บทที่ 1209 มีอันตรายเกิดขึ้นอีกครั้ง

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1209 มีอันตรายเกิดขึ้นอีกครั้ง

บทที่ 1209 มีอันตรายเกิดขึ้นอีกครั้ง

รัฐมนตรีต้วนเอ่ยด้วยความขมขื่น “คุณยังดูภาคภูมิใจในการกระทำตัวเองอีกนะ? เคยคิดบ้างไหมว่าถ้าตัวเองเป็นอะไรขึ้นมาครอบครัวจะทำยังไง?”

เด็ก ๆ ต้องได้รับบทเรียน และเด็กคนนี้ก็ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ*[1]เลยสักนิด ตัวเราที่เป็นผู้ใหญ่ต้องสอน

เสี่ยวเถียนแปลกใจที่จู่ ๆ ก็มีคนสอนเธอ

เพราะตั้งแต่เล็กจนโตไม่มีใครสอนเลย

เธอเป็นเด็กที่มีวินัยในตัวเองสูงทุกด้าน แม้ไม่สามารถให้คำมั่นได้ว่าสมบูรณ์แบบตลอดเวลาแต่ก็เกือบ

รัฐมนตรีต้วนเห็นสายตาโง่เขลาจู่ ๆ ก็ไม่รู้จะพูดอะไร

“มาที่ห้องผม รองคณะผู้แทนเหวยก็ต้องมาด้วยนะ!”

รัฐมนตรีต้วนตัดสินใจทันที ว่าต้องทำให้เด็กคนนี้รู้ถึงอันตราย ในอนาคตจะได้ไม่เกิดปัญหาอีก

ซูเสี่ยวเถียนพูดไม่ออก และได้แต่เดินตามอีกฝ่ายไปที่ห้อง

อู๋เมิ่งหลานตกใจมากตอนเห็นเด็กสาวกลับมาในสภาพที่ไม่มีร่องรอยแผล นี่มันอะไรกัน?

ไม่มีเรื่องเกิดขึ้นกับมันได้ยังไง? ทั้งยังกลับมาในสภาพปกติอีกต่างหาก

เป็นไปไม่ได้ ตาฝาดแน่ ๆ

แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะเจ้าตัวกลับมาแล้วจริง ๆ

แถมทุกอย่างยังปกติดีด้วย

ส่วนคนอื่น ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

หลังจากนั้นพวกเขาเก็บข้าวของแล้วเดินทางไปกินข้าวที่ร้านอาหาร

ก่อนจะเข้านอนแต่หัวค่ำ เพราะพรุ่งนี้ตารางงานเยอะ จึงไม่อยากเสียเวลา

ฝูงชนแยกย้ายกันอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงอู๋เมิ่งหลานและหลี่เจี้ยนจวินเท่านั้น

ในที่สุดหญิงสาวก็ควบคุมสีหน้าเอาไว้ไม่ไหว

“เมิ่งหลาน เธอไม่ดีใจหรือ?” หลี่เจี้ยนจวินลองถาม

“ดีใจสิ จะไม่ดีใจได้ยังไง?”

ปากบอกดีใจ แต่ไอ้ท่าทางขบเคี้ยวเขี้ยวฟันนี่ไม่เห็นจะเหมือนที่พูดสักนิด

แม้แต่หลี่เจี้ยนจวินยังฟังออกเลยว่าเจ้าตัวแทบจะอยากเขมือบซูเสี่ยวเถียนเข้าไปทั้งตัวแล้ว

แต่หลังจากนั้นไม่นานสาวเจ้าเหมือนรู้สึกตัวจึงรีบพูดกลบเกลื่อน

“ฉันไม่เป็นไรค่ะพี่เจี้ยวจวิน เราเก็บข้าวของแล้วรีบลงไปกินข้าวกันค่ะ!”

หลี่เจี้ยนจวิน “เดี๋ยวพี่รอ!”

กินคนเดียวจะมีประโยชน์อะไร มีสาวไปด้วยดีกว่าตั้งเยอะ!

เขาโสดมานานแล้ว อยากจะได้เด็กสาวสักคนมาเคียงข้าง

ทว่าผู้หญิงที่ชอบกลับไม่ชอบเรา

และคนที่ชอบเรา เราก็ไม่ชอบเขา

เมื่อได้พบกับอู๋เมิ่งหลาน จึงรู้สึกเหมือนมีความรักอีกครั้ง

จะต้องเอาชนะใจเธอให้ได้ และทำให้เธอเต็มใจมาเป็นภรรยา

อู๋เมิ่งหลานไม่ได้ชอบหลี่เจี้ยนจวิน ที่จริงเรื่องหน้าที่การงานและความสามารถไม่ได้มีปัญหานะ ติดที่หน้าตานั่นแหละ

หญิงสาวเป็นคนสวย และชื่นชอบผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาเป็นพิเศษ

ส่วนหลี่เจี้ยนจวินหน้าตาก็เหมือนธรรมดาเหมือนกับชื่อเขานั่นแหละ ไม่ใช่แบบที่เธอชอบสักนิด แต่รู้ดีว่าอีกฝ่ายมีภูมิหลังครอบครัวที่ดี

ถ้าสร้างสัมพันธ์กับเขาได้ จะเป็นประโยชน์แก่เธอมาก

หญิงสาวที่เอาแต่ใจจึงไม่อยากปล่อยเขาไปง่าย ๆ

“ได้ค่ะ รอฉันสักครู่นะคะ แล้วเดี๋ยวเราลงไปกินข้าวกัน!”

หลี่เจี้ยนจวินตื่นเต้นมากที่หญิงสาวเต็มใจไปด้วย

เขาก็เคยออกเดตกับคนที่ชอบนะ แต่รู้สึกว่าการได้กินอาหารธรรมดา ๆ มันไม่ได้น่าสนใจเท่าไร

ทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้ดี

“ไม่อย่างนั้นเย็นนี้เราสั่งอะไรดี ๆ มากินกันไหม? อุตส่าห์ได้มาต่างประเทศทั้งที ก็ต้องดูแลตัวเองดี ๆ หน่อยสิ” ชายหนุ่มเอ่ย

อู๋เมิ่งหลานไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหลักแหลม รอยยิ้มบนใบหน้าฉายความจริงใจมากขึ้นหลายส่วน

“ได้เล้ย รอฉันด้วยน้าพี่เจี้ยนจวิน~~~”

น้ำเสียงลากยาว ๆ ที่แม้แต่ผู้ชายยังหลงใหลในความอ่อนหวานของเธอ

หลี่เจี้ยนจวินก็ไม่มีข้อยกเว้น

ทว่าตัวเขาไม่ได้รู้เลยว่าคนที่ชอบกำลังวางแผนอะไรบางอย่างเอาไว้

ซูเสี่ยวเถียนโดนเทศนาจากรัฐมนตรีต้วนและเหวยจวิ้นอู๋เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง

พวกเขากลัวมากว่าเด็กสาวจะทำเรื่องอันตรายอีก

“เท่านี้แหละ! พวกเราไปกินข้าวกันได้แล้ว”

ในตอนที่สมองกำลังบวมก็ได้รับการปล่อยตัวทันที

“พวกเราไปกินข้าวด้วยกันเถอะครับ เวลานี้แล้วด้วยไม่น่าได้ไปไหนอีก เดี๋ยวข้าวจะหมดเอา!”

เหวยจวิ้นอู๋ดูเวลาแล้วเชิญรัฐมนตรีต้วนไปด้วยกัน

เด็กสาวอยากหนีแทบแย่ จะได้ไม่ต้องนั่งร่วมโต๊ะกับพวกเขา

แต่ทุกอย่างกลับผิดพลาดเมื่อทุกคนกินข้าวกันหมดแล้ว ทั้งสามจึงต้องนั่งกินข้าวด้วยกัน

เธอกลัวมากว่าจะโดนสั่งสอนอีก แต่รัฐมนตรีต้วนไม่ได้พูดอะไรอีก แต่คุยเรื่องอื่นด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายแทน

“ไม่ต้องกังวลไปนะ ถ้าท่านบอกว่าจบแล้วก็คือจบ แต่ก็มีกฎอยู่ว่าถ้าเธอทำแบบเดิมอีกจะต้องเหนื่อยเพิ่มนะ”

เหวยจวิ้นอู๋กระซิบ

สุดท้ายก็ได้กินข้าวด้วยความสบายใจเสียที

ที่จริงเธอไม่ค่อยสนใจอาหารของประเทศ L เท่าไร เหมือนกระเพาะมันชินกับอาหารจีนไปแล้ว

ค่ำคืนนี้จึงผ่านไปอย่างราบรื่น

เธอนอนหลับสบายมาก

จนกระทั่งรุ่งสาง เธอจึงจัดการตัวเองก่อนลงไปกินข้าว

ด้วยความที่การเดินทางในครั้งนี้มีผู้หญิงน้อย เธอเลยต้องกินข้าวคนเดียว

พอไปถึงร้านอาหารก็ได้ยินแขกพูดถึงเรื่องการปล้นห้าง

เธอนั่งฟังพวกเขา

เมื่อวานมีนักข่าวอยู่ในที่เกิดเหตุและถ่ายรูปเหตุการณ์ก่อนลงหนังสือพิมพ์วันนี้

ทุกคนจึงเกิดความสงสัย

“นี่คือกังฟูตะวันออกจริง ๆ สินะ พระเจ้า มันมีจริงด้วยหรือ?”

“จัดฉากหรือเปล่า? ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเด็กคนนั้นจะทำได้น่ะ”

“ก็จริงนะ ตอนนั้นฉันอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ถึงจะไม่เห็นว่าเธอลงมือกับตาแต่มันคือเรื่องจริงเลย!”

เพิ่งรู้ว่าคนประเทศ L นินทากันแบบนี้

ยิ่งได้ยินว่าพวกเขาเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ แถมยังมีรูปถ่าย จู่ ๆ เสี่ยวเถียนก็รู้สึกว่าเรื่องราวคงซับซ้อนกว่าที่คิด

ไม่รู้จริง ๆ ว่ามีนักข่าวอยู่ด้วย

แถมยังกล้าถ่ายรูปในสถานการณ์แบบนั้นอีก

แต่ไม่ว่ายังไงมันจะต้องนำอันตรายมาสู่เธอแน่

ดูท่าว่าการเทศนาของผู้ใหญ่เมื่อวานจะไม่พอเสียแล้ว

[1] ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ หมายถึง คนประเภทหยิ่งยโสโอหัง ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว