กฏสูงสุดทั้ง 4 นั้น ไม่เพียงลึกล้ำยากหยั่งถึง แต่ยังทรงพลังมากอีกด้วย

ถึงแม้ว่ากฏสูงสุดทั้ง 4 จะไม่ได้โดดเด่นในเรื่องการโจมตีทั้งหมด หากแต่ความลี้ลับพิสดารของความลึกซึ้งบางประการของกฏสูงสุดเหล่านั้น ก็มีไม่น้อยที่สามารถเพิกเฉยพลังป้องกันของกฏแห่งดินได้

ด้วยเหตุนี้อาวุโสคนดังกล่าวของคฤหาสน์อู่จ้านจึงคาดเดาออกมาทำนองนี้

“อาวุโสหลิว ท่านเดาได้ถูกเผงเลยล่ะ…กฏที่เจ้านั่นมันเข้าใจก็คือกฏแห่งมิติ 1 ใน 4 กฏสูงสุด!”

หลิวเสี่ยวโจวกล่าวตอบออกมาก่อนใคร

“กฏแห่งมิติ!!”

ด้วยคำพูดดังกล่าวของหลิวเสี่ยวโจว นอกจากศิษย์ไม่กี่คนที่พึ่งกลับออกมาจากแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง คนที่อยู่ฟังเรื่องราวตั้งแต่แรก ก็อดไม่ได้ที่จะโพล่งออกมาด้วยความตกใจ

“ขุนนางอมตะ 10 ทิศที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติ 7 ประการ? แถมยังอายุน้อยกว่าพันปี? คฤหาสน์เฉวียนโยวไปหาคนนอกที่ร้ายกาจเช่นนี้มาช่วยจากที่ใดกัน?”

อาวุโสและเหล่าศิษย์ของคฤหาสน์อู่จ้านหลายคนได้แต่ระบายลมหายใจอย่างทอดถอน

“จ้างคนนอกระดับนี้มาช่วย ข้าว่าคราวนี้คฤหาสน์เฉวียนโยวคงจ่ายออกไปไม่น้อยเลยทีเดียว…คฤหาสน์เฉวียนโยวทำเช่นนี้มันคุ้มกันหรือ?”

หลายคนอดสงสัยไม่ได้

‘เหอๆ…วันหน้ารอให้พวกเจ้ารู้ว่าเจ้าต้วนหลิงเทียนผู้นั้นยังอายุไม่ถึงร้อยปีก่อนเถอะ ข้าเกรงว่าคงกลัวกันขี้หดตดหายเลยกระมัง’

หลิวเสี่ยวโจวที่กวาดตามองเหล่าศิษย์และอาวุโสคฤหาสน์อู่จ้านที่กำลังแตกตื่น ลอบกล่าวในใจอย่างงสนุกสนาน

ขณะเดียวกันมันก็เร่งบดขยี้ยันต์อมตะสื่อสารทางวิญญาณติดต่อไปหาบิดาทันที

คนอื่นอาจไม่เชื่อคำพูดของมัน แต่มันรู้ดีว่าบิดาของมันต้องเชื่อคำพูดของมันแน่นอน

“ศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยว อายุไม่ถึงร้อยปีแต่ไม่เพียงบรรลุถึงขุนนางอมตะ 10 ทิศ…ที่สำคัญยังเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติได้ถึง 7 ประการ!?”

บิดาของหลิวเสี่ยวโจว หนึ่งในรองผู้นำคฤหาสน์อู่จ้าน หลังได้รับข้อความก็ถึงกับตกตะลึงอึ้งไปทันที ยากจะฟื้นคืนสติอยู่นาน

“ท่านพ่อ ท่านคิดว่าตัวตนเช่นนี้…ใช่มาจาก 7 ภูมิภาคหรือไม่?”

หลิวเสี่ยวโจวส่งข้อความไปถามสืบต่อ

อย่างไรก็ตาม บิดามันยังตกตะลึงอึ้งค้างไม่ได้สติ เช่นนั้นกว่าที่บิดามันจะตอบกลับมาก็หลังจากผ่านไปพักใหญ่

ในเวลาเดียวกัน

เหล่าศิษย์ทั้ง 11 คนรวมถึงเหิงเฟิงและหลิวเสี่ยวโจวที่ถูกกำจัดออกมาจากแดนสวรรค์ใต้โบราณเพราะคนๆเดียวกัน พอนำเรื่องราวไปบอกเล่าให้สหายฟัง ไม่นานทั้งคฤหาสน์อู่จ้านก็โกลาหลกันยกใหญ่

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้ทราบว่า กระทั่งเหิงเฟิงเข้าใจความลึกซึ้งเกราะถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นแล้ว ยังถูกฝ่าการป้องกันมาได้ และถ้าไม่ใช่เพราอีกฝ่ายเมตตาก็คงตกตาย พวกมันก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก!

“ให้ตายเถอะหลังเหิงเฟิงเข้าใจความลึกซึ้งประการที่ 7 อย่างความลึกซึ้งเกราะได้แล้ว ในแดนสวรรค์ใต้โบราณยังจะมีผู้ใดสามารถฝ่าการป้องกันของมันได้อีกกัน?”

“นั่นสิ! ข้าเกรงว่ามีแต่ขุนนางอมตะ 10 ทิศที่ยากหยั่งถึงเหล่านั้นที่ร่ำลือกันว่าเข้าใจความลึกซึ้งได้ถึง 8 ประการแล้วเท่านั้น ถึงจะมีพลังมากพอทำลายการป้องกันของเหิงเฟิงที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งดิน 7 ประการได้”

“เรื่องของเรื่องก็คือ…เจ้านั่นสมควรเป็นคนนอกที่คฤหาสน์เฉวียนโยวจ้างมาช่วยเหลือ! หรือคฤหาสน์เฉวียนโยวจ้างมันมาเพราะคิดช่วงชิงอันดับ 1 ในแดนสวรรค์ใต้โบราณ?”

“ตอนนี้เหลือเวลาแค่ไม่กี่วันอันดับเดือนนี้ก็จะล้างใหม่แล้ว…ไม่ว่าเจ้านั่นมันจะร้ายกาจแค่ไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่เดือนนี้มันจะติดอยู่ใน 30 อันดับแรก เว้นเสียแต่มันจะพบเจอเหลิ่งอวิ๋นโหยวของคฤหาสน์ชิงหลิง หรือไม่ก็หลิวจี๋ของคฤหาสน์หานชิง!”

“มิผิด! หากมันเจอหลิวจี๋แล้วเอาชนะได้ มันก็สามารถพุ่งเข้าสู่ 30 อันดับแรกได้ทันที…โดยเฉพาะเหลิ่งอวิ๋นโหยว หากมันพบเจอแล้วเอาชนะได้ล่ะก็ มันไม่พ้นต้องติดอยู่ใน 10 อันดับแรกโดยตรง!”

“เหอะๆ พวกเจ้าก็ว่าไปนั่น…ถึงแดนสววรรค์ใต้โบราณระดับกลางจะไม่ถึงขั้นกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต แต่เรื่องที่มันจะบังเอิญพบเจอเหลิ่งอวิ๋นโหยวหรือหลิวจี๋ ข้าเกรงว่าคงยากเย็นยิ่งกว่างมหาเข็มในกองฟางซะอีก…”

ตอนนี้คนของคฤหาสน์อู่จ้านได้เห็นพ้องต้องกันแล้วว่า ต้วนหลิงเทียนไม่พ้นต้องเป็นคนนอกที่คฤหาสน์เฉวียนโยวหามาช่วยแน่นอน

หาไม่แล้วตัวตนที่ทรงพลังเช่นนี้ ไหนเลยจะเป็นแค่ศิษย์ฝ่ายนอกของคฤหาสน์เฉวียนโยวได้?

ถึงแม้ในอดีตจะมีเรื่องทำนองที่คฤหาสน์อมตะระดับ 6 หาคนนอกมาช่วยช่วงชิงอันดับในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางอยู่บ้าง

อย่างไรก็ตามความช่วยเหลือจากภายนอกทั้งหลาย ปกติแล้วก็ทำได้แค่ช่วยให้คฤหาสน์อมตะระดับ 6 ที่จ้างมาโดยการเข้าสู่ 20 อันดับแรกเท่านั้น และนั่นถือว่าเป็นคนนอกที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่จะหามาได้แล้ว!

ด้วยเหตุนี้พอคนของคฤหาสน์อู่จ้านปักใจเชื่อว่าต้วนหลิงเทียนก็คือคนนอกที่คฤหาสน์เฉวียนโยวจ้างมาช่วย พวกมันจึงแตกตื่นกันนัก เพราะต้องทราบด้วยว่าอีกฝ่ายมีพลังสามารถมากพอจะทำลายการป้องกันของเหิงเฟิงที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งดิน 7 ประการ!!

กระทั่งหลายๆคนที่ไม่ค่อยได้ให้ความสนใจกับอันดับในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางสักเท่าไหร่ ก็อดไม่ได้ที่จะหันมาสนใจเรื่องอันดับของต้วนหลิงเทียน

“อันดับในตารางจัดอันดับเดือนนี้จะทำการล้างใหม่ในอีกไม่กี่วันแล้ว…ข้าไม่ทราบว่าต้วนหลิงเทียนที่ว่าจักไต่อันดับขึ้นไปได้อีกสักสองสามอันดับหรือไม่?”

ตอนนี้บริเวณลานหน้าตำหนักค่ายกลเคลื่อนย้ายทุกจุดของคฤหาสน์อู่จ้าน มีผู้คนมารอดูชมอันดับในตารางจัดอันดับกันด้วยความสนใจ

สายตาแต่ละคนยังเอาแต่จับจ้องไปยังอันดับที่ 45 ในตารางจัดอันดับไม่วางตา

พวกมันทำราวกับวินาทีนี้กระทั่งใครจะได้อันดับที่ 1 ก็ไม่สำคัญเท่าความเคลื่อนไหวของอันดับที่ 45

ในขณะที่คฤหาสน์อู่จ้านกำลังสะเทือนเพราะต้วนหลิงเทียน ด้านคฤหาสน์อมตะอื่นๆที่รับทราบเรื่องราวของต้วนหลิงเทียนแล้วก็สั่นสะเทือนไม่แพ้กัน

ณ คฤหาสน์เฉวียนโยว

ในเมื่อคฤหาสน์อมตะระดับ 6 อื่นๆกำลังแตกตื่นเรื่องต้วนหลิงเทียน เช่นนั้นคฤหาสน์เฉวียนโยวที่เป็นต้นสังกัดของต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งแตกตื่นกว่าใคร เรียกว่าตั้งแต่วินาทีที่ต้วนหลิงเทียน ไต่ถึง 50 อันดับแรก ทั้งหมดก็รู้สึกอื้ออึงเสมือนฝันไปอยู่บ้าง

ในตอนที่ต้วนหลิงเทียนพึ่งมาถึงลานหน้าตำหนักค่ายกลเคลื่อนย้ายไปแดนสวรรค์ใต้โบราณ กระทั่งลงทะเบียนเข้าไปในนั้น ทุกคนยังคิดว่าต้วนหลิงเทียนมาเพื่อเที่ยวเล่นด้วยซ้ำ!

เหตุผลที่ไฉนพวกมันคิดไปทำนองดังกล่าว เพราะต้วนหลิงเทียนที่ว่าไม่เพียงแต่จะถูกพามาโดยฉีเทียนหมิง 1 ใน 10 ผู้ตรวจการคฤหาสน์เฉวียนโยวเป็นการส่วนตัว แต่อีกฝ่ายยังมีอายุไม่ถึงร้อยปีอีกด้วย

ชายหนุ่มที่ยังอายุไม่ถึงร้อยปี เข้าไปในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง หากไม่ได้เข้าไปเพื่อเที่ยวเล่นหรือจะให้อีกฝ่ายไปสู้ชิงอันดับ?

จากนั้นไม่ทันไร ชื่อต้วนหลิงเทียนก็โผล่ขึ้นมาใน 100 อันดับแรก!

ช่วงนั้นหลายคนยังคิดไปว่าต้วนหลิงเทียนโกงคะแนน และหลายคนก็คิดว่าต้วนหลิงเทียนแค่โชคดี

ทว่าหลังจากนั้น ต้วนหลิงเทียนก็ได้สังหารกงซุนจิ้งของคฤหาสน์ปี้ชิงที่เป็นคู่อริของคฤหาสน์เฉวียนโยว จนได้รับอันดับที่ 52 มาครอง

ตอนนั้นเสียงที่หาว่าต้วนหลิงเทียนโกงหรือโชคดี ก็ได้เงียบหายไปและไม่มีใครพูดถึงอีกเลย

สุดท้ายทุกคนก็เริ่มพูดถึงความเป็นมาของต้วนหลิงเทียนมากขึ้น

ในคฤหาสน์เฉวียนโยวนั้นมีตำหนักตั้งค่ายกลเคลื่อนย้ายเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณทั้งสิ้น 3 ตำหนัก และไม่ว่าจะตำหนักไหนของคฤหาสน์เฉวียนโยว ก็คึกครื้นมีชีวิตชีวาสุดที่ตำหนักค่ายกลเคลื่อนย้ายของคฤหาสน์อมตะระดับ 6 ใดๆ จะเทียบได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำหนักตั้งค่ายกลเคลื่อนย้ายที่ต้วนหลิงเทียนมาลงทะเบียนใช้งาน เรียกว่าหัวหงอกหัวดำแห่กันมาจนหนาตา ไม่เพียงเหล่าศิษย์เท่านั้น กระทั่งชนชั้นอาวุโสเองก็มารวมตัวกันไม่น้อย

“อาวุโส เรื่องต้วนหลิงเทียนอายุไม่ถึง 100 ปี นั่นเป็นเรื่องจริงหรือ? ท่านได้ตรวจสอบแล้วแน่นะ?”

“ผู้อาวุโส ท่านว่าต้วนหลิงเทียนผู้นี้ใช่สัตว์ประหลาดจำแลงกายมารึเปล่า มันยังเป็นผู้คนอยู่อีกหรือ?”

“อาวุโสตอนที่ท่านมอบป้ายหยกสะสมคะแนนให้ต้วนหลิงเทียน ท่านเคยคิดไหมว่ามันจักบรรลุผลเลิศล้ำขนาดนี้?”

และตอนนี้ผู้อาวุโสที่ประจำโต๊ะบริการที่ต้วนหลิงเทียนมาลงทะเบียน เรียกว่าไม่ต่างอะไรจากดาราดังในโลกเก่าต้วนหลิงเทียนแม้แต่น้อย พบเห็นบนถนนเมื่อใดก็มีผู้คนทั้งนักข่าวมารายล้อมเต็มไปหมด

“ต้วนหลิงเทียนใช่คนนอกที่ผู้ตรวจการฉีพาช่วยจริงหรือไม่? หากใช่แล้วผู้ตรววจการฉีไปพามันมาจากที่ใดกันแน่?”

เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า คนของคฤหาสน์เฉวียนโยวก็ไม่มีใครตั้งคำถามถึงความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนอีกต่อไป

เนื่องจากมีผู้อาวุโสของคฤหาสน์เฉวียนโยวไม่น้อยที่รู้จักกับผู้อาวุโสของคฤหาสน์อู่จ้าน และได้ฟังเรื่องราวจากผู้อาวุโสคฤหาสน์อู่จ้าน ว่าต้วนหลิงเทียนถึงกับส่งศิษย์คฤหาสน์อู่จ้าน 11 คน ให้ออกจากแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางในเวลาไม่ถึง 1 เค่อ!

แถมในบรรดา 11 คนที่ว่ายังมีเหิงเฟิงและหลิวเสี่ยวโจว ที่มักติดอยู่ใน 100 อันดับแรกทุกเดือนอีก!

“ต้วนหลิงเทียน เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติ 7 ประการ…เหิงเฟิงแห่งคฤหาสน์อู่จ้านทั้งๆที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งดิน 7 ประการ…แถมยังมีความลึกซึ้งปราการผลึก กายาศิลา ฟื้นฟู และเกราะ แต่ยังมิอาจต้านทานการโจมตีของต้วนหลิงเทียนได้ ที่สำคัญเห็นว่าหากไม่ใช่เพราะต้วนหลิงเทียนยั้งมือไว้ไมตรี เหิงเฟิงยังอาจจะตกตายไปแล้วอีก…”

“เหิงเฟิงที่เข้าใจความลึกซึ้งเกราะของกฏแห่งดินถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นแล้ว? แต่ยังเกือบตายด้วยน้ำมือต้วนหลิงเทียนอีกหรือ?”

“สวรรค์! ต้วนหลิงเทียนไม่เพียงแต่จะเป็นขุนนางอมตะ 10 ทิศเท่านั้น แต่มันยังเข้าใจกฏแห่งมิติอีกงั้นเหรอ!? ที่สำคัญยังเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติได้ 7 ประการแล้ว? นี่มันอายุไม่ถึงร้อยปีจริงๆ!?”

“ข้อเท็จจริงเรื่องต้วนหลิงเทียนยังมีอายุไม่ถึงร้อยปี ถึงจะได้รับการยืนยันจากคนจำนวนมากแล้ว แต่บอกตรงๆหากไม่เห็นกับตาข้ายังไม่อาจเชื่อได้ลงคอจริงๆ…ที่สำคัญที่สุดก็คือ ผู้ตรวจการฉีไปหาคนนอกเช่นนี้มาช่วยจากที่ใด?”

“ผู้ตรวจการฉีเองก็ไม่น่าจะหาคนช่วยที่ร้ายกาจเช่นนี้มาได้หรอก ข้าว่าสมควรเป็นท่านผู้นำที่จ้างมามากกว่า เพียงแค่ให้ผู้ตรวจการฉีเป็นธุระเรื่องพาต้วนหลิงเทียนมาลงทะเบียนเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางเฉยๆ”

“สมควรเป็นเช่นนั้น”

หลายคนเข้าใจว่าที่แท้ต้วนหลิงเทียนสมควรเป็นคนที่ผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวไปพามา และว่าจ้างไปด้วยราคามหาศาลเพื่อให้มาช่วยคฤหาสน์เฉวียนโยว

อย่างไรก็ตาม พวกมันไม่ได้รู้เลย

ว่ากระทั่งตัวผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวพอได้รับทราบเรื่องราวของต้วนหลิงเทียน กระทั่งได้รับทราบถึงผลงานในแดนสวรรค์ใต้โบราณ มันก็รู้สึกสับสนงุนงง จับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก

“ผู้ตรวจการฉี เรื่องต้วนหลิงเทียนที่แท้มันอย่างไรกันแน่?”

ผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวมีรูปลักษณ์เป็นชายวักลางคนร่างสูง ไม่อ้วนไม่ผอมแลดูสมส่วน หน้าตาจัดว่าไม่ขี้เหร่ไม่โดดเด่น หากแต่ลักษณะภูมิฐาน หว่างคิ้วเปี่ยมไปด้วยความสุขุมหนักแน่นมากบารมี สวมใส่ชุดคลุมสีครามน้ำทะเล แลดูมีสง่ามากราศี

หลังจากที่มันได้รับทราบเรื่องราวของต้วนหลิงเทียน มันก็เร่งติดต่อไปหาฉีเทียนหมิงก่อนใดอื่น เพราะฉีเทียนหมิงเป็นคนที่นำคนมา โดยที่ตัวมันเองก็ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย

ก่อนหน้านี้มันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในคฤหาสน์เฉวียนโยวของมันมีศิษย์ชื่อต้วนหลิงเทียน

ครู่ต่อมาหลังได้รับทราบเรื่องราวจากฉีเทียนหมิงแล้ว ลูกตาของผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวก็ทอประกายสว่างจ้าขึ้นมาปานดวงดาว

ดูเหมือนว่าหลังผ่านไป 30,000 ปี ในที่สุดผู้ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยก็ปรากฏตัวขึ้นแล้ว!

อย่างไรก็ตาม พอผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวได้รับทราบบททดสอบที่จ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยมอบให้ต้วนหลิงเทียน สีหน้าตื่นเต้นยินดีของมันพลันชะงักค้างเติ่งราวถูกแช่แข็ง จากนั้นมันก็ได้แต่คลี่ยิ้มออกมาฝืนๆ “ท่านอาจาร์ยปู่…ไฉนถึงได้มอบบททดสอบเช่นนี้ให้เด็กมันเล่า?”

“ท่านเองก็รู้…ว่าเด็กมันยังอายุไม่ทันถึงร้อยด้วยซ้ำ!”

ด้วยเหตุนี้ ผู้นำคฤหาสน์เฉวียนโยวที่รู้สึกอึดอัดใจแทนต้วนหลิงเทียน ก็เร่งรุดออกจากคฤหาสน์ที่พักบ่มเพาะ แล้วเหินร่างย่ำฟ้าไปทางวังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยทันที

และเรื่องราวทั้งหมดนี้ ต้วนหลิงเทียนที่อยู่ในแดนสววรรค์ใต้โบราณระดับกลางไม่ได้รู้อะไรด้วยเลย…

“โอย หากมีแผ่นที่บอกตำแหน่งที่ตั้งค่ายของคฤหาสน์อมตะระดับ 6 ต่างๆคงจะดีไม่น้อย…หากเป็นแบบนั้นข้าจะได้ไปดักรอพวกมันเหมือนเฝ้ากระต่ายหน้าโพรง…”

ต้วนหลิงเทียนที่ได้ลิ้มรสชาติหอมหวานจากการพบเจอค่ายของคฤหาสน์อู่จ้าน ก็เร่งรุดเหินร่างมองหาค่ายที่พักของคฤหาสน์อื่นเป็นการใหญ่ หมายไปดักหน้าประตูรอทุบตีผู้คนช่วงชิงคะแนน!!

อย่างไรก็ตามความจริงมันช่างต่างภาพฝันอันสวยหรูเหลือเกิน ทั้งๆที่เหินร่างตะลอนๆหาอยู่สองวันสองคืนแล้วแท้ๆ แต่เขายังไม่เห็นแม้แต่เงาใครสักคน…