บทที่ 1213 คุณเป็นสมบัติล้ำค่าจริง ๆ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 1213 คุณเป็นสมบัติล้ำค่าจริง ๆ

บทที่ 1213 คุณเป็นสมบัติล้ำค่าจริง ๆ

เพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เธอจึงกล่าวเปลี่ยนเรื่องทันที

แน่นอนว่าที่พูดขึ้นมาก็เพราะเห็นถึงความห่วงใยและเอาใจใส่ของรัฐมนตรีต้วนนั่นละ

ถึงจะอยากช่วยคนอื่นแก้ปัญหา แต่ไม่คิดจะเสี่ยงตัวเองหรอกนะ

แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ ความเอาใจใส่ของคนทั้งสองคือของจริง

รัฐมนตรีต้วนดูไม่เข้าใจเท่าไร

“จริงหรือ?” เหวยจวิ้นอู๋ที่ตอบสนองเป็นคนแรกรีบถาม

ซูเสี่ยวเถียนยิ้ม “เรื่องจริงค่ะ เนื้อผ้าที่ฉันมีดีกว่าของประเทศเราในตอนนี้นิดหน่อยนะคะ”

จากนั้นก็หยิบมันออกมา

ช่วงที่ว่าง เธอเจอผ้าชิ้นดี ๆ รวมถึงผ้าทอในร้านค้าด้วย จึงใช้แต้มแลกมา

แม้ต้องเสียคะแนน แต่ขอแค่แก้ไขปัญหาได้เธอก็คิดว่าคุ้มค่า

เพราะยังไงเก็บแต้มไว้ก็ไม่ได้มีประโยชน์มากขนาดนั้น

“ดีกว่าผ้าที่พัฒนาในประเทศเราตอนนี้อีกหรือ?” เหวยจวิ้นอู๋แทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

เขารู้ถึงระดับอุตสาหกรรมสิ่งทอของเราได้ดี

ถึงไม่ใช่อันดับหนึ่งแต่ได้เปรียบกว่าประเทศอื่น ๆ แน่นอน

และเด็กคนนี้ก็บอกว่ามันดีกว่าของเราในตอนนี้อีก

ไม่อยากเชื่อเลย!

“ใช่ค่ะ รองหัวหน้าเหวย มันดีกว่าจริง ๆ นะคะ” เธอพยักหน้าแต่ไม่ได้เอ่ยถึงที่มาที่ไปของมัน

เรื่องนี้ทำให้เหวยจวิ้นอู๋ดีใจไม่น้อย

นี่คือสถานการณ์ที่เขาชอบพูดกันว่า ‘เอนตัวลงนอนหัวถึงหมอน’ ใช่ไหม?

ซูเสี่ยวเถียนเป็นพระโพธิสัตว์ เป็นเจ้าแม่กวนอิมช่วยเหลือผู้คนในยามลำบากชัด ๆ!

“เสี่ยวเถียน คุณคือสมบัติล้ำค่าจริง ๆ นะ!” เหวยจวิ้นอู๋เอ่ยชม

รัฐมนตรีต้วนไม่ได้พูดอะไร

เขาเป็นหัวหน้าของคณะผู้แทนในครั้งนี้ แรงกดดันย่อมมากว่าเหวยจวิ้นอู๋ที่เป็นรองนัก

ไม่คิดเลยว่าปัญหาที่เครียดมาทั้งวันจะได้ซูเสี่ยวเถียนช่วยเอาไว้

ถึงจะไม่เห็นเนื้อผ้า แต่เขาเชื่อว่าเธอจะต้องทำได้แน่ ๆ

“เสี่ยวเถียน คุณคือผู้มีบุญคุณของคณะผู้แทนเราเลยนะ!”

“รองหัวหน้าเหวยอย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะ ฉันไม่กล้ารับไว้หรอก” ซูเสี่ยวเถียนพูดด้วยรอยยิ้ม

“คิด ๆ ดูแล้ว ฉันต้องกลับไปรายงานให้เบื้องบนทราบแล้วละ”

ซูเสี่ยวเถียน “…”

ไม่ต้องรายงานได้ไหม เธอไม่อยากเป็นที่สนใจหรอกนะ

ทันใดนั้น เด็กสาวก็เปลี่ยนเรื่อง

“ไว้ฉันเอามาให้พวกท่านดูดีไหมคะ?”

ตอนนี้ของยังอยู่ในระบบ เธอยังไม่ได้นำออกมา

และคงเสกออกมากลางอากาศก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?

หลังจากรวบรวมของไว้เตรียมใช้แต้มแลก เธอก็ทำหน้าที่เป็นล่ามต่อ

ทว่าหลังจากโรงแรมก็ต้องทำธุระต่อ

ถ้าจะแลกก็ต้องแลกให้ไวกว่านี้

เกิดกลับไปดูของไม่มีขึ้นมาใครจะรู้ล่ะ?

เธอเลยตั้งใจว่ากลับห้องไปจะแลกออกมาแล้วส่งให้เหวยจวิ้นอู๋

จากนั้นจะได้นอนหลับอย่างสบายใจเสียที

และในตอนที่กำลังจะกลับ รัฐมนตรีต้วนก็พูดขึ้น

“เสี่ยวเถียน คุณไม่ต้องเอามาให้พวกเราดูหรอก ในเมื่อรู้เรื่องนี้แล้วก็อย่าบอกใครนอกจากฉันกับรองหัวหน้าเหวยนะ!”

เด็กสาวตกใจ ทำไมเขาพูดแบบนั้นล่ะ?

หรือเริ่มสงสัยคนในคณะผู้แทน?

“รัฐมนตรีต้วน ทำแบบนี้จะไม่เหมาะสมนะครับ!”

“ตอนนี้เราไม่รู้ว่าคนของเราเชื่อได้ไหม เพื่อความมั่นใจอย่าทำให้ซ้ำรอยเดิมจะดีกว่า”

รัฐมนตรีต้วนรู้ขอบเขตดี

ต่อให้ข้อมูลรั่วไหลมาตั้งแต่แรก แต่ไม่ได้หมายความว่าคนในคณะผู้แทนจะมั่นใจได้

เพราะอย่างนั้นจึงฝากของไว้ที่ซูเสี่ยวเถียนดีที่สุด

เขาเชื่อใจเด็กคนนี้มาก เธอเป็นเด็กที่เบื้องบนเห็นคุณค่า แสดงว่าต้องควรค่าแก่การไว้วางใจ และเชื่อในความภักดีและความน่าเชื่อถือของเธอ

ถ้าเกิดปัญหาขึ้นเพราะคนรู้เยอะ ตาแก่คนนี้ต้องตกนรกหมกไหม้แน่!

“แต่ท่านต้องดูเนื้อผ้านะครับ อย่างน้อยเฟิงอวี้ซูก็ต้องรู้ก่อนนะครับ”

จำกัดวงแค่คนที่ควรรู้ก็พอ

รัฐมนตรีต้วนขบคิด “ต้องตรวจสอบเขาก่อนนะ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก่อนไปงานก็ให้เขาดูผ้าก่อน จะได้ออกแบบไว้ล่วงหน้า!”

ถ้าดีไซเนอร์มีคุณสมบัติเหมาะสมพอจะดูแลผลงานของตัวเองได้ การปรับเปลี่ยนแบบร่างใหม่ในเวลาสั้น ๆ ก็ไม่ได้ยากอะไร

ถึงซูเสี่ยวเถียนคิดว่าเรื่องนี้อาจทำร้ายจิตใจเขาเสียหน่อย แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

หวังว่าเขาจะไม่จิตใจเปราะบางนะ!

“เข้าใจแล้วครับ!”

เด็กสาวกลับมาถึงห้องก็เลือกผ้าที่ชอบ แล้วใช้แต้มแลกมา

ผ้าเนื้อดีทั้งสี่ผืนปรากฏขึ้นตรงหน้า เทียบกับผ้าไหมทั่วไป มันทั้งบางกว่า นุ่มกว่า และยับยากกว่า เวลาถือจะรู้สึกถึงความยืดหยุ่น

มีผ้าไหมสองผืน แล้วก็ผ้าใยขนสัตว์และใยสังเคราะห์

ถึงจะแตกต่างกันถ้าแต่ดูดี ๆ จะรู้ว่าไม่ใช่ของธรรมดา!

เพราะสิ่งของที่มาจากร้านค้าล้วนแต่เป็นสินค้าคุณภาพสูงไงละ