ตอนที่ 1196 ใช้ทั้งความเมตตาและอำนาจ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1196 ใช้ทั้งความเมตตาและอำนาจ

“ต้าโจวของเราเคยเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ท่านพ่อเจิ้นกั๋วกงไป๋ฉีซานของข้าเคยถูกกองทัพใหญ่สามหมื่นนายล้อมอยู่ในเมืองเฟิ่ง ตอนนั้นทหารไม่มีแม้แต่เสบียงประทังชีวิต ทว่า พวกเขายังยืนหยัดรอดมาได้”

ไป๋ชิงเหยียนหยัดกายตรงมองไปทางแม่ทัพทุกคนในกระโจม

“ที่สำคัญพวกเราไม่ได้มีเพียงทหารห้าพันนายเท่านั้น พวกเรายังมีชาวบ้านในเมืองเจียงจืออีกสามหมื่นกว่าคน!”

ตู้ซานเป่าก้าวไปด้านหน้า

“แม้ชาวบ้านซีเหลียงเหล่านี้จะทิ้งซีเหลียงกลายเป็นคนของต้าโจว ทว่า พวกเขาไม่ได้เติบโตในต้าโจว พวกเขาจะร่วมสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับพวกเราหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“ชาวบ้านซีเหลียงเหล่านี้ยอมกลายเป็นชาวบ้านของต้าโจวเพราะหากเป็นคนซีเหลียงต่อไปพวกเขาก็มีแต่ความทุกข์ทรมาน พวกเขาเพิ่งได้บ้านเรือน ที่ดินและเสบียงอาหารมาอย่างยากลำบาก พวกเขาผ่านความเป็นความตาย ความอดอยากมาแล้ว ดังนั้นพวกเขาต้องรู้สึกโชคดีที่เมื่อกลายเป็นคนต้าโจวแล้วมีบ้านและเสบียงอาหารให้มีชีวิตอยู่ต่อไป”

ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองแม่ทัพทุกคน

“พวกเจ้าลองคิดดูว่าหากพวกเจ้าคือชาวบ้านซีเหลียง กองทัพซีเหลียงแย่งชิงเสบียงอาหารไปจากชาวบ้าน ทว่า กองทัพต้าโจวกลับมองเสบียงอาหารให้พวกเขา ให้พวกเขามีชีวิตอยู่ต่อไป! บัดนี้กองทัพใหญ่ของซีเหลียงกำลังล้อมเมืองเจียงจืออยู่ จักรพรรดินีแห่งต้าโจวถูกล้อมอยู่ในเมือง พวกเจ้าจะเลือกช่วยปกป้องเมืองเจียงจืออย่างถึงที่สุด จากนั้นได้รับการยกหนี้ที่ติดค้างอยู่จากทางการทั้งหมดหรือพวกเขาจะปล่อยให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวเสียชีวิตอยู่ที่นี่ ปล่อยให้กองทัพซีเหลียงบุกเข้ามาในเมือง จากนั้นรอให้กองทัพใหญ่ของต้าโจวบุกทำลายเมืองและสังหารชาวบ้านในเมืองเพื่อแก้แค้นให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวกัน”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวอย่างชัดเจน การปฏิบัติต่อชาวบ้านซีเหลียงที่เพิ่งกลายเป็นคนต้าโจวเหล่านี้ต้องใช้ทั้งความเมตตาและอำนาจ ให้ชาวบ้านเหล่านั้นรู้ว่านอกจากการร่วมปกป้องเมืองเจียงจือพร้อมกับต้าโจวแล้ว…พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีก

“ทว่า ชาวบ้านเหล่านี้ไม่ได้รับการฝึกฝนมาก่อน…”

หวังจินแสดงสีหน้าเป็นกังวล

“ไม่ได้ฝึกฝนมาก่อนมิเป็นอันใด ให้พวกเขาช่วยขนของขึ้นไปบนกำแพงเมือง ช่วยทำแผลให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บก็พอ เช่นนี้ก็สามารถช่วยแบ่งเบาภาระของพวกเราได้มากแล้ว”

ไป๋ชิงเหยียนเห็นหลิ่วผิงเกาเดินตรงเข้ามาอย่างรีบร้อนจึงกล่าวขึ้น

“ออกไปสำรวจดูก่อนว่ามีสายลับแฝงตัวอยู่ในกลุ่มชาวบ้านในเมืองเจียงจือหรือไม่ จากนั้นค่อยกล่าวโน้มน้าวให้ชาวบ้านยอมร่วมมือกับพวกเรา”

“กระหม่อมเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ตู้ซานเป่ารับคำ

หลิ่วผิงเกาเดินเข้ามาในกระโจมและทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้น

“ให้แม่ทัพหลิ่วเป็นคนจัดการเถิด…”

“พ่ะย่ะค่ะ!” หลิ่วผิงเการับคำจากนั้นเริ่มสั่งการทันที

“ทุกท่านกลับไปบอกให้ทหารในสังกัดของตัวเองพันผ้าสีขาวไว้ที่แขนข้างซ้ายเพื่อป้องกันทหารสายลับของซีเหลียงแฝงตัวเข้ามากับกลุ่มชาวบ้านเร่ร่อน”

หลิ่วผิงเกามองไปทางตู้ซานเป่า

“แม่ทัพตู้นำทหารสองพันนายไปป้องกันกำแพงเมืองฝั่งตะวันออกและใต้ รหัสลับในการถ่ายทอดคำสั่งในวันนี้คือ…กล้าหาญ!”

“ขอรับท่านแม่ทัพ!” ตู้ซานเป่ารับคำ

“แม่ทัพหวังจินรับผิดชอบทหารสองพันนายป้องกันกำแพงเมืองฝั่งตะวันตกและเหนือ รหัสลับถ่ายทอดคำสั่งคือ…ไม่เกรงกลัว!”

“หวังจินรับบัญชาขอรับ” หวังจินกำหมัดรับคำ

“หวงอันเฉิงรับผิดชอบนำทหารห้าร้อยนายตรวจตราดูความเรียบร้อยภายในเมือง รหัสลับถ่ายทอดคำสั่งคือ…ไร้ขโมย”

“หวงอันเฉิงรับบัญชาขอรับ”

“ทหารห้าร้อยนายถูกแบ่งเป็นกลุ่มย่อยออกไปตรวจค้นสายลับซีเหลียงตามบ้านเรือนต่างๆ โดยมีเจียงเตี้ยวตู้และหลี่เจียงเหรินเป็นคนดูแลเรียบร้อยแล้ว รหัสลับคือ…ไร้ขโมย!”

หลิ่วผิงเกากล่าวเสียงดังลั่น

“แม่ทัพทุกคนจงบอกให้ทหารในสังกัดของพวกท่านจำรหัสลับของตัวเองให้ดี ตอนนี้คือสถานการณ์คับขัน หากพบทหารต้าโจวที่ทำตัวมีพิรุธจงสังเกตที่แขนเสื้อฝั่งซ้ายของพวกเขาให้ดีว่ามีผ้าสีขาวผูกไว้หรือไม่ ถามให้แน่ชัดว่าเขาอยู่ในสังกัดของแม่ทัพผู้ใดและรหัสลับคืออันใด”

“ขอรับ!”

แม่ทัพทุกคนรับคำ จากนั้นแยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ทันที

“ฝ่าบาท…” เมื่อหลิ่วผิงเกาเห็นแม่ทัพทุกคนจากไปหมดแล้ว เขาจึงหันไปหาไป๋ชิงเหยียน

“ฝ่าบาทประทับอยู่บนกำแพงเมืองไม่ปลอดภัยนัก เสด็จกลับจวนก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ หากทำสงครามกันขึ้นมาจริงๆ ตรงนี้จะไม่ปลอดภัยพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนนั่งลงบนเก้าอี้พลางวางมือลงบนที่วางแขน

“ข้าจะรออยู่ที่นี่ อีกสักครู่ทหารคงจับสายลับ กระทั่งทหารลับของซีเหลียงได้แล้ว ข้าต้องใช้ชีวิตของคนเหล่านี้แลกองครักษ์ไป๋ของข้ากลับมา”

บัดนี้ไป๋ชิงเหยียนค่อนข้างมั่นใจว่าองครักษ์ไป๋ที่นางส่งออกไปจากเมืองถูกจับตัวได้แล้ว

บางทีแม่ทัพชราชุยซานจงอาจนำตัวองครักษ์ไป๋มาเยาะเย้ยนางที่หน้าเมืองด้วยตัวเอง เขาอาจต้องการทำลายขวัญกำลังใจของกองทัพต้าโจว ให้ทหารของต้าโจวทุกคนเข้าใจว่าพวกเขาส่งข่าวออกไปไม่สำเร็จ การป้องกันเมืองอยู่ที่นี่มีแต่ตายสถานเดียว

แม่ทัพชราชุยถนัดเรื่องการโจมตีใจคนมาก

กองทัพหลักล้อมเมือง ขวัญและกำลังใจของทหารทุกคนคือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้กำแพงเมืองแข็งแกร่ง ดังนั้นต่อจากนี้แม่ทัพชราชุยซานจงจะต้องหาวิธีต่างต่างนานามาทำลายขวัญและกำลังใจของทหารต้าโจวแน่นอน

หลิ่วผิงเกาได้ยินคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียนก็รู้ทันทีว่าหญิงสาวส่งคนออกไปส่งข่าวทางประตูเมืองทิศใต้ตั้งแต่ตอนที่ประตูยังไม่ถูกล้อมจากนั้นค่อยเดินทางมาที่แล้ว การทำเช่นนี้ถือเป็นการทดสอบว่ามีทหารดักซุ่มอยู่ที่ประตูเมืองทิศใต้หรือไม่ ตอนนี้ดูเหมือนว่าทหารซีเหลียงจะดักซุ่มอยู่ที่ประตูทิศใต้จริงๆ ที่แม่ทัพชราชุยซานจงไม่สั่งให้คนล้อมประตูทิศใต้ตั้งแต่แรกเพราะเขาต้องการให้พวกเขาคุ้มกันฝ่าบาทหนีออกไปจากเมือง จากนั้นค่อยจับเป็นฝ่าบาทของพวกเขาสินะ!

ในฐานะทหารหลิ่วผิงเกาเคยได้ยินชื่อเสียงของแม่ทัพชราชุยซานจงผู้นี้มาก่อน หลายปีก่อนกลอุบายแสร้งยอมจำนนของแม่ทัพชราชุยซานจงทำให้ตระกูลของเขาถูกจักรพรรดิแห่งซีเหลียงสั่งประหารทั้งครอบครัว นับจากนั้นเป็นต้นมาเขาจึงปลีกตัวออกจากผู้คนและทุกเรื่อง

นึกไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้เขาจะนำทัพออกรบด้วยตัวเอง ทั้งยังมาปรากฏตัวที่เมืองเจียงจือเช่นนี้อีก

ที่นี่คือเมืองของซีเหลียง ตอนนี้กองทัพต้าโจวยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้สักเท่าใด แม่ทัพชราชุยซานจงเป็นแม่ทัพที่มีประสบการณ์ในการรบมาหลายสิบปี เขาย่อมรู้ดีว่าควรดักซุ่มโจมตีตรงที่ใด ควรหลีกเลี่ยงตรงที่ใด กระทั่งสามารถสังหารทหารส่งสารของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย

การทำสงครามที่ดินแดนของแคว้นอื่นย่อมรู้จักสภาพแวดล้อมน้อยกว่าแม่ทัพและทหารของแคว้นนั้นๆ อยู่แล้ว

หลิ่วผิงเกายืนอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียน เขาตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องปกป้องจักรพรรดินีแห่งต้าโจวของพวกเขาให้ได้

กองทัพใหญ่ล้อมอยู่นอกเมืองเจียงจือ

ถนนทุกสายในเมืองเจียงจือเต็มไปด้วยแสงสว่างจากคบเพลิง กองทัพต้าโจวกำลังตรวจค้นบ้านเรือนทีละหลังเพื่อดูว่าครอบครัวใดมีจำนวนสมาชิกในครอบครัวไม่ตรงกับที่ขึ้นทะเบียนไว้หรือไม่

หากไม่ตรวจค้นคงไม่รู้ เมื่อตรวจไม่เพียงแต่เจอปัญหาเท่านั้น ทหารหน่วยลาดตระเวนกำลังต่อสู้อยู่กับทหารสายลับของซีเหลียงบริเวณใกล้กับจวนว่าการที่ไป๋ชิงเหยียนพักอาศัย พวกเขาจับเป็นทหารซีเหลียงที่แฝงตัวมากับกลุ่มชาวบ้านเร่ร่อนได้หลายสิบคน

ชาวบ้านในเมืองเจียงจือรู้ข่าวว่ากองทัพซีเหลียงบุกมาล้อมเมืองไว้ ต่อมารู้ข่าวว่ากองทัพต้าโจวบุกค้นทีละบ้าน หากตรวจพบว่าครอบครัวใดมีคนอยู่ไม่ครบจะถูกจับขังคุกทั้งครอบครัวทันที ชาวบ้านที่ก่อนหน้านี้รับเงินจากผู้อื่นเพื่อยอมให้พวกเขาปลอมตัวเป็นคนในครอบครัวของตัวเองเพื่อได้ที่ดินมากขึ้นและบ้านหลังใหญ่ขึ้นเริ่มหวาดกลัวขึ้นมาทันที

บัดนี้พวกเขารู้แล้วว่าพวกเขาถูกหลอกใช้ ทหารซีเหลียงเหล่านั้นแฝงตัวเข้ามาในเมืองเพื่อเปิดประตูเมืองให้กองทัพซีเหลียงเมื่อกองทัพบุกมาล้อมเมือง

เมื่อทหารต้าโจวมาตรวจค้นถึงบ้านตัวเอง ยังไม่ทันที่ทหารต้าโจวจะได้สอบถามสิ่งใด ชาวบ้านที่ให้ทหารซีเหลียงปลอมตัวเป็นคนในครอบครัวและเข้ามาในเมืองด้วยต่างคุกเข่าสารภาพความจริงเสียก่อน