War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 3080
เคียวยมทูต เป็นความลึกซึ้งของกฏแห่งความตายที่หนุนเสริมการโจมตีเป็นหลัก และยังทรงพลังที่สุดในกฏแห่งความตาย เรียกได้ว่าเป็นความลึกซึ้งเสริมการโจมตีหลักอันดับหนึ่ง!
อย่างไรก็ตามจากที่ต้วนหลิงเทียนเห็น หลิงเจวี๋ยอวิ๋นยังไม่ได้เข้าใจความลึกซึ้งเคียวยมทูตถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้น เรียกว่าแค่เข้าใจบางส่วน และแทบจะใช้พลังของมันได้ไม่ถึงเสี้ยว
ระดับความเข้าใจก็ดุจเดียวกับพื้นที่โน้มถ่วงและความลึกซึ้งปะทุของต้วนหลิงเทียน
“เท่าที่ข้ารู้มา…เคียวยมทูตเหมือนจะเป็นความลึกซึ้งที่เข้าใจได้ยากที่สุดของกฏแห่งความตายใช่ไหม?”
ต้วนหลิงเทียนที่มองหลิงเจวี๋ยอวิ๋นเอ่ยถามออกมาเสียงเรียบ
“นับว่าเจ้ารู้จักกฏแห่งความตายยไม่น้อยเลยทีเดียว…ไม่ผิด เคียวยมทูตเป็นความลึกซึ้งที่เข้าใจได้ยากที่สุดของกฏแห่งความตาย”
หลิงเจวี๋ยอวิ๋นมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาแปลกใจเล็กน้อย ค่อยพยักหน้า “เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ข้าพึ่งจะหยั่งถึงความลึกซึ้งเคียวยมทูต จนพอใช้พลังของมันได้บางส่วน”
“แต่ถึงเจ้าจะใช้พลังมันได้ไม่มากเท่าไหร่ พอเอามารวมกับสิ่งที่เจ้ามี…ก็นับว่าช่วยเจ้าได้ไม่น้อย”
ต้วนหลิงเทียนกล่าว
หากหลิงเจวี๋ยอวิ๋นไม่อาจใช้เคียวยมทูตได้ล่ะก็ ถึงแม้ร่างแฝดแห่งความตาจะหยุดกระแสพลังเพลิงของเขาได้ แต่ร่างต้นก็คงไม่พ้นต้องถูกห่ากระบี่เพลิงของเขาจัดการอยู่ดี
“ต้วนหลิงเทียนความเข้าใจในกฏแห่งไฟของเจ้านับว่าเหนือความคาดหมายของข้าจริงๆ…หากข้าเดาไม่ผิด ที่ทะเลสาบอวิ๋นเยียนทั้งในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำ…เจ้าสมควรใช้กฏแห่งดินบังหน้าเพื่อปกปิดพลังที่แท้จริงของเจ้าสินะ”
หลิงเจวี๋ยอวิ๋นกล่าวถาม
“หากข้าบอกว่า…ข้าพึ่งจะมาศึกษากฏแห่งไฟหลังจากเข้าร่วมนิกายอมตะเป้าผู่ เจ้าจะเชื่อรึเปล่า?”
ต้วนหลิงเทียนยักไหล่พลางถาม
ได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน หลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็เบ้ปาก แลดูไม่เชื่อแม้แต่น้อย
ต้วนหลิงเทียนพึ่งจะเข้าร่วมนิกายอมตะเป้าผู่ได้นานเท่าไหร่กัน?
ยังไม่ทันถึงสิบปี!
ภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี หากเข้าใจความหมายแห่งไฟก็ไม่นับเป็นเรื่องอะไร
แต่ตอนนี้นอกจากความหมายแห่งไฟ ต้วนหลิงเทียนยังเข้าใจความลึกซึ้งลุกโหมกับเผาไหม้ถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นแล้ว! เรื่องพรรค์นี้เก็บไว้หลอกเด็ก 3 ขวบเถอะ!!
“ต้วนหลิงเทียน จริงอยู่ที่ความสามารถเจ้าเหนือความคาดหมายของข้า…แต่ตอนนี้เลิกคุยเถอะ สมควรจบเรื่องได้แล้ว”
หลิงเจวี๋ยอวิ๋นมองต้วนหลิงเทียนด้วยสีหน้ามั่นใจ และพอกล่าวจบชุดคลุมสีเทาของมันก็เริ่มโบกสะบัดแม้ไร้ลม จากนั้นไอพลังแห่งความตายก็เริ่มม้ววนวนทั่วร่าง แลดูมืดมนนัก
“จบได้แล้ว?”
ต้วนหลิงเทียนยักคิ้วขึ้นข้างหนึ่งพลางกล่าวถามด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “หรือเจ้าจะยอมแพ้แล้ว?”
“ข้า? ยอมแพ้?”
หลิงเจวี๋ยอวิ๋นแสยะยิ้มพลางส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นก็กล่าวออกด้วยน้ำเสียงถือดี “ข้าแค่จะบอกเจ้าว่า…เจ้ากำลังจะแพ้!”
“ข้ากำลังจะแพ้?”
ได้ยินวาจามั่นใจของหลิงเจวี๋ยอวิ๋น ต้วนหลิงเทียนก็ผงะไปเล็กน้อย จากนั้นก็อดคลี่ยิ้มออกมาไม่ได้ “ต่อให้ข้าจะไม่เร็วเท่าเจ้า แต่อาศัยพลังของข้าตอนนี้…สมควรไล่ต้อนเจ้าได้ทุกทาง แล้วข้าจะเอาอะไรไปแพ้?”
“ดูจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ต่อให้ข้าใช้การไม่ได้แค่ไหน แต่อย่างน้อยๆคิดจะสู้เสมอกับเจ้าก็คงไม่มีปัญหาหรอกมั้ง?”
ต้วนหลิงเทียนเอ่ยออกด้วยน้ำเสียงขบขัน
แน่นอนว่ามีบางสิ่งที่เขายังไม่ได้พูดออกไป นั่นคือเขาเองก็ยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด เพราะตอนนี้เขาเองก็เข้าใจความลึกซึ้งปะทุบางส่วนแล้ว เรียกว่าสามารถใช้พลังของมันได้ไม่ต่างอะไรจากเคียวยมทูตของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นเลย
ถึงแม้ว่าความลึกซึ้งปะทุอาจจะยังเพิ่มพลังให้เขาได้ไม่มาก แต่ความเร็วของเขาย่อมเหนือกว่าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นตอนนี้แน่นอน
นอกจากนั้นพลังโจมตีจากเดิมที่เหนือกว่าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นอยู่เล็กน้อย ก็จะเพิ่มขึ้นจนเหนือกว่าที่หลิงเจวี๋ยอวิ๋นจะรับไหวทันที!
“ก็ถูกของเจ้า”
มุมปากหลิงเจวี๋ยอวิ๋นค่อยๆกยิ้มแสยะ “แต่ก็อย่างที่เจ้าบอก…หากดูจากสถานการณ์ในตอนนี้น่ะนะ”
“ว่าแต่เจ้าแน่ใจเหรอ ว่าข้าลงมือเต็มที่แล้ว?”
กล่าวจบคำ ลูกตาหลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็หดเล็ก ทันใดนั้นแสงสีเลือดพลันสาดส่องออกมาจากดวงตา มองไปประหนึ่งดาวตกสีแดงพุ่งผ่านฟากฟ้ายามค่ำคืน!
และพร้อมกันกับที่สองตาหลิงเจวี๋ยอวิ๋นส่องแสงสีแดงออกมา ทั่วร่างหลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็เสมือนมีหมอกโลหิตปะทุออกมาในฉับพลัน!
ที่สำคัญหมอกโลหิตพอปะทุออกมา มันก็เริ่มหลอมรวมเข้ากับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดที่ผสานพลังแห่งความตายทันที!
จากนั้นไอพลังสีดำอันเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายรอบกายหลิงเจวี๋ยอวิ๋น ก็เริ่มเปลี่ยนสีไปจนคล้ายถูกโลหิตอาบย้อม
“ตระกูลของข้าล้วนได้รับสืบทอดพลังสายเลือดต่อๆกันมา…ด้วยด่านพลังฝึกปรือของข้าในตอนนี้ แม้จะพึ่งปลุกพลังสายเลือดได้ไม่เท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่ช่วยอะไร!”
พอหลิงเจวี๋ยอวิ๋นกล่าวจบคำ พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดสีดำที่ห้อมล้อมไปด้วยอัสนีสีแดงเลือด ก็ค่อยๆหลั่งไหลลงสู่เคียวยมทูตที่รูปลักษณ์ดูหยาบๆทันที
“อย่างน้อยๆ…มันก็ช่วยยกระดับความลึกซึ้งของกฏแห่งความตายที่ข้าเข้าใจบางส่วนให้มีพลังทัดเทียมกับตอนข้าเข้าใจเต็มที่!”
พอกล่าวจบคำ เคียวยมทูตที่แลดูหยาบๆในมือหลิงเจวี๋ยอวิ๋น ก็ค่อยๆชัดเจนทั้งควบแน่นจนไม่ต่างอะไรจากวัตถุมีสภาพ ประหนึ่งเป็นเคียวยมทูตที่แท้จริง!
“นี่มัน…”
ก่อนหน้านี้ต้วนหลิงเทียนก็พบได้ไม่ยาก ว่าพลังโลหิตที่ปะทุออกมารอบกายหลิงเจวี๋ยอวิ๋น มันเริ่มผสานควบรวมเข้ากับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดอย่างกลมกลืน ราวกับเป็นหนึ่งเดียวกัน
พริบตาต่อมา พลังดังกล่าวก็เริ่มหลั่งไหลลงสู่ตัวเคียวที่หลิงเจวี๋ยอวิ๋นสร้าง ทันใดนั้นเคียววที่มีรูปลักษณ์หยาบๆ ทั้งพร่าเลือนปานแสงโฮโลแกรม ก็ค่อยๆควบแน่นจนชัดเจน คล้ายกลับกลายเป็นวัตถุมีสภาพจับต้องได้จริงๆ!
สีหน้าท่าทีต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที
ฉากเรื่องราวเบื้องหน้าหมายความว่าอะไรเขาย่อมรู้ดี
หมายความว่าตอนนี้หลิงเจวี๋ยอวิ๋นเสมือนเข้าใจความลึกซึ้งเคียวยมทูตได้แล้ว!
หากจะกล่าวว่าก่อนหน้านี้ หลิงเจวี๋ยอวิ๋นเสมือนพึ่งหยั่งถึงความลึกซึ้งเคียวยมทูตและใช้พลังของมันได้บางส่วนล่ะก็…
บัดนี้ความลึกซึ้งเคียวยมทูตของหลิงเจวี๋ยอวิ๋น ไม่ต่างอะไรจากเข้าใจจนบรรลุขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้น!
ทั้งสองเรื่อง เป็นอะไรที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
“ตอนนี้ หลังข้าใช้พลังสายเลือด…ก็ไม่ต่างอะไรจากข้าเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งความตาย 4 ประการถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้น…แล้วเจ้ายังคิดว่าจะมีปัญญาสู้เสมอข้าได้อีกรึ?”
หลิงเจวี๋ยอวิ๋นยกยิ้มแสยะอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง จากนั้นก็โจนทะยานสวนเข้าใส่ด้วยท่าทางมั่นใจ ต่างจากตอนเร่งรุดล่าถอยเมื่อครู่ราวคนละคน!
ขณะเดียวกัน เคียวมทูตที่ไม่ต่างอะไรจากเคียวจริงๆ ก็ถูกควงเพื่อเร่งเร้าสภาวะอย่างชำนิชำนาญ ราวกับพร้อมฟาดสยบต้วนหลิงเทียนยได้ทุกเมื่อ!
ฟุ่บบ! ซู่มม!!
ร่างแฝดแห่งความตายของหลิงเจวี๋ยอวิ๋น ก็โจนทะยานเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนพร้อมร่างต้นอย่างดุร้าย!
คราวนี้ไม่เพียงแต่ความเร็วของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นจะเหนือกว่าต้วนหลิงเทียน กระทั่งพลังโจมตีก็เหนือกว่าต้วนหลิงเทียนไปแล้ว!
ความลึกซึ้งเคียวยมทูตที่พอเข้าใจบางส่วนกับเข้าใจถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้น เรียกว่าพลังอำนาจไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย!
ทั้งความเร็วของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นตอนนี้ก็รวดเร็วเหลือเกิน ไม่ทันที่ต้วนหลิงเทียนจะได้ตอบสนองใดๆ ร่างหลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็พุ่งผ่านครึ่งทางแล้ว!
ขวับ! ขวับ! ขวับ! ขวับ! ขวับ!
…
พอหลิงเจวี๋ยอวิ๋นโจนทะยานเข้ามาใกล้ถึงครึ่งทาง ต้วนหลิงเทียนก็ได้ยินเสียงเคียวยมทูตที่ควงปานจักรผันได้ชัดถนัดหู!
กระทั่งเสียงควงเคียวนี้ยังดังสนั่น ประหนึ่งมันจะผ่าได้กระทั่งความว่างเปล่าก็ไม่ปาน!
อย่างไรก็ตาม แม้หลิงเจวี๋ยอวิ๋นจะโจนทะยานเข้ามาด้วยความเร็วสูง ต้วนหลิงเทียนก็ยังสามารถตอบโต้ได้ทัน
“ปะทุ!”
เผชิญหน้ากับหลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่โจนทะยานพร้อมควงเคียวยมทูตมาด้วสภาวะดุดันเหี้ยมหาญปานขุนพลชำนาญศึก นอกจากพลังที่ใช้ออกก่อนหน้าแล้ว ครานี้ต้วนหลิงเทียนยังเผยความลึกซึ้งปะทุออกมาอีกด้วย!
ความลึกซึ้งปะทุ นับเป็นความลึกซึ้งที่เน้นเสริมการโจมตีเป็นหลักของกฏแห่งไฟ และยังเพิ่มความเร็วได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย!
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
ฟั่ฟฟ! ฟั่ฟฟ! ฟั่ฟฟ! ฟั่ฟฟ! ฟั่ฟฟ!
…
รอบกายต้วนหลิงเทียนอุบัติกระบี่เพลิงขึ้นมาม้วนวนดั่งดวงดาวอีกครา จากนั้นพวกมันก็พุ่งทะยานออกไปฉับไวปานจุดระเบิด!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!
หลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่เห็นกระบี่เพลิงพุ่งมาก็ไม่ตื่นตระหนก เร่งตวัดเคียวยมทูตในมือฟันฟาดทำลายกระบี่เพลิงระรัวปานจักรผัน! เสียงระเบิดดังสนั่นกึกก้อง กระบี่เพลิงแต่ละเริ่มถูกฟันจนแตกระเบิดปานพลุไฟ!!
อย่างไรก็ตาม หลิงเจวี๋ยอวิ๋นตระหนักได้ชัดเจน ว่ากระบี่เพลิงของต้วนหลิงเทียนรอบนี้ มันทั้งรวดเร็วและทรงพลังมากกว่าเดิม!
“ความลึกซึ้งปะทุของกฏแห่งไฟ!?”
ถึงแม้หลิงเจวี๋ยอวิ๋นจะสามารถฟันกระบี่เพลิงที่จู่โจมเข้ามาในฉับพลันจนแตกระเบิดปานพลุไฟได้หมด แต่มันก็ไม่อาจไม่ประหลาดใจกับความลึกซึ้งปะทุของกฏแห่งไฟที่ต้วนหลิงเทียนพึ่งใช้ออก!
เป็นธรรมดาว่ามันยังมองออกอีกด้วย
ว่าต้วนหลิงเทียนยังไม่เข้าใจความลึกซึ้งปะทุถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้น! ก็แค่หยั่งถึงบางส่วนและพอๆกับที่มันเข้าใจเคียวยมทูตเท่านั้น!!
เพียงแค่ตอนนี้มันใช้พลังสายเลือด จึงทำให้เคียวยมทูตยกระดับพลังขึ้นเท่าเทียมกับการบรรลุขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้น!
ฉากคล้ายๆกันก่อนหน้านี้ปราฏขึ้นอีกครา
ทว่าคราวนี้ฝ่ายที่รุกไล่กลับเป็นหลิเจวี๋ยอวิ๋น ส่วนต้วนหลิงเทียนก็ได้แต่ถีบเท้าส่งร่างทะยานถอยหลังพลางควบสร้างกระบี่เพลิงจู่โจมเข้าใส่หลิงเจวี๋ยอวิ๋นไม่หยุด!
ด้านหลิงเจวี๋ยอวิ๋นฟาดเคียวทำลายกระบี่เพลิงไม่หยุด ทั้งย่นระยะเข้าใกล้ต้วนหลิงเทียนมากขึ้นทุกขณะ เห็นชัดว่ามันมีเปรียบ!!
“ข้าล่ะไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าเจ้าจะเริ่มเข้าใจความลึกซึ้งปะทุได้บางส่วนแล้ว…แต่กระนั้นเจ้าก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าอยู่ดี!!”
หลังจากที่รุกไล่เข้าใส่ต้วนหลิงเทียนพลางฟันทำลายกระบี่เพลิงที่ยิ่งถล่มมาปานปืนกลของต้วนหลิงเทียนไปพักหนึ่ง ในที่สุดหลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็ย่นระยะห่างระหวว่ามันกับต้วนหลิงเทียนได้อีกครึ่ง!
อีกทั้งด้านหลังมันก็ปรากฏร่างแฝดแห่งความตายพุ่งทะยานตามมาติดๆดั่งเงาตามตัว เรียกว่าพร้อมกลุ้มรุมทุบตีต้วนหลิงเทียนตลอดเวลา!
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
…
หลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่โจนทะยานใกล้ถึงตัวต้วนหลิงเทียน สีหน้ายิ่งมายิ่งฉายชัดถึงความมั่นใจ เคียวยมทูตในมือฟันฟาดออกไปอย่างคล่องแคล่ว ทุบทำลายกระบี่เพลิงได้อย่างหมดจด กระทั่งอานุภาพเคียวยังประหนึ่งจะฉีกกระชากได้กระทั่งห้วงมิติ
“เจ้ายังมีลูกไม้อันใดอีกหรือไม่? หากมีก็รีบใช้ออกเสีย!”
“หากไม่มีเจ้าก็แพ้ไปซะ! อาศัยพลังของเจ้าตอนนี้ หาใช่คู่มือข้าไม่!!”
หลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่เข้าใกล้ต้วนหลิงเทียนได้มากพอ ก็ฟาดเคียวออกไปหมายตบร่างต้วนหลิงเทียนให้ปลิว วินาทีนี้มุมปากมันคลี่ยิ้มสดใสย่ามใจ ราวกับเห็นชัยชนะอยู่รำไร!
เพราะในสายตามัน เคียวนี้…ต้วนหลิงเทียนรับไม่ไหวแน่นอน! และไม่พ้นต้องถูกฟาดจนปลิวละลิ่วแพ้พ่าย!!
หากต้วนหลิงเทียนยังมีทีเด็ดอะไรอยู่จริงๆ ป่านนี้คงใช้ออกมาแล้ว ไม่รอให้จวนตัวแบบนี้หรอก!
เมื่อเห็นรอยยิ้มแสยะย่ามใจ ราวกับคว้าชัยชนะอยู่ในกำมือแน่แล้ว ต้วนหลิงเทียนที่เดิมทีก็ไม่ได้แยแสว่าจะชนะหรือแพ้สักเท่าไหร่ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย
‘ไอ่เจ้าบ้านี่…มันชนะแล้วจะได้โล่รึยังไง?’
ลูกตาต้วนหลิงเทียนหดหยีลง มุมปากยังยกยิ้มแสยะบางๆไม่ได้นำพาเคียวที่ฟาดแหวกอากาศเข้ามาแม้แต่น้อย ‘แต่ยังเร็วเกินไปที่เจ้าจะคิดว่าชนะข้าได้’
ในห้วงพริบตาที่คิดถึงเรื่องนี้ ต้วนหลิงเทียนก็เรียกเพลิงเทพโกลาหลในร่างทันที “อาวุโสเพลิงเทพโกลาหล…ช่วยข้าตบสั่งสอนเจ้านี่ได้รึเปล่า?”
“ย่อมได้ ต่อไปเจ้าคิดทำอะไรก็ทำได้ตามใจไม่ต้องถาม ขอเพียงเรื่องราวไม่หนักหนาเหมือนตอนฆ่ามือสังหารกะโหลกเลือดขอบเขตราชาอมตะ 6 ผสานนั่นก็พอ”