ตอนที่ 1226 พระราชทานสมรส

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1226 พระราชทานสมรส

เว่ยจงรินน้ำชาให้ไป๋ชิงเหยียน เขามองไปทางบรรยากาศตอนกลางคืนของอำเภอเฟิงผ่านทางหน้าต่างแล้วกล่าวขึ้นยิ้มๆ

“ชาวบ้านอำเภอเฟิงมีชีวิตความเป็นอยู่ดีหรือไม่มองผ่านบรรยากาศช่วงค่ำคืนบนถนนสายยาวก็ทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ เมืองที่ยากจนตอนกลางคืนจะมีแต่ความมืดมิด ไม่มีทางมีร้านค้าออกมาตั้งขาย ชาวบ้านออกมาจับจ่ายใช้สอยของเกินความจำเป็นแน่ ทว่า ทรงทอดพระเนตรดูตอนนี้สิพ่ะย่ะค่ะ แสงไฟบนถนนสว่างราวกับเวลากลางวัน แม้จะไม่ได้ครึกครื้นเท่าเมืองหลวง ทว่า ถือว่าดีมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนรับคำพลางรับถ้วยชามาจากเว่ยจง นางละสายตาจากหนังสือภาพมองไปทางถนนนอกหน้าต่าง ตลาดกลางคืนบนถนนครึกครื้นราวกับกลางวัน เสียงสนทนาและเสียงหัวเราะของชาวบ้านดังขึ้นทั่วบริเวณ เป็นภาพที่มีชีวิตชีวายิ่งนัก

สายตาของไป๋ชิงเหยียนหยุดอยู่ที่ร้านขายเกี๊ยวน้ำแห่งหนึ่ง น้ำในเตาดินเผาในกระโจมกำลังเดือด ควันไฟลอยคลุ้งออกมาด้านนอก เด็กน้อยดึงชายเสื้อมารดาเพื่ออ้อนกินเกี๊ยวน้ำ เขาล้วงหยิบเงินในกระเป๋าของมารดา ทว่า ถูกมารดาของตัวเองบิดหูสั่งสอนเสียก่อน

ไป๋ชิงเหยียนชอบความครึกครื้นเช่นนี้มาก

ความเจริญรุ่งเรืองของแคว้นคือความเจริญของชาวบ้าน

ไป๋ชิงเหยียนอยากให้ชาวบ้านทุกคนมีชีวิตที่สงบสุขเช่นนี้ สำหรับชาวบ้านการมีชีวิตเช่นนี้ถึงจะแสดงให้เห็นว่าแคว้นแข็งแกร่งชาวบ้านมั่งคั่ง ถึงจะแสดงให้เห็นว่าใต้หล้าสงบสุขอย่างแท้จริง

ไป๋ชิงเหยียนรับประทานอาหารเย็นในโรงเตี๊ยม เดิมทีเว่ยจงอยากให้ไป๋ชิงเหยียนพักค้างคืนในอำเภอเฟิงสักคืน ทว่า ไป๋ชิงเหยียนกลับกล่าวขึ้น

“ไปต่อเถิด ได้เห็นเช่นนี้ข้าก็สบายใจแล้ว รีบเข้าด่านเทียนเหมินก่อนประตูด่านปิดดีกว่า”

หากทำตามกำหนดเดิมตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนควรถึงด่านเทียนเหมินแล้ว วันนั้นแม้เซียวหรงเหยี่ยนจะดูอบอุ่นอ่อนโยนเหมือนเคย ทว่า เขาจากไปทั้งที่ยังโกรธและได้รับบาดเจ็บหนักอยู่

ไป๋ชิงเหยียนรู้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนรู้ว่านางเป็นห่วงบาดแผลของเขา นางกลัวว่าเซียวหรงเหยี่ยนจะให้คนส่งจดหมายมาให้นางที่ด่านเทียนเหมินตอนที่นางไม่อยู่ที่นั่น

นางอยากได้รับจดหมายของเซียวหรงเหยี่ยนทันทีที่เขาส่งมา

รถม้าเคลื่อนไปถึงด่านเทียนเหมินตอนที่ประตูด่านปิดลงแล้ว เว่ยจงแสดงป้ายคำสั่งจึงสามารถเข้าไปในเมืองได้

ทว่า ไป๋ชิงเหยียนปิดข่าวการมาถึงด่านเทียนเหมิจากแม่ทัพคุ้มกันเมืองไม่มืด เมื่อเข้ามาในเมืองแม่ทัพคุ้มกันเทียนเหมินจึงเชิญไป๋ชิงเหยียนไปพักที่จวนของเขา

“ฝ่าบาทไม่ต้องเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ พวกเราคำนวณระยะเวลาที่ฝ่าบาทจะเสด็จมาถึงจากนั้นทำความสะอาดจวนรอฝ่าบาทไว้แล้วพ่ะย่ะค่ะ พวกเราจะไม่ปล่อยให้คนนอกเข้าไปรบกวนฝ่าบาทแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนโบกมือพลางเอ่ยขึ้น

“ข้าพักที่โรงเตี๊ยมก็พอ ไม่ขอรบกวนแม่ทัพคุ้มกันเมืองหรอก”

เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยไป๋ชิงเหยียนจึงถามถึงองครักษ์ไป๋ที่นางส่งเข้ามาในเมืองก่อนหน้านี้

“มีจดหมายส่งมาบ้างหรือไม่”

หลายวันมานี้หากเซียวหรงเหยี่ยนส่งจดหมายมาหานางตอนนี้คงถึงแล้ว

“มีรายงานสถานการณ์รบมาว่าคุณชายและคุณหนูไป๋ยึดเมืองหลูเฉวียนได้แล้ว ตอนนี้กำลังเดินทางไปยังเมืองหรงจิง ตอนนี้น่าจะถึงเมืองหรงจิงแล้วขอรับ!” องครักษ์ไป๋กล่าวรายงาน

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า ตอนนี้นอกจากแม่ทัพชราชุยซานแล้วแม่ทัพคนอื่นในซีเหลียงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกองทัพไป๋และต้าโจวแม้แต่น้อย ที่สำคัญต้าโจวยังมีกองทัพซั่วหยางซึ่งถนัดเรื่องการโจมตีกำแพงเมืองอยู่อีก

ไป๋ชิงเหยียนถามต่อ “ไม่มีข่าวอื่นแล้วหรือ”

องครักษ์ไป๋คิดว่าไป๋ชิงเหยียนถามถึงข่าวของไป๋จิ่นจื้อจึงรีบตอบ

“มีขอรับ คุณหนูสี่และแม่ทัพเสิ่นส่งข่าวมาบอกว่าพวกเขาเดินทางถึงเมืองกังตี่แล้วขอรับ ทว่า พวกเขายังไม่ได้บุกโจมตีเพราะกำลังรอให้กองทัพหลักของต้าโจวไปถึงเมืองหรงจิงก่อน ตอนนี้คุณหนูสี่และแม่ทัพเสิ่นแบ่งกองกำลังออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งลอบบุกไปทางทิศเหนือของเมืองอวิ๋นจิงเพื่อป้องกันหลี่เทียนเจียวหลบหนีออกจากเมืองแล้วขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนจ้องหน้าองครักษ์ไป๋ผู้นั้นนิ่งจนองครักษ์ไป๋เริ่มทำตัวไม่ถูก เขาก้มหน้าเกาศีรษะของตัวพลางมองไปทางเว่ยจงแวบหนึ่ง

เว่ยจงเอ่ยถามยิ้มๆ

“มีข่าวของต้าเยี่ยนบ้างหรือไม่”

“ยังไม่มีขอรับ ปกติต้าเยี่ยนจะส่งข่าวไปให้คุณชายและคุณหนูที่ด่านหน้าเลย คุณชายและคุณหนูไป๋คงเป็นห่วงคุณหนูใหญ่ที่กำลังตั้งครรภ์ไม่อยากให้คุณหนูใหญ่หักโหมเกินไปจึงไม่ได้ส่งข่าวมาให้ขอรับ”

องครักษ์ไป๋ตอบยิ้มๆ

“ข้ารู้แล้ว เจ้าไปพักผ่อนเถิด” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

“ขอรับ”

เมื่อองครักษ์ไป๋จากไป ไป๋ชิงเหยียนนั่งนิ่งอยู่บนเตียงครู่ใหญ่

นางไม่รีบ นางเพิ่งส่งจดหมายไปให้เซียวหรงเหยี่ยน หากชายหนุ่มเห็นจดหมายของนางต้องตอบกลับนางแน่นอน

“เว่ยกงกงไปพักผ่อนเถิด ให้ชุนจืออยู่ดูแลข้าก็พอ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

“พ่ะย่ะค่ะ!” เว่ยจงรับคำแล้วจากไป

ชุนจือเห็นไป๋ชิงเหยียนเปิดหนังสือนิยายออกอ่านจึงเดินไปปรับไฟในตะเกียงให้สว่าง

จากนั้นยกขนมที่ซื้อมาวันนี้และน้ำชามาให้หญิงสาว

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนอ่านอย่างตั้งใจชุนจือจึงรีบกล่าวอย่างกลัวไป๋ชิงเหยียนจะเสียใจ

“เมื่อบ่าวเริ่มรู้หนังสือจึงเคยอ่านนิยายมาบ้าง หนังสือเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระเจ้าค่ะ”

“ข้ารู้” ไป๋ชิงเหยียนพลิกอ่านหน้าถัดไป จากนั้นเริ่มสังเกตกระดาษที่ใช้เขียนนิยายเล่มนี้

กระดาษเป็นของมีราคา ทว่า ร้านอวิ๋นซางกลับใช้กระดาษในการทำนิยายเพื่อแจกจ่ายให้ลูกค้าแสดงว่าต้าเยี่ยนค้นพบวิธีลดต้นทุนการผลิตกระดาษแล้ว

นิยายไม่ได้หนามากไป๋ชิงเหยียนจึงอ่านจบอย่างรวดเร็ว เนื้อหาในนิยายมีประมาณว่าตอนที่จักรพรรดิมู่หรงอวี้แห่งต้าเยี่ยนยังมีชีวิตอยู่เขาเคยอยากพระราชทานสมรสให้อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนกับเมิ่งเจาหรงสาวงามอันดับหนึ่งในต้าเยี่ยน ทว่า อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนเป็นคนโหดร้าย เขาไม่คิดแต่งงาน ไม่ยอมแม้แต่จะพบหน้าเมิ่งเจาหรง

ต่อมาอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนปลอมกายออกจากวัง เขาเห็นรถม้าของตระกูลสูงศักดิ์ชนสาวขอทานวัยกลางคนคนหนึ่งซึ่งอุ้มลูกอยู่ล้มลลงบนถนน สตรีสูงศักดิ์นางนั้นให้คนพาขอทานสาวไปรักษาที่โรงหมอ อีกทั้งมอบเงินให้นาง อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนจึงตกหลุมรักสตรีนางนั้นตั้งแต่แรกพบ

สองคนพบกันโดยปิดบังฐานะที่แท้จริงของตัวเอง อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนผู้โหดเหี้ยมปฏิบัติต่อสตรีสาวผู้นี้อย่างอบอุ่นและอ่อนโยน

ต่อมาจักรพรรดิมู่หรงอวี้สิ้นพระชนม์ ไทเฮาต้องการพระราชทานสมรสให้คนทั้งคู่ตามพระราชประสงค์ของจักรพรรดิมู่หรงอวี้ เมิ่งเจาหรงจึงถูกกักบริเวณอยู่แต่ในจวนไม่ได้ออกไปพบหน้าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนอีก

อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนหาตัวเมิ่งเจาหรงไม่พบ เขาตามหานางทั่วทั้งแคว้นต้าเยี่ยนด้วยความโมโห ทำแม้กระทั่งขัดราชโองการพระราชทานสมรสของไทเฮา กล่าวว่าหากไทเฮายังยืนกรานจะทำเช่นนี้เขาจะดึงจักรพรรดิองค์น้อยของต้าเยี่ยนลงมาจากบัลลังก์

เมิ่งเจาหรงถูกกักบริเวณอยู่แต่ในจวนหลายเดือน อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนคิดว่าเมิ่งเจาหรงทิ้งเขาไปแล้ว เขากลายเป็นผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนที่ทุกคนต่างหวาดกลัว การถูกเมิ่งเจาหรงทอดทิ้งทำให้อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนกลายเป็นคนขี้หงุดหงิดและโหดร้ายกว่าเดิม

ต่อมาเขาบังเอิญพบกับเมิ่งเจาหรงที่ถูกไทเฮาเรียกตัวมาพบที่สวนดอกไม้หลวง ชายหนุ่มจึงได้รู้ว่าเรื่องทุกอย่างคือการเข้าใจผิด เดิมทีพวกเขาคือคู่หมั้นกันนานแล้ว

ทั้งสองคนเกือบจะได้แต่งงานกันแล้ว ทว่า เกิดเรื่องที่ซีเหลียงขึ้นก่อน อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนจึงจำต้องยกทัพไปยังซีเหลียง ไทเฮารับปากอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนว่าเมื่อเขาจัดการเรื่องที่ซีเหลียงเสร็จเมื่อใดนางจะรีบจพระราชทานสมรสให้พวกเขาทันที

เรื่องราวทั้งหมดจบลงเพียงเท่านี้ ทว่า ยังไม่สมบูรณ์

ไป๋ชิงเหยียนอ่านนิยายจบจึงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมือ จากนั้นยกชาขึ้นจิบเล็กน้อย มิน่านิยายเช่นนี้จึงมาปรากฏที่ต้าโจว หากอยู่ที่ต้าเยี่ยนคงกลายเป็นหนังสือต้องห้ามนานแล้ว