เล่ม 1 ตอนที่ 355-2 พี่ซิวออกโรง

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

ตอนที่ 355-2 พี่ซิวออกโรง

เสียงสว่างส่องลอดกรอบหน้าต่างเข้ามา เฉียวเวยยกมือขึ้นบังตา เอ่ยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “โมงยามอะไรแล้วหรือ”

จีหมิงซิวคาดเข็มขัดเสร็จก็ก้มมาจูบหน้าปากนาง “ยังเช้าอยู่เลย เจ้านอนต่ออีกหน่อยเถิด ข้าจะออกไปข้างนอกหน่อย”

เฉียวเวยถามเสียงงัวเงียว่า “ท่านจะไปไหนหรือ”

จีหมิงซิว “นัดแลกตัวเชลยกับซื่อจื่อแห่งจวนมู่อ๋องไว้”

เฉียวเวยยังคงมึนงง แต่พอจำได้ว่ามีเรื่องนี้อยู่ นางอ้าปากหาว “คืนเดียวจะรวบรวมเงินครบได้อย่างไร…”

จีหมิงซิวมองท่าทางง่วงงุนของนางแล้วก็อดรู้สึกขบขันไม่ได้ “รวบรวมไม่ได้น่ะปกติ หากรวบรวมได้ครบคงจะยุ่งยากเสีย”

“อ้อ” เฉียวเวยทิ้งศีรษะลงนอนต่อ

เยี่ยนเฟยเจวี๋ยเตรียมรถม้ารอไว้อยู่หน้าจวนแล้ว จีหมิงซิวขึ้นนั่งรถม้าไปยังป่าผืนเล็กที่เมื่อวานนัดเขาไว้

สือชีมารออยู่ที่ป่าผืนนี้ตั้งแต่กลางดึก มู่ชิวหยางมาถึงตอนฟ้าสาง คนที่มาพร้อมกับมู่ชิวหยางยังมียอดฝีมือของเยี่ยหลัวอีกสิบกว่าคน ครั้งนี้ที่คุ้มกันอาจารย์ไสยเวทออกเดินทางมามียอดฝีมือเยี่ยหลัวทั้งหมดห้าสิบกว่าคน แต่ก็จนใจที่เมื่อวานล้มตายไปในบ้านตระกูลจีสามสิบกว่าคน จึงเหลืออยู่เพียงสิบกว่าคนนี้

ยอดฝีมือทั้งสิบกว่าคนจ้องเขม็งไปยังสือชี สือชียืนตัวคนเดียวอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ทุกคนไม่มีใครรู้ว่าสือชีมีชีวิตอยู่ในโลกของตนเองเท่านั้น รู้สึกเพียงนี้อีกฝ่ายอายุยังน้อยแต่กลับสงบนิ่งเพียงนี้แล้ว จะประมาทเขาไม่ได้เลยจริงๆ

รถม้าจอดห่างไปไม่ไกล จีหมิงซิวก้าวลงมา

เยี่ยนเฟยเจวี๋ยจับตัวอาจารย์ไสยเวทที่ถูกมัดเอามือไพล่หลังไว้ลงมา

มู่ชิงหยางพอเห็นว่าอาจารย์ไสยเวทยังมีชีวิตอยู่ก็ถึงกับลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่เมื่อเห็นอาจารย์ไสยเวทที่หน้าตาบวมช้ำ เห็นได้ชัดว่าถูกเล่นงานมาไม่น้อย สีหน้าเขาจึงดูบูดบึ้งไปอีกครั้ง เอ่ยด้วยความเย่อหยิ่งและเฉยชาว่า “อัครเสนาบดีหมายความเช่นไร”

จีหมิงซิวยิ้มบางๆ “ก็แค่เชลยคนหนึ่งเท่านั้น มู่ซื่อจื่อยังหวังจะให้ข้าเชิดชูเขาเป็นพระโพธิสัตว์งั้นหรือ ทองคำของซื่อจื่อเล่า เตรียมไปอยู่ที่ใด”

ณ ตรงนั้นนอกจากคนแล้วไม่มีอะไรให้เห็นอีก

มู่ชิวหยางเอ่ยอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “ทองคำอยู่ระหว่างทางมา”

จีหมิงซิวสีหน้ากึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง “เมื่อวานดูเหมือนข้าจะไม่ได้บอกเช่นนั้น”

มู่ชิวหยางส่งเสียงหึเย็นๆ “ให้เวลาข้ารวบรวมทองคำเพียงคืนเดียว เจ้าไม่คิดว่าจะเกินไปหน่อยหรือ หากเปลี่ยนเป็นเจ้า เจ้าจะรวบรวมได้ครบหรือไม่”

จีหมิงซิวไม่ถูกอีกฝ่ายจูงจมูกออกนอกเรื่องไป แต่ถามเขาอีกครั้งว่า “เจ้ามั่นใจว่าไม่ได้นำมาด้วย?”

มู่ชิวหยางยังคงเอ่ยอย่างเย่อหยิ่ง “ข้าบอกว่ากำลังเดินทางมาอย่างไร! เจ้าแค่อดทนรอหน่อยเท่านั้น ไม่มีทางขาดสักแดงแน่นอน!”

จีหมิงซิวส่ายหน้าด้วยความเสียดาย “เช่นนั้นก็คงช่วยไม่ได้”

“เจ้าหมายความเช่นไร” มู่ชิวหยางขมวดคิ้ว

จีหมิงซิวหันไปทำสัญญาณมือบอกเยี่ยนเฟยเจวี๋ย เยี่ยนเฟยเจวี๋ยควักดาวกระจายออกมาขว้างออกไปแทงทะลุหัวใจของอาจารย์ไสยเวท อาจารย์ไสยเวทพลันตาค้าง ตรงมุมปากมีเลือดสีดำไหล่ออกมา คุกเขานิ่งอยู่กับพื้นอยู่สองวินาทีก่อนจะล้มลงสิ้นใจตาย

ยอดฝีมือสิบกว่าคนชักกระบี่กันออกมาทันที!

สือชีพลันขยับตัวเข้ามามาขวางหน้าทุกคนไว้!

มู่ชิวหยางมองอาจารย์ไสยเวทที่สิ้นใจตายอย่างไม่อยากเชื่อ เขาไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าจีหมิงซิวจะสังหารอาจารย์ไสยเวทต่อหน้าต่อตาเขา เขายังคิดว่าเรื่องราวยังมีจุดให้วกกลับเสียอีก!

“จีหมิงซิว!” เขาเดือดจัด “เจ้าถึงขั้นกล้าอาจารย์ไสยเวทของจวนมู่อ๋อง เจ้าไม่กลัวว่าจวนมู่อ๋องจะตามาล้างแค้นเจ้าหรือ”

หนังตาจีหมิงซิวไม่ขยับเลยสักนิด “คนของจวนมู่อ๋องสังหารมารดาข้า ข้ากับพวกเจ้าเดิมทีก็อยู่ใต้ฟ้าเดียวกันไม่ได้อยู่แล้ว ข้ายังจะกลัวพวกเจ้าจะมาตามล้างแค้นข้าอีกหรือ เก็บเจ้านั่นไว้ก็มีแต่จะเก็บโรคร้ายไว้กับตัว เจ้าคิดว่าข้าจะโง่เขลาเพียงนั้นหรือ”

มู่ชิวหยางหรี่ตาลงอย่างอันตราย “เจ้าไม่ได้คิดจะคืนตัวอาจารย์ไสยเวทให้ข้าตั้งแต่แรก”

จีหมิงซิวไม่ปฏิเสธ “ถูกต้อง”

มู่ชิวหยางกัดฟันกรอด “เช่นนั้นเจ้าจะร้องหาค่าไถ่จากข้าอีกไปไย”

จีหมิงซิวเอ่ยสบายๆ ว่า “แค่เพียงอยากดูว่าเจ้ามีความเกี่ยวพันกับราชวงศ์คนใดในเมืองหลวงหรือไม่ เวลานี้ดูแล้วคงจะไม่มี”

แต่ไหนแต่ไรมามีแต่มู่ชิวหยางที่คิดบัญชีผู้อื่น แต่เมื่ออยู่ในมืออัครเสนาบดีผู้นี้ เขาถูกคิดบัญชีครั้งแล้วครั้งเล่า มันช่างน่าโมโหยิ่งนัก “มิน่าเล่าทุกคนต่างบอกกันว่าอัครเสนาบดีแห่งต้าเหลียงมิอาจมีเรื่องด้วยได้ เจ้ามันเจ้าเล่ห์มากแผนการยิ่งนัก!”

จีหมิงซิวระบายยิ้มเรียบๆ “ขอบคุณที่ชื่นชม สือชี จับตัวเขามา”

สือชีกระโดดลอยตัวขึ้นไป ยื่นมือจะไปจับมู่ชิวหยาง

วรยุทธ์ของมู่ชิวหยางไม่ใช่เล่นๆ มือของสือชีเพิ่งแตะถูกหัวไหล่เขาก็ถูกอีกฝ่ายปัดออกไปทันที

ยอดฝีมือสิบกว่าคนกวัดแกว่งกระบี่ปรี่เข้ามาล้อมสือชีเอาไว้

เยี่ยนเฟยเจวี๋ยใช้วิชาตัวเบาเข้าไปประมือกับเยี่ยเฟยเจวี๋ย

หลังจากกินผลสองภพเข้าไปสองลูก แม้แต่ไซน่าอิงก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเยี่ยนเฟยเจวี๋ยอีก แต่เมื่อต้องสู้กับมู่ชิวหยาง เยี่ยนเฟยเจวี๋ยกลับไม่ได้เปรียบเลยสักนิด

มู่ชิวหยางพุ่งฝ่ามือออกมา นั่นคือฝ่ามือเก้าสุริยันต์ หากถูกฝ่ามือนี้เข้าไป หลังจากนี้อย่าได้หวังว่าจะมีฝีมือที่ดี เยี่ยนเฟยเจวี๋ยไม่กล้าฝืนรับจึงเบี่ยงตัวหลบ แค่ชั่วจังหวะที่เขาเบี่ยงหลบ มู่ชิวหยางก็สลัดหลุดจากการสกัดกั้นของเขา

วิชาตัวเบาของมู่ชิวหยางไม่ด้อยไปกว่าวรยุทธ์ ผู้อาวุโสหลายคนของซู่ซินจงรวมกันยังไม่อาจไล่ตามเขาได้ เขากระโดดลอยตัวจะหนีไปจากจุดนั้น แต่กระนั้นพอลอยตัวขึ้นไปได้ครึ่งทางอาจารย์ตาฮั่วก็โผล่เข้ามาถีบเขากลับลงพื้นไปเช่นเดิม!

เยี่ยนเฟยเจวี๋ยจับตัวมู่ชิวหยางไว้ ยอดฝีมือสิบกว่าคนถูกสือชีจัดการไปแล้วครึ่งหนึ่ง คนอื่นๆ ที่เหลือสถานการณ์ก็ไม่สู้ดี พากันใช้วิชาตัวเบาล่าถอยออกไป

เมื่อหัวเรือใหญ่มาอยู่ในมือแล้ว จีหมิงซิวจึงไม่สนใจพวกลูกกระจ๊อกอีก

เยี่ยนเฟยเจวี๋ยจับตัวมู่ชิวหยางที่เจ็บหนักขึ้นมา

มู่ชิวหยางอาศัยจังหวะนั้นฟาดฝ่ามือออกมา อาจารย์ตาฮั่วผลักเยี่ยนเฟยเจวี๋ยออกไปแล้วเข้าไปสะท้อนกลับฝ่ามือของเขา

ไอเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วตัวมู่ชิวหยาง มู่ชิวหยางกระอักเลือดสดๆ ออกมาทันที

เยี่ยนเฟยเจวี๋ยทำเสียงจึ๊ๆ สองที “เจ้านี่หนาจะดิ้นรนไปไย ว่าง่ายๆ ก็ไม่เป็นอะไรแล้วมิใช่หรือ รนหาที่จริงๆ!”

อาจารย์ตาฮั่วสกัดจุดมู่ชิวหยาง ถึงแม้มู่ชิวหยางจะบาดเจ็บ แต่ฝ่ามือพิษของเขายังคงไม่ใช่วิชาที่คนรุ่นหลังเหล่านี้จะทนรับได้

เยี่ยนเฟยเจวี๋ยหิ้วตัวมู่ชิวหยางขึ้นมาอีกครั้ง แล้วตบศีรษะเขา “อวดเก่งนักเหรอ! เก่งนักก็เอาอีกสิ! เจ้าเก่งนักไม่ใช่รึไง หา? ทั้งให้คนไปจับตัวน้องสาวตัวเอง ทั้งส่งคนไปสร้างเรื่องในบ้านตระกูลจี เคยคิดบ้างรึไม่ว่าตัวเองจะตกมาอยู่ในมือพวกเราน่ะ”

มู่ชิวหยางถลึงตาใส่เยี่ยนเฟยเจวี๋ยเงียบๆ เยี่ยนเฟยเจวี๋ยยิ้มเยาะ “จ้องอะไรนักหนา ถ้ายังจ้องอีกเดี๋ยวปั๊ดควักลูกตาออกมาเสียหรอก!”

สายตาของมู่ชิวหยางหยุดมองหน้าจีหมิงซิว “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าต้องเสียใจทีหลังแน่”

จีหมิงวิวจับแขนเสื้อ “คำพูดเช่นนี้เจ้าเก็บไว้ค่อยๆ พูดกับตัวเองเถิด”

มู่ชิวหยางกัดฟันกรอด “เจ้าจะเอาอย่างไรกับข้า”

จีหมิงซิวกลับไม่สนใจเขา กลับขึ้นรถม้าพร้อมกับอาจารย์ตาฮั่ว ส่วนเยี่ยนเฟยเจวี๋ยเอาตัวเขาขึ้นรถม้าอีกคันหนึ่งไป

เฉียวเวยหลับจนไม่รู้วันรู้คืน ฟู่เสวี่ยเยียนกับใต้เท้าเจ้าสำนักเป็นคนส่งเด็กน้อยทั้งสามไปเข้าเรียน ตอนจีหมิงซิวกลับถึงบ้าน เฉียวเวยตื่นและไปที่เรือนของจีซั่งชิงแล้ว จีซั่งชิงเมื่อวานกินยาถอนพิษเข้าไป แต่จะล้างพิษออกจากตัวให้หมดยังต้องใช้เวลาอีกสองสามวัน เฉียวเวยจึงไปช่วยดูอาการให้เขา

ปี้เอ๋อร์เห็นจีหมิงซิวหยุดยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าครุ่นคิดก็เข้าใจว่าเขากำลังลังเลว่าจะไปด้วยดีหรือไม่จึงเอ่ยว่า “ฮูหยินเพิ่งไปได้ไม่นาน เอาเข็มไปด้วยบอกว่าจะฝังเข็มให้นายท่าน คิดว่า…คงไม่กลับมาเร็วนัก คุณชายจะไปดูสักหน่อยหรือไม่”

จีหมิงซิวตอบว่า “ไม่ล่ะ”

ปี้เอ๋อร์คิดในใจ บิดากับบุตรก็มีโกรธกันข้ามวันเสียด้วย แต่เรื่องนี้จะโทษคุณชายคงไม่ได้ ใครใช้ให้นายท่านลำเอียงเกินไปเล่า ถึงแม้จะบอกว่าเขาถูกคนวางยาถึงได้มีพฤติกรรมผิดแผกไปเช่นนั้นก็เถิด แต่หากไม่ใช่เขาที่ปล่อยคนนอกเข้ามาก็คงไม่โดนยาพิษเข้าหรอก

ปี้เอ๋อร์ยิ้มเอ่ยว่า “เช่นนั้นท่านเข้าไปนั่งข้างในสักหน่อยก่อนเถิด บ่าวจะไปตักถั่วเขียวต้มน้ำตาลมาให้!”

จีหมิงซิวยิ้มบางๆ “สวินซื่ออยู่ที่ใด”

ในที่สุดเขาจะจัดการสวินซื่อแล้วหรือ ปี้เอ๋อร์ตาพลันเป็นประกาย “เรือนหลีฮวาเจ้าค่ะ!”

จีหมิงซิวไปที่เรือนหลีฮวาด้วยสีหน้าเรียบเย็น