ตอนที่ 1220 ขอร้อง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1220 ขอร้อง

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวต่อโดยไม่ปล่อยให้เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวสิ่งใดขึ้นอีก

“ท่านห้ามปฏิเสธ มีหมอทหารติดตามไปด้วยข้าจะได้สบายใจ ข้ากับลูก…จะรอท่านกลับมา”

ไม่นานเว่ยจงจึงถือยาเข้ามาด้านใน เซียวหรงเหยี่ยนมองไป๋ชิงเหยียนนิ่งแวบหนึ่งแล้วรับถ้วยยามาดื่มจนหมดด้วยมือข้างเดียว จากนั้นใส่หน้ากากบนใบหน้าให้เรียบร้อย

เซียวหรงเหยี่ยนเดินออกมาจากเรือนของไป๋ชิงเหยียนก็เห็นบรรดาแม่ทัพต้าเยี่ยนยืนอยู่หน้าประตูเรือนติดกัน

เมื่อเห็นเซียวหรงเหยี่ยนเดินออกมาแม่ทัพต้าเยี่ยนต่างกรูกันเข้ามาถามอาการบาดเจ็บของเซียวหรงเหยี่ยนทันที

ไป๋ชิงเหยียนยืนฟังสิ่งที่เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวกับบรรดาแม่ทัพต้าเยี่ยนอยู่ในเรือนของตัวเอง

“มิเป็นอันใดแล้ว…”

“ท่านอ๋อง กระหม่อมได้ยินว่าแม่ทัพหวังที่สนิทสนมกับแม่ทัพซ่งรายงานเรื่องที่ท่านอ๋องนำทัพมาช่วยเหลือจักรพรรดินีแห่งต้าโจวโดยพลการที่เมืองเจียงจือกลับไปยังเมืองหลวงของต้าเยี่ยนแล้วพ่ะย่ะค่ะ เขาต้องการให้ไทเฮาและฝ่าบาทยึดอำนาจทางทหารของท่านอ๋องคืน หากไทเฮาทราบเรื่องนี้ต้องลงโทษท่านอ๋องอย่างหนักแน่นอน ท่านอ๋องรีบเขียนจดหมายกลับไปรายงานเถิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะรีบให้คนส่งไปยังเมืองหลวงโดยเร็วที่สุดพ่ะย่ะค่ะ”

แม่ทัพติดตามเซียวหรงเหยี่ยนร้อนใจมาก

ไทเฮาเป็นคนหูเบา ตอนนี้อ๋องเก้าไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง หากไทเฮาถูกหลอกใช้ขึ้นมาต้าเยี่ยนของพวกเขาคงหมดหวังที่จะรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งแน่

“ข้ารู้แล้ว” เซียวหรงเหยี่ยนรับคำ จากนั้นสั่งต่อ

“พวกเจ้ารีบไปจัดทัพ พวกเราจะออกเดินทางไปยังกู่เฟิงเดี๋ยวนี้”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

บรรดาแม่ทัพต้าเยี่ยนรับคำแล้วจากไปทันที

เยว่สือถลาไปด้านหน้า เขามองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนอย่างเป็นห่วงและรู้สึกผิด

“นายท่าน…”

เซียวหรงเหยี่ยนเอื้อมมือลูบศีรษะของเยว่สือเบาๆ “ไปเถิด”

“อ๋องเก้าโปรดรอสักครู่” ไป๋ชิงเหยียนเดินออกมาจากเรือน

เซียวหรงเหยี่ยนหันกลับไปมอง เยว่สือทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนอย่างนอบน้อม “ฝ่าบาท…”

ไป๋ชิงเหยียนหันไปรับกล่องยามาจากมือของเว่ยจง จากนั้นเดินไปหยุดอยู่หน้าชายหนุ่ม

“ในกล่องยามียารักษาแผลที่ท่านหมอหงคิดค้นขึ้นเองอยู่หลายชนิด มันใช้ได้ผลกับแผลธนูมาก ท่านอ๋องโปรดนำติดตัวไปด้วยเถิด”

เยว่สือก้าวเข้าไปรับกล่องยามาแทนเซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนอีกครั้งแล้วถอยไปยืนอยู่ด้านหลังเซียวหรงเหยี่ยน

“ข้าจะไปส่งท่านอ๋องเก้า…” ไป๋ชิงเหยียนผายมือเชิญเซียวหรงเหยี่ยน

เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า จากนั้นเดินเอามือไขว้หลังนำอยู่ด้านหน้าสุด

เยว่สือและเว่ยจงพยายามกันองครักษ์ของไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนให้ทิ้งห่างระยะพอสมควร

“อาเหยี่ยน ข้าไม่ได้ไม่ใส่ใจท่านและลูกอย่างที่ท่านคิด”

ไป๋ชิงเหยียนเดินไปด้านหน้าอย่างช้าๆ เมื่อเดินถึงบันไดเซียวหรงเหยี่ยนเอื้อมมือมาช่วยประคองหญิงสาวโดยสัญชาตญาณ จากนั้นรับคำเสียงเบา “อืม”

ไป๋ชิงเหยียนลูบท้องของตัวเองเบาๆ

“ข้าแค่คิดว่าควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงแม้มีการเปลี่ยนแปลง ทว่า ข้าคิดว่าข้าสามารถควบคุมมันได้ใหม่อยู่ดี”

เซียวหรงเหยี่ยนเดินเคียงข้างไป๋ชิงเหยียนไปอย่างเงียบๆ

“อาเหยี่ยน ท่านและลูกคือคนในครอบครัวของข้า…”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงแผ่งเบา

“ท่านอยู่ในใจของข้าเสมอ ข้ายอมรับว่าตอนศัตรูบุกมาล้อมเมืองเจียงจือข้าไม่เคยคิดถึงท่าน นั่นเป็นเพราะข้าไม่คิดว่าท่านจะทอดทิ้งต้าเยี่ยนมาช่วยเหลือข้าเช่นนี้”

เซียวหรงเหยี่ยนที่เดินเอามือไขว้หลังชะงักฝีเท้าลง ไป๋ชิงเหยียนก็หยุดเดินเช่นเดียวกัน

เว่ยจงรีบขวางองครักษ์ไว้พลางเดินถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นบอกให้พวกเขาหันหลังกลับยิ้มๆ

“เจ้าไม่ต้องพยายามอธิบายให้ข้าเข้าใจหรอก” ดวงตาล้ำลึกภายใต้หน้ากากของเซียวหรงเหยี่ยนมองไปที่ไป๋ชิงเหยียนนิ่ง ชายหนุ่มเดินเข้าไปจับไหล่ของไป๋ชิงเหยียนเบาๆ

“บางเรื่องที่ข้าทำไปแล้วล้วนเป็นการตัดสินใจของข้าเอง ข้าจะไม่ขอให้เจ้าทำให้ได้เหมือนกับข้า อาเป่า…เจ้าทำได้ดีมากแล้ว”

เซียวหรงเหยี่ยนจึงกล่าวต่อ

“เจ้าไม่ต้องออกไปส่งข้าแล้ว รีบเตรียมเดินทางกลับเมืองหลวงโดยเร็วที่สุดเถิด ท่านแม่ อาสะใภ้และบรรดาน้องๆ ของเจ้าจะได้สบายใจ!”

เซียวหรงเหยี่ยนปล่อยมือออกจากบ่าของไป๋ชิงเหยียน จากนั้นเอ่ยเรียกเยว่สือ

ท่านแม่ อาสะใภ้ น้องชายและน้องสาว ทว่า เขาไม่ได้นับตัวเองรวมอยู่ด้วย

“อาเหยี่ยน!” ไป๋ชิงเหยียนจับมือเซียวหรงเหยี่ยนแน่น นางเงยหน้ามองชายหนุ่มพลางกล่าวเสียงเบา

“ท่านคือสามีของข้า ข้าให้ความสำคัญกับท่านเหมือนกับที่ท่านให้ความสำคัญกับข้า!”

เยว่สือซึ่งถือกล่องยาอยู่ในมือหันกลับมา ทว่า เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนกุมมือเจ้านายของตนอยู่เขาจึงรีบหันหลังกลับไปอีกครั้ง แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงเรียกของเจ้านาย

“หากข้าให้เจ้าเลือกระหว่างข้ากับบรรดาน้องๆ ของเจ้าหรือต้าโจว เจ้าจะเลือกผู้ใด”

ไป๋ชิงเหยียนนิ่งอึ้งไป

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนไม่ตอบเซียวหรงเหยี่ยนจึงถามต่อ

“หากข้าหรือน้องชาย น้องสาวของเจ้าถูกศัตรูล้อมอยู่ในเมืองพร้อมกัน ทุกคนล้วนตกอยู่ในอันตราย ทว่า กองกำลังในมือของอาเป่าสามารถช่วยเหลือได้เพียงคนเดียวเท่านั้นเจ้าจะเลือกช่วยผู้ใด”

เซียวหรงเหยี่ยนยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขาก้าวเข้าไปรั้งตัวไป๋ชิงเหยียนเข้ามากอดไว้ในอ้อมกอด

“ข้าจะปล่อยให้เจ้าตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากใจเช่นนั้นได้อย่างไรกัน”

ไป๋ชิงเหยียนวางมือไว้บนหน้าอกแกร่งของเซียวหรงเหยี่ยน นางสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งและจังหวะหัวใจที่เต้นรัวผ่านเสื้อของเขา

เซียวหรงเหยี่ยนก้มหน้าต่ำลง หน้ากากของเขาแนบกับใบหูข้างซ้ายของไป๋ชิงเหยียน น้ำเสียงแหบพร่ากระซิบขึ้นเบาๆ

“อีกอย่างข้าก็กลัวเหมือนกันว่าเจ้าจะทอดทิ้งข้า ดังนั้นอาเป่า หากเจ้าต้องเลือกระหว่างข้าและน้องๆ ของเจ้าขึ้นมาจริงๆ เจ้าต้องเลือกช่วยน้องของเจ้านะ นี่คือทางเลือกและคำขอร้องจากข้า”

เซียวหรงเหยี่ยนผู้หยิงทระนงไม่เคยต้องก้มหัวให้ผู้ใดเช่นนี้มาก่อน ทว่า ครั้งนี้…เขาพ่ายแพ้ให้กับไป๋ชิงเหยียนอย่างหมดท่า

ดวงตาของไป๋ชิงเหยียนแดงก่ำขึ้นมาทันที นางกำหมัดแน่น น้ำตาไหลพรากออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่

เซียวหรงเหยี่ยนผละออกจากร่างของไป๋ชิงเหยียน จากนั้นกำชับเสียงเบาอีกครั้ง

“รีบเดินทางกลับเมืองหลวง อย่าทำให้ข้าเป็นห่วงอีกเข้าใจหรือไม่”

เซียวหรงเหยี่ยนเอ่ยเรียกเยว่สืออีกครั้งโดยไม่รอให้ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยตอบ

ครั้งนี้เยว่สือไม่กล้ารอช้าอีก เขารีบพาองครักษ์เดินไปหยุดอยู่หน้าเซียวหรงเหยี่ยน “ข้าอยู่นี่ขอรับ”

เซียวหรงเหยี่ยนถอยหลังไปทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน

“ฝ่าบาททรงพระครรภ์อยู่ ไม่ต้องออกไปส่งข้าแล้ว หรงเหยี่ยนขอทูลลาตรงนี้ ฝ่าบาทรักษาพระองค์ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนจบเซียวหรงเหยี่ยนพาเยว่สือและองครักษ์จากไปทันที

เยว่สือทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนอย่างรีบร้อนและวิ่งถือกล่องยาตามเซียวหรงเหยี่ยนไปทันที

ไป๋ชิงเหยียนมองตามแผ่นหลังของร่างสูงโปร่งไปจนลับสายตา หากไม่รู้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนได้รับบาดเจ็บหนักมาก่อนตอนนี้นางมองไม่ออกด้วยซ้ำว่าเขากำลังบาดเจ็บอยู่

ชายหนุ่มกลัวว่านางจะทอดทิ้งเขาเพราะต้าโจวและบรรดาน้องๆ ของนาง

ไป๋ชิงเหยียนไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเซียวหรงเหยี่ยนคิดเช่นนี้

ในความทรงจำของไป๋ชิงเหยียนเซียวหรงเหยี่ยนเป็นบุรุษผู้สูงส่งและแข็งแกร่งจนไม่มีศัตรูคนใดสามารถต่อกรได้

ตอนนี้นางยังจำภาพเหตุการณ์หน้าประตูเมืองหลวงของชาติที่แล้วได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มสวมเครื่องแต่งกายสีขาวสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีดำ ใบหน้าคมคายและแข็งกร้าวของเขาดูสงบนิ่ง ทว่า ร่างกายของเขามีพลังบางอย่างที่น่าหวาดหวั่นและเกรงขามมาก