ตอนที่ 1216 ปิดบังจนถึงที่สุด

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1216 ปิดบังจนถึงที่สุด

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ได้”

“คุณหนูใหญ่” ชุนจือเอ่ยรายงานอยู่ด้านนอกห้องเสียงเบา “เยว่สือองครักษ์ข้างกายของท่านชายเขยขอพบคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยายามรวบรวมสติ “ให้เยว่สือเข้ามาได้ ข้ามีเรื่องจะถามเขาพอดี”

ไป๋ชิงเหยียนจัดเครื่องแต่งกายของตัวเองให้เรียบร้อย เมื่อเดินออกมาจากฉากกั้นแล้วได้ยินเสียงสนทนาของเว่ยจงกับเยว่สือจึงกล่าวขึ้น “ให้เย่วสือเข้ามาได้”

เว่ยจงแหวกม่านให้เยว่สือด้วยตัวเอง

เยว่สือเดินเข้ามาก็เห็นไป๋ชิงเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้หลักแล้ว เยว่สือรีบคุกเข่าก้มศีรษะคำนับด้วยตาที่แดงก่ำ “คุณหนูใหญ่!”

“เหตุใดเจ้านายของเจ้าจึงได้รับบาดเจ็บเช่นนี้” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม

เยว่สือเอ่ยตอบไป๋ชิงเหยียนโดยไม่กล้าเงยหน้ามองหญิงสาว

“หลายวันก่อนข้าได้รับข่าวเรื่องที่คุณหนูใหญ่ถูกแม่ทัพชราชุยซานจงล้อมอยู่ในเมืองเจียงจือจึงห้ามไม่ให้คนรายงานให้นายท่านทราบ ทว่า ข้ากลับเผลอใจลอยในสนามรบจนเกือบถูกยิง นายช่วยกันลูกธนูแทนข้าจนถูกทหารซีเหลียงโจมตี เป็นเพราะข้าไม่ดีเองขอรับ!”

ข่าวถูกส่งมาก่อนเริ่มทำสงครามเยว่สือกลัวว่าเซียวหรงเหยียนจะเป็นห่วงไป๋ชิงเหยียนและลูกในท้องจนไม่มีสมาธิทำสงครามจึงใจปิดข่าวนี้ไว้ก่อน ทว่า เขานึกไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะไม่มีสมาธิเสียเองจนทำให้เจ้านายได้รับบาดเจ็บเช่นนี้

เยว่สือกล่าวถึงตรงนี้ก็สะอื้นขึ้นทันที เขาก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียน

“เยว่สือสมควรได้รับโทษขอรับ!”

ไป๋ชิงเหยียนเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวกับเยว่สือ

“ในเมื่อเลือกที่จะปิดปังแล้วเหตุใดจึงไม่ปิดบังจนถึงที่สุด เหตุใดจึงปล่อยให้เขาเดินทางมาที่นี่ทั้งๆ ที่บาดเจ็บหนักเช่นนี้กัน”

“ข้า…” เยว่สือลำคอร้อนผ่าว

“ข้ากลัวว่าหากปิดบังนายท่านแล้วคุณหนูใหญ่เกิดเป็นอันใดขึ้นมานายท่านจะเสียใจไปตลอดชีวิต ข้า…ข้าจึงบอกออกไปขอรับ…”

เยว่สือนึกไม่ถึงเลยว่าเมื่อเขาบอกความจริงออกไปแล้วเซียวหรงเหยี่ยนจะเร่งเดินทางมาช่วยเหลือไป๋ชิงเหยียนโดยไม่หยุดพักเช่นนี้

เขารู้ดีว่าเจ้านายของเขารักคุณหนูใหญ่มากเพียงใดดังนั้นเขาจึงไม่กล้าห้ามปราม ทำได้เพียงกัดฟันติดตามเจ้านายมาช่วยเหลือคุณหนูใหญ่ที่เมืองเจียงจือ ระหว่างทางเจ้านายของเขาไม่ได้ลงจากหลังแม้แม้แต่วินาทีเดียว

เยว่สือรู้ดีว่าเจ้านายของเขากำลังโมโห ระหว่างทางเจ้านายเอาแต่ทำสีหน้าเคร่งขรึมไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น เขาคิดว่าเจ้านายโกรธที่เขาไม่ยอมรายงานเรื่องนี้ให้เจ้านายรู้ตั้งแต่แรกดังนั้นระหว่างทางจึงได้แต่ทำตามคำสั่งของเซียวหรงเหยี่ยนอย่างว่าง่าย ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมาแรงๆ ด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นสภาพของเยว่สือไป๋ชิงเหยียนก็รู้ทันทีว่าเยว่สือติดตามเซียวหรงเหยี่ยนมาตลอดทาง เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้นอนนานเท่าใดเขาก็ไม่ได้นอนนานเท่านั้น

“เจ้าไม่ต้องห่วง เจ้านายของเจ้ามิเป็นอันใดแล้ว หมอทหารตรวจอาการให้เขาแล้ว เจ้านายของเจ้าแค่เหนื่อยเกินไปเท่านั้น เมื่อครู่ข้าเพิ่งป้อนยาให้เขาไป เมื่อไข้ลดลงทุกอย่างคงดีขึ้น”

ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางเยว่สือที่ดวงตาแดงฉานจากการไม่ได้พักผ่อนเป็นเวลานาน น้ำเสียงของหญิงสาวอ่อนโยนลงโดยไม่รู้ตัว

“พวกเจ้าลำบากมาตลอดทางแล้ว ไปพักผ่อนเถิด ให้เจ้านายของเจ้าพักอยู่ที่นี่แหละ”

“ข้า…อยากคุกเข่าคุ้มกันนายท่านที่ด้านนอกขอรับ” เยว่สือกล่าวเสียงสะอื้น

“ไปพักผ่อนเถิด ต่อให้เจ้าคุกเข้าเฝ้าอยู่ด้านนอกจนเข่าพังก็ไม่มีประโยชน์อันใดต่อเจ้านายของเจ้าแม้แต่น้อย”

น้ำเสียงของไป๋ชิงเหยียนแฝงไปด้วยความอ่อนล้าเช่นเดียวกัน

“เว่ยกงกงจะบอกกับคนภายนอกว่าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนพักอยู่ที่เรือนติดกับข้า หากเจ้าไปอยู่ที่นั่นจะได้ช่วยตบตาคนอื่นได้ ไปหาอันใดทานและพักผ่อนเสีย พรุ่งนี้จะได้ดูแลเจ้านายของเจ้าได้อย่างเต็มที่”

“ขอรับ” เยว่สือรับคำและจากไป

เยว่สือเพิ่งเดินออกไปชุนจือก็เดินถือรักนกแหวกม่านเข้ามาด้านใน เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนนั่งเท้าศอกบนโต๊ะด้วยท่าที่อ่อนล้าจึงรีบก้าวไปด้านหน้าพลางกล่าวเสียงเบา

“คุณหนูใหญ่ทานโจ๊กรังนกสักนิดเถิดเจ้าค่ะ”

ชุนจือรู้สึกสงสารไป๋ชิงเหยียนมาก ทว่า นางเป็นเพียงบ่าวรับใช้คนหนึ่งเท่านั้น แม้แต่การติดตามคุณหนูใหญ่ไปสนามรบยังเป็นภาระให้แก่คุณหนูใหญ่เลย นางจึงทำได้เพียงดูแลจวนที่พักของคุณหนูใหญ่ให้ดี ไม่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระคุณหนูใหญ่ได้แม้แต่น้อย

ไป๋ชิงเหยียนสูดหายใจลึกพลางลุกขึ้นยืน

“เอาไปให้เยว่สือเถิด ไม่ต้องให้องครักษ์ไป๋คอยคุ้มกันอยู่ที่ด้านนอกทั้งหมด สลับกันเฝ้าทีละสองคนก็พอ ให้คนอื่นไปพักผ่อนเสีย เจ้าเองก็เช่นกัน อีกอย่างบอกให้คนส่งข่าวบอกให้หยางอู่เช่อรับรู้ด้วยว่าต้าเยี่ยนส่งทัพมาช่วยเหลือพวกเราแล้ว”

ชุนจือเห็นไป๋ชิงเหยียนอ่อนเพลียมากจึงกลืนถ้อยคำที่ว่าบุรุษและสตรีไม่ควรอยู่กันตามลำพังในห้องลงไป จู่ๆ นางก็นึกถึงคำกล่าวที่ว่าบุรุษช่วยเหลือสาวงาม สาวงามใช้ร่างกายตอบแทนขึ้นมาทันที ไม่นานนางก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดขึ้นมา

อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนยกทัพมาช่วยเหลือคุณหนูใหญ่ให้รอดพ้นจากสถานการณ์อันตรายคุณหนูใหญ่จึงอยากแต่งตั้งอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนเป็นพระภัสดาคนใหม่อย่างนั้นหรือ!

ชุนจือไม่กล้าเอ่ยถาม โชคดีที่พวกนางอยู่ในเรือนของคุณหนูใหญ่ องครักษ์ในจวนล้วนเป็นคนของตระกูลไป๋จึงไม่จำเป็นต้องว่ากลัวเรื่องนี้จะถูกแพร่งพรายออกไป

“คุณหนูใหญ่ บ่าวจะเฝ้าอยู่ที่ด้านนอก หากมีสิ่งใดสามารถเรียกบ่าวได้ทันทีนะเจ้าคะ”

ชุนจือกล่าวจบจึงเดินถือโจ๊กรังนกออกไป

ไป๋ชิงเหยียนถอนหายใจยาวออกมา หญิงสาวเดินไปยังโต๊ะหนังสือ หยิบพู่กันขึ้นมาเขียนจดหมายถึงบรรดาน้องๆ จากนั้นเขียนแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ให้ทหารที่มีความดีความชอบในการปกป้องเมืองเจียงจือในครั้งนี้ เมื่อหมอทหารเดินเข้ามาฝังเข็มให้เซียวหรงเหยี่ยนไป๋ชิงเหยียนจึงวางพู่กันลง

คืนนั้นไป๋ชิงเหยียนอยู่เฝ้าเซียวหรงเหยี่ยนทั้งคืน นางเปลี่ยนผ้าเย็นให้ชายหนุ่มทั้งคืน เมื่อฟ้าใกล้สว่างไข้ของชายหนุ่มจึงค่อยๆ ลดลง

ในที่สุดไป๋ชิงเหยียนจึงสามารถวางใจได้ หญิงสาวฟุบหลับลงบนหมอนอิงข้างเตียง

ชุนจือไม่ได้ยินเสียงบิดผ้าขนหนูของไป๋ชิงเหยียนจึงลองเอ่ยเรียกหญิงสาวเบาๆ

“คุณหนูใหญ่…”

เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับของไป๋ชิงเหยียนชุนจือจึงค่อยๆ ผลักประตูเข้ามาด้านใน ลมหนาวจากด้านนอกพัดไฟในตะเกียงจนนดับสนิทลง

ชุนจือมองเห็นว่าไป๋ชิงเหยียนหลับสนิทแล้วผ่านฉากกั้น นางจึงรีบเดินไปผิงตัวเองให้อุ่นข้างเตาผิง จากนั้นหยิบเสื้อคลุมกันตัวหนาไปห่มให้ไป๋ชิงเหยียนอย่างแผ่วเบา นางเดินย่องไปดับไฟทุกดวงในห้อง ปลดผผ้าม่านหนาที่เกี่ยวอยู่บนตะขอทองแดงออก จากนั้นเดินออกไปจากห้อง

เมื่อชุนจือออกไปด้านนอกก็เห็นองครักษ์ไป๋เดินถือม้วนไม้ไผ่หลายม้วนเข้ามาในเรือน เขาเอ่ยถามชุนจือ

“คุณหนูใหญ่ตื่นแล้วหรือไม่”

ชุนจือรีบส่งสัญญาณให้องครักษ์เงียบเสียงพลางโบกมือให้ นางหันไปมองด้านในห้องแวบหนึ่ง จากนั้นชี้ให้องครักษ์เดินไปสนทนาที่ด้านข้างแทนเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาพักผ่อนของไป๋ชิงเหยียน

“เกิดเรื่องอันใดขึ้นอย่างนั้นหรือ” ชุนจือถามองครักษ์ไป๋เสียงเบา

“แม่ทัพหลิ่วนำทัพไล่ตามกองทัพซีเหลียงไปยังไม่กลับมา เมืองไป๋หลงส่งเสบียงอาหารมาให้พวกเราแล้ว ทว่า ไม่มีคนตรวจสอบความถูกต้องแม่ทัพหวังจึงนำมาให้คุณหนูใหญ่ตรวจสอบ ข้าเห็นคุณหนูใหญ่กำลังพักผ่อนจึงพาองครักษ์ไป๋ไปตรวจสอบโดยพลการเรียบร้อยแล้ว ข้าจะนำรายงานมาให้คุณหนูใหญ่ตรวจสอบ” องครักษ์ไป๋ตอบ

ชุนจือเอื้อมมือสองข้างไปรับมา

“เอามาให้ข้าเถิด หากคุณหนูใหญ่ตื่นแล้วข้าจะนำไปให้คุณหนูใหญ่เอง ท่านไปพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ”

องครักษ์ไป๋เหล่านี้ไม่ได้พักผ่อนนานเท่ากับไป๋ชิงเหยียน พวกเขาสงสารอยากให้คุณหนูใหญ่พักผ่อนให้มากจึงฝืนร่างกายไปตรวจสอบเสบียงอาหารด้วยตัวเอง เมื่อจัดการเรียบร้อยจึงกลับมารายงานให้คุณหนูใหญ่ทราบ

“ได้ รบกวนแม่นางชุนจือด้วย” องครักษ์ไป๋กล่าวจบจึงหาวออกมาทันที