บทที่ 1212 ฉันมีเนื้อผ้านะคะ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1212 ฉันมีเนื้อผ้านะคะ

บทที่ 1212 ฉันมีเนื้อผ้านะคะ

การแปลของเธอแม่นยำเป็นอย่างมาก

บางคำที่เข้าใจผิดได้ง่าย เธอก็ช่วยทำให้ผู้คนกระจ่าง

ทั้งยังชี้ถึงความผิดปกติในคำพูดอีกฝ่าย และเอ่ยเตือนรัฐมนตรีต้วนกับเหวยจวิ้นอู๋กลาย ๆ

คนที่ส่งมาในครั้งนี้มีแต่คนฉลาด หลังจากทราบปัญหาก็ตั้งใจคำแปลอย่างดี

แม้กระทั่งน้ำเสียงของเธอก็ยังน่าฟัง เพราะแบบนั้นจึงทำได้หลบหลุมพรางอีกฝ่ายได้

ในที่สุดการประชุมก็เป็นอันบรรลุผลตามที่ต้องการ

งานที่มอบหมายให้พวกเขาคือบรรลุความร่วมมือ ปรับสัดส่วนตามความเหมาะสมได้อีกนิดหน่อย และเพราะได้ความฉลาดของซูเสี่ยวเถียนช่วยเอาไว้ การเจรจาเลยราบรื่นกว่าที่คิด

แถมยังได้ผลประโยชน์มากที่สุดเท่าที่ควร ทั้งสองจึงพอใจเป็นอย่างมาก

ในที่สุดก็ส่งรายงานดี ๆ ได้เสียที

แม้จะประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ แต่ยังมีเรื่องผ้าให้ห่วง

ระหว่างขากลับพวกเขาเงียบกันมาก ยกเว้นเวลาเอ่ยชมเสี่ยวเถียน

เด็กสาวถ่อมตัวมากกว่า นั่นคือสิ่งที่เธอควรทำ

และพวกเขาก็ชอบเด็กคนนี้จริง ๆ ทั้งฉลาดหลักแหลมและถ่อมตัว ความสัมพันธ์ของคนทั้งสามจึงเป็นไปด้วยดี

แต่บรรยากาศพลันต้องหายไปเมื่อถึงโรงแรม

เหตุผลคือรัฐมนตรีต้วนและเหวยจวิ้นอู๋เห็นข่าวในหนังสือพิมพ์

พวกเรารู้จักหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ มันเป็นบริษัทหนังสือพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุด และมีคนอ่านกันเยอะมาก

“ซูเสี่ยวเถียน ทำไมไปโผล่ในหนังสือพิมพ์ล่ะ?” รัฐมนตรีต้วนเอ่ยถามเสียงเย็น

เขาอ่านเนื้อหาไม่เข้าใจ เพราะความรู้ทางด้านภาษามีจำกัด

แต่รูปที่เด่นหราในนั้นคือล่ามของเราแน่นอน

จากรูปคงเป็นเหตุการณ์ปล้นที่ห้างเมื่อวานนี้

เสี่ยวเถียนทำให้ตัวเองต้องตกอยู่ในอันตรายด้วยการกระทำของตัวเอง

หลังจากคิดว่าเด็กคนนั้นทำอะไรบ้าง เขาก็ได้แต่หวาดกลัว

ไม่กล้านึกเลยว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไง?

“ฉันไม่รู้ว่ามีนักข่าวอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยค่ะ แถมยังถ่ายรูปในสถานการณ์ที่อันตรายด้วย…”

ใจกล้าจริง ๆ ไม่กลัวคนร้ายจับได้หรือยังไง?

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคิดเรื่องพวกนี้หรอก เรื่องสำคัญคือจะใช้ชีวิตในประเทศ L ในช่วงสองสามวันนี้โดยไม่เป็นจุดสนใจยังไง?

ไม่สิ ต้องทำยังไงไม่ให้รัฐมนตรีต้วนโกรธมากกว่า

“ตอนพูดนี่ไม่ละอายใจบ้างหรือ? รู้ไหมว่าอธิบดีตู้กระทรวงของคุณบอกอะไรฉันก่อนจะเดินทางมา? ไหนจะรัฐมนตรีฉางที่ย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้ดูแลความปลอดภัยของคุณน่ะ!”

แค่นึกถึงความหมายที่อีกฝ่ายเคยบอกเอาไว้ เขาจึงได้แต่หดหู่

ไม่ว่าตัวเขาผู้เป็นถึงรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะเป็นตายร้ายดียังไง จะต้องดูแลความปลอดภัยของซูเสี่ยวเถียนก่อน

ทีแรกก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้ความสำคัญเธอขนาดนั้น แต่ตอนนี้รู้แล้ว

เธอคือสมบัติล้ำค่า

และไม่ว่าเธอจะอายุเท่าไร ก็ไม่ควรปล่อยให้ตกอยู่ในอันตราย

เหมือนว่าเรื่องที่สั่งสอนไปเมื่อวานจะเบาไปสินะ

วันนี้ต้องสั่งสอนต่ออีกไหม?

ดูหน้าตาน่าเอ็นดูนั่นสิ ถ้าว่าแรงเกินไปจะร้องไห้หรือเปล่า?

เขาก็มีลูกสาวคนหนึ่งที่อายุไล่เลี่ยกับเด็กคนนี้เหมือนกัน ถ้าว่าเธอแรงไปเจ้าตัวจะชอบร้องไห้เสียทุกที

ก็เลยกลัวอยู่นี่ไง

สุดท้ายจึงตัดสินใจไม่พูดอะไรมาก เธอจะได้ไม่ร้องไห้จนต้องปลอบใจด้วย!

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้ไปไหนมาไหนคนเดียวทั้งนั้น ไม่ว่าจะไปไหนก็ต้องมีคนไปด้วยเสมอ”

ถึงการเดินทางในครั้งนี้จะไม่ได้พาบอดีการ์ดมาด้วย แต่เรายังมีบอดีการ์ดสองนายที่คอยดูแลความปลอดภัยคณะผู้แทนอยู่

เขาเลยตัดสินใจแบ่งสักคนมาดูแลเด็กสาว

ขนาดจัดหน้าที่ให้โดยเฉพาะก็ยังไม่วางใจอยู่ดี

เรามีแค่นี้น่ะ และมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริง ๆ

“ที่จริงไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นหรอกนะคะ” เธอกลัวว่าถ้าได้รับการดูแลอย่างเข้มงวด อิสรภาพจะหายไป

“เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่ต้องตัดสิน!” รัฐมนตรีต้วนเอ่ยด้วยความไม่พอใจ

“แต่ฉันก็เปลี่ยนรูปลักษณ์แล้วไม่ใช่หรือคะ? จากการแต่งตัวของฉันในวันนี้ หากท่านไม่สนิทกับฉันดีท่านจะจำฉันได้ไหมคะ?” เธอรีบกล่าว

เธอไม่อยากสร้างปัญหาให้อีกฝ่าย

บอดีการ์ดสองคนนั้นไม่ได้มีหน้าที่ปกป้องเธอ แต่ต้องปกป้องทุกคนในคณะ และเธอเชื่อมั่นในตัวเองว่าปกป้องตัวเองได้

ด้วยเหตุนี้ จึงกล้าจับกุมคนร้ายในสถานการณ์แบบนั้น

สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานเป็นแค่เจตนาดีชั่วครู่

ถ้าเธอไม่ช่วยคนอื่นเอาไว้ เกิดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตขึ้นมาคงยอมไม่ได้

เหวยจวิ้นอู๋ลอบสำรวจเด็กสาว

เมื่อเช้ารู้สึกอยู่ว่าเธอดูแปลก ๆ แต่หลังจากที่เจ้าตัวบอกก็รู้ได้ในที่สุด

เพราะการแต่งตัวที่แตกต่างกันสินะ

ไม่ใช่แค่เสื้อผ้า แต่ออร่าทั่วร่างเธอก็เปลี่ยนไปอย่างมากยามปลอมตัว

เธอรู้ดีถึงความสำคัญ และยังฉลาดที่คิดปลอมตัว ถือว่าเป็นความสามารถอย่างหนึ่ง

“รัฐมนตรีต้วนดูสิครับ การแต่งตัวของเธอดูไม่เหมือนคนในข่าวเลยนะ”

รัฐมนตรีต้วนมองคนพูดด้วยสายตาไม่ชอบใจ

เหวยจวิ้นอู๋ทำได้แค่ยิ้ม ไม่กล้าพูดอะไรต่อ

ที่จริงรัฐมนตรีต้วนไม่ได้โกรธเสี่ยวเถียนหรอก แค่เป็นห่วง

เด็กคนนี้กล้าหาญเกินไป จึงสมควรถูกจับตามอง!

“อย่างที่ฉันบอก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ไปไหนมาไหนตามลำพังทั้งสิ้น!”

น้ำเสียงแข็งและเย็นเฉียบเปล่งออกมา

ถึงเด็กสาวจะรู้สึกว่าวาจาอีกฝ่ายมากเกินไป แต่ก็ทำได้แค่ยอมรับด้วยความไม่เต็มใจ

“รัฐมนตรีต้วน ฉันมีเนื้อผ้าอยู่นะคะ ท่านอยากลองดูไหมคะ?”