัพต้าโจวที่มีกำลังทหารมากกว่าให้ถอยทัพได้ย่อมดีที่สุด

บัดนี้จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนอยู่ที่เมืองหลวงของต้าเยี่ยน แม่ทัพชราชุยซานจงเอื้อมมือไปจัดการเขาไม่ถึง

ส่วนนางซึ่งเป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจวยังไม่ได้เดินทางกลับเมืองหลวง ที่สำคัญนางยังอยู่ในแผ่นดินซีเหลียงที่ยังไม่ได้ถูกกองทัพต้าโจวยึดครองได้ทั้งหมด

ไป๋ชิงเหยียนหลับตาลง ในสมองเต็มไปด้วยภาพแผนที่ของซีเหลียง จากนั้นเริ่มคำนวณเส้นทางที่กองทัพต้าโจวและต้าเยี่ยนจะเคลื่อนผ่านทั้งหมดอย่างรวดเร็ว

ไม่นานไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นผุดลุกขึ้นยืน

“ฝ่าบาท?” เว่ยจงรีบก้าวไปด้านหน้า

“ถ่ายทอดคำสั่งให้แม่ทัพคุ้มกันเมืองส่งสายลับออกไปทางประตูเมืองทิศใต้ มุ่งหน้าตามแม่น้ำตันสุ่ยไปยังเมืองเทียนหง สำรวจดูว่ามีกองทัพซีเหลียงอยู่แถวนั้นหรือไม่…”

ไป๋ชิงเหยียนยังกล่าวไม่จบก็ได้ยินเสียงกลองศึกดังมาจากประตูเมืองเสียก่อน

ไป๋ชิงเหยียนรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเอ่ยถามเสียงดังลั่น “ประตูทิศใด”

“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าน่าจะมาจากประตูทิศเหนือ ตะวันออกและตะวันตกพ่ะย่ะค่ะ! มีเสียงกลองดังขึ้นจากทั้งสามประตูพ่ะย่ะค่ะ”

ล้อมประตูทิศตะวันออก ตะวันตกและทิศเหนือ เหลือไว้เพียงประตูเมืองทิศใต้เพราะต้องการปิดทางหนีทุกทางของต้าโจว ต้องการให้จักรพรรดินีอย่างนางส่งทหารไปยังเมืองซุ่นหนิงและด่านเย่เฉิงเพื่อรายงานข่าวนี้ให้กองทัพที่อวิ๋นจิงรับรู้อย่างนั้นหรือ!

ขอเพียงแม่ทัพชราชุยซานจงล้อมจักรพรรดินีแห่งต้าโจวอย่างนางไว้ได้ ซีเหลียงไม่จำเป็นต้องกลัวว่ากองทัพหลักของต้าโจวจะบุกโจมตีเต็มกำลังอีก พวกเขาต้องย้อนกลับมาช่วยจักรพรรดินีของพวกเขาแน่นอน

ที่สำคัญผู้นำทัพในครั้งนี้ล้วนเป็นแม่ทัพของกองทัพไป๋ กองทัพไป๋รักพวกพ้องของตัวเอง บรรดาน้องๆ ของนางไม่มีทางปล่อยให้พี่หญิงใหญ่ที่กำลังตั้งครรภ์อย่างนางถูกกองทัพซีเหลียงล้อมอยู่เช่นนี้แล้วมุ่งหน้าโจมตีอวิ๋นจิงต่อไปแน่

หากไป๋ชิงเหยียนเดาไม่ผิดกองกำลังหลักทั้งหมดของซีเหลียงต้องอยู่ในมือแม่ทัพชราชุยซานจงแล้ว เขาเหลือทหารคุ้มกันเมืองอวิ๋นจิงเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เขาพากองกำลังหลักทั้งหมดของซีเหลียงมาที่นี่เพื่อล้อมนางเอาไว้!

เมื่อกองทัพใหญ่ของต้าโจวย้อนมาช่วยเหลือนาง แม่ทัพชราชุยซานจงต้องสร้างกับดักไว้บนเส้นทางที่เร็วที่สุดที่จะเดินทางจากด่านเย่เฉิงมายังเมืองเจียงจือแน่นอน เมื่อรบชนะต้าโจวสำเร็จ แม่ทัพชราชุยซานจงค่อยนำทัพย้อนกลับไปสู้กับต้าเยี่ยนที่อวิ๋นจิง

ยังมีอีกความเป็นไปได้นั่นก็คือทหารต้าโจวคุ้มกันนางหนีออกไปจากเมืองทางประตูทิศใต้ที่ยังไม่ได้ถูกล้อม เมื่อนางออกไปจากเมืองนางจะถูกซีเหลียงจับเป็นทันที ถึงเวลานั้นต้าโจวยังยึดอวิ๋นจิงไม่ได้ ทว่า จักรพรรดินีของพวกเขากลับถูกจับตัวได้เสียก่อน ต้าโจวไม่อาจทำสงครามต่อไปได้อีก

นี่น่าจะเป็นผลลัพธ์ที่แม่ทัพชราชุยซานจงอยากได้มากที่สุด

หลี่เทียนเจียวต้องไปพบแม่ทัพชราชุยซานจงนานแล้ว พวกเขาคงวางแผนที่จะบุกล้อมนางตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แม่ทัพชราชุยซานจงคงเริ่มเคลื่อนทัพตั้งแต่ตอนที่ข่าวเรื่องที่แม่ทัพชราชุยซานจงที่อายุแปดสิบกว่าปีจะนำทัพออกรบด้วยตัวเองแพร่กระจายออกมาด้วยซ้ำ

แม่ทัพชราชุยซานจงคือแม่ทัพเก่าแก่ เขาเคยเผชิญหน้าต่อสู้กับกองทัพไป๋ แม่ทัพชราชุยซานจงคงกำชับให้หลี่เทียนเจียวแสดงละครตบตาพวกนางตั้งแต่ตอนนั้น

ต้าโจวได้รับข่าวเรื่องที่ธงของกองทัพชุยถูกแขวนบนกำแพงเมืองอวิ๋นจิงช้าเกินไป

“ฝ่าบาทยังประทับอยู่ในเมือง กระหม่อมจะรีบคนส่งไปขอความช่วยเหลือที่ด่านเย่เฉิงพ่ะย่ะค่ะ!” เว่ยจงยังคงมีสติแม้จะเผชิญหน้ากับเรื่องร้ายแรง “ไม่สิ! บ่าวจะคุ้มกันฝ่าบาทเสด็จหนีไปยังด่านเย่เฉิงด้วยตัวเองพ่ะย่ะค่ะ!”

“หากหนีออกจากเมืองข้าคงถูกแม่ทัพชราชุยซานจงจับเป็นและกลายเป็นภาระของกองทัพต้าโจวทันที” ไป๋ชิงเหยียนเงียบไปครู่หนึ่ง หญิงสาวตัดสินใจอย่างแน่วแน่ด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว จากนั้นกล่าวออกมาอย่างหนักแน่น “องครักษ์ลับอยู่ที่ใด!”

เมื่อได้ยินเสียงคำสั่งของไป๋ชิงเหยียนองครักษ์ลับที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับต่างปรากฏตัวออกมาทันที หัวหน้าองครักษ์ลับหน่วยย่อยคุกเข่าทำความเคารพหญิงสาว “คุณหนูใหญ่!”

“ส่งคนไปทางประตูทิศใต้หนึ่งคน หากสามารถเดินทางไปถึงด่านเย่เฉิงจงบอกให้แม่ทัพหยางคุ้มกันด่านเย่เฉิงให้มั่น ห้ามยกทัพมาช่วยเหลือข้าโดยพลการเด็ดขาด! ให้แม่ทัพหยางส่งคนไปบอกให้แม่ทัพเสิ่นคุนหยางและคุณหนูสี่ซึ่งอยู่ที่ถังกู่ยกทัพมาช่วยเหลือข้า บอกให้พวกเขาเลี่ยงกับดักระหว่างทางให้ได้ เน้นความมั่นคงไม่เน้นความเร็ว!”

“ขอรับ!” หัวหน้าองครักษ์ลับหน่วยย่อยรับคำ

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวต่อ “จากนั้นเดินทางไปบอกคุณหนูรอง คุณชายสามและคุณชายห้าว่าข้าจะรั้งกองทัพหลักของซีเหลียงไว้ที่เมืองเจียงจือ ตอนนี้อวิ๋นจิงไม่มีกองทัพคุ้มกัน ให้พวกเขายึดอวิ๋นจิงให้ได้โดยไม่ต้องเป็นห่วงข้า เมื่อจับเป็นหลี่เทียนเจียวได้แล้วค่อยยกทัพมาช่วยเหลือข้าที่เจียงจือ ให้พวกเขาเลี่ยงกับดักระหว่างทางให้ได้ เน้นความปลอดภัยไม่เน้นเร็ว”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบจึงมองไปทางหัวหน้าองครักษ์ลับหน่วยย่อย “หากเดินทางไปไม่ถึงด่านเย่เฉิง ทว่า เจอกับดักของแม่ทัพชราชุยซานจงก่อน ไม่จำเป็นต้องต่อสู้ ยอมให้เขาจับแต่โดยดี จงรักษาชีวิตของตัวเองไว้ก่อน หากศัตรูถามว่าข้าสั่งให้เจ้าไปทำสิ่งใดจงบอกไปว่าข้าส่งเจ้าไปขอความช่วยเหลือที่ด่านเย่เฉิง จำได้หรือไม่!”

“ข้าจะไปด้วยตัวเองขอรับ!” หัวหน้าองครักษ์ลับหน่วยย่อยกล่าว

หัวหน้าองครักษ์ลับหน่วยย่อยเคยเป็นคนของกองทัพไป๋ เขารู้ดีว่าเหตุใดไป๋ชิงเหยียนจึงส่งคนไปรายงานข่าวเพียงคนเดียว

หากซีเหลียงจงใจเหลือประตูทิศใต้ไว้ให้ต้าโจวส่งคนไปขอความช่วยเหลือที่ด่านเย่เฉิง พวกเขาต้องสังหารทหารทุกคนที่ออกไปเพื่อความสมจริง จากนั้นไว้ชีวิตทหารเพียงคนเดียวให้ไปขอความช่วยเหลือแน่นอน

หากพวกเขาล้อมเมืองเจียงจือเพื่อต้องการจับเป็นคุณหนูใหญ่ เช่นนั้นพวกเขาต้องจับเป็นทหารส่งข่าวเพื่อสืบสถานการณ์ภายในเมืองอย่างแน่นอน

ดังนั้นหากส่งทหารออกไปเพียงคนเดียวพวกเขาอาจมีโอกาสรอดมากกว่า

“ถ่ายทอดคำสั่งให้แม่ทัพคุ้มกันเมืองปิดประตูเมือง…” ไป๋ชิงเหยียนเดินออกไปจากจวนว่าการ “ให้คนเตรียมม้า ข้าจะไปดูสถานการณ์ที่กำแพงเมือง”